lördag 7 november 2015

"แฟ้มคดี" หลักฐานความจริงที่ไม่อาจปฎิเสธได้.เรื่องทหาร"พันเอก-พลตรี" พัวพันแก๊ง"หมอหยอง" ..ที่กองทัพไทยพยายามออกมาปฎิเสธ. เรื่องมันยาว..ที่สาวไม่ถึงผู้สั่งการ...

-khaosod
ข่าวสดออนไลน์
คอลัมน์แฟ้มคดี ::
โผล่เพิ่ม"พันเอก-พลตรี" พัวพันแก๊ง"หมอหยอง" หลักฐาน-เส้นทางเงิน เจ้าตัวเผ่นนอก-ลาออก


วันที่ 08 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 00:01 น.

 แฟ้มคดี
คลิกอ่าน-โผล่เพิ่ม"พันเอก-พลตรี" พัวพันแก๊ง"หมอหยอง" หลักฐาน-เส้นทางเงิน เจ้าตัวเผ่นนอก-ลาออก 

 
ยังคงคืบหน้าไปเรื่อยๆ สำหรับคดีแอบอ้างเบื้องสูงขบวนการของ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง หมอดูชื่อดัง กับพวกรวม 3 คน
 

ที่พบความผิดเกี่ยวกับการแอบอ้างเบื้องสูง ทั้งการแอบอ้างนำการ์ดขอบคุณไปมอบให้หน่วยงานเอกชน ตบทรัพย์บริษัทเอกชน ด้วยการเพิ่มราคาเข็มกลัดงานปั่นเพื่อแม่ รวมทั้งการอมของกลางในคดีของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผบช.ก. ซึ่งล่าสุดยังพบพฤติกรรมอื่นๆ ในเรื่องแอบอ้าง หากินกับการแอบอ้างเสื้องานปั่น
ที่สำคัญ ยังเชื่อมโยงไปถึงนายทหารระดับพล.ต. และพ.อ. ในกองทัพบกอีกด้วย
ล่า"พ.อ.-พล.ต."ร่วมแก๊งหยอง
 

โดยจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ นายสุริยันให้การพาดพิงถึงนายทหารอย่างน้อย 2 นาย คนหนึ่งเป็นยศพ.อ. อีกคนเป็นระดับพล.ต. ซึ่งถือเป็นผู้ที่มีความสนิทสนมกัน และร่วมทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับการแอบอ้างหลายอย่าง โดยมีภาพถ่ายเป็นหลักฐานจำนวนมาก ซึ่งทั้งคู่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นที่มีความสนิทสนมกัน  โดยล่าสุดมีหลักฐานจากตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ว่าพ.อ.คนนี้ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในพื้นที่ภาคเหนือ ได้ออกจากประเทศไปแล้ว ผ่านจุดตรวจสะพานมิตรภาพไทย-พม่าเข้าไปประเทศพม่า เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลา 06.35 น. โดยเข้าไปกบดานที่เมืองเมียวดี ประเทศพม่าซึ่ง พล.ท.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล แม่ทัพภาคที่ 3 ได้รายงานข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวต่อ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. ยอมรับว่าพ.อ.คนดังกล่าวเดินทางออกนอกประเทศทางด่านชายแดนจริง ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. และในวันที่ 2 พ.ย. ซึ่งเป็นวันเปิดทำการของราชการ พ.อ.คนดังกล่าวก็ไม่มาทำงานจนกระทั่งปัจจุบัน


ทั้งนี้ เจ้าตัวไม่ได้ยื่นใบลาตามระเบียบราชการ มีเพียงเจ้าหน้าที่พบจดหมายแสดงความจำนงขอลาออกจากราชการทิ้งไว้ในบ้านพัก จ.พิษณุโลก แต่จดหมายดังกล่าวไม่มีผล เนื่องจากไม่ได้ยื่นตามขั้นตอนดังนั้น สถานะของพ.อ.คนดังกล่าวถือเป็นทหารขาดราชการ เมื่อครบกำหนด 15 วัน นับจากวันที่ 2 พ.ย. ก็ถือว่าหนีราชการ มีโทษปลดออกตามระเบียบกองทัพนอกจากนี้ยังพบว่า พ.อ.ยุทธพงษ์ กลั่นทะกะสุวรรณ เสนาธิการกรมทหารราบที่ 7 กองทัพภาคที่ 3ในฐานะรักษาการประธานคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ทำหนังสือขอความร่วมมือจากคณะกรรมการชายแดนไทย อ.ผาซอง จ.บอลาแคะ รัฐคะยา ประเทศเมียนมา ให้ช่วยติดตามตัวพ.อ.คนดังกล่าวส่งกลับไทย 
โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่าสาเหตุของการติดตามตัวเนื่องจากพ.อ.คนดังกล่าวเดินทางออกจากเขตประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตสำหรับตัวพล.ต. ที่มีความเชื่อมโยงนั้น เบื้องต้นมีรายงานระบุว่าทางกองทัพเตรียมนำตัวเข้าให้การกับตำรวจ แต่ล่าสุดกลับพบว่านายทหารคนดังกล่าวยื่นหนังสือลาออกจากราชการแล้ว โดยให้เหตุผลจะไปทำธุรกิจส่วนตัว  
ซึ่งล่าสุดพล.อ.ธีรชัย ได้ลงนามในหนังสือลาออกจากราชการเรียบร้อยแล้ว และส่งเรื่องไปยังกระทรวงกลาโหม ให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหมลงนาม
เบื้องต้นพล.อ.ประวิตร มอบหมายให้พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ลงนามแทน
แฉทำเสื้อ-ตบทรัพย์เจ้าสัวน้ำเมา 
 

ขณะที่พฤติกรรมของนายทหารทั้ง 2 นายเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยร่วมกันไปพบปะเจ้าสัวน้ำเมา เพื่อเรียกเงินสนับสนุนในการจัดทำเสื้อกิจกรรมงานปั่นที่กำลังจะจัดขึ้น โดยมีรายละเอียดว่าเป็นการเข้าไปขอเงินสนับสนุนจำนวน 19,500,000 บาท เป็นค่าจัดทำเสื้อยืด 1 แสนตัวแต่จากการสอบสวนพบว่าเสื้อดังกล่าว มีต้นทุนตัวละ 140 บาท แต่กลุ่มผู้ต้องหาเสนอราคาตัวละ 280 บาท ขณะที่งานกิจกรรมสำคัญที่เพิ่งผ่านไปก็ขอสนับสนุนเป็นเงิน 4 ล้านบาท ไม่รวมกับบริษัทเอกชนอีกหลายแห่งที่กลุ่มคนเหล่านี้ไปขอรับการสนับสนุน   นอกจากนี้ยังพบว่าเงินที่นำมาจากนักธุรกิจใหญ่ ถูกส่งไปยังบริษัทเสื้อในจ.เชียงใหม่ เพื่อเป็นค่าจ้างตัด ทั้งนี้ พบอีกว่าพ.อ.คนนี้มีบารมีกว้างขวางในจ.เชียงใหม่ และยังพบเส้นทางการโอนเงินจากบริษัทผลิตเสื้อดังกล่าว กลับไปให้หมอหยอง ซึ่งคาดว่าจะเป็นเงินส่วนต่างของการจัดทำเสื้อ 
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อหมอหยองรับเงินจำนวนดังกล่าวไปแล้ว ก็ถอนเงินออกมาเพื่อเอาไปซื้อคอนโดมิเนียมใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นของหญิงสาวคนหนึ่งที่มีความสนิทสนมกับพ.อ. และเมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินของพ.อ.และพล.ต.คู่หู ก็พบเงินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติในบัญชีกว่า 20 ล้านบาทด้วยอีกทั้งยังพบว่าก่อนที่พ.อ.จะเดินทางออกจากประเทศไทยนั้น ได้เบิกเงินสดเป็นจำนวน 20 ล้านบาท ฝากเข้าบัญชีผู้หญิงคนหนึ่งในจ.เชียงใหม่ด้วย 
ทั้งนี้ชุดสืบสวนนำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งในจ.เชียงใหม่ ที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ผลการตรวจค้นยังไม่เป็นที่เปิดเผย   ขณะที่ผลการสืบสวนผู้ต้องหารายอื่นที่อยู่ในการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็มีความคืบหน้าไปมาก เมื่อนายสุริยันเอง รับสารภาพด้วยว่าเรื่องการอวดอ้างเป็นร่างทรงพระพิฆเนศ เจ้าแม่พันปีและหลวงปู่ นั้นเป็นเรื่องหลอกลวง เพียงการอุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อให้คนมาหลงเชื่อเท่านั้น   รวมทั้งการสอบปากคำ นายศุกร์โข ตามเสรี หรือ เค หนุ่มคนสนิทของสารวัตรเอี๊ยด หรือ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา ที่ผูกคอตายในเรือนจำมทบ.11 ก็แฉพฤติกรรมในการตบทรัพย์นักธุรกิจ และห้างร้านต่างๆ จำนวนมาก   ถือเป็นสิ่งบ่งชี้พฤติกรรมของขบวนการ


ประวุฒิไขก๊อก-ไม่เกี่ยวอ้างเบื้องสูง


ขณะที่รายงานจากพนักงานสอบสวนที่ดำเนินคดี ระบุว่าจากที่ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาคดี 112 ไปแล้ว 13 คดีนั้น อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีกประมาณ 20 คดี ซึ่งใกล้ที่จะออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมเร็วๆ นี้นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามสอบสวน นางจีราภา อริยวงศ์โสภณ น้องสาวของหมอหยอง เนื่องจากพบว่าเป็นผู้เบิกเงินจากบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของหมอหยอง ไปซื้อกองทุนสะสมรายวันธนาคารกรุงไทย ในชื่อนายสุริยัน ส่วนอีก 2 แสนบาทเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาโลตัส ฟอร์จูน ในชื่อของนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรือ อาท เลขาฯ หมอหยองจึงชื่อว่าเป็นตัวสำคัญที่จะคลี่คลายที่มาที่ไปของทรัพย์สินและเงินทั้งหมดได้ 
อีกประเด็นที่ถูกจับตาว่าเกี่ยวพันกับขบวนการนี้ด้วยหรือไม่ ก็คือ พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ ที่ปรึกษา (สบ10) อดีตโฆษกตร. ซึ่งระหว่างเกิดเหตุลาเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าพล.ต.อ.ประวุฒิเดินทางกลับถึงประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา และยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งต่อผบ.ตร.เรียบร้อยแล้ว
ดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ยอมรับ พล.ต.อ.ประวุฒิได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการผ่านกองทะเบียนพล สำนักงานกำลังพล เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ซึ่งได้ลงนามอนุมัติให้ลาออกจากราชการแล้ว   ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการทางธุรการ เพื่อส่งเรื่องไปยังสำนักงานเลขาธิการครม. เพื่อนำความขึ้นกราบบังคมทูล เพื่อโปรดเกล้าฯให้พ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากพล.ต.อ.ประวุฒิ เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่
ส่วนสาเหตุนั้น ไม่ทราบจริงๆ แต่เข้าใจว่าท่านเองตั้งใจจะเออร์ลี่รีไทร์อยู่แล้ว ส่วนที่ไม่ได้บอกสื่อมวลชนตั้งแต่แรกก็เพราะวันๆ เซ็นเอกสารประมาณ 30 แฟ้ม ทำให้จำไม่ได้ แต่ตอนนี้ยืนยันได้ว่าพล.ต.อ.ประวุฒิลาออกไปแล้วแน่นอน   โดยไม่เกี่ยวกับคดีหมิ่นเบื้องสูงแต่อย่างใด


ทั้งนี้ในวันที่ 5 พ.ย. ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี กรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้พล.ต.อ.ประวุฒิ ลาออกจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.  
และได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พ้นจากตำแหน่งต่อไปแล้ว บัดนี้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษา(สบ10) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.   โดยมีพล.อ.ประวิตร เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
-matichononline
มติชนออนไลน์


Inga kommentarer:

Skicka en kommentar