lördag 8 augusti 2015

อนาคตของราชวงค์จักรี.....บัดนี้ก็ถึง ร. 9 ตามคำทำนายแล้ว



บทความสำหรับท่านที่คิดจะปรองดองกับกษัตริย์ภูมิพล กรุณาอ่านและศึกษาจากบทความนี้ก่อนท่านจะได้บทสรุปที่ชัดเจนเราขอเตือนมาด้วยความปรถนาดี
"กษัตริย์ไทยปัจจุบันกับการรัฐประหาร"
คำนำ
หลังการปฏิวัติประชาธิปไตยศักดินาเมื่อ 2475 แล้วได้มีการรัฐประหาร  รัฐประหารเงียบ และการยุบรัฐสภากว่า 10 ครั้งตลอดช่วงเวลา 40  ปีมานื้ การรัฐประหารครั้งสำคัญๆนั้นกษัตริย์ไทยปัจจุบันมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ด้วยไม่มากก็น้อย  ไม่โดยตรงก็โดยอ้อม
บทความนี้จะยกเอาการรัฐประหารที่สำคัญๆเพียงสามครั้งมาเสนอ คือ  ( 1 )  การรัฐประหารโดยโค่นรัฐบาล แปลก เผ่า ผิน เมื่อ  2500   (2 ) การโค่นล้มรัฐบาลถนอม ประภาส ณรงค์ เมื่อ 2516  และ ( 3)  การรัฐประหารโหดโค่นล้มรัฐบาลประชาธิปไตยเสนีย์ เมื่อ 2519 
วัตถุประสงค์ในการเขียนบทความนี้ก็เพื่อชี้ให้เห็นบทบาทการเมืองของกษัตริย์ไทยปัจจุบัน เหตุผลที่กษัตริย์ต้องทำเช่นนั้น และในตอนท้ายจะชี้ให้เห็นทางเลือกในอนาคตของกษัตริย์วงค์จักรี        

อนาคตของราชวงค์จักรี
กษัตริย์ต้นราชวงค์จักรีได้ขึ้นบัลลังค์ดว้ยการฆ่าตากสินมหาราช   ผู้กอบกู้เอกราชจากพะม่าแล้วสถาปนาตนเองเป็นกษัตริย์  ตากสินมาจากสามัญชนเชื้อจีน
ก่อน ร 1 จะวางศิลาเลิกสร้างกรุงเทพได้ให้โหราจารย์หาฤกษ์ให้  โหรบอก 2 ฤกษ์ กษัตริย์เลือกเอาระหว่างความอยู่เย็นเป็นสุขของราษฎร  แต่ราชวงค์จะสิ้นสุดภายไม่กี่องค์ หรือความยืนยาวของราชวงค์ถึง  9 กษัตริย์  แต่ราษฎรจะทุกข์ยากลำเค็ญ ร. 1 เลือกเอาประการหลัง
บัดนี้ก็ถึง ร. 9 ตามคำทำนายแล้ว
ดังที่ทราบกันดีในแง่ของปรัชญานั้น  ชนชั้นกดขี่ขูดรีดเป็นพวกจิตนิยมอัตวิสัย  ยิ่งพวกศักดินาด้วยแล้วก็ยิ่งสูงจัด  พวกนี้เชื่อโชคเชื่อลางทำตามคำทำนายของหมอดูที่ตนเชื่อถือและมีหมอดูจำนวนหนึ่งหากินอยู่กับพวกนี้จนมั่งคั่งร่ำรวยในจำนวนนี้มีพระระดับสูงอยู่ด้วย
ก่อนที่จะชักนำเอาประภาสเข้ามา เมื่อ  17 สิงหาคม  2519 ครอบครัวกษัติย์ได้ไปให้พระหมอดูทำนายอนาคต พระบอกว่าถ้าจะให้มี ร. 10 ต่อไปแล้วกษัตริย์ต้องทำการอย่างใดอย่างหนึ่งทางการเมืองภายในเดือนสิงหาคมเป็นการเริ่มต้น  หลังจากนั้นต้องฆ่าประชาชนทิ้งสัก  30,000 คน นั่นแหละจึงจะสัมฤทธิ์ผลเดือนที่มีโอกาสเหมาะทีสุดคือเดือน กันยายน-ตุลาคม ทั้งนี้ต้องมีขุนศึกรับอาสาจัดการให้
แล้วกษัตริย์ก็สมคบกับนายพลกลุ่มหนึ่งดำเนินไปตามนั้น
จากเหตุผลทางเศรษฐกิจ  ทางวัฒนธรรมและคดีฆาตรกรรมพี่ชายทำให้กษัตริย์ภูมิพลจำต้องต่อสู้เพื่อรักษาบัลลังค์ของตนเอาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อให้ลูกชายที่ไม่ฉลาดนักได้ขึ้นนั่งบัลลังค์สืบต่อไป  แม้การสมรสของลูกชายกับญาติใกล้ชิดที่ฉลาดพอกันหรือน้อยกว่านั้นก็ทำไปตามคำทำนายของหมอดูที่ว่า  ต้องจัดการกับประชาชนที่ต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมในสังคมให้สำเร็จเสียก่อน
การรัฐประหารโหดเมื่อ  6 ตุลาคม  2519  นั้น ในทรรศนะของชนชั้นกดขี่ขูดรีดเช่นพวกศักดินาถือวได้กำจัดประชาชนผู้รักความเป็นธรรมได้แล้ว อนิจา เป็นการมองด้วยสายตาที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวจริงๆ
กษัตริย์ภูมิพลไม่มีทางเลือกอื่นใดเหลืออยู่อีกเลย  นอกจากจะสู้ตายคาบัลลังค์เท่านั้น เขาได้ให้สัตยาบันนี้ไว้แล้วในบทเพลงที่แต่งขึ้นชื่อ  “ เราสู้ “ ดังนี้
                       บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ      ปกบ้านปกเมืองคุ้มเหย้า
                       เสียเลือดเสียเนื้อไม่เบา              หน้าที่เรารักษาสืบไป
                      ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า       จะได้พสุธาอาศัย
                     อนาคตจะต้องมีประเทศไทย         มิให้ผู้ใดมาทำลาย
                     ถึงจะขู่ฆ่าล้างโคตร์ก็มิหวั่น           จะสู้กันไม่หลบหนีหาย
                     สู้ที่นี่ สู้ตรงนี้  สู้จนตาย                  ถึงเป็นคนสุดท้ายก็ลองดู
                      บ้านเมืองของเราเราต้องรักษา       อยากทำลายเชิญมาเราสู้
                     เกียรติศักดิ์ของเราเราเชิดชู             เราสู้ไม่ถอยจนก้าวเดียว
จะมีเรื่องอะไรอีกไหมที่น่าสลดใจไปกว่านี้  คือการที่กษัตริย์ทุกคน ( แน่ละชนชั้นปกครองทุกชนชั้นด้วย ) ได้มีชีวิตอยู่อย่างหรูหรา  โอ่อ่า  ฟุ่มเฟือยมาจนบัดนี้ก็เพราะหยาดเหงื่อแรงงานและชีวิตเลือดเนื้อของประชาชนแท้ๆที่ได้สร้างสรรทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นมา  แต่ในสังคมที่มีการกดขี่ขูดรีดกันอย่างหนักเช่นสังคมไทยนี้  ลูกหลาน เหลน โหลนของประชาชนกลับมีชีวิตอยู่อย่างแร้นแค้นแสนสาหัสยิ่งขึ้นทุกที  เมื่อเทียบกับลูกหลานของชนชั้นปกครอง  แล้วการที่กษัตริย์ประกาศต่อสู้กับประชาชนผู้ทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำ  ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศที่เลี้ยงดูกษัตริย์มาหลายชั่วโคตร์นั้น  จะให้หมายความว่าอย่างไร  นี่คือธาตุแท้ของกษัตริย์ฆาตกร  
ประเทศต่างๆในโลกสมัยโบราณล้วนแต่เคยมีกษัตริย์ปกครองมาด้วยกันทั้งสิ้น  บัดนี้ยังหลงเหลือกันอยู่ไม่กี่ประเทศ  ดูเอาเถอะ  บาบิโลน  เมโสโปเตเมีย  โรม กรีช อินเดีย  อินโดเนเซีย  ฟิลลิปปินส์  แน่ละ  รัสเซีย จีนพะม่า  เวียตนาม เขมร ลาว  เป็นอาทิ ปัจจุบัน  ราชินีอังกฤษ  กษัตริย์ สวีเด็น  จักรพรรดิ์ญี่ปุ่นเขาอยู่กันอย่างไร  ที่ยังคงอยู่ได้ก็เพราะพวกเขายอมไปตามกงล้อประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาติแต่โดยดีแม้แต่อาร์คิมีดิส  นักวิทยาศาสตร์ที่ฉลาดปราชญ์เปรื่อง  ยังไม่สามารถหาที่ยืนนอกโลกเพื่องัดโลกให้เป็นไปตามความประสงค์ได้  กษัตริย์ภูมิพลซึ่งสืบพันธ์มาจากภายในแวดวงศักดินาหลายชั่วคนมาแล้วนั้นจะเป็นอาร์คิมีดิสคนที่สองที่ประสบความสำเร็จกระนั้นหรือ
วิญญาณนเรศวรที่ตายด้วยไข้ฝีดาษไป  300 ปี แล้วนั้น ยังจะกระฉับกระเฉงเข้มแข็งและกล้าหาญเหมือนตอนที่ยังมีชีวิตเป็นหนุ่มขี่ช้างตกมันออกไปรบกับพะม่าตัวต่อตัว แล้วฆ่าแม่ทัพพะม่าตามประวัติศาสตร์ที่พวกศักดินาเขียนขึ้นเองได้ละหรือ  แล้ววิญญาณวีรชน 14  ตุลาคม  2516  และที่เพิ่งสดๆร้อนๆมาเมื่อ 6 ตุลาคม 2519   ตั้งหลายร้อยคนนั้นเล่าพวกเขาได้พลีชีพเพื่อเอกราชของชาติจากแอกของจักรวรรดิ์นิยมอเมริกา  เพื่อประชาธิปไตยของประชาชน  และเพื่อความเป็นธรรมของสังคมอย่างแท้จริงพวกเขาตายในสนามรบเมื่อยังเป็นหนุ่มสาวที่เข้มแข็งและกล้าหาญยิ่ง  วิญญาณของพวกเขาไม่เคยปรากฏตัวให้ใครเห็น  และไม่มีความจำเป็นใดๆที่ต้องเสกสรรปั้นแต่งเรื่องไร้สติเช่นนั้น  เพราะวิญญาณแห่งการต่อสู้ของนักศึกษาและประชาชนที่ยังมีชีวิตอยู่นี่แหละที่เข้มแข็งและกล้าหาญยิ่งขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนของเขาถูกฆ่าตายไปต่อหน้าต่อตา   การยกเอาวิญญาณนเรศวรขึ้นมาอ้างสะท้อนให้เห็นความรู้สึกโดดเดี่ยวของกษัตริย์ในการต่อสู้และดูถูกเหยียดหยามแม่ทัพนายกองทั้งหลายว่า  ติดตามตนไม่ทัน  ไม่เอาการเอางาน ดีแต่คอยหวังแก่งแย่งแข่งขันกอบโกยผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและทางการเมือง  คือคอยเป็นหอกข้างแคร่ของบัลลังค์กษัตริย์นั้นเอง  เป็นความรู้สึกที่ถูกต้องแล้ว
มาเถิดกษัตริย์ภูมิพล  ท่านจะมัวขี่ช้างอยู่ใต้ต้นไม้ใบหนาท่ามกลางแม่ทัพนายกองอยู่ใยเล่า ไหนว่าจะสู้ไม่หลบหนี  ไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว  แล้วทำไมต้องรอเป็นคนสุดท้ายด้วยเล่า จงขับช้างนำหน้าออกมาเถิด ท่านไม่มีทางเลือกอื่นใดเหลืออยู่อีกแล้ว  ประวัติศาสตร์ของประชาชนจะจารึกชื่อของท่านไว้ให้ลูกหลานเหลนโหลนของเขาได้ศึกษากันในเวลาอันใกล้นี้แล้ว.
ญาติของ  “ วีรชนตุลาคม “

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar