lördag 31 mars 2012

โบราณบอก พอเสร็จนา ฆ่าโคถึก ...การยึดอำนาจ 19 กันยายน 2549 ผู้สั่งการตัวจริงต้องการ ให้ พลเอก สนธิ ตกเป็นแพะรับบาป เหมือนกับกรณีการลอบปลงพระชนม์ ร. 8 เมื่อน้องชายได้ขึ้นมาเป็นกษัตริย์แทนก็ได้เอาราชเลขา นายเฉียว และมหาดเล็ก นายชิด นายบุุศย์ พยานปากสำคัญที่อยู่ในเหตุการณ์ซึ่งเป็นผู้บริสุทธ์มาเป็นแพะรับบาปแทน การกระทำแบบนี้กษัตริย์ภูมิพลได้ใช้มาตลอดเวลาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน วันนี้เป็นคิวของพลเอกสนธิ ต้องมาเป็นแพะรับบาปแทนกษัตริย์ภูมิพล ! และก็จะไม่ใช่คนสุดท้ายแน่นอน ถ้าตราบใดกษัตริย์ภูมิพลยังมีชีวิตอยู่่

rday, 08:53 PM
Posted Image

บุญคุณ..เคยหนุนเกื้อ เพื่อสร้างฝัน
ต่อเติมวัน งดงาม ตามที่เห็น
ทั้งโอบอุ้ม เชิดหน้า ฝ่าลำเค็ญ
จนได้เป็น ดั่งหวัง นั่งชูคอ....

โบราณบอก พอเสร็จนา ฆ่าโคถึก
มันบาดลึก โอ้อกเอ๋ย เคยร่วมก่อ
ลับ ลวง พราง ทางอุบาทว์ ชาติสอพลอ
บัดนี้หนอ ถีบส่ง เหมือนลงทัณฑ์....

ร่วมคิดแผน โสมม ล้มทักษิณ
ให้ดับดิ้น คาบันได ในสี่ขั้น
รัฐประหาร ปี 49 เข้าโรมรัน
ร่วมผลักดัน จนกู่ก้อง ร้องไชโย....

พอจะคิด ปรองดอง สนองราษฎร์
กลับรุกฆาต แบบระยำ ทำโมโห
ทั้งเตะถีบ แบบอวดเก่ง นักเลงโต
แถมคุยโว..ไม่รู้ไม่ชี้ อัปรีย์คน....

หมดประโยชน์ ให้ปลื้ม..ลืมอดีต
คำพูดกรีด ก่นด่า พาสับสน
เลวกับชั่ว ต้องแยกกัน ในบันดล
พวกเราๆ ประชาชน ต้องทนดู....

๓ บลา / ๓๑ มี.ค.๕๕
"กำลังใจหาซื้อไม่ได้ แต่ให้กันได้"



เมื่อเคราะห์กรรม ตามทัน มันยกร่อง
พวกเพื่อนพ้อง ร่วมชั้น ก็หันหลัง
ประชาชน ก่นด่า พะว้าพะวัง
เมื่อบิ๊กบัง แจ่มแจ้ง จึงแทงใจ

สุดเสียใจ เป็นเครื่องมือ ให้คนชั่ว
ควรเป็นรั้ว อยู่ดีดี คงมีได้
อยากจะเด่น อยากจะดัง จึงพังไป
คนจัญไร หลอกใช้ล่า ฆ่าคนดี

สำนึกได้ ภายหลัง ชาติพังแล้ว
ถ้ามีแม้ว คงไม่หด หมดศักดิ์ศรี
ขอมาเป็น ตัวเริ่ม เสริมไมตรี
จัดปรองดอง น้องพี่ มีที่ยืน

การไม่เป็น อย่างใจ ใครมันขวาง
ก็พวกหาง เหี้ยเห่า เข้าขัดขืน
ตามถล่ม สมน้ำหน้า ท่าขอคืน
สุดจะฝืน ทำให้มัน ยังฟันกู
by BBBBB 

จักรภพหลุดแล้วคดีหมิ่นเบื้องสูง มาตรา 112... จงอย่าชะล่าใจ... นโยบายการปรองดองคือการตีสองหน้าของกษัตีย์ภูมิพล การที่อัยการไม่ฟ้อง คุณจักรภพเป็นเพียงกลลวงอีกอย่างของจอมบงการเจ้าเล่ห์เท่านั้นเอง


ภาพ: มติชน
31 มีนาคม 2555
เป็น ส่ิงที่ชอบแล้ว ทีมข่าวไทยอีนิวส์ ขอร่วมแสดงความยินดีกับคุณจักรภพ เพ็ญแข และก็หวังว่ามาตรฐานการตัดสินนี้จะครอบคลุมไปยังคุณสมยศ พฤกษาเกษมสุข และคุณจีรนุช เปรมชัยพร และนักโทษคดีมาตรา 112 ทุกคน

ที่มา มติิชนออนไลน์รายงาน "อัยการ สั่งไม่ฟ้อง"จักรภพ เพ็ญแข" หมิ่นเบื้องสูง มาตรา 112"
ร.ต.ต. พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา กล่าวถึงกรณีที่อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คดีหมิ่นเบื้องสูงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ไปเมื่อเดือนกันยายน 2554 กรณีเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2550 นายจักรภพกล่าวบรรยายพิเศษเป็นภาษาอังกฤษที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่ง ประเทศไทย ว่า คดีนี้เป็นความรับผิดชอบของนายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อดีตอธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา ส่วนตนเข้ามารับตำแหน่งภายหลังจึงไม่ทราบรายละเอียดสำนวนของคดีนี้ทั้งหมด เพียงแต่รับรู้ว่าอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว ขณะนี้สำนวนและความเห็นส่งไปให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร) เพื่อพิจารณาว่าจะมีความเห็นแย้งกับความเห็นของอัยการหรือไม่ และตนมีหนังสือตอบกลับ พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ มุ่งการดี ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษคดีนี้ แจ้งผลการพิจารณาของอัยการตามที่ พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ส่งหนังสือติดตามความคืบหน้าของคดีมาเท่านั้น
นาย กายสิทธิ์กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ระบุว่าคดีนี้มีหลักฐานเพียงพอแต่อัยการกลับสั่งไม่ฟ้อง อาจจะมีประเด็นการเมืองเนื่องจากนายจักรภพเป็นหนึ่งในแกนนำเสื้อแดงที่ สนับสนุนรัฐบาลปัจจุบัน ว่าเป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของ พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ แต่คดีต้องเป็นไปตามพยานหลักฐาน ส่วนที่ พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ขอให้เปิดเผยสำนวนคดีนั้น เนื่องจากตนพ้นออกจากตำแหน่งมาหลายเดือนแล้ว ต้องปรึกษาผู้ใหญ่เนื่องจากต้องมีขั้นตอนการดำเนินการ การออกมาวิจารณ์คดี ควรรอผลการตัดสินเสร็จก่อน ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของคดีอยู่
Share on Fa

torsdag 29 mars 2012

ความประทับใจที่ได้ไปเยี่ยมพวกเราที่เรือนจำกลาง พวกเขารอคอยเราอยู่ทุกนาที ... เรียน ท่านนายกคนสวย เมื่อท่านประสพผลสำเร็จกับนาๆประเทศในทางสากล ก็โปรดได้หันมาดูแลคนที่เป็นรากหญ้าภายในประเทศที่เขาเลือกท่านขึ้นมาเป็นนายกบ้างเขากำลังรอความช่วยเหลือจากท่าน ...


Posted Image

ขบวนการมอดกินประเทศ

ขบวนการมอดกินประเทศ

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับโปรดเกล้าให้เข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 ของประเทศไทยเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2554 มาพร้อมกับความผิดหวังของ ”กลุ่มอนุรักษ์นิยม” ที่ยังไม่สามารถใช้เวลาตั้งแต่หลังเหตุการณ์ยึดอำนาจ 19 กันยา 2549 กระชับอำนาจเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตไม่สำเร็จ สาเหตุเพราะกระแสโลกาภิวัตน์เปลี่ยนแปลงไปมากกว่าที่คนกลุ่มนี้รู้จักและ เข้าใจและที่สำคัญไปกว่าก็คือ หลักคิดที่ว่า “มีอำนาจ มีหน้าที่ โดยไม่ต้องรับผิดชอบ” จะสามารถทำได้อย่างไร?
ช่วงต้นของการบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ความเคลื่อนไหวของกลุ่มอนุรักษณ์นิยมก่อตัวพูดคุยถึงแผนการณ์ล้มรัฐบาล เหมือนทุกครั้งที่แพ้การเลือกตั้งแต่จะได้เข้ามาบริหารประเทศแล้วจัดการแก้ กฎหมาย ทำสิ่งที่ค้างคา สะสมทุน ได้ก่อตัวขึ้นพร้อมกับคำ”ประกาศิต ให้มันอยู่ไม่เกิด 6 เดือน” เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ของประเทศก็เกิดขึ้น เกิดขึ้นมาจากความบกพร่องของมนุษย์มากกว่าการมองว่าเป็นภัยธรรมชาติ น้ำนำมาซึ่งความเดือดร้อน ทุกข์ยากของประชาชน และความคาดหวังของคนกลุ่มนี้ที่จะให้เห็นการจลาจลเกิดขึ้นจนรัฐบาลเอาไม่ อยู่ เรื่องนี้ปฏิเสธไม่ได้เพราะความเคลื่อนไหวของเครื่องมือคนที่ยังยินยอมรับ ใช้กลุ่มอนุรักษ์นิยม ยกขบวนออกมาแสดงบทบาทที่แต่ละคนถนัด ให้คนในสังคมเห็นอย่างชัดเจน
เมื่อเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ผ่านไป...ไปพร้อมกับการก้าวข้ามประกาศิต “ให้มันอยู่ได้ 6 เดือน” โดยไร้ร่องรอยเหตุการณ์ที่คาดหวัง คนกลุ่มนี้ก็ไม่หยุดยั้งที่จะหาวิธีการล้มรัฐบาล โดยมีการขยับเวลาให้ไปถึงเดือนพฤษภาคม ภาพหน้าฉากที่ใส่หน้ากากเข้าหากันก็ว่ากันไป แต่หลังฉากหลังเวที บรรดามือไม้ฝ่ายของตน ลงมือวางแผนที่จะชำเราประเทศกันอย่างสนุกสนาน มีการพบปะเจอะเจอ ณ ที่เก่า เวลาเดิม ย่านสุขุมวิท บ่อยขึ้น ขาประจำเก่า ๆ หน้าเดิม ๆ หลายคนปรากฏตัวขึ้นมาให้เห็นในช่วงเวลาที่ไม่ควรจะมาให้เห็น คนพวกนี้มาเพื่อพร๊อตเรื่อง ปูพื้นให้กับสังคมก่อนที่จะเดินหน้าสร้างเหตุการณ์เสมือนให้เข้าสู่จุดอับ ก่อนที่จะยึดอำนาจ...เหมือนทุก ๆ ครั้ง
เงื่อนไขที่กลุ่มอนุรักษ์นิยมใช้อ้างเพื่อเข้าสู่การยึดอำนาจ โดยหลัก ๆ แล้ว มีอยู่ 4 ข้ออ้าง
1.รัฐบาลมีการทุจริต คอรับชั่นมากมาย
2.เกิดความแตกแยกของคนในชาติ
3.รัฐบาลลุแก่อำนาจ แทรกแซงองค์กรอิสระ..และ
4.เพื่อปกป้องพระราชอำนาจ ปกป้องพระบรมเดชานุภาพของพระมหากษัตริย์
ข้ออ้างหลัก ๆ แบบนี้ อยู่ ๆ มันจะลอยมาไม่ได้ จะต้องหาเหตุ หาเรื่องมาก่อนและเพื่อป้องกันข้อครหาที่จะตามมา บรรดาเครื่องมือของกลุ่มอนุรักษ์นิยมสายต่าง ๆ เช่น นักวิชาการ นักการเมือง นักเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมือง สื่อสารมวลชน ต่างพากันขยับตัวออกมาแถวหน้า พร้อมกันสร้างเรื่องต่าง ๆ เพื่อให้เข้าสู่เงื่อนไขการยึดอำนาจ
ที่เห็นอยู่ในช่วงนี้ก็คือ นายธีรยุทธ บุญมี ออกมาปูพื้นเรื่องของบ้านเมืองทั่ว ๆ ไป
สถาบันพระปกเกล้า สรุปผลวิจัย ในภาพลักษณ์ที่ดูว่าน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการปรองดอง
พรรคประชาธิปัตย์ นักการเมืองรุ่นลายคราม เดินหน้าคัดค้านแนวทางการปรองดอง จำลองฉาก “คนใช้ตบตีกัน” แบบละครน้ำเน่าหลังข่าว ในรัฐสภา ให้ประชาชนได้ดู ได้เสพกันเพลิน ๆ ...แต่จะกลายเป็นหนึ่งในเงื่อนไขของการยึดอำนาจ
ในอีกปีกหนึ่งของคนในพรรคนี้ เพียรพยายามสร้าง campaign “แพงทั้งแผ่นดิน” โจมตีรัฐบาล อ้างบทบาทการเป็นฝ่ายค้านในสภา
ส่วนกลุ่มเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมืองอย่าง “สันติอโศก” เปิดประเด็น “สำรวจน้ำมันในกรุง” โดยนายคำนูน สิทธิสมาน และกลุ่มสันติอโศก ได้ทำรายการโทรทัศน์ "เปิดหลักฐานปล้นประเทศไทย" มีกลุ่ม 40 สว.รับลูกไปใช้สื่อ TPBS ขยายความ
การเคลื่อนไหวของเครื่องมือกลุ่มอนุรักษ์นิยมเหล่านี้ มันไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นบทซ้ำซาก แต่พวกนี้จำเป็นต้องทำเพราะไม่วิธีการใดที่จะทำได้ดีกว่านี้ สาเหตุสำคัญอยู่ที่การยอมรับของประชาชน ซึ่งคนพวกนี้ยังไม่สามารถทำได้
เมื่อภารกิจยังไม่สำเร็จ วงจรอุบาทว์ ในประเทศนี้ ก็ยังต้องหมุนเวียนต่อไป...จนกว่าจะถึงวันแห่งการเปลี่ยนแปลง

Time to say goodbye ประชาธิปัตย์

Posted Today, 07:52 AM
.

ภาพที่โพสต์

การปรองดองคือเกมต่อรองของหัวหน้าเผด็จการจอมโจรอำหิต "เหี้ยสั่งฆ่า ห่าสั่งยิง " ที่ไม่ยอมลงจากบัลลังก์ เพราะกลัวความลับสุดยอดของตัวเองจะถูกเปิดเผย ....


Posted Image

จุดเริ่มต้นของความวุ่นวายทั่งหมดในเมืองไทยมาจากโจรกลุ่มนี้ที่ปล้นประชาธิปไตยของชาวไทยไปเมื่อวันที่  19 กันยายน  2549  การปรองดองเป็นเพียงการเสแสร้งของหัวหน้าโจรเมื่อเพลี่ยงพลํ้า  เพื่อชื้อเวลาพอได้โอกาศหัวหน้าโจรก็สั่งให้พวกทาสขุนศึกที่เป็นสุนัขรับใช้เล่นงานฝ่ายประชาธิปไตยอีกเช่นเคยเหมือนกับที่ทำมาในอดีตครั้งก่อนๆ ซึ่งมีบทเรียนมาแล้ว  เราอย่าได้หวังอะไรกับการปรองดองเลย



ขวางเส้นทาง ปรองดอง ต้องสั่งปราบ
ให้พังพาบ สมใจ ไอ้ตอแหล
มันสร้างเรื่อง บิดเบือน มิเชือนแช
ไม่เปลี่ยนแปร ความแหลกเหลว..เลวระยำ....

สั่งล้อมกรอบ สามานย์ สันดานสถุน
เติมคุกรุ่น ให้ประชา ช่างน่าขำ
สมชื่อพรรค โคตรจัญไร จิตใจดำ
คิดเหยียบย่ำ ซ้ำเติม เพิ่มอัปรีย์....

ปรองดอง..เพื่อผองชน บนเส้นด้าย
จ้องทำลาย มุบมิบ จนริบหรี่
มันปราบฆ่า โหดร้าย มาหลายปี
กลับย่ำยี และขัดขวาง ทุกท่วงทาง....

จากหน้ามือ เป็นหลังตีน ลิ้นสองแฉก
หวังชำแรก สร้างสับสน ให้หม่นหมาง
เคยกอดคอ สับปลับ ลับ ลวง พราง
ต้องอับปาง ล่มสลาย ฉิบหายพลัน....

ฝั่งหนึ่ง..มุ่งปรองดอง เฝ้ามองหา
หวังนำพา หนุนเกื้อ เพื่อสร้างสรรค์
ฝั่งหนึ่ง..จุดมุ่งหมาย..ทำลายกัน
จ้องฟาดฟัน..ให้จม..ล้มปรองดอง....

๓ บลา / ๒๙ มี.ค.๕๕



มันคิดว่า มันใช่ไหม ใหญ่กว่าชาติ
ลิ่วกะล้อ หน่ออำมาตย์ บังอาจขวาง
ยังแถมท้าย ลายมันลอก ออกหูกาง
ออกมาอ้าง เสียงส่วนน้อย ต้องคอยฟัง

มันคิดถาก ลากคนไทย เข้าไต้ตุ่ม
มันขยุ้ม คนทำดี ตีความหวัง
กิริยา วาจาถ่อย พล่อยเสียจัง
หูแทบพัง กเฬวราก ขากออกมา

คิดบ้างไหม ไทยชน ทนไม่ไหว
จะลุกไล่ เหี้ยห่าหก ตกหน้าผา
ควรจะรู้ วันถอยถด หมดเวลา
ไม่ต้องมา ทำเป็นเล่น เด็ดเส้นใย

มันดึงดัน ปั่นประเทศ ทุเรศนัก
มันไม่รัก ประชาชน คนส่วนใหญ่
มันลืมกฎ ใครรักชอบ ตอบน้ำใจ
มันลืมไทย ได้ประจักษ์ ใครรักเรา

เห็นแก่ตัว ชั่วชาติ บังอาจนัก
เมื่อไม่รัก ใครจะเผื่อ เยื่อใยให้
เมื่อหยามเหยียด เกลียดชัง ก็พังไป
ไม่มีใคร จะมาทน คนไร้รัก