นายกรัฐมนตรีชี้ปัญหาปากท้องประชาชนไม่ได้เกิดเพราะสภาพเศรษฐกิจแต่เป็นเพราะกระแสวัตถุนิยม ทำให้ก่อหนี้ผูกพันโดยไม่จำเป็น ระบุผู้บังคับบัญชาควรดูแลกำลังพลที่มีภาระหนี้สินให้ทำงานได้อย่างเป็นสุข แนะทำอาชีพเสริมโดยไม่บดบังเวลาราชการ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” คืนนี้ (14 ส.ค.) โดยได้พูดตอนหนึ่งถึงปัญหาปากท้องของประชาชนที่เกิดขึ้นในปัจจุบันว่า อาจจะไม่ได้เกิดจากปัญหาเศรษฐกิจหรือผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำอย่างเดียวเท่านั้น แต่สิ่งที่น่า...เป็นห่วงคือ “กระแสวัตถุนิยม” ซึ่งอาจจะทำให้ประชาชนก่อหนี้สินผูกพันโดยไม่จำเป็น
นายกรัฐมนตรี บอกว่ารัฐบาลได้ดูแลหนี้สินพี่น้องเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย ผู้ที่เป็นหนี้นอกระบบ แต่ในเวลาเดียวกัน “ข้าราชการ”ซึ่งนายกรัฐมนตรีเรียกว่ามนุษย์เงินเดือน ที่มีรายได้น้อยเมื่อเทียบกับเอกชน และกำลังพลซึ่งมีภาระหนี้สินนั้น เห็นว่าผู้บังคับบัญชามีหน้าที่จะต้องดูแลให้สามารถทำงานได้อย่างมีความสุข นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำให้ใช้หลักพื้นฐานของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการแก้ปัญหา หาทางเพิ่มรายได้ด้วยการทำอาชีพเสริมโดยไม่เบียดบังเวลาราชการ เป็นต้น
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวสนับสนุนแนวทางจัดการขยะที่ยั่งยืน โดยขอให้ประชาชนหันมาใช้ถุงผ้า และปฏิเสธการรับถุงพลาสติกจากห้างสรรพสินค้าและร้านค้าสะดวกซื้อตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.58) เป็นต้นไป เพียงคนละ 1 ใบต่อวัน ก็จะลดปริมาณขยะจากถุงพลาสติกได้ราว 70 ล้านใบต่อวัน
นายกรัฐมนตรี ยังขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมสำหรับการขี่จักรยาน “Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่” ซึ่งกระทรวงมหาดไทยร่วมกับ “กินเนสส์บุ๊ค เวิลด์ เรคคอร์ด”เตรียมบันทึกสถิติไว้ด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวสนับสนุนแนวทางจัดการขยะที่ยั่งยืน โดยขอให้ประชาชนหันมาใช้ถุงผ้า และปฏิเสธการรับถุงพลาสติกจากห้างสรรพสินค้าและร้านค้าสะดวกซื้อตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.58) เป็นต้นไป เพียงคนละ 1 ใบต่อวัน ก็จะลดปริมาณขยะจากถุงพลาสติกได้ราว 70 ล้านใบต่อวัน
นายกรัฐมนตรี ยังขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมสำหรับการขี่จักรยาน “Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่” ซึ่งกระทรวงมหาดไทยร่วมกับ “กินเนสส์บุ๊ค เวิลด์ เรคคอร์ด”เตรียมบันทึกสถิติไว้ด้วย
ไม่ถอดถอน
การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อดำเนินกระบวนการถอดถอดอดีต ส.ส.248 คน ออกจากตำแหน่งกรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ในประเด็นที่มาของ ส.ว.โดยไม่ชอบ เสียงส่วนใหญ่มีมติไม่ถอดถอนอดีต ส.ส.ทั้ง 248 คน
ทั้งนี้ การถอดถอนอดีต ส.ส.จะต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 5 หรือ 132 เสียง จากจำนวนสมาชิก สนช. 220
...
อดีต ส.ส.248 คน ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดดังกล่าวโดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มฐานความผิด กลุ่มแรกเป็นอดีต ส.ส.จำนวน 237 คน ที่ร่วมลงชื่อและลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 วาระ กลุ่มที่ 2 อดีต ส.ส. 1 คน จากความผิดร่วมเสนอและลงมติแก้ไขในวาระที่ 2 และ 3 ส่วนกลุ่มที่ 3 อดีต ส.ส.10 คน ที่มีความผิดฐานร่วมลงมติในวาระที่ 1 และ 3
คลิกอ่าน-Visa mer
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar