เรื่งเล่าเคล้านิยายอิงประวัติศาสตร์ "ตอน กะลาแลนด์ ภาคพิสดาร " (จริงไม่จริงไม่รู้) ไปเจอมาน่าอ่านเพื่อประเทืองอารมณ์ประโลมปัญญา คลายเครียดกับเรื่องการเมืองน้ำเน่า"วงจรอุบาทว์"ที่ไม่มีวันหมดสิ้นไปจากแผ่นดินกะลาแลนด์

โรนินประชาธิปไตย (ตอนที่ ๑๙)
ตอน กะลาแลนด์ ภาคพิสดาร ตระกูลเจ้ากบฎบวรเดชเอา "สาวตั้น" มาจิ้มก้อง นายป้อม (ว่าที่นายกฯปรองดองแห่งชาติ)
กูว่าจะไม่เขียน เรื่องราวที่อัปรีย์ ในดินแดนกะลาแลนด์ ของไอ้พวกตระกูลอัปรีย์พวกนี้ ให้มันเป็นเสนียดจัญไร แต่น้องๆ เพื่อนๆก็บอกว่าอยากอ่านเหลือเกิน ว่ามันเกี่ยวข้องกันอย่างไร ตั้งแต่สมัยคณะราษฎร์ เปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. ๒๔๗๕ ในเรื่องราวของพวกเจ้าตระกุลอัปรีย์พวกนี้ที่ทำความฉิบหายให้แก่ประเทศนี้มีมากมาย ตั้งแต่สมัย ตาทวดของมัน (หม่อมเจ้าบวรเดช กฤดากร*) ก่อกบฎต่อรัฐบาลคณะราษฎร์ (กบฎบวรเดช) เมื่อพ่ายแพ้ถูกปราบหมดรูป ต้นตะกูลนี้ก็หนีออกไปทางกัมพูชา และบางส่วนของตระกูลนี้ก็ถูกอับเปหิไปอยู่ไร่บางเบิด เมื่อ แปดสิบสี่ปีที่แล้ว ความคับแค้นครั้งนั้น ตกทอดลงมาถึงรุ่นหลาน รุ่นเหลน ฝ่ายราษฎร์รากหญ้า หรือ ชนชั้นต่ำ ชนชั้นไพร่ในสายตา คนพวกนี้ จึงเป็นศัตรุมาแต่กาลก่อน ตาทวดของตระกุลอัปรีย์นี้ สองคน คนหนึ่งหนีไปอยู่ในต่างแดนเสีย ๑๕ ปี ส่วนอีกคนหนึ่ง ติดคุกที่เรือนจำบางขวางแล้วถูกส่งไปเกาะตะรุเตา รวมแล้ว ๑๑ปี แล้ว ต่อมาถูกเนรเทศไปอยู่ไร่บางเบิด
จนเวลาล่วงมาจนถึงเวลาปัจจุบัน ตระกูลอัปรีย์นี้ ก็ส่งเหลนของพวกมัน คืออีตั้น มาเป็นเครื่องบรรณาการ มาจิ้มก้อง นายป้อม (ไม่อยากจะนึกภาพเวลาถึงบทอัศจรรย์เลยนะ แต่กูก็รู้รสนิยมอีตั้น กับ ผัวมัน ว่า นิยมท่าไหน 555) ไอ้หมูตอน หัวหน้าแก็งส์ แมวตะวันออก ( ที่ทำท่าจะมากบารมี เหล่าแมวน้อยใหญ่ ให้การยอมรับ) ทำท่าว่าจะเป็นผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ คนต่อไป หลังจากนั่งในตำแหน่ง นายกคนกลาง ในรัฐบาลแห่งชาติ ไปอีกสองสมัย ๆละ สี่ปี
ถึงเวลานี้ หลายคนคงหายสงสัยแล้วว่า ที่ผ่านมา อีตั้น มันไปเยี่ยม หน่วยทหาร หลายต่อหลายหน่วย มันไปในฐานะอะไร ต่อไปในฐานะ สุภาพสตรีหมายเลข ๑ หลายคนคงเกรงใจมันมาก นับว่า ไอ้ตระกูลกบฎอัปรีย์นี้ ยังคงวิธีโบราณ เหมือนเดิมไม่มีผิด
กะลาแลนด์ ก็ยังคงเดินหน้าไปสุ่ การเป็นเกาหลีเหนือที่สอง แห่งเอเชีย ตามโรดแม็ป ของฝ่ายทะเหี้ย เหล่านี้ต่อไป ที่….
- ประเทศนี้ จะไม่มีรัฐบาลของประชาชน ไปอีกนานแสนนาน
- ประเทศนี้ จะถูก ตระกูลเจ้าอัปรีย์ ที่พ่ายสงครามบวรเดช เป็นตัวแทนฝ่ายศักดินา มาชักใย ผัว ทำหน้าที่ บริหารประเทศนี้ ไปอีกนานแสนนาน
- ประเทศนี้ จะเป็นเหมือน หลุมดำของอาเซียน คล้ายคลึง อาณาจักรโซซอน อาณาจักรซิลลาร์ ที่เคยรบชนะญี่ปุ่นมาก่อน ต้องกลายมาเป็นเกาหลีเหนือ ประเทศที่ประชาชนไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้( กฎหมายไม่อนุญาต ใครฝ่าฝืน ตายสถานเดียว)
หมายเหตุ * หม่อมเจ้าเสริมสวาสดิ์ กฤดากร เป็นพี่น้องแท้ๆ กับหม่อมเจ้าบวรเดช กฤดากร โดยทั้งคู่เป็นลูกของ กรมพระนเรศร์วรฤทธิ์ (มีพระโอรส-ธิดา ทั้งสิ้น 14 พระองค์ )
ทั้งนี้ ตาทวดแท้ๆ ของ อีตั้น คือ หม่อมเจ้า เสริมสวาสดิ์ กฤดากร ซึ่งมีโอรสกับหม่อมหลวง แส สนิทวงศ์ คือ หม่อมราชวงศ์ ยงสวาสดิ์ กฤดากร บิดาของ หม่อมหลวง ปิยาภัสร์ กฤดากร มารดาของ “ตั๊น จิตภัสร์” นั้นเอง
อนึ่ง ม.ล.แส สนิทวงศ์ นั้นถือเป็นพี่น้องร่วมบิดาแต่ต่างมารดากับ ม.ล.บัว กิติยากร พระชนนีในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
หม่อมเจ้า สิทธิพร กฤดากร ถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏผู้ร่วมก่อการกับ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช พระเชษฐา ใน “กบฏบวรเดช” เมื่อ พ.ศ. 2476 ถูกตัดสินลงโทษจำคุกตลอดชีวิต คุมขังที่เรือนจำบางขวาง แล้วย้ายไปคุมขังที่ทัณฑนิคม เกาะตะรุเตา ก่อนย้ายมาเกาะเต่า ก่อนจะได้รับพระราชทานอภัยโทษในปี พ.ศ.2487
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1628125240791749&set=pcb.1628125537458386&type=1