onsdag 29 februari 2012

จดหมายจากสุรชัย แซ่ด่าน ถึงศาล จากจดหมายคุณ สุรชัย ชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยปกครองโดยคำสั่งของกษัตริย์ภูมิพล ไม่ได้ปกครองโดยกฎหมายดังนั้นศาลไทยจึงแย่กว่าศาลพระภูมิเพราะศาลพระภูมิยังมีคนเคารพบูชา

 จดหมายจากสุรชัย แซ่ด่าน ถึงศาล  



((( เห็นแล้วเศร้าใจค่ะ )))

ภาพของ sarapaheylo



เราคงปล่อยให้เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องเปลี่ยนแปลงชีวิตทั้งชีวิตเราไม่ได้ ผมจะทำต่อไป (ที่มา:ประชาไท) อ วรเจตน์ถูกทำร้ายดูจากคลิปข้างล่าง

http://www.youtube.com/watch?v=KnKfT9QHE6o&feature=player_embedded#t=0s

ขอแสดงความยินดีกับผลสำเร็จของ กลุ่มสนับสนุนคณะนิติราษฏร์ในสวีเด็น ในการจัดงานชุมนุมให้กำลังใจแก่คณะนิติราษฏร์เพื่อแก้กฏหมายอัปรีย์ ๑๑๒ ขอประนามอำนาจเถื่อนที่ทำร้ายอาจารย์ วรเจต อย่างรุณเรง

กำลังใจสู่คณะนิติราฏร์และครก.๑๑๒

บรรยากาศในค่ำคืนของวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เต็มไปด้วยความอบอุ่นฉันท์มิตร ทุกคนรู้ว่ามาเพื่ออะไรและต้องการอย่างไรกับ ม.๑๑๒ ทางกลุ่มขอขอบคุณในความร่วมมือของทุกๆคนอีกครั้ง โดยเฉพาะมิตรสหายที่เดินทางมาไกลจากเดนมาร์ก



การเดินทางเคียงข้างไปกับคณะนิติราฎร์และครก.๑๑๒ เป็นหนทางที่จะนำเราไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ แม้ว่าในช่วงเวลานี้ทางรัฐบาลจะยังไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอเกี่ยวกับ ม.๑๑๒ของนิติราฏร์ก็ตาม แต่คณะนิติราฏร์ก็ได้ยกประเด็นนี้ขึ้นเป็นสาธารณะ ที่ให้หลายๆฝ่ายได้โต้แย้งกันด้วยเหตุผลตามครรลองของความเป็นประชาธิปไตย


เมื่อช่วงเย็นของวันนี้ ( ๒๙ กุมภาพันธ์ ) อ.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ได้ถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายที่ลานจอดรถมหาลัยฯธรรมศาสตร์  ทางเราขอประณามการกระทำอันเลวทรามต่ำช้าเยี่ยงนี้ และเรียกร้องให้เจ้าหน้าทีดำเนินการจับกุมและลงโทษผู้กระทำอย่างเร่งด่วน

tisdag 28 februari 2012

ขอถามหัวหน้าจอมเผด็จการใจโหดเหี้ยมอำมหิตว่าจะให้ประชาชนทนทุกข์ทรมานไปอีกกี่ปีกี่ชาติ ความยุติธรรมจึงจะเกิดขึ้นในแผ่นดินไทย?เราขอส่งกำลังใจมาให้เธอผู้กล้าลุกขึ้นต่อสู้กับระบอบเผด็จการ

(((อาจารย์หวานประกาศอดข้าวหน้าศาลอาญา)) 

เพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันตัวในคดีเกี่ยวกับ112 ใครว่างช่วยไปให้กำลังใจด้วยครับ

พวกคุณได้ขึ้นมาเป็นรัฐบาลก็โดยความเสียสละของพวกนักโทษการเมืองเหล่านี้มิใช่หรือ ที่เขายอมเอาชีวิตแลกมา เมื่อพวกคุณมีอำนาจได้เสวยสุขแล้วก็ปล่อยให้เพื่อนๆทนทุกข์ทรมานอยู่ในคุกกระนั้นหรือ ? ขอถามหน่อยว่าหน้าที่ของรัฐบาลคืออะไร ...?

« on: Today at 10:39:07 AM »

måndag 27 februari 2012

เมื่อความศรัทธาของประชาชนต่อสถาบันกษัตริย์ลดลง อำนาจชี้นำสังคมของกษัตริย์ก็ไม่เหมือนเดิมเพราะประชาชนได้รู้ความจริงและการกระทำที่เลวทรามต่างๆได้ถูกนำมาเปิดเผยให้สังคมได้รับรู้ จากคอมเม้นของคุณลูกชาวนาไทยจะชี้ให้เห็นว่าอำมาตย์ไม่เคยจริงใจกับใครหลอกใช้แล้วก็ถีบหัวส่งหรือไม่ก็ฆ่าทิ้ง มีตัวอย่างให้เห็นมากมายจากอดีตจนถึงปัจจุบัน

ลูกชาวนาไทย




« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2012, 02:18:40 AM »

สถานการณ์วันนี้ ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจของใคร ใครจะเจ้าเลห์แค่ไหนก็ตาม ก็ไม่มีทางเปลี่ยนทิศทางกระแสการเมืองตอนนี้ได้

วันนี้ ประชาชนจำนวนมาก ตื่นขึ้นมาแล้ว แสดงเจตจำนงค์อย่างเต็มที่ว่าพวกเขาต้องการอะไร และไม่สนใจด้วยว่าใครจะพยายามกล่อม โปรประกันดา หลอกลวงอย่างไร ประชาชนก็ไม่สนใจทั้งสิ้น

ความตั้งใจของคนหลายสิบล้าน ไม่มีทางที่ใครที่จะอ้างตัวเองว่ายิ่งใหญ่แค่ไหน เป็นเทพเจ้ามาจากไหน วันนี้ไม่มีทางเปลี่ยนใจประชาชนได้ ไม่มีทางเปลี่ยนทิศทางประชาชได้ ไม่ว่าจะโปรประกันดาด้วยอะไรก็ตาม ยิ่งโปรประกันดาด้วยวิธีการเก่าๆ กลยุทธ์เดิม ๆ อุดมการณ์เดิมเรื่องเทพเจ้าอะไรนั้น ยิ่งไม่มีทางเปลี่ยนกระแสทิศทางการเมืองตอนนี้ได้

เรียกว่าไม่มี กลอุบาย เครื่องมือใดๆ มา "หลอก" ประชาชนได้อีกต่อไป
ถึงวันนี้จะทำรัฐประหารก็ไม่มีทางไปรอด

วันนี้ มองโดยภาพรวมแล้ว ผมคาดการณ์ว่าจะเห็นการค่อยๆ เปลี่ยนข้างของ "อำมาตตย์ใหญ่มาก" แต่คงยากที่จะได้ใจคนเสื้อแดง แต่เพื่อความอยู่รอดเขาคงไม่พยายามเป็นศัตรูกับคนเสื้อแดงแน่นอน

การเลือกข้างคนเสื้อเหลือง จะกลายเป็นเลือกข้างคนส่วนน้อย
การสนับสนุนหมอตุลย์ และพวกสลิ่ม จะกลายเป็นการสนับสนุนคนข้างน้อย
สุดท้ายเขาก็คงค่อยๆ ห่างคนพวกนี้ออกไป

วันนี้เขาได้พยายามสร้างภาพรวมๆ ว่าไม่ขัดขวางรัฐบาลยิ่งลักษณ์ (เพราะยิ่งขัดขวางยิ่งแพ้)

พวกห้วหน้าอำมาตย์ใหญ่ คงรอดตัวไป

และ อารมณ์ของประชาชนส่วนใหญ่ ก็คงไม่อยากเอาเรื่องเอาราวให้ถึงที่สุดอยู่แล้ว ยกเว้นไม่รู้จักประมาณตน จะเอาชนะมติมหาชนให้ได้ นั่แหละความโกรธของมหาชนคงห้ามไม่อยู่

แต่พวกเขาก็คงฉลาดพอที่จะรู้ว่าอะไรเป็น ไม่อย่างนั้นคงอยู่ไม่รอดมาถึงทุกวันนี้

เราจะเห็นการค่อย ๆ ทิ้งพวกเหลืองเอาตัวรอดอย่างแน่นอน

ทหารวันนี้น่าจะเอาตัวรอดได้แล้ว
แค่ปกป้องตำแหน่งของพวกเขาเท่านั้น

lördag 25 februari 2012

ที่โบนันซ่า แดงมาไม่เยอะ แค่ 2 แสนกว่าๆน่าจะได้



ชายชราผู้เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ? ไม่ใช่อากงแน่นอน แต่ชายชราตัวจริงผู้เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ คือกษัตริย์ ภูมิพล เจ้าของ ม ๑๑๒ พร้อมพวกองค์มนตรีแก่ๆทั้งหลาย นับแต่นายเปรมมาจนถึงนายประเวศ นายอนันท์ ปัญญาชั่ว พวกชายชราเหล่านี้สมองเสื่อมไม่ทำงานแล้วพวกคนแก่เหล่านี้หวงอำนาจ ที่ขัดขวางสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตยของประชาชนไทยในเวลานี้

โดย คุณแมวอ้วนอ้วน
ขณะที่ผมกำลังเขียนความเห็นนี้ "อากง" ยังถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ
และพรุ่งนี้เช้าภรรยาของอากง จะเข้ายื่นอุธรณ์พร้อมทั้งขอประกันตัว "อากง"
ซึ่งความจริงการขอประกันตัวอากง นั้นมีความพยายามทำมาโดยตลอดตั้งแต่ อากง เริ่มถูกจับกุม
แต่ "ศาล" ไม่ยอมให้ประกันตัวออกมา แม้น อากง จะเป็นชายชรา วัย 60 กว่าแล้วก็ตาม
ดูประหนึ่งว่า "ศาล" จะเห็นว่าอากง นั้นเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ (ชาติไทยเรานี่แหล่ะ ไม่ใช่ตอแหลแลนด์ที่ไหน)
จึงไม่ยอมให้ อากง ได้ประกันตัวออกมาจากเรือนจำ
ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจเลยว่า อากง ชายชราวัย 60 กว่าซึ่งไม่เคยเคลื่อนไหวทางการเมืองมาก่อนนั้น จะเป็นภัยอะไรได้ ทำไมจึงไม่ให้ประกันตัวออกมา
อย่าว่าแต่ ผมไม่เคยเชื่อเลยว่า อากง จะสามารถส่ง SMS ข้อความยาวๆ ที่ ศาล เห็นว่าผิด ม.112 นั้นได้ ( SMS สั้นๆ ผมว่า อากงยังทำไม่ได้เลย)
แม้นแต่กระบวนการ(ที่ว่า)ยุติธรรมที่ไต่สวนกัน ยังไม่สามารถสอบได้เลยว่า อากง เป็นคนส่งข้อความนั้นจริง
แต่ก็ได้ตัดสินให้ผิด เพราะเชื่อว่ามี"เจตนาภายใน" ในการกระทำ
พรุ่งนี้เราก็จะได้เห็นกันอีกครั้งว่า กระบวนการ(ที่ว่า)ยุติธรรมของประเทศเรา ท่านศาลที่กุมชะตากรรมของ อากง
จะยังคงเห็นว่า อากง นั้นเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ต่อไปหรือไม่
ไม่ว่าอย่างไรผมคิดว่า มีประชาชนจำนวนมากมายแล้วทีเดียวที่เห็นแล้วว่า
แท้จริงนั้น...ใครกันแน่ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติไทย


หมายเหตุ : ปัจจุบัน กฏหมายอาฎา มาตรา 112 นั้น ถูกบรรจุอยู่ในหมวด ความมั่นคงของชาติ
ซึ่งนี่เป็นจุดสำคัญที่ "คณะนิติราษฏร์" พยายามจี้แจงให้เห็นว่า ควรจะมีการแก้ไขย้ายออกจากหมวดนี้

torsdag 23 februari 2012

รำลึก 1 ปีสุรชัย แซ่ด่าน ถูกขังคุกด้วยมาตรา 112



22 กุมภาพันธ์ 2554 สุรชัย แซ่ด่าน แกนนำแดงสยามถูกบุกจับกลางดึกและส่งเข้าคุกโดยห้ามประกันนับตั้งแต่วันนั้น กลุ่มเพื่อนพ้องและนักสู้เพื่อประชาธิปไตย จัดกิจกรรม 1 ปี สุรชัยถูกจองจำ ณ เจดีย์ขาว สนามหลวง ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2555

ไทยอีนิวส์ ขอนำเสนอคลิปคำปราศรัยของวานรำลึก 1 ปีสุรชัย แซ่ด่านถูกจองจำ
http://www.youtube.com/watch?v=zq0oIieSGcI&feature=player_em

bedded

มาดูภาพที่นายกมึความสุขน่าจะสุดๆเลยล่ะ"ตามคลิปข้างล่าง

tisdag 21 februari 2012

เสียดายที่รักเสียดายที่หลง นายกฯปู นายกฯทักษิณ


เสียดาย-ป้ายผ้าที่คนนครปฐมประท้วงรัฐบาลแก้ปัญหาชดเชยน้ำท่วมน้อยกว่าความเป็นจริง(ภาพ:มติชนออนไลน์) ความรู้สึกของผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยกำลังลามระบาดเหมือนคำในป้ายนี้ โดยเฉพาัะปัญหาประชาธิปไตย ที่บรรดาผู้เรียกร้องประชาธิปไตยยังไม่ได้รับความยุติธรรม คนตายยังไม่ได้รับเยียวยา ยังถูกมองเป็นผู้ร้าย คนติดคุกยังอยู่ในคุก ฆาตกรยังลอยนวล ไม่มีการเร่งรัดคดี รัฐบาลไม่ยอมลงนามในสัตยาบันกับICC รวมทั้งการประกาศจะไม่มีส.ส.เพื่อไทยซักคนสนับสนุนแก้ม.112 หากผิดเจอจับ..

เราเห็นกับตา โดย เอนก ซานฟราน

เราเห็นกับตา โดย เอนก ซานฟราน

ประเทศที่เจริญแล้วนั้น สาเหตุมาจากหลายเหตุผลหลายประการ แต่ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่สภาพภูมิประเทศ หรือสภาพของธรรมชาติที่เป็นตัวกำหนด ประเทศที่เจริญแล้วสาเหตุนั้นเกิดขึ้นอยู่ที่ประชากรในประเทศ ที่เขามีความต้องการที่ช่วยกันพัฒนา นับตั้งแต่การยึดหลักกฎหมายร่วมกัน และอยู่ในกติกาเดียวกันที่ได้ร่วมกันตกลงเอาไว้ เมื่อประชากรในประเทศมีความเคร่งครัด และอยู่ภายใต้กฎหมายฉบับเดียวกัน โดยไม่ฝักใฝ่อำนาจอื่นๆ ที่ไม่ใช่กติกาสากล เช่นอำนาจของพระมหากษัตริย์เป็นต้น ความสงบสุขย่อมเกิดขึ้น หรือหากใครปฎิบัติตนอยู่นอกเหนือจากกติกา คนในสังคมนั้นก็จะออกมาประนาม รวมทั้งสื่อสารมวลชนที่มีส่วนในการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งผิดไปจากสื่อสารมวลชนในประเทศของเรา ที่พวกเขาพากันเสนอข่าวแบบขอเพียงเอาตัวรอด และอยู่ได้โดยพ้นจากเงื้อมมือของผู้ที่มีอำนาจทั้งหลาย จึงยอมผ่อนปรนทุกวิถีทาง ที่จะบิดเบือนข่าวสารให้ถูกใจผู้ที่มีอำนาจ จนกลายเป็นเตรื่องมือของกลุ่มคนที่มีอำนาจ โดยได้รับสินจ้างทั้งทางตรง และทางอ้อมต่างๆ นาๆ เป็นสิ่งตอบแทน มันเป็นความล้มเหลวของแวดวงสื่อสารมวลชนในประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง การที่ประเทศไทยมีการแบ่งแยกแบ่งสีแบ่งก๊กแบ่งเหล่า ตามที่ปรากฎให้คนทั่วโลกได้เห็นว่า ประเทศไทยขาดความสามัคคีของคนในประเทศ ซึ่งเป็นที่อับอายขายหน้าชาวต่างชาติเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว หรือ เขมร สาเหตุที่สำคัญมีด้วยกันมากมาย แต่สาเหตุที่สำคัญที่สุดนั้นก็คือ ในหลวงหมาย ถึงกษัตริย์ซึ่งเป็นประมุขของการปกครองประเทศนั้น ไม่เคารพต่อหลักแห่งความเที่ยงธรรม พระองค์เกิดความลำเอียงต่อประชาชนของตัวเอง และมักปล่อยให้คนของตัวเองหมายคณะองคมนตรี หรือคณะทหารที่มาปฏิวัติเข้ามายึดอำนาจจากประชาชน ทำการที่ขัดต่อข้อของกฎหมายขัดต่อพระราชบัญญัติ หรือทำการขัดต่อพระราชกำหนด ที่ผู้มีส่วนรับผิดชอบได้ร่วมกันกำหนดเอาไว้ ซึ่งไม่เป็นไปตามระเบียบ และข้อบังคับที่ได้ตกลงกันไว้ และต้องปฎิบัติตามธรรมเนียมสากล

อาทิเช่น ในหลวงทรงปล่อยให้คณะปฎิวัติ แต่งตั้งคณะปปช. โดยไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ และให้ในหลวงทรงลงพระปรมาภิไท แต่กับมีผลปฎิบัติงานได้จนถึงบัดนี้ และก็รับเบี้ยเงินเดือนเป็นประจำจนถึงปัจจุบันนี้ เท่ากับว่าเป็นการแหกกฎที่ตกลงกันไว้ หรือการแต่งตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคณะนั้น ที่ตัดสินยุบพรรคไทยรักไทยที่ไม่ได้รับการโปรดเกล้าจากในหลวง ทั้งๆ ที่ต้องมาทำหน้าที่เป็นศาล เรื่องนี้ก็เป็นการแหกกฎอีก ทำไมในหลวงถึงปล่อยให้คณะทหารที่ปฎิวัติมีอำนาจมากว่าพระองค์เอง? หรือว่าพระองค์ก็ถูกพวกทหารยึดอำนาจ? หรือว่าพระองค์ก็ถูกประธานองคมนตรียึดอำนาจด้วย?
พระองค์กล้าตอบให้ประชาชนรู้ได้มั๊ย?

การที่ทหารมา ยึดอำนาจ แล้วออกกฎหมายนิรโทษกรรมว่าคณะทหารไม่มีความผิดใดๆ นั้น พระองค์กลับทรงลงนามเซ็นยอมรับเท่ากับว่าพระองค์ก็เห็นดีเห็นงามกับกฎหมาย ชั่วๆ ฉบับนี้ที่ประชาชนของพระองค์เองจะเสียเปรียบ และถูกเอารัดเอาเปรียบในการกระทำของทหารจากกฎหมายฉบับนี้ ประเทศที่เจริญแล้วเขาจะไม่กล้าที่ออกกฎหมายลักษณะเผด็จการแบบนี้ การที่ในหลวงปล่อยให้กลุ่มพันธมิตรฯ ยึดทำเนียบรัฐบาล ยึดสนามบินต่างๆ จนทำให้ชาวไทย และชาวต่างชาติต้องเดือดร้อนเสียทั้งเงิน และเวลาที่หมดไปกับพฤติกรรมชั่วๆ ของกลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้ ทำไม? ในหลวงเห็นแล้วว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีแต่ทำไมพระองค์ถึงไม่ห้ามปราม

พระองค์ไม่กลัวว่าประเทศของเราจะเดือดร้อนหรือ?

การ ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ เสด็จไปเป็นประธานงานศพกบฎพันธมิตรฯ ที่ตายด้วยระเบิดที่เขาทั้งคู่ นำหรือพกไป เพื่อที่จะทำร้ายคณะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย ที่ประชาชนได้เลือกเข้ามานั้น เท่าเป็นการปูนบำเหน็จ และให้กำลังใจผู้ก่อการร้าย และเลือกข้างที่จะยืนอยู่ฝ่ายพันธมิตรที่เป็นคู่อริกับฝ่าย นปช. นั้นเท่ากับในหลวงยอมรับการแสดงการแยกประชาชน ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ดังเป็นการกระทำที่ปรากฎต่อสายตาประชาชน
การที่ในหลวงปล่อยให้พวกคณะศาลที่ทุกปีจะต้องมีการเข้าเฝ้าเพื่อถวาย สัตย์ปฎิญาณตนว่าจะยึดหลักของความยุติธรรม แต่คณะศาลบางคนไม่ปฎิบัติตน ตามคำกล่าวการถวายสัตย์ปฎิญาณนั้น ย่อมหมายถึงคณะศาลไม่ทำตามความต้องการของพระองค์ แต่พระองค์กลับยอบรับความสามานย์ของคณะศาลที่เข้าไปทำลายความยุติธรรมของ ระบบศาลไทย เช่นการเลือกที่ลงโทษระหว่างคดีนายสมัคร สุนทรเวช ที่ไปรับจ้างทำกับข้าวในรายการทีวี กับการที่นายจรัญ ภักดีธนกุล และวิชา มหาคุณ ก็ไปเป็นอาจารย์ที่สอนตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่ได้รับเงินเดือนเป็นค่าตอบแทนด้วยนั้น อยากถามพระองค์อีกว่านี่หรือความยุติธรรม ของคณะศาลที่พวกเขามาสาบถสาบานต่อหน้าพระองค์ทุกๆ ปี เท่ากับเป็นเรื่องไร้สาระหรือเปล่าที่คณะศาลพวกนี้มาตบตาพระองค์ และตบตาประชาชนทั้งประเทศที่พวกเขาใช้วิธีการที่สกปรกกลั่นแกล้งคู่ต่อสู้ ด้วยการนำกฎหมาย มาเป็นอาวุธเพื่อไว้ทำลายคู่ต่อสู้

การที่ในหลวงเป็นประมุขในระบอบประชาธิปไตย ที่เรามีรัฐธรรรมนูญของประชาชนปี พ.ศ.2540 นั้นพระองค์ก็ทราบดีว่ากว่าจะได้รัฐธรรมนูญแบบนี้มานั้นเกิดเหตุการณ์มากมาย ที่ประชาชนต้องสังเวยชีวิตเพื่อต่อสู้ให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่พระองค์ก็ปล่อยให้ทหารฉีกทิ้ง แล้วเอาคนของตัวเองมาร่วมกันร่าง
ใหม่เพื่อเอาใจทหารแต่ไม่เอาใจประชาชน เนื่อหาในรัฐธรรมนูญปี 2550 เป็นรูปแบบเผด็จการที่เข้าข้าง คนกลุ่มเดียวคือสถาบันพระมหากษัตริย์ และนักการเมืองที่อยู่ภายใต้การบงการของพวกองคมนตรี ทั้งปกป้องและคุ้มครองผลประโยชน์ทั้งทางตรง และทางอ้อม แต่ประชาชนในประเทศกลับถูกริดรอนสิทธิ และเสรีภาพด้วยกันทั้งสิ้น ในหลวงก็ทรงยอมรับรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 แต่ไม่เสนอให้เอารัฐธรรมนูญปี 40 กลบมาใช้
มีเหตุการณ์อีกหลายเหตุการ์ณที่ปรากฎให้ประชาชนคนไทยทั้งโลกได้เห็น และสามารถยืนยันได้ว่าพระมหากษัตริย์ของไทยมักทำตัวแหกกฎแหกระเบียบเสียเอง จึงเป็นสาเหตุให้ประชาชนในประเทศ ไม่เคารพต่อกฎหมาย จึงเกิดการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นชิงอำนาจชิงบารมี เป็นผลให้ประชาชนในประเทศเกิดการแตกแยกแตกความสามัคคี

และนี่คือสาเหตุที่สำคัญอย่างยิ่งว่า ทำไมประเทศไทยจึงไม่มีความเจริญ!

--

söndag 19 februari 2012

ความสวยงามจากความรักเล็กๆของมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ กษัตริย์จิกมี

รักโรแมติก กับพาหนะพอเพียง!!!!!!




เป็นเรื่องราวที่ดูจะมีแต่ในนิยาย ซึ่งมีอยู่จริง
และเป็นความสวยงามจากความรักเล็กๆของมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่
กษัตริย์จิกมี ทรงพบ เจ็ตซัน เป็นครั้งแรกเมื่อสิบกว่าปีก่อน
ระหว่างเสด็จฯไปทรงพักผ่อนเป็นการส่วนพระองค์กับพระราชวงศ์
ซึ่งขณะนั้นทรงมีพระชนมายุเพียง 17 พรรษา ส่วน เจ็ตซัน
ก็ยังเป็นเด็กหญิงวัย 7 ขวบเท่านั้น
เจ้าชายหนุ่มทรงคุกพระชงฆ์ลงกับพื้น
และตรัสกับเด็กน้อยว่า
“เมื่อเธอโตขึ้น หากฉันยังไม่แต่งงาน และเธอก็ยังไม่มีใคร ฉันจะแต่งงานกับเธอ หากว่าความรู้สึกของเรายังเหมือนเดิม"

เปรียบเทียบกับราชพาหนะของโอรสใหญ่แห่งเมืองสารขันธ์

Thai crown prince s 737 impounde at Munich airport

รูปภาพ

---




ความชั่วช้าสารเลวของพรรคประชาธิปัตย์นี้เป็นมาแต่อดีตที่เกิดมีพรรคนี้ขึ้นมาแล้ว เริ่มจากการจ้างคนไปร้องตะโกนในโรงหนังว่า ปรีดีฆ่า ร ๘ และวิธีการชั่วช่้าสารเลวก็สืบทอดกันมาจนถึงยุคปัจจุบัน หลักฐานฟังจากคลิปข้างล่าง

<
http://www.youtube.com/watch?v=HBJH7gs0L8U&feature=player_embedded

หลักฐานความจริงเป็นอย่างนี้.....

ในที่สุดปริศนาก็ไขกระจ่าง อย่างนี้เองว.5โฟร์ซีซั่นส์


เกิดอะไรขึ้นแน่้ที่โรงแรมโฟร์ซั่น เมื่อว้ันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา?

เว็บไซต์ http://www.smesreport.com รายงานว่า ในวันดังกล่าวนั้น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จับมือ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จัดสัมมนาหัวข้อ “ก้าวต่อไปของ SME ไทย 2555” ในวันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 12.30 – 17.00 น. ณ ห้องบอลรูม โรงแรมโฟร์ซีซันส์ ถ.ราชดำริ โดยได้รับเกียรติจากรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) มากล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “ก้าวต่อไปของ SME เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจไทย”

ทั้งนี้ ภายในงานยังได้รับเกียรติจากผู้บริหารระดับสูงจากทั้งภาครัฐ และเอกชน มาร่วมเสวนาใน 2 หัวข้อ คือ “โอกาส ความท้าทาย และการส่งเสริม SME ไทย” และหัวข้อ “การปรับตัวของ SME ไทยเพื่อเตรียมรับโอกาสและความท้าทาย”

นอกจากนี้ ในช่วงเสวนาผู้ร่วมงานยังจะได้รับทราบถึงมุมมองและนโยบายของภาครัฐในการ พัฒนาธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ทิศทางการสนับสนุนและส่งเสริมทักษะและการบริหารจัดการของผู้ประกอบการ การสนับสนุนจากสถาบันการเงิน ความท้าทายทางธุรกิจจาก AEC รวมถึงกรณีศึกษาเกี่ยวกับกลยุทธ์การปรับตัวเพื่อรับมือการแข่งขันทางธุรกิจ เพื่อเป็นแนวทางการเตรียมความพร้อมให้แก่ธุรกิจ SME ของไทยอีกด้วย

อ่านรายละเอียดข่าว ไทยพาณิชย์ ผนึกกำลัง 2 พันธมิตร เตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการ ในงานเสวนา “ก้าวต่อไป…ของ SME ไทย ปี 2555”

มติชนออนไลน์ รายงานว่า แหล่งข่าวจากวงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ชั้น 7 โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน ผู้บริหารแสนสิริ กรุ๊ป ออกมายอมรับว่ามีการพบกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จริง แต่เป็นการพบปะกันเป็นกลุ่ม ไม่ใช่ 2 ต่อ 2 นั้น เป็นเรื่องจริง

เพราะการพบปะกันครั้งนั้น มีการนัดหมายล่วงหน้ากับกลุ่มนักธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ซึ่งนายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เป็นอีก 1 คน ที่รับทราบนัดหมายและร่วมคณะด้วย รวมถึงบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ของตระกูลชินวัตร ก็รับทราบด้วยเช่นกัน แต่จะส่งตัวแทนร่วมหารือหรือไม่ ไม่ทราบ นอกจากนี้ ยังมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ร่วมพบปะหารือด้วย โดย 1 ในหัวข้อที่มีการพูดคุยกันคือเรื่องราคาประเมินที่ดินใหม่ในปี 2555 ที่จะประกาศราคาออกมาประมาณต้นเดือนกรกฎาคมนี้ รวมถึงแผนผังเมืองใหม่ด้วย

fredag 17 februari 2012

โรงฟอกหนังบริเวณ ปากอ่าวไทย สมุทรปราการ

ข่าวเขาฝากมา.....ผมเห็นว่าน่าสนใจกับภาพที่เห็น

ภาพของ หนานเมือง
โรงฟอกหนังบริเวณ ปากอ่าวไทย สมุทรปราการ

ปล่อยน้ำเสียลงทะเล ออกข่าวไปแล้ว
ตอนนี้ก็ยังแอบปล่อยอยู่
เส้นใหญ่จริงๆ
อย่านึกว่าไม่มีใครเห็น!
ผมเคยอยู่ที่ปากน้ำสมุทรปราการ ที่ซอยอิตาเลี่ยนไทย
ทางไปหาดอัมรา แต่ก่อนป่าจากเต็มไปหมด
หิ่งห้อยระยิบ ระยับตามากและมากกว่าไปดูที่อัพวา ต้นลำภูที่กรุงเทพ
หลายสิบเท่า มันเต็มพืดไปหมด
ปลาตีนคลานใต้ถุน บ้านที่สูงจากน้ำไม่กี่ฟุตดูธรรมชาติปลาตีนแล้วน่าฉงน
ผมเข้าไปในหมู่บ้านที่ใกล้กับหาดอัมราเป็นทางเดินริมคลอง
ที่มีบ้านเรียงรายชาวบ้านจะมีเรือหางยาวเล็กๆหาปลาหาปูกัน
ผมกับเพื่อนเคยไปหาซื้อปูขายบ่อยๆเพราะที่นั่นมีทั้งปูขุดและปูที่วางลอบจับในทะเล
ปูขุดอร่อยมากผมชอบ ยิ่งปูทะเลมีไข่ผัดผงกระหรี่แม่ผมทำให้กินบ่อยอร่อยมี่สุดเลยครับ
ฝีมือใครก็ไม่เทียบฝีมือแม่
ปากน้ำที่อดีตไม่เคยลืม
"แม้บ้านที่อยู่จะเป็นสลัม แต่ก็สุขยิ่งกว่าวิมานใดๆ"
ผมพูดจริเพราะตอนนั้น ผมอยู่พร้อมหน้าทั้งพ่อ แม่ น้องสาว
เดี๋ยวนี้สิไร้ทุกสิ่ง ความสุขใจในอดีตที่ไม่มีวันหวลมาอีกครั้ั้งเลย
หนานเมือง
เปิดเอกสารซึ่งอ้างว่าเป็นเอกสารลับของปรีดี พนมยงค์


เรื่อง หนึ่งซึ่งคนที่ศึกษาประวัติศาสตร์ไทยร่วมสมัยรับรู้กันดีก็คือ ได้มีการเผยแพร่เอกสารฉบับหนึ่ง ซึ่งมีลายเซ็นของนายปรีดี โดยการขีดฆ่าลบวันที่ในหัวจดหมายออกไป เนื้อความมีดังต่อไปนี้


เรียน...

หลัง จากที่มีการประหารชีวิตของผู้ถูกประหารชีวิตทั้งสาม คือคุณเฉลียว ปทุมรส คุณชิต สิงหเสนี และคุณบุศย์ ปัทมศริน ผู้ถูกกล่าวหาในคดีลอบปลงพระชนม์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหดิล และผมก็ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง และเห็นว่าเพื่อช่วยให้ความเข้าใจของผมแจ่มแจ้งขึ้น ผมขออธิบายสิ่งที่ผมทราบทั้งหมดดังนี้คือ

ผมได้รับการติดต่อ และได้รับข้อมูลบางอย่างจากคนสนิทของท่านจอมพลป.พิบูลสงครามในช่วงที่ผมลี้ภัยอยู่ที่ประเทศจีน รายละเอียดคือ

"วัน ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2498 ก่อนที่จะมีการประหารผู้ถูกประหารทั้งสาม คุณชิต สิงหเสนี ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ฟังว่าวันเกิดเหตุ กระผม(หมายถึงคุณชิต สิงหเสนี)นั่งอยู่ที่ทางเข้าห้องพระบรรทมในช่วงเช้าวันที่ 9 มิถุนายน2489 พร้อมกับนายบุศย์ ปัทมศริน กระผมเห็น[เซ็นเซอร์]เข้าไปในห้องพระบรรทม ก่อนที่จะมีเสียงปืนลั่น ประมาณไม่เกินสิบนาที หลังจากนั้นผมวิ่งเข้าไปในห้องพระบรรทม เห็น[เซ็นเซอร์]กัน แสง อยู่ใกล้แท่นบรรทม หลังจากนั้นกระผมได้วิ่งออกไปจากห้องพระบรรทม และกระผมได้เล่าให้[...] และ[...] ซึ่งท่านขอให้กระผม และนายบุศย์อย่านำเรื่องที่เห็นไปพูดกับใครที่ไหน และท่านจะช่วยครอบครัวของกระผม และนายบุศย์อย่างเต็มที่"

ปัจจุบัน ยังไม่มีกฎหมายที่จะแก้ไขคำพิพากษาที่ไม่ถูกต้องของศาลฎีกา ท่านจอมพลป.พิบูลสงครามมีความคิดที่จะให้มีกฎหมายที่สามารถกระทำได้ แต่ก็ทำไม่สำเร็จ เพราะได้รับการต่อต้านอย่างมากจากผู้ที่เสียผลประโยชน์ ผมขอให้ท่านช่วยให้ความชัดเจนเรื่องที่เกิดขึ้น และขอขอบคุณมากสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านได้ทำทุกอย่างเพื่อประเทศชาติ

ด้วยความรักและคิดถึง

(ลายมือชื่อนายปรีดี พนมยงค์)    
      (  ที่มาบอร์ดฟ้าเดียวกัน  โดย สมศักดิ์  เจียมธีรสกูล )

torsdag 16 februari 2012

57 ปี ประหาร 3 นักโทษ 65 ปี ปริศนาคดีสวรรคต

 ๙ ชั่วโคตร์ ๙ มิถุนา ๙ ฆ่า ๘ คือวัฏฏะจักร์แห่งราชวงค์ปีศาจ หลังจากในหลวงอานันทมหิดลถูกลอบปลงพระชนม์ เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๙ น้องชายก็ได้ขึ้นครองราชย์แทน รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยที่สุดที่พระราชทานโดย ร ๘ เมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๙ โดยให้กษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ แต่ได้ถูกโค่นล้มลงเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๐ รัฐธรรมนูญเผด็จการก็ได้สถาปนาขึ้นใหม่โดยให้กษัตริย์อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ หลังจากนั้นความขัดแย้งในสังคมไทยก็ได้เกิดขึ้นระหว่างฝ่ายศักดินาและพวก อนุรักษ์นิยมขวาจัด  กับฝ่ายพลังประชาธิปไตย เรื่องคดีสวรรค์คตของ ร ๘กษัตริย์ภูมิพล จะทำทุกอย่างเพิ่อปกปิดความลับอันขมขื่นนี้ไว้กับตัวเองจนวันตายและจะไม่ยอม ลงจากบัลลังก์อย่างเด็ดขาด  นี่คือสาเหตุที่กษัตริย์และราชวงค์ไม่ยอมให้ประชาชนมีประชาธิปไตยโดยเฉพาะ  ม ๑๑๒ แก้ไม่ได้ จึงให้ตำรวจทหารปราบปรามฆ่านักศึกษา  ประชาชน มาไม่รู้จักจบสิ้น    เพราะกลัวความลับของตนเองจะถูกเปิดเผย    ตราบใดที่ยังมีราชวงค์อำมหิตนี้อยู่ประชาชนก็จะถูกฆ่าเพื่อสังเวยจอมมาร ตลอดไปโดยไม่มีที่สิ้นสุด.....  
Posted Image ในหลวงอานันท์ก่อนถูกลอบปลงพระชนม์



สามภาพข้างบนนี้จากเฟสบุค อ. สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล



57 ปีประหาร 3 นักโทษคดีสวรรคต-ภาพ จำเลยทั้ง3คนที่ถูกประหารชีวิต กรณีรัชกาลที่ 8 สวรรคต เมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2498 จากซ้ายไปขวา นายชิต สิงหเสนี นายบุศย์ ปัทมศริน และนายเฉลียว ปทุมรส(ที่มา:ปกหนังสือ"วาระสุดท้าย 3 นักโทษประหาร" รวบรวมโดย น.ส.พ.ชีวิตเบื้องหลังข่าว พ.ศ. 2498)อ่านรายละเอียดบทความ ๕๕ ปีการประหารชีวิต ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๘
เหตุการณ์สวรรคตยุวกษัตริย์รัชกาลที่8
(อ่านรายละเอียดคลิ้กที่นี่)เหตุการณ์ สวรรคตของยุวกษัตริย์ ในหลวงรัชกาลที่ 8 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2489 หรือ 63 ปีล่วงมาแล้ว ถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวถึงอีกครั้งโดยนักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ร่วมสมัย ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ซึ่งเขียนกระทู้ในเวบไซต์ฟ้าเดียวกันในหัวข้อ(พรีวิว) ข้อมูลใหม่กรณีสวรรคต : หลวงธำรงระบุชัด ผลการสอบสวน ใครคือผู้ต้องสงสัยที่แท้จริงเอาไว้เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมานี้

ขบวน การประชาธิปไตยไทยในสแกนดิเนเวีย ขอสนับสนุน คณะนิติราษฎ์ ในการต่อสู้กับพวกเผด็จการ คมช. และลูกสมุน เราขอประนามอย่างรุนแรงต่อการคุกคามต่างๆกับ คณะนิติราษฎร์ จากพวกลูกสมุน คมช. ที่นำโดย พรรคประชาธิปัตย์ นายประยุทธ จันทร์โอชา นายประสงค์ สุ่นสิริ นายศักดิ์ กอแสงเรือง และพวก พธม.

มั่นใจคนไทยเกิน 1 ล้านสนับสนุนข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์



onsdag 15 februari 2012

เทศ : เขาเหล่านั้นเป็นใคร มาจากไหนกัน ถึงกล้าผลักดันเรื่อง 112 **


ภาพของ ลุงธรรม


เป็นข่าวเดิม แต่ผมนำมาลงรายละเอียดเพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณให้ท่านเหล่านั้น
และเพื่อที่จะบอกว่าปัญญาชนต่างชาติกล้าสู้เพื่อความถูกต้องให้กับคนไทย
แต่ปนยาชันของไทยเป็นกบใต้กะลา กลัวหดหัวอยู่ในกระดอง
(แม้กระทั่งคิดยังไม่กล้า...ไม่ต้องพูดถึงการแสดงออกใดๆ)
คณะนิติราษฎร์..ไม่ได้ยกเลิกการห้ามหมิ่น แต่เขาต้องการแก้กระบวนการ
การฟ้องร้อง เพื่อสร้างความยุติธรรม ส่งเสริมปรัชญา
“การเมืองพอเพียง...ยั่งยืน...ไม่หวงและบ้าอำนาจ”
นักวิชาการและนักเคลื่อนไหวหลากหลายอาชีพมีจำนวนรวน 223 คน มาจากเกือบทุกทวีป
รวมเกือบ 20 ประเทศ(รวมไทย) เช่น อังกฤษ, เยอรมัน, สเปน, สวีเดน,เดนมาร์ก,ออสเตรีย, สวิตเซอรแลนด์, สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, ออสเตรเลีย, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์,ไทย ฯลฯ ร่วมลงชื่อสนับสนุนข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ เรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ในจดหมายเปืดผนึกที่ส่งถึง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีนางสาวยิ่งลักษณ์ชินวัตร (ตามที่แนบมาท้ายนี้)

ผู้ลงนามในจดหมายส่วนใหญ่เป็นศาตราจารย์ อาจารย์ ระดับดอกเตอร์จากมหาวิทยาลัย
ต่างๆ รวมทั้งมหาวิทยาลัยดังๆของ อเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย เอเชีย อาทิเช่น
- มหาวิทยาลัยของอเมริกา เช่นในกลุ่มของ The Ivy League Universities
ซึ่งได้แก่ Columbia, Cornell, Harvard, Princeton,Yale
และมหาวิทยาลัยที่มีชื่อโด่งดังมากอื่นๆ เช่น MIT, Northwestern University,
Stanford University, University of California, Berkeley,
University of California, Los Angeles, The University of Chicago
- มหาวิทยาลัยของของยุโรปได้แก่ มหาวิทยาลัยของอังกฤษ เช่น Oxford, Cambridge,
University of London, London School of Economics and Political Science (LSE),
และมหาวิทยลัยชั้นนำของประเทศอื่นๆ เช่น University Bonn University (เยอรมันนี),
Stockholm University (สวีเดน), University of Copenhagen (เดนมาร์ค),
University of Zurich (สวิตเซอร์แลนด์) , University of Vienna (ออสเตรีย)
- มหาวิทยาลัยของเอเซียและออสเตรเลียได้แก่ Australian National University,
University of Sydney, University of Melbourne, Kyoto University,
Nagasaki University, East China Normal University, City University of Hong Kong,
National University of Singapore, University of the Philippines


ข้อความในจดหมายเปิดผนึก

1 กุมภาพันธ์ 2555

กราบเรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีนางสาวยิ่งลักษณ์ชินวัตร
ในฐานะผู้สังเกตการณ์นานาชาติที่ติดตามและห่วงใยสถานการณ์ประเทศไทย
เราขอประกาศยืนหยัดเคียงข้างคณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 ที่นำโดย
นักวิชาการไทยที่สังคมให้ความนับถืออย่างมากเช่น ดร.ชาญวิทย์เกษตรศิริ,
ดร.นิธิเอียวศรีวงศ์และ ดร.ผาสุก พงษ์ไพจิตร ในการเรียกร้องให้มีการปฏิรูป
กฎหมายอาญามาตรา 112
เราเฝ้าติดตามด้วยความกังวลที่เพิ่มขึ้นตลอดช่วงห้าปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เกิด
เหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เพราะจำนวนของผู้ที่ถูกฟ้องร้องและ
ดำเนินคดีได้เพิ่มขึ้นอย่างทับทวีคูณ ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้เกิดบรรยากาศของ
การกดขี่ในนามของการปราบปรามมากขึ้น ขณะที่การละเมิดสิทธิพื้นฐานของ
ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ รวมถึงการไม่ให้สิทธิในการประกัน
ตัวและการปฏิเสธสิทธิในการพิจารณาคดีอย่างเปิดเผยไดกลายเป็นเรื่องปกติ
ที่เกิดขึ้นเป็นประจำช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีการลงโทษจำคุกที่รุนแรงที่สุด
ภายใต้มาตรา 112 กับนายอำพล (หรือ “อากง”) ที่ถูกพิพากษาเมื่อวันที่ 23
พฤศจิกายน 2554 ให้ต้องโทษจำคุก 20 ปีในความผิดที่ถูกกล่าวหาว่าได้ทำ
การส่งข้อความต่อต้านสถาบันกษัตริย์จำนวนสี่ข้อความ(sms) ผ่านโทรศัพท์ เคลื่อนที่
ในช่วงห้าปีที่ผ่านมามีคดีที่ถูกฟ้องร้องและพิพากษาลงโทษจำนวนมาก และ
อีกไม่ทราบจำนวนที่ไม่ปรากฏต่อสาธารณชน แต่ปรากฏอยู่ในสถิติการดำเนิน
คดีของศาล
เรามีความกังวลมากยิ่งขึ้นต่อการใช้มาตรา 112 ที่ให้ใครก็ได้สามารถแจ้งความ
กล่าวโทษบุคคลใดว่าละเมิดกฎหมายนี้ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งมีหน้าที่ต้องดำเนิน
การสอบสวนอย่างเต็มที่หลังจากได้รับแจ้งความ สิ่งที่เป์นความกังวลอันสำคัญ
ยิ่งนี้เพราะจำนวนที่เพิ่มขึ้นของการกล่าวหาและการดำเนินคดีภายใต้มาตรา 112
เกิดขึ้นเพราะสังคมไทยมีการแบ่งเป็นฝักฝ่ายมากขึ้นตามอุดมการณ์และความเชื่อ
ทางการเมือง
ภายใต้บริบทเช่นนี้มาตรา 112 ได้กลายเป็นเครื่องมืออันทรงอิทธิพลในการที่ปิด
ปากคู่ขัดแย้งทางการเมือง และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คู่ขัดแย้งที่ถูกกล่าวหาว่าไม่
จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ระยะเวลาของโทษจำคุกที่รุนแรงและไม่ได้สัดส่วนกับความผิดที่ถูกกำหนดไว้ภาย
ใต้มาตรา 112 ได้ทำลายบุคคลที่ต้องโทษและครอบครัวของพวกเขา พรากปู่จาก
หลาน พรากพ่อจากลูก และพรากสามีจากภรรยา ยิ่งไปกว่านั้น การที่ระยะเวลาของ
โทษจำคุกเหล่านี้เทียบเท่าได้กับโทษที่ผู้ค้ายาเสพติดและผู้ก่ออาชญากรรมร้าย
แรงได้รับนั้น ทำให้เกิดบรรยากาศความกลัวในหมู่ประชาชนชาวไทยอย่างเห็นได้ชัด
และเมื่อประชาชนไม่อาจแน่ใจได้ว่าเมื่อไรที่เสียงเคาะประตูบ้านที่ดังขึ้นนั้นจะมาจาก
ข้อความที่พวกเขาเขียน บทความที่พวกเขาโพสต์ในโลกออนไลน์หรือจากการกระทำ
ใดๆที่ถูกนับว่าเป็นการไม่จงรักภักดี ก็จะเกิดการจำกัดความคิดและการแสดงออก
[ที่มีต่อสถาบัน] ตราบใดที่สิ่งนี้ยังเกิดขึ้น สิทธิมนุษยชนที่สมบูรณ์ก็ไม่อาจเกิดขึ้นอย่าง
เป็นจริงในประเทศไทย
เราขอยืนหยัดสนับสนุนคณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 เพราะการปฏิรูปเป็นสิ่งจำเป็น
ในการที่จะคุ้มครองสิทธิพื้นฐานของประชาชนไทยและเสริมสร้างประชาธิปไตยและ
นิติรัฐในความหมายที่กว้าง ร่างแก้ไขกฎหมายที่นำเสนอโดยกลุ่มนิติราษฎร์จะแก้
ปัญหาวิกฤติ ต่างๆที่เกิดจากการใช้มาตรา 112 ในทางที่ผิดโดยการทำให้การ
ลงโทษเป็นเหตุเป็นผลและได้สัดส่วนกับความผิด การจำกัดให้ผู้ที่สามารถแจ้งความ
กล่าวโทษได้เป็นสำนักราชเลขาธิการแทนที่จะเป็นใครก็ได้ การจำแนกการวิพากษ์
วิจารณ์โดยสุจริตจากการอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์และดำเนินการกับการละเมิด
มาตรา 112 ในกรอบของกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพแทนที่จะเป็นเรื่องการละเมิด
กฎหมายความมั่นคงแห่งรัฐเราขอเรียกร้องให้ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีได้พิจารณาการแก้ไข
มาตรา 112 ตามที่มีการเสนอโดยเร็ว
ขอแสดงความนับถือ

(ลงชื่อตามลำดับตัวอักษรนามสกุล)
( ลงนาม  223 รายชื่อ จากมหาวิทยาลัยทั่วโลก )

tisdag 14 februari 2012

ผู้แทนทูตจากประเทศสวีเดนและสวิตเซอร์แลนด์ เยี่ยมลูกชายสมยศ


Posted ImagePosted Image
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จีรนุช เปรมชัยพร ผู้อำนวยการเว็บไซต์ประชาไท
พร้อมผู้แทนทูตจากประเทศสวีเดนและสวิตเซอร์แลนด์
และไทเรลล์ ฮาเบอร์คอร์น นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย
ได้เข้าเยี่ยมนายปณิธานด้วย
หลังจากการสังเกตการณ์การไต่สวนคดีตอนเช้าของจีรนุชที่ศาลอาญาสิ้นสุดลง

Posted Image
นางธิดา ให้ความเห็นว่า
การปฏิเสธการประกันตัวของนายสมยศและนักโทษคดี ม.112 เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงมาก
และมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งของเจ้าหน้าที่รัฐที่ใช้กระบวนการมาลงโทษแทนคำพิพากษาของศาล
ทั้งนี้ ทาง นปช. ยังคงวางแผนจะรณรงค์ในเรื่องของการต่อต้านรัฐประหาร
และการต่อสู้เพื่อรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง
ส่วนต่อเรื่องม. 112 นั้น ธิดากล่าวว่า
ใครจะรณรงค์ล่ารายชื่อก็ทำได้ แต่ทางนปช.
จะทำไปทีละขั้นตอนตามที่ได้วางแผนไว้

“เราเป็นพวกที่ต้องกินข้าวทีละคำ
คือถ้าใครอยากจะไปกินอย่างอื่นยังไงก็ไม่มีปัญหาอะไร
แต่เราวางแผนว่าเราต้องจัดการกับกฎหมายรัฐธรรมนูญสูงสุดก่อน แค่นี้ยังไม่ง่ายเลย
ยังมีคนที่จะคอยทำรัฐประหาร
ฉะนั้นทุกอย่างต้องมีกาลเทศะ” ธิดาระบุ

Posted Image

ความคิดเห็นผมอาจจะสร้างความไม่พอใจกลุ่มแกนนำนปช.
บ้างในความคิดเห็นต่อคำพูด อ.ธิดา
การพูดของธิดาพูดง่าย พูดอย่างใช้โวหารวาทะกรรม
หากวิเคราะในคำพูดจะพบว่าแท้จริงแล้ว อ.ธิดาเคยใส่ใจหรือไม่กับการที่หลายคนโดน
คดีหมิ่น ไม่เลยสักครั้งที่คุณธิดาออกมาปกป้องช่วยเหลือพวกเขา
การให้รอผมถามว่าใช้เวลานานสักเท่าใด้
คนอยู่ในคุกนะครับ ที่ว่ากลัวมีการรัฐประหารนั้นปลดสิ้นดี
สุรชัยโดนก่อนการเลือกตั้งใช่มั้ย ต่อมาสมยศคุณธิดาทำอะไรในเรื่องนี้บ้าง
ไม่เคยให้ข่าวว่าจะต่อสู้เพื่อคนเหล่านั้นซักแอะ
จะว่าไปแล้วดาตอปิโด นั้นโดนมานานเท่าไร?มีมัยที่เจียดเวลา
กล่าวถึงสักครั้ง การป้อนคำพูดแบบไม่รับผิดชอบในคำพูด
ฤาจะเป็นธรรมเนียมนิยมของคนใต้เยี่ยงคล้ายพลพรรคปชป.
ที่มีแต่วาทะโวหารหาความรับผิดชอบในคำพูดมิใด้เลยสักครั้ง


(  จากกระทู้ของคุณ หนานเมือง ในประชาทอล์ค )

måndag 13 februari 2012

การอดอาหารของลูชายคุณสมยศได้สท้อนให้เห็นถึงความจริงของสังคมไทยที่ไม่ได้ปกครองโดยกฏหมาย


การอดอาหารของลูชายคุณสมยศได้สท้อนให้ เห็นถึงความจริงของสังคมไทยที่ไม่ได้ปกครองโดยกฏหมาย แต่ปกครองด้วยระบอบเผด็จการอำมหิตของกษัตริย์ ภูมิพล โดย ม ๑๑๒ ลูกชายคุณสมยศเป็นเด็กหนุ่มที่กล้าหาญยอมเสียสละออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม จากกฏหมายเถื่อนนี้ เพื่อให้ได้มาถึงการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย สำหรับรัฐบาลที่ประชาชนเลือกมาก็คิดแต่ปรองดองไม่ได้คิดแก้ไขนำความยุติธรรม ความถูกต้องให้แก่สังคมเลย


พ่อของน้องไท หรือนายปณิธาน พฤกษาเกษมสุข ได้เขียนบทกวีถึงบุตรชาย ซึ่งนายปณิธานกำลังอยู่ในช่วงอดอาหาร ประท้วง เป็นเวลา 112 ชั่วโมงที่หน้าศาลอาญา
วันนี้ (13 ก.พ. 55) ระหว่างการสืบพยานที่ศาลจังหวัดสงขลา นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข พ่อของน้องไท หรือนายปณิธาน พฤกษาเกษมสุข ได้เขียนบทกลอนถึงบุตรชาย ซึ่งนายปณิธานกำลังอยู่ในช่วงอดอาหาร ประท้วง เป็นเวลา 112 ชั่วโมงที่หน้าศาลอาญา เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนายสมยศ ซึ่งถูกควบคุมตัวในเรือนจำกว่า 10 เดือน เนื่องจากศาลไม่ให้ประกันตัว
ถึง น้องไท ลูกรัก
เธอคือดอกไม้งามเปี่ยมความหวัง
เธอคือพลังสร้างสรรค์สังคมใหม่
เธอคือมณีแก้วแพรวสดใส
เธอคือไทมรรคาที่ปรากฏ
กล้าต้านเผด็จการอันเคี้ยวคด
กล้ากบถต่อกฎเกณฑ์อันเลวร้าย
กล้าแกร่งด้วยศรัทธาที่ท้าทาย
กล้าสู้ด้วยหมายรักหักหาญกล้า
ก้าวเกิดขบวนการอหิงสา
ก้าวนำพามวลชนพ้นทางตัน
ก้าวไปให้ถึงฝั่งแห่งความฝัน
ก้าวไปให้ถึงวันฝันเป็นจริง
13 กุมภาพันธ์ 2555
ศาลจังหวัดสงขลา
http://news.voicetv.co.th/thailand/30742.html

söndag 12 februari 2012

๙ ชั่วโคตร์ ๙ มิถุนา ๙ ฆ่า ๘ คือวัฏฏะจักร์แห่งราชวงค์ปีศาจ หลังจากในหลวงอานันทมหิดลถูกลอบปลงพระชนม์ เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๙ น้องชายก็ได้ขึ้นครองราชย์แทน รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยที่สุดที่พระราชทานโดย ร ๘ เมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๙ โดยให้กษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ แต่ได้ถูกโค่นล้มลงเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๐ รัฐธรรมนูญเผด็จการก็ได้สถาปนาขึ้นใหม่โดยให้กษัตริย์อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ หลังจากนั้นความขัดแย้งในสังคมไทยก็ได้เกิดขึ้นระหว่างฝ่ายศักดินาและพวก อนุรักษ์นิยมขวาจัด  กับฝ่ายพลังประชาธิปไตย เรื่องคดีสวรรค์คตของ ร ๘กษัตริย์ภูมิพล จะทำทุกอย่างเพิ่อปกปิดความลับอันขมขื่นนี้ไว้กับตัวเองจนวันตายและจะไม่ยอมลงจากบัลลังก์อย่างเด็ดขาด  นี่คือสาเหตุที่กษัตริย์และราชวงค์ไม่ยอมให้ประชาชนมีประชาธิปไตยโดยเฉพาะ  ม ๑๑๒ แก้ไม่ได้ จึงให้ตำรวจทหารปราบปรามฆ่านักศึกษา  ประชาชน มาไม่รู้จักจบสิ้น    เพราะกลัวความลับของตนเองจะถูกเปิดเผย    ตราบใดที่ยังมีราชวงค์อำมหิตนี้อยู่ประชาชนก็จะถูกฆ่าเพื่อสังเวยจอมมาร ตลอดไปโดยไม่มีที่สิ้นสุด.....       ขอถามว่าจะต้องมีการตั้งและเลิกเวทีกันอีกกี่ครั้ง ?

เกมส์จบแล้ว....เก็บเวที (เวทีแห่งนี้ไม่มีพี่เลี้ยง)

 เวทีงามจรัสฟ้า.....เรืองรอง
อวดแต่งคนพิศมอง......ท่วมท้น
น้ำตาเพื่อนเจิ่งนอง......เจ็บลึก
อยากหลบไปให้พ้น......เข็ดแล้วคำคน

รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ.....ช่างพอเหมาะ สราญรื่น
ลืมแล้ว ภาพล้มครืน.....โปรยยาหอม อิ่มสุขใจ

เลือดเพื่อน เคยรินหยด.....ลืมให้หมด ใครหน้าไหน
ลืม ลืม ลืมให้ไว.....สไนเปอร์ เจาะร่างชน

ลืมเถิด ใครสั่งฆ่า.....ลืมเวลา ทุกข์หมองหม่น
ลืมซะ ลืมทุกคน.....ลืมหยดเลือด และน้ำตา

  เวที ล่มสลาย.....ปีศาจกราย มาผลาญล่า
ที่แท้ ภาพมายา.....เกมส์จบแล้ว เก็บเวที

๓ บลา / วันอาทิตย์สีแดง ๑๒ ก.พ.๕๕


ผิดพลาด อาจลืมได้ แต่ไม่ใช่ แค่เดินหนี
ต้องจำ ค้ำฤดี ทางเดินนี้ มีขวากหนาม
ต้องเสาะ เลาะทางอื่น ที่ราบรื่น น่าเดินตาม
ทางใด ใจครั่นคร้าม ต้องดูท่า ก่อนหน้าเดิน
บางที่ มีหนามเหน็บ อย่าทนเจ็บ เล็บขบเพลิน
ต้องหา ทางจำเริญ เชิญตัดทิ้ง อย่านิ่งไว้
ชีวิต เป็นของเรา จะมัวเศร้า เฉาอยู่ใย
ปัญหา อาจแก้ได้ ขอเพียงรู้ สู้กับมัน
ยืมจมูก คนหายใจ ต้องทนได้ อย่าหุนหัน
ทำเอง บรรเลงกัน ต้องสรรให้ ได้ครบวง

ด้วยความคิดถึง ไม้หนึ่ง ก.กุนที

อย่างสุดหัวใจในเวลานี้


ความ กลัวทำให้เสื่อม !... คำพูดของท่านสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ที่เคยรับใช้กษัตริย์และราชวงค์มาตลอดชีวิต แต่พอรู้ความจริงถึงความโหดเหี้ยมอำมหิต จึงได้มายืนอยู่ข้างฝ่ายประชาธิปไตย แต่ก็ถูกไอ้อสรพิษเฒ่าฆ่าด้วยแกงเขียวหวานพระราชทานใส่ยาพิษ ฉนั้นผู้รักประชาธิปไตยทั้งหลายไม่ต้องกลัวกับคำขู่รายวันใดๆ เกี่ยวกับการยึดอำนาจรัฐประหาร เพราะไอ้เฒ่าจอมมารหัวหน้าใหญ่่ใจอำมหิต กำลังจะเข้ากองฟอนในไม่ช้านี้แลัว
 ความกลัวทำให้เสื่อม !

สัตว์ในเงื้อมเงาระแวงแสงสว่าง
ไอ้ตัวโฉดสันหลังหวะ ซ่อนอำพราง
มันผิวบาง ไม่อาจต้านแสงอาทิตย์

ความกลัวทำให้เสื่อม !
ราษฎร ระอาเอือม อำมหิต
ไอ้อสัตย์ สัญชาติอสรพิษ
จ้องบงการผลาญชีวิตเราเรื่อยมา.....

ความกลัวทำให้เสื่อม !
ปากมันเลื่อม ทาลิปแดง เปิดกว้างอ้า
เขี้ยวคมกริบขบกัดปวงประชา
เลื้อยเต็มราชมรรคา...มหาโจร

ความกลัวทำให้เสื่อม !
กระไดทองเชื่อมต่อจะหักโค่น
หลอกเกณฑ์กัน สรรเสริญ เยิร ตะโกน
กี่มดพราหมณ์ แม่หมอ โหร ไม่บรรเทา

ความกลัวทำให้เสื่อม !
พือกระเพื่อม มายาการเก่า ๆ
ตอกย้ำเกิน คนก็อ้วก ความเบื่อเมา
ตาสว่างแล้วไอ้เฒ่า ! รอลงทัณฑ์....!!!




lördag 11 februari 2012

ขบวนการลิงหลอกเจ้า.... เจ้าหลอกลิง แต่หลอกประชาชนไม่ได้ เพราะประชาชนรู้ทัน และไม่มีความเชื่อถือในนโยบายปรองดองของรัฐบาล

สัญญาณนี้....ต้องมีคนแพ้

ภาพของ blablabla

ขอบคุณภาพจากข่าวสด

เหตุุจาก..สัญญาณนี้..มีความหมาย
เรื่องมากมาย..คลายปม..ผสมผสาน
ลับ ลวง พราง..ทางมืดมน..ปนสันดาน
ยังสามานย์..ฝังไว้..ในใจคน....

ถูกผิด ใช่มิตรแท้....ล้านเรื่องแย่ ใครสับสน
หลอกเถิด หลอกปวงชน....ตามืดมัว ทั่วปฐพี

ขายโง่ แล้วโชว์หรา....ล้วนมารยา ไร้ศักดิ์ศรี
สันดาน พวกอัปรีย์....หลอกลวงล่อ ให้ตายใจ

ยอมแลก ไม่แปลกดอก....เหตุที่บอก ใช่เรื่องใหม่
เดินหน้า หรือถอยไกล....ชนะแพ้ โปรดรอดู

สัญญาณก่อเกิดเกื้อ....ทุรชน
หลอกล่อพรางเล่ห์กล.....หว่านล้อม
ข้างหน้าช่างมืดมน.....จบง่าย จริงฤา
เตรียมใจหากเชื่อพร้อม.....พ่ายแพ้วิชามาร


๓ บลา / ๑๐ ก.พ.๕๕ (เย็น)

6 ตุลา ความจริงอัปยศที่ต้องการพิสูจน์ เชิญดูคลิปความเหี้ยมโหดอำมหิตและการตี ๒ หน้าของกษัตริย์ภูมิพลและครอบครัว

ลูกชายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อดอาหาร 112 ชม. เพื่อเสรีภาพของพ่อ "Free My Dad"

นาทีที่ 1 ของการอดอาหาร 112 ชั่วโมงครับ




เชิญชมคลิปนายกยิ่งลักษณ์ และ เปรมในวันพิธีเปิดงานรักเมืองไทยเดินหน้าประเทศไทยที่ทำเนียบรัฐบาล

torsdag 9 februari 2012

คงเป็นสงครามครั้งสุดท้ายจริงๆ.

ขุนเขาบอก :
คงเป็นสงครามครั้งสุดท้ายจริงๆ...
เคียงคู่จอมยุทธ คือสุดยอดกระบี่
เหนือปฐพี ยากมีใครเทียมทัน
กระบี่อยู่ที่ใจ ต้านภัยใหญ่มหันต์
แม้นหมื่นเกาทัณฑ์ ก็มิอาจกร่ำกราย
วิทยายุทธชั้นครู เอาศัตรูมาเป็นมิตร
ต่อกรได้สิบทิศ เปี่ยมด้วยมิตรสหาย
ศัตรูที่ซ่อนเร้น เผยให้เห็นร่างกาย
จากศัตรูเป็นสหาย อกแตกตายคือจอมมาร
ถ่ายทอดเสียงพันลี้ สู่สตรีหมายเลขหนึ่ง
กระแทกจุดคีมึ้ง ถึงกับอึ้งขุนทหาร
จัดงานยิ่งใหญ่ ทิ่มแทงใจจอมมาร
ขันทีใหญ่ได้รับสาร ขุนทหารได้รับซอง
เสียงขลุ่ยเสียงเจ้ง บรรเลงเพลง “เย้ยยุทธจักร”
นางผู้เลอลักษณ์ หัวหน้าพรรคผู้ผยอง
เชิญขันทีใหญ่ จอมยุทธไซร์ให้ปรองดอง
ละความขุ่นข้อง ไม่แตะต้องคัมภีร์มาร
กระอักเลือดข้น คือจอมโจรเสื้อเหลือง
เห็นนางนั่งเมือง ใจแตกเสี่ยงลมปราณสลาย
ลมปราณย้อนกลับ เหมือนชีพดับใจละลาย
ถูกจอมยุทธพี่ชาย ใช้ไม้ตายสลายพลัง
ผืนปฐพีใหญ่ คงไร้ที่หยัดยืน
หากยังขัดขืน หอกคนอื่นคงเสียบหลัง
กระบี่อยู่ที่ใจ จอมยุทธใหญ่ทรงพลัง
เป็นไม้ใกล้ฝั่ง คนชิงชังคือจอมมาร
ฤาจักต้องห้ำหัน ให้มันรู้แจ้ง
แต่จอมยุทธเสื้อแดง ครองทุกแห่งสถาน
พร้อมจักปกป้อง คุ้มครองบริบาล
ต่อกรกับจอมมาร บริบาลนงคราญแดง
เหลือต้นไม้ใหญ่ ไยกลัวไร้ฟืนไฟ
จอมมารหลับใหล ยามแสงใต้ดับแสง
ร่างกายอ่อนล้า แข้งขาไร้เรียวแรง
พักผ่อนเอาแรง รอนักรบแดง.....ยาตรา........คงเป็นสงครามครั้งสุดท้ายจริงๆ...

กลอนจากชาวบ้าน แด่ “ เหี้ยหง่อย ๔ ขา ให้หมาจูง “

                    ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ
ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ       เสียงเหยีบย้ำของชนชั้น
กระหึ่มก้องนานาพรัน    ว่าฟ้านั้นคือเทวา
ฟ้าสูงมันกดขี่           ว่าดินนี้ไร้เดียงสา
เป็นทาสต้องพึ่งพา     หากขาดฟ้าต้องสิ้นใจ
เราดินต้องเป็นดิน      จักโบยบินได้อย่างไร
แต่ดินก็มีใจ              ประกาศให้ฟ้ามันรู้
ช่องว่างระหว่างชั้น      ถูกแบ่งกั้นปันกันอยู่
ต่ำทรามคือดินกู         ฟ้าอาจชูเพราะคำลวง
ดินนี้เลี้ยงชีวิต            สรรพสิ่งสถิตเล็กใหญ่หลวง
สินทรัพย์ล้ำค่ามีทั้งปวง    แต่ฟ้าช่วงชิงสิ่งนี้ไป
จักโน้มฟ้าให้เทียมดิน      หวังหลอกกินอีกนั้นอย่าหมาย
ช่องว่างระหว่างชั้นอันตราย   จะทำลายให้ยับอยู่กับมือ
                   โดย ชาวบ้าน

onsdag 8 februari 2012


Posted Image สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล

Posted Image
ที่ร้านอาหารเปิดทีวี พอดีเป็น "ข่าวภาคเที่ยง" มีการเสนอข่าวเรื่องรัฐสภา และ สส.

ทันทีที่เห็นข่าว สส. ผมก็นึกขึั้นมาถึงเรืองที่ทำสไลด์นี้

กลับบ้านมา ยังไม่ทันทำอะไร ก็มาทำเป็นสไลด์นี่แหละ

อยากเรียกร้องให้ เสื้อแดง หรือคนเชียร์เสื้อแดงทุกท่าน ที่ได้อ่าน fb นี้ ช่วยกัน "ส่งเสียง" ไปยังท่านทั้งหลายที่กล่าวถึงด้วยเถอะครับ

คนติดคุก เขานับเวลาเป็นชั่วโมง เป็นวัน

ติดคุกมา กว่า 600 วันแล้ว หลายสิบคน

เป็นอะไรที่ ไม่ถูกต้องเอามากๆเลยครับ

ขอบคุณล่วงหน้า สำหรับทุกท่านที่จะช่วยกัน "ส่งเสียง"

ใครเป็น "เพื่อน" ทาง fb ของ นปช. ที่เป็น สส. จะขอบคุณมาก ถ้าช่วยเอาไปโพสต์ต่อ หรือไป่ช่วยกันเขียน ไปช่วยกันกระตุ้นเยอะๆครับ

tisdag 7 februari 2012

ถ้านี่เป็นประเทศที่มีกฎเกณฑ์ นายก จะต้องไล่ ยุทธศักดิ์ และ ประยุทธ์ ออกจากตำแหน่งทันที

นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ตลอดจน พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาปรามให้ผู้รณรงค์แก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ยุติการเคลื่อนไหว ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า

ถ้านี่เป็นประเทศที่มีกฎเกณฑ์ มารยาทการเมืองแบบประชาธิปไตย นายกรัฐมนตรี จะต้องไล่ ยุทธศักดิ์ ศศิประภา และ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากตำแหน่งทันที

"ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ (รองนายกฯ และ ผบ.ทบ.) คุณไม่มีสิทธิ์ มา ′ปราม′ ไม่ให้ประชาชนแสดงความเห็นเรื่องการแก้ไขกฎหมายฉบับใดฉบับหนึ่ง

"นี่เป็นการ ′เสียมารยาท′ ′เสียบรรทัดฐาน′ เป็นการแสดงความไม่มีความรู้พื้นฐานของความเป็นเจ้าหน้าที่รัฐในระบอบประชาธิปไตยเลย

"การแสดงความเห็นจะแก้หรือจะเลิกกฎหมายฉบับใด เป็นสิทธิพื้นฐานของความเป็นพลเมือง ที่ละเมิดไม่ได้ครับ"

"พูดจริงๆ บางทีอ่านข่าวประเภทยุทธศักดิ์ หรือเฉลิม เรื่อง 112 แล้ว รู้สึกว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทย เลือกไปก็ไม่มีประโยชน์ เสียเสียงที่เลือกเปล่าๆ (ขอคืนได้ไหมฟะ?)

"คือ คุณไม่เห็นด้วย ไม่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงเรื่อง 112 ก็พูดว่า ′ไม่เห็นด้วย เราไม่ยกมือให้′ อะไรแบบนั้น ก็พอ

"คุณมีสิทธิอะไรมาปราม ทำอำนาจบาตรใหญ่ข่มขู่คนอื่น

"ถามจริงๆ"

"คุณยิ่งลักษณ์ครับ

"รัฐมนตรีของคุณ กำลังละเมิดหลักการปกครองประชาธิปไตย ละเมิดหลักการรัฐธรรมนูญ และละเมิดสิทธิมนุษยชน

"พวกคุณไม่ใช่เจ้าของประเทศคนเดียว ไม่ใช่เจ้านายเหนือหัวของราษฎร

"มีสิทธิ์อะไรมาเที่ยวปราม-ขู่การใช้สิทธิ์เคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงกฎหมายของราษฎรครับ?

"มันชักจะมากไปแล้วนะครับ" ที่มา