torsdag 30 april 2015

ครบ 1ปีรัฐประหารเปิดตาสว่างถึงประชาชนทุกสีจะได้รู้แจ้งว่ามือมองไม่เห็นที่หนุนหลังการก่อจราจลเป็นใคร (รวมคลิป)

วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2558


ครบ 1ปีรัฐประหารเปิดตาสว่างถึงประชาชนทุกสีจะได้รู้แจ้งว่ามือมองไม่เห็นที่หนุนหลังการก่อจราจลเป็นใคร (รวมคลิป)

เตือนความจำด้วยหลักฐานบางส่วนครบ1ปีรัฐประหารครบ10ปีทหารพระราชาหนุนหลังการก่อจราจลยึดสถานที่ราชการ,ยึดสนามบินและฆ่าคนโดยไม่ถูกดำเนินคดี,จากพันธมิตรถึงกปปส.ตั้งแต่2548 ถึง2558
อำนาจคสช.ม.44ล้นฟ้าแต่ก็ไม่กล้าแตะต้อง(แต่คดีพวกเสื้อแดงเล็กๆน้อยๆจะถูกจับหมด)ถ้าไม่ใช่ทหารพระราชาร่วมกับเสื้อเหลืองด้วยจะไม่แกล้งโง่ไปหน่อยหรือ?และใครคือมือมองไม่เห็นที่อยู่เบื้องหลังถ้าไม่ใช่พระราชาเอง?

จอห์น ลี
22พค.58
---------------
รวมคลิปม็อบผู้ดี

การ์ดพันธมิตร รุมทำร้ายตำรวจ
https://www.youtube.com/watch?v=47gCkumCTes

อ้าวผู้ก่อการดีทำไมทำแบบนี้http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/12/P7288033/P7288033.html

clip ตะลึงรายวัน พบระเบิดปิงปองจำนวนมากในท่อระบายน้ำใกล้ทำเนียบhttp://www.youtube.com/watch?v=aoI2n_cH-mc

clip พบศพที่ดอนเมืองและอาวุธสงครามเพียบที่ทำเนียบhttp://www.youtube.com/watch?v=ztEgS8JNVoU

clip พบระเบิดที่ทำเนียบเพี่มอีกเพียบ [tik4u007]http://www.youtube.com/watch?v=xux1TtiZE74

clip "เฮ้ยยิงเลย ฆ่ามัน เฮ้ยยิงเลย ฆ่ามัน" ปังๆๆๆ [พบมีการปาระเบิดด้วยจากภาพช้า วินาทีที่ 25-30]http://www.youtube.com/watch?v=G_vDu3SHp8Y
V
V
ภาพ ประกอบ
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7300969/P7300969.html#5

clip พบปุ๋ยยูเรีย 10 ก.ก.เชื้อประทุ และอาวุธจำนวนมากในทำเนียบฯhttp://www.youtube.com/watch?v=qED3WmIIaII

clip ภาพความเสียหายภายในทำเนียบhttp://www.youtube.com/watch?v=PuJpZReAts4

clip ตะลึง"ป้ายขี้"ในห้องรมต เจอระเบิดเพิ่ม ทำเนียบยับทรัพย์สินสูญหาย ขรกร่ำไห้ NBTeditionhttp://www.youtube.com/watch?v=sikaXeyhhbU

clip พบระเบิดเพิ่ม ทำเนียบยับทรัพย์สินสูญหาย ขรกร่ำไห้ Mcot-edition2http://www.youtube.com/watch?v=yEMAHgJmJwM

clip ขรก.ร่ำไห้ ทำเนียบยับ-ทรัพย์สินสูญหาย-พบระเบิดเพิ่ม [ช่อง7 edition]http://www.youtube.com/watch?v=1t11RX-pQk4

clip โหด การ์ดพันธมิตรวิ่งไล่ตีก่อนจับยิงทิ้ง เดชะบุญมีคนพบรอดปาฏิหารย์http://www.youtube.com/watch?v=itBGxiJJRHk

clip พันธมิตรเรียงคิวเข้าแถวขโมยกินไอศกรีมhttp://www.youtube.com/watch?v=FSOIVkDZ_I0

clip สนธิสั่งพลีชีพยิงทิ้งตำรวจhttp://www.youtube.com/watch?v=gBsuhGtqYuE

clip พันธมิตรป่วนเมืองล้อมจะทำร้ายตำรวจ ตำรวจใจเด็ดเอาตัวเข้าขวางhttp://www.youtube.com/watch?v=pYnVRidq8wM

clip ผู้ใช้รถบนถ.วิภาวดีสุดทนรถพันธมิตร Part2 (แจกมะพร้าว)http://www.youtube.com/watch?v=gNKCSoRO7u0

clip ผู้ใช้รถบนถ.วิภาวดีสุดทนรถพันธมิตรhttp://www.youtube.com/watch?v=uWasw0y6zA8

clip จับการ์ดพันธมิตรพร้อมอาวุธปืน Part2http://www.youtube.com/watch?v=mHm9OO22q9c

clip จับการ์ดพันธมิตรพร้อมอาวุธปืนhttp://www.youtube.com/watch?v=oA-_wPkgFpo

clip โอละพ่อ สิ้นเสียงระเบิดที่ ASTV ตำรวจสามารถจับยามเฝ้าแผ่นดินยิงอาวุธปืนhttp://www.youtube.com/watch?v=vZYGh2yWbFw
V
V
clip นาที ผู้ประกาศ astv เปิดก้นโกยแนบ
http://www.youtube.com/watch?v=TW5VM_D0buE

clip ตำรวจจับพันธมิตรพบปืนกลอูซี่อ้างเป็นของการ์ดสนธิhttp://www.youtube.com/watch?v=JHjlDJlgQJU

clip พันธมิตรรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่สนามบินสุวรรณภูมิhttp://www.youtube.com/watch?v=nLp78-lRkWI

clip ชาวต่างชาติสุดทน PAD Hooligans ปิดล้อมสนามบินhttp://www.youtube.com/watch?v=mazTO9btkmE

clip พันธมิตรรุมทำร้ายนายตำรวจหลังปิดล้อมสนามบินhttp://www.youtube.com/watch?v=R3YVxbMko1U

clip จับพันธมิตรปล้นรถเมล์ PAD hijack buses พร้อมอาวุธปืนระเบิดhttp://www.youtube.com/watch?v=OAo0GBZffo8

clip เค 100 ล้าน เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2549 - 23 พ.ย. 51http://www.youtube.com/watch?v=02PsaeH0_bk

clip คนกลางที่ไม่เอาพธม.+นปก.คือพวก...? [ในสายตาสนธิ]http://www.youtube.com/watch?v=eAsPsGrfXbE

clip ลับ ลวง คราง 1 [สนธิหลุด การ์ดพันธมิตรพกอาวุธปืน]http://www.youtube.com/watch?v=Fr1rmugVa-8

clip จับการ์ดพันธมิตรพบอาวุธเครื่องกระสุนปืนและระเบิดปิงปองจำนวนมากhttp://www.youtube.com/watch?v=YAtGOS93hSA

clip PAD Houston โชว์ความหยาบจิตใจต่ำ ซ้ำเติมนายสมัครที่เดินทางไปรักษาตัวโรคมะเร็งhttp://www.youtube.com/watch?v=XFeL0ZElLKM

clip ภาพต้นฉบับจากกล้องวงจรปิด พันธมิตรฯรุมทำร้ายตำรวจ CCTV [palrakonline]http://www.youtube.com/watch?v=rGJskL2BL48

clip พันธมิตรชุมนุมโดยสงบ [ปราศจากอาวุธและใบกระท่อม]http://www.youtube.com/watch?v=U1oKQ6D3z0Q

clip นักรบศรีวิชัยมาดูงาน NBT? [พร้อมมอบดอกไม้ให้กำลังใจ NBT!]http://www.youtube.com/watch?v=o3fpfiRIUWk

clip จับพันธมิตรพัทลุงเสพยาบ้าพกปืนไปกู้ชาติที่สุรินทร์http://www.youtube.com/watch?v=5OhqueUZKvU

clip ช่อง7 จับช็อตเด็ด พันธมิตรฯ รุมกระทืบชาวบ้าน [palrakonline]http://www.youtube.com/watch?v=N-404eo2TRU

clip ตะลึง ท้าวมหาพรหมถูกควักดวงตา+มาร์ค จับไม้กวาด(ไม่เป็น)ปัดเป่าซากใครทำ? [ช่อง9]http://www.youtube.com/watch?v=bwVzp5h_VJA

clip ตะลึง ท้าวมหาพรหมถูกควักดวงตา [ช่อง 7]http://www.youtube.com/watch?v=HbrJ6iJxB60

clip ตะลึง ท้าวมหาพรหมถูกควักดวงตา [ช่อง 5]http://www.youtube.com/watch?v=pdmFI7J4-gw

clip พันธมิตรชูภาพพระฉายาลักษณ์ ยิงปืนใส่กลุ่ม Taxi และเผาทำลายรถอย่างบ้าคลั่งhttp://www.youtube.com/watch?v=KNhLI3LDgzQ

clip สนธิ กับ พฤติกรรมที่เหยียบย่ำจิตใจคนไทยทั้งชาติ (ลานพระบรมรูปทรงม้า)http://www.youtube.com/watch?v=cqOy_jShU04

clip พันธมิตรแถลงไม่เปิดพื้นที่ถนนราชดำเนินในช่วงพระราชพิธีถวายเพลิงพระศพhttp://www.youtube.com/watch?v=NCQArJHM4Vo

clip พธมนำพระบรมฉายาลักษณ์มาทำโล่http://www.youtube.com/watch?v=Ij4AhZTxBlk

clip ความจริงวันนี้ 7 ตุลา วีรชนหรือเหยื่อ [hero or victim]http://www.vdo5.com/view_video.php?viewkey=697d50c8a7ae7684644e

clip ความจริงวันนี้ 1 กันยา พันธมิตรฆ่าประชาชน [Clash of the Thai-tans]http://www.vdo5.com/view_video.php?viewkey=ad4d4788d543508116cb

พันธมิตรฆ่าประชาชนhttps://www.youtube.com/watch?v=7IUHE8REzgQ

พันธมิตถ่อยปิดสนามบิน รุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ!!https://www.youtube.com/watch?v=3uEY-nhQ7nc

------------------------

อาณาจักร ไบกอน Returns
รวบรวม

รัฐธรรมนูญที่ไม่ต้องมีรัฐบาล.. ประชาชนไทยทั้งประเทศ OK ยอมรับได้ไหม???

ข่าวสดออนไลน์
รัฐธรรมนูญที่ไม่ต้องมีรัฐบาล คอลัมน์ ใบตองแห้ง

วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 21:37 น.
จำนวนคนอ่านล่าสุด 587 คน
บวรศักดิ์ อุวรรณโณ บอกให้ใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไปก่อน อย่างน้อย 5 ปีค่อยแก้ไข แต่ช้าแต่ ถ้าอีก 5 ปี บวรศักดิ์เป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญแล้วสั่งห้ามแก้ จะทำไง

อ้าว ก็มาตรา 229(3) บัญญัติไว้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 9 คนมาจากผู้ทรงคุณวุฒิสาขานิติศาสตร์ 3 คน โดยต้องเป็น ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายมหาชนอย่างน้อย 1 คน ศาสตราจารย์กฎหมายมหาชนประเทศนี้มีไม่กี่คนนะครับ นับหัวได้

ที่ ว่ากรรมาธิการยกร่างฯ ห้ามดำรงตำแหน่งการเมือง 2 ปี ก็ไม่มีใครโง่เล่นการเมืองหรอก เป็นคนดีทั้งที ไปอยู่องค์กรอิสระสบายกว่ากันเยอะ

ข้อสำคัญท่านบอกให้ลองผิด ลองถูก 5 ปี ถ้าเกิดวิบัติฉิบหายใครรับผิดชอบ รัฐธรรมนูญเป็นกติกาสูงสุดผูกชะตากรรมคนทั้งประเทศ จะไม่ฟังคนอื่นวิจารณ์จะบอกว่าท่านถูกดีแต่ผู้เดียวได้ไง

5 ปีค่อยแก้ รัฐธรรมนูญของท่านแก้ง่ายเสียที่ไหน กว่าจะผ่านรัฐสภาต้องใช้เสียง 2 ใน 3 แล้วต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าศาลชี้ว่าแก้ไม่ได้ก็ตกไป ถ้าศาลเห็นว่าแก้ได้แต่เป็นเรื่องสำคัญต้องทำประชามติ ซึ่งดูเหมือนดี มีความชอบธรรม แต่ตัวรัฐธรรมนูญเองยังไม่รู้จะทำประชามติไหม ไหงตอนแก้บังคับให้ทำ

ลองคิดดูสิ สมมติ ส.ส.450 คนจะแก้ไขให้ ส.ว.มาจากเลือกตั้ง หรือยุบวุฒิสภาทิ้ง ส.ว.สรรหาจะทุบหม้อข้าวตัวเองไหม ส.ส.ต้องใช้คะแนนโหวตถึง 417 คน คิดเป็น 92.7% ของ ส.ส.ทั้งหมด ซึ่งแทบเป็นไปไม่ได้

หรือถ้า ส.ส. ส.ว.ร่วมกันแก้ไขอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ศาลบอกทำไม่ได้ เป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรูปของรัฐ ใครจะเถียงท่าน เพราะศาลมีอำนาจสูงสุดเหนือ 3 ฝ่าย แถมยังแก้มาตรา 68 เป็นมาตรา 31 ให้ใครก็ได้ร้องศาลทุกวันเวลาตามอัธยาศัย

"รับไปก่อน แก้ทีหลัง" รัฐธรรมนูญ 2550 ทำเข็ดมาครั้งหนึ่งแล้ว ร่างฯ นี้ยิ่งผูกมัดสาหัสกว่า

บวร ศักดิ์บอกว่า 5 ปีค่อยแก้ให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง เท่ากับรับว่าเจตนาทำพรรคการเมืองอ่อนแอ ซึ่งคงถูกใจคนชั้นกลางไม่เอาเลือกตั้ง ที่ลืมไปว่าหลักประชาธิปไตยคือต้องทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง แต่ต้องทำให้พรรคการเมืองเป็นของประชาชนควบคู่กัน

ภาพรวมของ ร่างรัฐธรรมนูญนี้ ให้ "นักการเมืองที่ไม่มาจากการเลือกตั้ง" ซึ่งเชื่อว่าเป็นคนดี มีอำนาจเหนือนักการเมืองจากเลือกตั้ง ที่เชื่อว่าชั่วเลว แต่ทำไงได้ ประชาธิปไตยต้องมีเลือกตั้ง ก็ทำให้เป็นพิธีกรรม เลือกตั้งแล้วไม่ให้มันมีอำนาจ

รัฐสภา เลือกนายกฯ ถ้าโชคดีก็ได้คนนอก ถ้าโชคร้ายก็ได้ "นักการเมือง" ตั้งรัฐบาลผสมตามความประสงค์ของกรรมาธิการ นายกฯ จะตั้งรัฐมนตรี 35 คน ต้องส่งชื่อให้วุฒิสภาสอบประวัติ แล้วประจานให้ชาวบ้านทราบตามมาตรา 130 แม้ไม่มีอำนาจยับยั้งแต่ถือเป็นการดิสเครดิต จุดชนวนขัดแย้งตั้งแต่ต้น ไว้วันหลัง ส.ว. 200 คนก็จับมือฝ่ายค้าน 190 คนถอดถอนนายกฯ ได้

รัฐบาล ท่านประยุทธ์ใช้ ม.44 ย้ายข้าราชการทันใจ รัฐบาลเลือกตั้งแตะใครไม่ได้ เพราะมีกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายตามมาตรา 207 รัฐบาลนี้ตั้งงบขาดดุลกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่รัฐบาลหน้ามีมาตรา 201 บังคับให้แสดงทั้งรายรับรายจ่าย แล้วถ้าใช้เงินไปดำเนินนโยบายอะไรที่มี "วิญญูชน" แถว TDRI เห็นว่าจะก่อเกิดความเสียหายต่อรัฐ ก็ถูกฟ้องศาลปกครองแผนกคดีวินัยการคลังตามมาตรา 205

รัฐบาล หน้าไม่ต้องใช้หัวคิดปฏิรูปสร้างสรรค์ เพราะมีสภาขับเคลื่อนปฏิรูปและคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ทำหน้าที่เสร็จสรรพ เสนอกฎหมายปฏิรูปผ่านวุฒิสภา ถ้าไอ้พวก ส.ส.ไม่เห็นด้วย ก็ยืนยันด้วยเสียง 2 ใน 3 กฎหมายผ่านทันทีตามมาตรา 280

รัฐธรรมนูญมาตรา 281-296 ยังกำหนดทิศทางปฏิรูป 15 ด้านที่ใครอ่านก็แซ่ซ้อง แต่มาพร้อมคณะกรรมการและองค์กรอิสระ 10 กว่าชุด ที่จะมีผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญ มากำกับดูแลนโยบายเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา วิทยาศาสตร์ พลังงาน รัฐวิสาหกิจ ฯลฯ แทนรัฐบาล

แล้วรัฐบาลทำไร ก็กดปุ่มเปิดป้ายเซ็นหนังสือราชการไปวันๆ มองยังไงก็ไม่เห็น "เผด็จการรัฐสภา" แม้มีมาตราประหลาดๆ 181,182 แต่ไม่มีงานทำ เอาไว้ให้ชาวบ้านด่าวันละ 3 เวลาหลังอาหารเท่านั้น

รัฐ ธรรมนูญนี้มอบอำนาจให้รัฐราชการ เทคโนแครต ผู้รู้ ผู้ดี (โดยมีภาคประชาสังคมเป็นไม้ประดับ) เป็นผู้ขับเคลื่อนประเทศ ขณะที่รัฐบาลเลือกตั้งเป็นเจว็ด มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ มีไปก็สร้างความขัดแย้ง แต่ต้องเอาไว้โชว์ต่างชาติ

"ความฝันอันสูงสุด" คือทำให้ประชาชนเห็นว่า อำนาจเลือกตั้งของพวกเอ็งไร้ความหมาย เสรีภาพ ประชาธิปไตย กินไม่ได้ บูโรแครต เทคโนแครต ต่างหากที่จะยกเครื่องประเทศครั้งใหญ่ให้วัฒนาสถาพร

ข้อสำคัญจะทำได้ตามความฝันหรือเปล่าภายใต้ปัญหาความชอบธรรม

หัวหน้า "คสช.ม.44" ขู่ฟ่อ ลั่น "วันนี้นักการเมืองไม่ฟัง ก็ต้องล้างกันซักที" ...เปรย ก่อนผมเข้ามา พรรคการเมือง2-3 พรรคทะเลาะกัน แต่วันนี้กลับรวมหัวมาทะเลาะกับผมคนเดียว . เป็นทหารอาชีพคงไม่เคยได้ยินคำว่า" ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร" สูตรสำเร็จของพวกนักการเมืองไทย ที่มีมานานทุกยุคทุกสมัยอยู่คู่ประเทศไทย ที่ทหารอาชีพไม่มีวันเข้าใจ. เรื่อง"ร่างรัฐธรรมนูญฉบับเรือแป็ะ"ที่พวกขี้ข้าอำมาตย์ทรราชเขียนขึ้นก็เพื่อใช้ฆ่าตัดตอนประยุทธ์และพวกคสช. เมื่อทำงานให้อำมาตย์ทรราชผู้อำมหิตไม่สำเร็จ สำหรับพวกพรรคการเมืองก็แค่ช่วยอำมาตย์เลื่อยขาเก้าอี้ประยุทธ์เท่านั้นเอง..."อย่าโง่ซิ" .บทเรียนในอดีตมีให้เห็นมากมาย. .จะทำอะไรก็ทำก่อนที่ดาบอาญาสิทธ์จะหลุดเปลี่ยนไปอยู่มือคนอื่น..จบ

ThaiE - News








ที่มา Wassana Nanuam's post

เก็บตก....บิ๊กตู่เปิดใจ สื่อเอเชีย

ลั่น "วันนี้นักการเมืองไม่ฟัง ก็ต้องล้างกันซักที" เปรย ก่อนผมเข้ามา พรรคการเมือง2-3 พรรคทะเลาะกัน แต่วันนี้กลับรวมหัวมาทะเลาะกับผมคนเดียว หากจะมีเลือกตั้งก็เลือกไป แต่อย่ามาดุ ผม ผมไม่ชอบ บอกไม่อยากทะเลาะ "บก.ลายจุด" เรื่องขายข้าว ขู่เรียกตัวคราวหน้าจะไม่มีการเตือนแล้ว ย้ำไม่คิดมาเป็นนายกฯ แต่จำเป็นต้องเข้ามาปลดล็อคปัญหาประเทศ เผยตั้งแต่หลังรัฐประหาร ปี2549 ไม่เคยได้เดินตลาด เที่ยวกับครอบครัวเลย เผยช่วยรัฐบาลที่ผ่านมา ทุกเรื่อง น้ำท่วม แต่เรื่องเรื่องอะไรที่ทำไม่ได้ ก็บอกว่าทำไม่ได้ และไม่ทำ เผย ต่างประเทศชมว่าไม่มีรัฐบาลไหนมาเซ็น MOU ได้แบบนี้ ยันเรียกคนรายงานตัวไม่เคยทรมานใคร ไม่ได้เรียกมาซ้อม หรือเอาถุงดำครอบหัว หรือเอาน้ำแข็ง เอาน้ำเย็นราด ยืนยันไม่ได้เป็นคนสั่งปิด Peace TV ลั่น หาก แก้ล็อตเตอรี่ แพงไม่สำเร็จภายใน มิ.ย. ก็เลิกขาย




คลิกอ่านข่าวทั้งหมด-เก็บตก....บิ๊กตู่เปิดใจ สื่อเอเชีย + คลิป นายกรัฐมนตรี เป็นประธานและกล่าวสุนทรพจน์ในงานเลี้ยงอาหารค่ำ


ooo


" ไม่มีใครรู้จักผม " รู้จักแต่นายกฯคนสวย นายกฯคนหล่อ"
บิ๊กตู่ ลั่น กำจัด"ขยะมนุษย์"ออกจากประเทศให้หมด ยันจะทำจนกว่าจะทำไม่ได้ จนกว่าจะได้ประชาธิปไตยแบบที่คนไทยมีความสุข ใช้เวลาพอสมควร เผยไปแรกๆ ต่างประเทศ ไม่มีใครรู้จักผม " รู้จักแต่นายกฯคนสวย นายกฯคนหล่อ คนอื่นมองก็คิดว่าไอ้นี่มันบ้าหรืออย่างไร ผมก็ต้องสู้ แสดงความจริงใจในการทำงาน"

พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีและ หัวหน้าคสช. กล่าวในการเปิดงาน “รักษ์โลก รักษ์ไทย ในหัวใจสีเขียว”ว่าการกำจัดขยะถือเป็นปัญหาเรื้อรังรัฐบาลนี้จะแก้ปัญหาให้สำเร็จ มอบหมายให้กระทรวงทรัพย์ฯ จัดการขยะมูลฝอย โดยบูรณาการ ปลูกจิตสำนึกโดยทุกคนต้องเริ่มทำจากที่บ้าน ปัญหานี้เป็น 1 ใน 400 เรื่องที่รัฐบาลกระจายอำนาจไปให้อยู่ในความรับผิดชอบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) แต่ที่ผ่านมาอ้างแต่ว่าไม่มีงบประมาณ ซึ่งท้องถิ่นก็ต้องรู้หน้าที่ของตัวเอง ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นพื้นที่ของการเมืองไปหมด
"วันข้างหน้าอาเซียนอาจมีการรบกันเรื่องน้ำ เพราะป่าน้อยลง โลกเปลี่ยนแปลง แต่ก็ถือเป็นวงจรมันก็เหมือนชีวิตที่มีเจริญก็มีเสื่อม มีอำนาจก็มีหมดอำนาจ แต่ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองมีอำนาจ อำนาจอยู่ที่ท่านทั้งหมด ท่านมีอำนาจมากกว่าผม เพราะสามารถบังคับผมให้ทำโน่น ทำนี่ได้"

"ตั้งแต่ผมเข้ามาในวันที่ 22 พ.ค. ได้เห็นอะไรมากมาย ซึ่งหากไม่ใช้โอกาสนี้ในการปฏิรูปก็จะทำให้บ้านเมืองถอยหลัง แต่หากมีการเลือกฝ่าย ประเทศก็ไปไม่ได้ วันนี้ต้องพัฒนาทุกเรื่องและต้องใช้เวลาพอสมควร แต่เราก็ต้องมีการเลือกตั้ง โดยต้องช่วยกันลดความขัดแย้ง ลดขยะเคลื่อนที่ “ต้องให้ขยะมนุษย์หมดไปจากประเทศให้ได้”

"วันนี้ผมบริหารราชการต้องฟังทุกคน ฟังทั้งคนด่า คนชม ฟังมากก็หงุดหงิดมาก ทุกวันนี้ยังไม่เคยทำอะไรให้เสียหาย ไปต่างประเทศในช่วงแรกก็ไม่มีใครรู้จักผม รู้จักแต่นายกฯคนสวย นายกฯคนหล่อ คนอื่นมองก็คิดว่าไอ้นี่มันบ้าหรืออย่างไร ผมก็ต้องสู้ แสดงความจริงใจในการทำงาน และเสนอการทำงานเชิงรุกให้เขาตามเราบ้าง
"เรื่องที่เขาขอให้เราเป็นประชาธิปไตยอย่างรวดเร็วก็ไม่ถามมาอีก เพราะผมถามย้อนไปว่าประชาธิปไตยอย่างรวดเร็วมันคืออะไร การเลือกตั้งของไทยไม่เหมือนใครในโลก ต่อไปจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ สถานการณ์ตอนนี้สงบจริงหรือไม่ ผมไม่ได้รังเกียจที่ต้องเป็นประชาธิปไตย แต่จะทำอย่างไรให้ประชาธิปไตยทำให้คนไทยมีความสุข เคารพกฎหมาย และเชิดชูพระมหากษัตริย์" พล.อ.ประยุทธ์
กล่าว
"ผมก็ขอสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุด จนกว่าจะทำไม่ได้"

สำหรับเรื่องการจัดการขยะเป็นปัญหาที่เรื้อรังสะสมมานาน และกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ กระทบต่อสิ่งแวดล้อมสุขภาพอนามัยของประชาชน รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจัดทำแผนงาน (Road Map) การจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตรายเพื่อให้เกิดการดำเนินงานในทิศทางเดียวกัน โดยขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมกันทำงานให้เป็นทิศทางเดียวกัน ภายใต้การใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะส่วนท้องถิ่นซึ่งมีปริมาณขยะในพื้นที่จำนวนมาก ภายใต้ Road Map 4 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 1. เร่งจัดการขยะมูลฝอยสะสมในสถานที่กำจัดขยะพื้นที่วิกฤติ 2. ให้มีรูปแบบที่เหมาะสมเพื่อจัดการกับขยะที่เข้ามาใหม่ โดยเน้นการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง และแปรรูปพลังงานจากขยะมีการบริหารจัดการที่เหมาะสม 3. จัดระเบียบมาตรการบริหารจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย 4. การปลุกจิตสำนึก สร้างวินัยของคนในชาติมุ่งสู่การจัดการที่ยั่งยืน ต้องสะอาดจากข้างนอกเข้ามาข้างใน

ทั้งนี้ การดำเนินการเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการทำงานร่วมกันดูแลรักษาความสะอาดของบ้านเมืองเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป



เบาๆ ผ่อนคลายอารมณ์ .มีเวลาสำรวจดูตัวเอง ปรับปรุงแก้ไขปรับเปลี่ยนนิสัยทำใจยอมรับการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมเมืองพุทธสยามเมืองยิ้มที่เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม ที่กลายเป็นสังคมเผด็จการล้าหลังไร้อนาคต เป็นสังคมวิปริตป่วยหนักทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมือง เกินจะเยียวยาให้คืนได้เหมือนเดิม หนึ่งปีผ่านไปหลังทหารยึดอำนาจ ประเทศไทยภายใต้เผด็จการทหารและกฎอัยการศึก สังคมไม่ดีขึ้นแต่เลวลง ...ขอให้ทุกท่านที่อ่านเกิดปัญญาแล้วร่วมกันหาทางปลดปล่อยตัวเองออกจากวิกฤติ"วงจรอุบาทว์"ครั้งนี้ให้ได้ ขอให้โชคดี....



  
Things That Happened After I Meditated For 100 Days

8 เรื่องเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นหลังจากที่ฉันฝึกนั่งสมาธิครบ 100 วัน


เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากทีฝึกนั่งสมาธิ






ฉันไม่ใช่โยคี ไม่ใช่ผู้เสริมสร้างพลังชีวิต หรือครูสอนโยคะใดๆทั้งสิ้น อันที่จริงไม่ใกล้เคียงกับสิ่งที่คุณเรียกว่าโยคีเลยล่ะ ที่ผ่านมาฉันล้มเหลวมาเยอะ เช่น สอบตก ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวนะ เคยเข้าไปอยู่ในสถานบำบัดยาเสพติด แถมยังเคยถูกจับอีกต่างหาก แต่ในที่สุดฉันก็กลับใจจนได้มาเป็นทนายความและใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า ฉันก็อยากให้คนอื่นมีโอกาสที่ดีแบบนี้บ้างเชื่อไหมว่าการนั่งสมาธินำพาสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตของเราทุกคนได้ ไม่นานมานี้ฉันเริ่มเรียนรู้ถึงประโยชน์ของการนั่งสมาธิ แม้ที่ผ่านมาฉันไม่เคยนั่งสมาธิได้นานกว่า 5-10 นาทีเลย แต่มาวันนี้ฉันได้ตัดสินใจ


ลองนั่งสมาธิวันละ 20 นาทีติดต่อกันนานหนึ่งสัปดาห์เพื่อดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น
การทดลองนี้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 1 มกราคม ปี 2015 จากสัปดาห์แรกเป็นเดือน จากเดือนเป็นสามเดือน มารู้ตัวอีกทีก็ครบ 100 วันแล้ว ฉันนั่งสมาธิทุกวันในตอนเช้าโดยไม่มีวันหยุดเลย ตอนแรกที่นั่งสมาธิฉันนั่งอยู่นิ่งๆไม่ได้เลยทั้งปวดหลังและเมื่อยขาสุดๆ ฉันรู้สึกเหมือนกำลังพยายามปรับวิธีการนั่งมากกว่าที่จะทำสมาธิกับการกำหนดลมหายใจเข้าออก ที่สำคัญฉันต้องฝืนตัวเองไม่ให้ลืมตา แต่ในที่สุดฉันก็ชินกับการกำหนดลมหายใจเข้าออก และร่างกายของฉันก็เริ่มปรับท่าทางให้เป็นไปตามธรรมชาติ ยิ่งนั่งสมาธินานเท่าไร ฉันก็ยิ่งค้นพบวิธีนั่งสมาธิให้สบายมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานนักการนั่งสมาธิก็กลายเป็นกิจวัตรในยามเช้าที่ขาดไม่ได้และสิ่งดีๆก็เริ่มทยอยเข้ามาในชีวิตของฉัน
นี่คือ 8 สิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ฉันนั่งสมาธิทุกวันจนครบ 100 วัน
1. ชีวิตมีความเป็นระเบียบ
ยิ่งหัวสมองปลอดโปร่งก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ มีการจัดระเบียบความคิด มีสมาธิกับการทำงานและพร้อมที่จะก้าวสู่งานชิ้นต่อไปได้ง่ายขึ้น ฉันจะตั้งใจทำงานที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุดแล้วค่อยทำงานอื่นต่อไป
2. เริ่มรู้จักคิดก่อนพูด
เดิมทีฉันปากไวหรือพูดทันทีที่ความคิดนั้นปรากฏขึ้นมาในหัว แต่ตอนนี้ฉันต้องหยุดคิดก่อนว่าจะพูดอะไรแล้วค่อยตอบกลับไปอย่างระมัดระวัง การหยุดคิดจะช่วยให้ฉันเรียบเรียงคำพูดได้ชัดเจน และเมื่อพูดออกไปแล้วฉันจะทบทวนว่าสิ่งที่พูดไปนั้นดีพอหรือยัง หรือคราวหน้ายังสามารถทำได้ดีกว่านี้อีกไหม ซึ่งปกติฉันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
3. สุภาพและรู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
ฉันกลายเป็นคนขี้รำคาญน้อยลง อดทนมากขึ้น ไม่เบื่อกับการต้องเข้าคิวนานๆ ฉันเริ่มมองสถานการณ์ต่างๆในมุมมองของคนอื่น ด้วยวิธีนี้เองทำให้ฉันสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่กระทำต่อคนอื่นได้อย่างสิ้นเชิง
4. มีพลัง
ฉันสามารถนอนหลับได้สนิทกว่าเดิมและตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสดชื่นมีพลังพร้อมเริ่มวันใหม่ ขนาดหลังเลิกงานฉันก็ยังมีพลังเหลือเฟือที่จะออกไปวิ่งหรือออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆต่อได้เลย
5. รู้จักเลือกรับประทานอาหารได้ดีขึ้น
ฉันตัดสินใจได้ดีขึ้นเมื่ออยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านอาหาร ฉันมักจะถามตัวเองก่อนเสมอว่าอาหารนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายของฉันมากน้อยแค่ไหน
6. ดูโทรทัศน์น้อยลง
ความปรารถนาในการดูโทรทัศน์ของฉันลดลงอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ฉันกลับมีสมาธิกับสิ่งที่ทำให้ชีวิตดีขึ้น เช่น การอ่านหนังสือ การออกกำลังกาย การออกไปพบปะเพื่อนฝูง หรือการทำงานบนเว็บไซต์ของตัวเอง
7. ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น
ฉันเริ่มรู้จักหยุดสังเกตและชื่นชมกับความสวยงามของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้หรือพระอาทิตย์ตกดิน นี่คือปรากฏการณ์มหัศจรรย์ชัดๆ ฉันจะพยายามดื่มด่ำกับช่วงเวลาเหล่านี้ให้มากที่สุด
8. ดีขึ้นทุกอย่าง
นี่อาจเป็นคุณประโยชน์ที่ดีที่สุดอีกอย่างหนึ่งของการนั่งสมาธิ ฉันรู้ว่าตัวเองเป็นใครและสามารถทำอะไรได้บ้าง ฉันกล้าเปิดเผยความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น ฉันมีกำลังใจที่จะเป็นตัวของตัวเองและกล้าเสี่ยงเพื่อที่จะเติบโตต่อไปในวันข้างหน้า ฉันรู้ว่าอะไรคือสิ่งสำคัญและสามารถประสบความสำเร็จในสิ่งที่ต้องการได้
และนี่คือการเปลี่ยนแปลงของฉันหลังจากที่เริ่มนั่งสมาธิ แม้ว่าสิ่งเหล่านี้อาจจะไม่เกิดขึ้นภายในวันเดียวหรือ 100 วัน แต่ฉันรู้ว่าทุกวันนี้ฉันไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว ฉันมีความสุขมากขึ้นเพราะฉันได้เป็นตัวของตัวเองจริงๆ ถ้าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากที่นั่งสมาธิผ่านไปเพียง 100 วัน ฉันก็อยากเห็นว่าอีก 200 วันหรือแม้แต่ 1,000 วันจะเป็นอย่างไร ลองนั่งสมาธิวันละ 20 นาทีติดต่อกันสัก 100 วันดูสิ ฉันมั่นใจว่าคุณจะกลายเป็นคนใหม่อย่างแน่นอน
Blogger : Kyle V. Robinson
Source : 
mindbodygreen.com

30 เมษา 58 วันครบรอบ 4 ปี ที่ สมยศ พฤกษาเกษมสุข ผู้ถูกยัดเยียดข้อหาความผิดคดี ม.112 โดนจับขังคุก โดยไม่มีโอกาสได้สู้คดีทั้งๆไม่ได้ทำผิดตามข้อกล่าวหาและไม่ให้ประกันตัว ..สมยศคือหนึ่งของประชาชนไทยหลายร้อยหลายพันราย.นับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ที่ตกเป็น.."เหยื่อ" ม.112 โดยที่ไม่มีโอกาสได้สู้คดีพิสูจน์ความจริง โดย "เหยื่อ"ถูกแจ้งข้อหาว่าไม่จงรักภักดีดูหมิ่นครอบครัวกษัตริย์ภูมิพล คำถามตามมาถ้าครอบครัวของกษัตริย์ภูมิพลเป็นครอบครัวที่ดีจริงวางตัวเป็นที่เคารพรักของประชาชนไทย ก็ไม่จำเป็นต้องมีม.112 ไว้คุ้มครอง ปล่อยให้ประชาชนไทยวิพากวิจารณ์ได้เหมือนกับครอบครัวกษัตริย์ที่ยังเหลืออยู่ทั่วโลก และการบังคับใช้ ม.112 ในประเทศไทย ทำให้ประชาชนไทยตื่นตัวรู้ความจริงว่าครอบครัวกษัตริย์ภูมิพลไม่ดีจริงเต็มไปด้วยเรื่องราวเสื่อมสุดๆ เป็นเหลือบศักดินาเผด็จการทรราชกัดกินเลือดเนื้อประชาชนไทยและผูกขาดกอบโกยผลประโยชน์จากทรัพยากรของประเทศชาติ ประชาชนไทยจึงหมดรักเสื่อมศรัทธาเลิกงมงายกราบไหว้บูชาเทวดาเดินดินครอบครัวหัวหน้ามาเฟียใหญ่ที่เสพสุขบนความทุกข์ยากของประชาชน...ท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจให้คุณสมยศผู้ทรนง จงเข้มแข็งอดทน มีสุขภาพกายที่แข็งแรง สุขภาพจิตที่เข้มแข็ง รอวันเวลาที่จะมาถึงซึ่ก็ใกล้เข้ามาทุกวันทุกวัน กับสถานการณ์ของประเทศไทยวันนี้ที่ "ปิดประเทศ" ปิดหู ปิดตา ปิดปาก ประชาชน ภายใต้ยาแรง "คสช.ม.44" ไม่ต่างอะไรกับคุกใหญ่ใช้ขังคนไทยทั้งประเทศ ดังนั้นจะอยู่ข้างนอกหรือติดอยู่ข้างใน สภาพชีวิตก็ไม่ต่างอะไรกันมากนัก ..ทุกคนอึดอัด อดทน อยู่อย่างมีสติเตรียมพร้อมรอๆๆ วันเวลาและโอกาสอันเหมาะสมที่มาถึง.....ด้วยความห่วงใยและปราถนาดี...

สรุปย่อคดีของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุ : Somyot case briefing and update:

สรุปย่อคดีของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ภายใต้ข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
 
สมยศ พฤกษาเกษมสุข (ปัจจุบันอายุ 50 ปี) เป็นบรรณาธิการบริหารนิตยสารวอยซ์ ออฟ ทักษิณและนักกิจกรรมด้านสิทธิแรงงานผู้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเคลื่อนไหวและการก่อตั้งสหภาพแรงงานไทย ในปี พ.ศ. 2550   สมยศรับหน้าที่เป็นบรรณาธิการนิตยสารวอยซ์ ออฟ ทักษิณ ซึ่งนำเสนอและวิเคราะห์ประเด็นทางการเมืองภายในประเทศ
 
ด้านการสนับสนุนประชาธิปไตย สมยศคือประธานสหภาพพันธมิตรแรงงานประชาธิปไตยและแกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย โดยก่อนที่จะถูกจับกุมด้วยข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 สมยศได้ทำการเคลื่อนไหวให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตราดังกล่าว นอกจากนี้ สมยศยังเคยถูกควบคุมตัวภายใต้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน พ.ศ. 2553 รวมระยะเวลา 21 วัน
 
สมยศถูกจับกุมเมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2553 ที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ด้วยข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งมีใจความว่า “ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี“    สืบเนื่องจากคำฟ้องของอัยการ สมยศมีความผิดฐานอนุญาตให้มีการตีพิมพ์บทความสองชิ้นลงในนิตยสารวอยซ์ ออฟ ทักษิณ กล่าวพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ในทางลบ บทความทั้งสองชิ้นเขียนขึ้นโดยบุคคลซึ่งใช้ชื่อว่า “จิตร พลจันทร์” อันเป็นนามแฝงที่เกิดจากการผสมชื่อและสกุลของนักคิดฝั่งซ้ายคนสำคัญในประเทศไทยสองคน คือ จิตร ภูมิศักดิ์และอัสนี พลจันทร์           หากศาลตัดสินว่ามีความผิด สมยศอาจได้รับโทษจำคุกสูงสุดนาน 30 ปี
 
เป็นที่น่าสังเกตว่าการจับกุมตัวนายสมยศเกิดขึ้นหลังจากเครือข่ายประชาธิปไตยที่เขามีส่วนร่วมประกาศแคมเปญรณรงค์ล่า 10,000 รายชื่อเพื่อเสนอให้รัฐสภาทบทวนประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เพียงห้าวัน นอกจากนี้ ชื่อของสมยศยังถูกบรรจุอยู่ใน “ผังล้มเจ้า” ซึ่งจัดทำโดยศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) และประกาศสู่สาธารณะโดยพันเอกสรรเสริญ แก้วกำเนิดในวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2553 แผนผังฉบับนี้ประกอบไปด้วยรายชื่อบุคคลที่ศอฉ.กล่าวหาว่า       กระทำการการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างไรก็ตาม ข้อกล่าวหาดังกล่าวได้รับการพิสูจน์ว่าขาดพยานหลักฐานที่น่าเชื่อถือรองรับในเวลาต่อมา
 
ปัจจุบัน สมยศถูกควบคุมตัวตลอดระยะเวลา 15 เดือนหลังการจับกุม โดยศาลได้ปฏิเสธคำร้องยื่นขอประกันตัวชั่วคราวทุกครั้ง การปฏิเสธคำร้องเพื่อยื่นขอประกันตัวครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 โดยเป็นความพยายามครั้งที่สิบ อย่างไรก็ตาม แม้การไม่อนุญาตให้ประกันตัวจะเป็นวิธีปฏิบัติอันปกติของศาลไทยต่อผู้ถูกกล่าวหาในคดีหมิ่น                    พระบรมราชานุภาพ แต่การกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพหลายประการภายใต้หลักกฎหมายไทยและสากลที่ไทยให้การรับรอง อันได้แก่ สิทธิที่จะได้รับการประกันตัวตามมาตรา 40 (7) ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550,  สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาคดีที่เป็นธรรมตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ที่ประเทศไทยให้การรับรองตั้งแต่ปีพ.ศ. 2539 และสิทธิตามข้อ36-39 ภายใต้หลักการเพื่อคุ้มครองบุคคลทุกคนที่ถูกคุมขังหรือจำคุก ค.ศ. 1988 (Body of Principles for the Protection of All Persons under Any Form of Detention or Imprisonment (1988)) นอกจากนี้ การถูกคุมขังก่อนการพิจารณาคดียังเป็นการละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญไทยและ ICCPR  ซึ่งระบุให้ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิที่จะได้รับการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่ามีความผิดตามกฎหมายในการพิจารณาคดีที่เปิดเผย การถูกคุมขังก่อนการพิจารณาคดียังกระทบต่อความสามารถในการเตรียมตัวสู้คดีของสมยศและทนายด้วย
การสืบพยานโจทก์ในคดีของสมยศถูกกำหนดขึ้นในหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย ได้แก่ สระแก้ว (21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554), เพชรบูรณ์ (19 ธันวาคม พ.ศ. 2554), นครสวรรค์ (16 มกราคม พ.ศ. 2555) และสงขลา (13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555)           การสืบพยานโจทก์ในครั้งหลังสุดต้องเลื่อนการสืบพยานมาที่กรุงเทพฯ ในนาทีสุดท้ายแม้ว่าสมยศจะเดินทางถึงจังหวัดสงขลาแล้วเนื่องจากพยานไม่มาศาลตามหมายนัด ตามข้อเท็จจริงพยานโจทก์ในคดีนี้ทำงานและอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ แต่การนัดสืบพยานของศาลยังคงยึดตามภูมิลำเนาของพยานที่ระบุในทะเบียนบ้าน คำสั่งศาลดังกล่าวถูกตั้งคำถามถึงเจตนาที่จะขัดขวางการเข้าร่วมสังเกตการณ์คดีของสาธารณะ, ตัวแทนทางการทูตและสื่อมวลชน  ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิของสมยศที่จะได้รับการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม
 
สมยศป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคเกาต์ ระหว่างการสืบพยานโจทก์ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2554 ถึงกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 สมยศต้องเดินทางย้ายเรือนจำด้วยการยืนบนรถบรรทุกที่แออัด ถูกล่ามข้อเท้าด้วยตรวนหนักกว่า 10 กิโลกรัม   และไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าห้องน้ำตลอดการเดินทางรวม 4,000 กิโลเมตรทั่วประเทศไทย ปัจจุบัน สมยศถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งมีสภาพแออัดและไม่มีบริการสาธารณสุขที่เพียงพอ การเดินทางไกลและการถูกคุมขังก่อนการพิจารณาคดีที่ยาวนานบั่นทอนสุขภาพของสมยศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่องดเว้นไม่ได้รับยารักษาโรคความดันโลหิตสูงและโรคเกาต์
 
การสืบพยานทั้งหมดเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 และศาลยังไม่มีกำหนดอ่านคำพิพากษา ในวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555 ทนายความของสมยศได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาให้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาว่า ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ขัดต่อหลักการสิทธิเสรีภาพตามที่กำหนดในรัฐธรรมนูญหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ศาลอาญาไม่ได้ดำเนินการดังกล่าวโดยทันที ทนายความจึงได้ยื่นเรื่องขอพิจารณาไปยังศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้ปฏิเสธคำร้องในวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 โดยให้เหตุผลว่า สมยศยังไม่ได้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 245 (1) และมาตรา 257 วรรคหนึ่ง (2) ก่อนทำการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ จึงไม่ใช่บุคคลที่ไม่อาจใช้สิทธิด้วยวิธีการอื่นได้แล้ว และไม่ต้องหลักเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 212 ประกอบข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาและการทำคำวินิจฉัย พ.ศ. 2550 ข้อ 21  ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับวินิจฉัยได้ อย่างไรก็ตาม ศาลอาญาได้ตัดสินใจส่งคำร้องของทนายความที่ดำเนินการในครั้งแรกไปยังศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ซึ่งในเวลาต่อมา ศาลรัฐธรรมนูญได้ส่งจดหมายตอบกลับทนายความว่ารับทราบคำร้องทั้งสองครั้ง พร้อมแนบคำสั่งศาลเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมมาในวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555  ทั้งนี้ ศาลอาญาจะไม่ประกาศวันอ่านคำพิพากษาคดีสมยศจนกระทั่งวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2555 เพื่อรอคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญซึ่งยื่นเรื่องโดยศาลอาญา


ในปีที่ผ่านมา สหประชาชาติได้แสดงความวิตกกังวลต่อกรณีผู้ถูกกล่าวหาในคดีหมิ่นพระบรมราชานุภาพถูกจองจำก่อน     การพิจารณาคดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของสมยศ ในวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2554 Ravina Shamdasani โฆษกประจำสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ได้กล่าวว่า “สำนักงานข้าหลวงใหญ่ฯ มีความกังวลต่อการยืดเวลาคุมขังผู้ถูกกล่าวหาในคดีหมิ่นพระบรมราชานุภาพก่อนการพิจารณาคดีของศาล”
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2554, El Hadji Malick Sow, ประธานคณะทำงานสหประชาชาติว่าด้วยการกักขังที่ไม่มีกฎเกณฑ์, Gabriela Knaul, ผู้ตรวจการพิเศษสหประชาชาติด้านความเป็นอิสระของศาลและนักกฎหมาย, Frank La Rue, ผู้ตรวจการพิเศษสหประชาชาติด้านเสรีภาพการแสดงออก และ Margaret Sekkagya ผู้ตรวจการพิเศษสหประชาชาติว่าด้วยสถานการณ์ของผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชน ได้ร่วมกันส่งจดหมายถึงรัฐบาลไทยเพื่อแสดงความวิตกกังวลต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต      ของสมยศระหว่างถูกคุมขัง รวมถึงความเป็นไปได้ที่สมยศถูกควบคุมตัวจากการพิทักษ์หลักการสิทธิมนุษยชนและใช้สิทธิ      อันชอบธรรมของตนเองในการแสดงออกและแสดงความคิดเห็น
 
สมยศยังเป็นหนึ่งในห้านักปกป้องสิทธิมนุษยชนไทย ผู้ได้รับการคัดเลือกให้รับรางวัลสมชาย นีละไพจิตร จากกองทุนรางวัลสมชาย นีละไพจิตรในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2555 ทั้งนี้ รางวัลดังกล่าวมีขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรตินักปกป้องสิทธิมนุษยชนผู้ต่อสู้เพื่อพิทักษ์หลักการสากลของความเป็นมนุษย์อย่างกล้าหาญ ขันแข็ง แม้ต้องเผชิญกับอันตรายนานาประการระหว่างการปกป้องหลักการสิทธิมนุษยชนเช่นเดียวกับทนายนักปกป้องสิทธิมนุษยชน สมชาย นีละไพจิตร
-----------------------------------------------------------------------
ปรับปรุงแก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่:  28 สิงหาคม 2555

 


 


“ ไม่มีสวรรค์สำหรับเรา “......... 


           ”วันศุกร์ ที่ 24 เมษายน 2558 เวลา  14.10  น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ไปประทับเปลี่ยนพระราชอิริยาบถ และทอดพระเนตรทิวทัศน์ของแม่น้ำเจ้าพระยา ณ หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร เป็นการส่วนพระองค์

เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงหอประชุมกองทัพเรือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินขึ้นไปยังชั้น 3 ณ ห้องชมชลธี เพื่อประทับเปลี่ยนพระราชอิริยาบถ เสวยพระสุธารส และทอดพระเนตรทิวทัศน์ของแม่น้ำเจ้าพระยา

หอประชุมกองทัพเรือ หรืออาคารชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านตรงข้ามกับพระบรมมหาราชวัง ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2545 ในพื้นที่ของกองทัพเรือ เพื่อใช้รองรับการประชุมสุดยอดผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปค (APEC) ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปี 2546 และเนื่องจากหอประชุมแห่งนี้มีชื่อเสียงทั้งในด้านสถาปัตยกรรมและเป็นจุดชมทิวทัศน์แม่น้ำเจ้าพระยาที่งดงาม จึงได้รับเกียรติให้ใช้จัดงานพิธีและกิจกรรมต่างๆ ที่สำคัญในระดับชาติและนานาชาติอีกหลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2549 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ  เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และพระประมุขกับพระราชวงศ์ต่างประเทศ ที่ทรงเข้าร่วมงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มาทอดพระเนตรขบวนเรือพระราชพิธี ณ ราชนาวิกสภา และทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติที่หอประชุมกองทัพเรือแห่งนี้

การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับ ณ ห้องชมชลธี เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช เมื่อเวลา 15.25  น.”
ขุนเขาบอก :

“ ไม่มีสวรรค์สำหรับเรา “.........


ไม่มีคำตอบ...จากสรวงสวรรค์

ภาพที่เคยฝัน...ไม่มีวันได้เห็น
ประชาเป็นใหญ่...ชาติไทยร่มเย็น
แต่ภาพที่เห็น...เลือดกระเซ็นนครา

สวรรค์ปิดตา...แผ่นฟ้ามัวหม่น

เย็นชาเหลือทน...ผู้คนครหา
เห็นถูกเป็นผิด...ปิดหูปิดตา
ไฟไหม้นครา...ไม่ชายตามอง

เป็นจริงหรือนั่น...สวรรค์ลำเอียง

หรือเราแค่เพียง...พลเมืองชั้นสอง
เป็นทาสเป็นไพร่...สวรรค์ไซร์ไม่มามอง
ล้านเสียงเรียกร้อง...ถูกมองแค่ธุลี

สิ้นคำจำนรรจ์...รอวันสวรรค์ล่ม

แผ่นฟ้าถล่ม...ความนิยมเสื่อมสี
ศรัทธาวางวาย...สวรรค์คลายความดี
คนกลายเป็นผี...สู่อเวจีนิรันดร์

ขอหัวเราะเยาะเย้ย...เหวยๆฟ้า

พสุธา...รอวันฟ้า ”สิ้นอาสัญ”
จักผุดร่างสร้างเมือง...เรืองนิรันดร์
เบื้องฟ้านั้น “ ไม่มีสวรรค์สำหรับเรา “.........

วันที่สามสิบ"คสช.ม.44" หนึ่งเดือนผ่านไปเอาไม่อยู่ สถานการณ์เข้าขั้นโคม่า " ม,44 " ยาแรงเสื่อมคุณภาพยิ่งทำให้ปัญหาสังคมทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ การเมืองร้อนรุ่มวุ่นวายไม่นิ่งพวกเดียวกันด่ากันเอง ปัญหาปากท้องประชาชนเศรษฐกิจตกต่ำขาดกำลังซื้อกำลังขาย สังคมวิปริตโจรมิจฉาชีพเกลื่อนเมือง เมื่ออำมาตย์เผด็จการทรราชราชาธิปไตยเลือดกลบตามืดบอดสนิทบ้าคลั่งไม่หยุดทำลายชาติหยุดทำลายตัวเองด้วยสารพัดวิชามาร ..ดูแล้วสังคมไทยคงหลีกเลี่ยงไม่พ้นต้องเกิดกลียุคอย่างแน่นอน...ขอให้พี่น้องประชาชนไทยเพื่อนร่วมชาติ โปรดมีสติระมัดระวังตัวอย่าประมาท ถูกหลอกให้ตกเข้าไปเป็น"เหยื่อ"ของเผด็จการเพื่อใช้สร้างสถานการณ์ โปรดติดตามข่าวสาร เตรียมพร้อมเพื่อทันต่อสถานการณ์บ้านเมือง...


matichononline 




ปาล์มกระบี่เดือด! เทปาล์ม20ตันหน้าศาลากลาง โวย นโยบายนำเข้าทำราคาตก
คลิกอ่าน
-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1430384555

matichononlines foto.


คลิกอ่าน-อภิสิทธิ์ ฉะ บวรศักดิ์! หยุดโชว์ด่านักการเมือง จวก ร่างรธน.ทำอันตรายต่อประเทศhttp://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1430397778

“ปตท” ขายหุ้น “บางจาก” ทั้งหมดแล้ว-ได้เงินกว่า1.3หมื่นล.
คลิกอ่าน-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1430392100


matichononlines foto.
โฉมหน้าวัยรุ่นระห่ำ! ฉุนถูกบีบแตร ปาหินใส่เก๋งฝรั่งขับมากับเมีย-ลูกขวบเศษ
คลิกอ่าน
-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1430388997

คลิกดูเพิ่ม-Visa översättning







"จาตุรนต์" มองข้ามไหล่ 36 อรหันต์ อ่านเกมชนชั้นนำ ล็อก รธน.สู่รัฐประหารซ้ำ !!

มติชนออนไลน์
สัมภาษณ์พิเศษ


"จาตุรนต์" มองข้ามไหล่ 36 อรหันต์ อ่านเกมชนชั้นนำ ล็อก รธน.สู่รัฐประหารซ้ำ !!


หลังการรัฐประหารได้เพียง 5 วัน "จาตุรนต์ ฉายแสง" อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ถูกทหารเข้าควบคุมตัว ฐานขัดขืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพราะไม่ยอมมารายงานตัว

เขาถูกนำตัวขึ้นศาลทหารและถูกฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

เขาถูกสั่งระงับธุรกรรมทางการเงิน พร้อม ๆ กับ จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีต รมว.มหาดไทย และ
สมบัติ บุญงามอนงค์ล่าสุดยังถูก "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี สั่งห้ามออกนอกประเทศ

แม้ความเคลื่อนไหวทุกอิริยาบถจะถูกล็อกจาก คสช. แต่ชื่อของ "จาตุรนต์" ยังคงโดดเด่น วิพากษ์เนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญอย่างเผ็ดร้อน "ประชาชาติธุรกิจ" สนทนากับเขาถึงเบื้องหลังการถูกเชิญตัวไปคุยเรื่องปรองดอง และทรรศนะของ "จาตุรนต์" ต่อรัฐธรรมนูญร่างแรก

- อารมณ์ที่ คสช.เรียกกลุ่มการเมือง และนักวิชาการ ไปพูดคุยเป็นอย่างไร

วิธีเชิญให้คนที่คอยเชิญมาปรับทัศนคติมาเชิญ ไม่ใช่ศูนย์ปรองดองให้เจ้าหน้าที่ติดต่อมา เพราะฉะนั้น จุดประสงค์หลักของเขา คือ ขอให้ไม่ต้องแสดงความเห็นข้างนอก แต่ฝ่ายการเมืองเห็นว่าไม่ได้ ต้องเสนอความเห็น เขาก็ปรับเป็นว่าให้เสนอความเห็นอย่างสร้างสรรค์ ฉะนั้นจุดประสงค์หลักของเขาไม่บรรลุ เรื่องปรองดองเขาไม่ได้หวังอะไรมาก เขาไม่เข้าใจเรื่องปรองดอง ไม่ได้มีคอนเซ็ปต์ที่เชิญหลาย ๆ ฝ่ายมาคุยเรื่องต้นเหตุความขัดแย้ง ปัญหาอยู่ที่ไหนอย่างไร จะแก้อย่างไร มันเลยได้เรื่องรัฐธรรมนูญ ผมบอกว่าเรื่องปรองดองกับเรื่องรัฐธรรมนูญมันเกี่ยวกันมาก เพราะรัฐธรรมนูญทำให้เกิดความขัดแย้งไม่สิ้นสุด พรรคการเมืองก็พูดตรงกันหมด
- คสช.เข้าใจคำว่าปรองดองต่างจากฝ่ายการเมืองเข้าใจ
ของเขาคือทำอย่างไรจะเลิกทะเลาะกัน ซึ่งเขาไม่รู้ว่าใครทะเลาะกับใคร ไม่เห็นความขัดแย้งในเชิงระบบ เชิงโครงสร้างว่ามันได้สร้างความขัดแย้งที่ผ่านมา ถ้าเห็นแตกต่างกันเมื่อไหร่จะแก้ปัญหานั้นอย่างไรไม่มีข้อเสนอ จะแก้กฎหมายที่ไม่เป็นกฎหมายได้อย่างไรมันไม่มี เราก็บอกว่ามันไม่ใช่เรื่องทะเลาะ ส่วนเรื่องเลือกตั้งช้าไม่เป็นไร พูดในความหมายว่า ถ้ารัฐธรรมนูญอย่างนี้จะทำให้เกิดความขัดแย้งไม่สิ้นสุด ถ้าจะคว่ำเสียแล้วร่างใหม่ ก็ยังดีกว่าใช้รัฐธรรมนูญนี้ แต่ไม่ได้พูดในความหมายว่าเราอยากให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป
- การที่ คสช.เรียกคนที่มีรายชื่อวิจารณ์ คสช. สะท้อนว่า คสช.รู้สึกไม่มั่นคงในสถานะของตัวเอง
คอนเซ็ปต์ของเขามีอย่างนี้ตลอด ตั้งแต่เรียกเป็นคน ๆ พวกท่านอย่าเพิ่งพูดอะไรเดี๋ยวมันสะดุด ไม่อยากให้สิ่งที่ คสช.ทำสะดุด เขาก็มีความคิดอย่างนี้ ที่เรียกทั้งหมดก็คือฝ่ายเห็นต่าง พอนั่งปั๊บ ผมก็บอกว่า อ้าว..นี่เชิญพวกที่วิจารณ์อยู่ เรารู้ทางเขา
- คสช.รู้ว่าหลัง สปช. อภิปรายร่างรัฐธรรมนูญจบลงจะมีการโต้แย้งหนักกว่านี้
ก็อาจเป็นไปได้ที่เสียงวิจารณ์มันดัง กลัวจะยิ่งไปกันใหญ่ แต่ผลที่ได้มันตรงข้ามนะ ที่เขาฟังความเห็นเรื่องรัฐธรรมนูญชัด ๆ ขนาดนี้ แล้วมันตรงกันหมด พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พูดแบบเดียวกันหมดว่า รัฐธรรมนูญ 2550 มันทำลายล้างฝ่ายเดียว โทนก็ไปทางเดียวกันหมด
- แรงกดดันจะอยู่ที่ คสช. หรือฝ่ายการเมือง
จากนี้ไปแรงกดดันอยู่ฝ่าย คสช.มากกว่า
- แรงกดไปอยู่ที่ คสช. ยังมีทางถอยหรือไม่
ยังมี เรื่องรัฐธรรมนูญเขาก็ให้แก้ให้ได้ กระซิบกัน เพราะตอนนี้มันอยู่ในช่วงแก้ได้ แนวโน้มที่ห่วงคือแก้บางส่วนแล้วอ้างว่าแก้เยอะแล้ว แล้วก็ใช้ไปมันเสียหายมากอยู่ดี
- เรื่องไหนที่ไม่แก้ จะเป็นจุดเสี่ยงของ คสช.
ไม่ใช่ประเด็นไหนเป็นจุดเสี่ยงของ คสช. ร่างรัฐธรรมนูญนี้เป็นร่างที่ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างมาก เป็นรัฐธรรมนูญที่จะสร้างเผด็จการถาวร ทำให้ผู้แทนราษฎร และรัฐบาล หลังการเลือกตั้งไม่สามารถบริหารประเทศได้ ไม่สามารถกำหนดนโยบายอะไรได้ และไม่มีเสถียรภาพ ไม่มีกลไกอะไรไปตอบสนองความต้องการของประชาชน เนื่องจากประชาชนกำหนดไปแล้วก็จะถูกหักล้างโดยองค์กรต่าง ๆ ที่มีมากมายเต็มไปหมด ไม่ได้มาจากประชาชนเลย มันจะเป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมากอย่างรวดเร็ว ถ้าไปถึงจุดนั้นเท่ากับเป็นความล้มเหลวของกระบวนการที่อ้างว่าต้องรัฐประหารและเข้ามาจัดการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง



คลิกอ่านข่าวทั้งหมด ที่นี่ - http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1430383618




"...ร่างรัฐธรรมนูญนี้เป็นร่างที่ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างมาก เป็นรัฐธรรมนูญที่จะสร้างเผด็จการถาวร ทำให้ผู้แทนราษฎร และรัฐบาล หลังการเลือกตั้งไม่สามารถบริหารประเทศได้ ไม่สามารถกำหนดนโยบายอะไรได้ และไม่มีเสถียรภาพ".
จาตุรนต์ ฉายแสง
๒๙ เมษายน ๒๕๕๗
ประชาชาติธุรกิจ





onsdag 29 april 2015

หยุดดัดจริตประเทศไทย หยุดไอ้พวกเหลือบไรผลาญเงินภาษีประชาชน หยุดทหารตำรวจรังแกข่มขู่พวกแพะแบะๆๆมือเปล่า หยุดใช้สารพัดวิชามารใส่ร้ายป้ายสียัดเยียดความผิดให้ประชาชน...

รูปภาพของ หยุดดัดจริตประเทศไทย
ประชุมกันจนรวย 88 ครั้ง = 22,000,000 บาท (อ่านว่ายี่สิบสองล้านบาท)
36 คน รับคนละ 600,000 บาท ไม่มีงานไหนรายได้ดีเท่ากับรับใช้คณะรัฐประหารอีกแล้ว เป่านกหวีดร่วมกับ กปปส. เป็นคนดี ทำเพื่อชาติ? ต้านการโกง ยึดอำนาจปุ๊บ โดดมารับตำแหน่ง "ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ"ยังไม่นับเงินเดือนต่างๆ ค่าประจำตำแหน่ง สวัสดิการต่างๆ รวยกันเละงานนี้
"ไอ้กระรอกแทะ" บวรศักดิ์ อุวรรณโณ คนที่เคยเขียนรัฐธรรมนูญให้นายกต้องมาจากการเลือกตั้ง หลังเกิดเหตุการณ์ "พฤษภาทมิฬ 2535" วันนี้มันลืมจุดยืนนั้นไปหมดแล้วเคยเขียนด้วยมือ วันนี้ฉีกด้วยตีน น่าสมเพชจริงๆ


เจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจนอกเครื่องแบบ จาก สน.โชคชัย บุก สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม PeaceTV CR
https://www.facebook.com/secret100million/photos/a.220399904824880.1073741829.128043194060552/365018473696355/?type=1&theater
รูปภาพของ หยุดดัดจริตประเทศไทย

เตือนภัย!!!!!!! [แชร์กันด้วยนะครับ เริ่มมีหลักฐานว่ามีขบวนการพวกนี้อยู่จริงๆแล้ว]
มีขบวนการปลอมเฟส จ้องใส่ร้ายป้ายสีประชาชน เพื่อหาเหยื่อมาสนองความสะใจ กฎหมายหมิ่น และมาตรา 44 ในการก่อเหตุต่างๆ ข้อสำคัญคือ "อย่าเปิด Public อย่าแอดใครเป็นเพื่อนซี้ซั้ว ควรสร้างเฟสเล่นการเมืองโดยเฉพาะ" เพื่อป้องกันปัญหา
พฤติกรรมของคนร้าย ที่ใส่ร้ายป้ายสี คือสอดส่องเหยื่อ และปลอมแปลงโซเชียลมีเดีย เพื่อโพสในลักษณะจงใจท้าทาย จงใจก่อเหตุ หรือจงใจละเมิดกฎหมายต่างๆ โดยที่เหยื่อเองไม่ทราบเรื่องฮะ ลักษณ...ะการโพสจะแตกต่างจากสิ่งที่เหยื่อโพสเสมอๆ บางครั้งอาจคล้ายคลึงกัน ที่สำคัญคือ
เหยื่อในการก่อเหตุโดนใส่ร้ายป้ายสี "มักเป็นฝ่ายนิยม ปชต." และ "ไม่เคยมีเหยื่อที่เป็นกลุ่มเป่านกหวีด"
รบกวนลองเชคเฟสบุค ทวิตเตอร์ ไลน์ หรือแม้แต่ Google+ ดูฮะ ว่ามีใคร ทำซ้ำ เลียนแบบ หรือก็อปปี้ตัวท่านไป โดยที่ท่านเองไม่เคยทราบหรือไม่ หากพบเห็นควรนำมาประจานหน้าโซเชียลของเราเอง และยืนยันความเป็นเจ้าของตัวตนเรา รวมทั้งหาทางแจ้งผู้ดูแลระบบโซเชียลนั้นๆ จะดีที่สุด และหากพบการละเมิดใดๆ ที่เราไม่เกี่ยวข้อง ให้รีบแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน
แนวทางที่ดีที่สุดคือ "อย่าลงชื่อจริง เบอร์มือถือหรือ ข้อมูลบัตรประชาชนของคุณ" ให้ผู้อื่นทราบโดยเด็ดขาดหากไม่จำเป็น และ "ระวังการใช้ระบบติดตามที่อยู่ของตัวคุณผ่านทางสมาร์ทโฟนและเฟสบุค" และ " ควรเรียนรู้วิธีใช้โปรแกรมVPN กับ Anti -Hotspot และ Tor Browserให้คล่อง"
ระมัดระวังกันด้วยฮะ "ถ้าข้อมูลของคุณรั่วไหลไปยังผู้ไม่พึงประสงค์" ให้ปิดเฟส อย่าเสียดาย และ อัดวีดีโอเฟสของคุณถ้าทำได้แล้วฝากให้เพื่อนที่ไว้ใจ " รับมือในกรณีที่คุณถูกอุ้มหาย ให้เพื่อนของคุณส่งคลิปหลักฐานมาให้ทางเพจหยุดดัดจริตฯ " ทางเราจะทวงความยุติธรรมให้กับท่าน
‪#‎ขอบคุณและโปรดแจ้งเตือนต่อกันไป‬ อีโมติคอน colonthree
‪#‎หยุดดัดจริตประเทศไทย‬
https://www.facebook.com/stopdadjarit2











เกล็ดประวัติศาสตร์ที่อนุชนรุ่นหลังควรศึกษาเรียนรู้ถึงความเลวทรามของพวกเผด็จการทรราช

"ม.17 : เครื่องประหารหัวสุนัขของจอมพลสฤษดิ์"


           ”วันศุกร์ ที่ 24 เมษายน 2558 เวลา  14.10  น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ไปประทับเปลี่ยนพระราชอิริยาบถ และทอดพระเนตรทิวทัศน์ของแม่น้ำเจ้าพระยา ณ หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร เป็นการส่วนพระองค์

เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงหอประชุมกองทัพเรือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินขึ้นไปยังชั้น 3 ณ ห้องชมชลธี เพื่อประทับเปลี่ยนพระราชอิริยาบถ เสวยพระสุธารส และทอดพระเนตรทิวทัศน์ของแม่น้ำเจ้าพระยา

หอประชุมกองทัพเรือ หรืออาคารชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านตรงข้ามกับพระบรมมหาราชวัง ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2545 ในพื้นที่ของกองทัพเรือ เพื่อใช้รองรับการประชุมสุดยอดผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปค (APEC) ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปี 2546 และเนื่องจากหอประชุมแห่งนี้มีชื่อเสียงทั้งในด้านสถาปัตยกรรมและเป็นจุดชมทิวทัศน์แม่น้ำเจ้าพระยาที่งดงาม จึงได้รับเกียรติให้ใช้จัดงานพิธีและกิจกรรมต่างๆ ที่สำคัญในระดับชาติและนานาชาติอีกหลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2549 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ  เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และพระประมุขกับพระราชวงศ์ต่างประเทศ ที่ทรงเข้าร่วมงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มาทอดพระเนตรขบวนเรือพระราชพิธี ณ ราชนาวิกสภา และทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติที่หอประชุมกองทัพเรือแห่งนี้

การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับ ณ ห้องชมชลธี เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช เมื่อเวลา 15.25  น.”
กษัตริย์ภูมิพลคือผู้ให้การสน้บสนุนจอมพลสฤษดิ์




โดย เกษียร เตชะพีระ

วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2558

การเมืองวัฒนธรรม เกษียร เตชะพีระ "ม.17 : เครื่องประหารหัวสุนัขของจอมพลสฤษดิ์" มติชนสุดสัปดาห์

57 ปีก่อน เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ.2501 เกิดเพลิงไหม้ที่ย่านตลาดพลูในกรุงเทพฯ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้ใช้อำนาจหัวหน้าคณะปฏิวัติขณะนั้นสั่งประหารชีวิต นายจำนงค์ แซ่ฉิ่น และ ซิวหยิ่น แซ่ฉิ่น สองพี่น้องในข้อหาวางเพลิง

ทหารเรือรับคำสั่งให้นำตัวไปประหารที่วัดอินทารามด้วยปืนกลแบล็กมัน 6 กระบอก ทั้งคู่ตะโกนตลอดเวลาว่า "ผมไม่ผิด ผมไม่ได้วางเพลิง" จนถูกยิงขาดใจตาย...

จากการประมวลเบื้องต้น ปรากฏว่าตลอดช่วงที่จอมพลสฤษดิ์ครองอำนาจสัมบูรณาญาสิทธิ์ (Absolute Power) เหนือร่างกาย ชีวิตและทรัพย์สินของปวงชนชาวไทยในฐานะหัวหน้าคณะปฏิวัติ พ.ศ.2501 แล้วต่อด้วยในฐานะนายกรัฐมนตรีผู้ใช้อำนาจตามมาตรา 17 แห่งธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พ.ศ.2502 ท่านได้สั่งประหารชีวิตผู้ต้องหาอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดรวบรัดโดยไม่ต้องฟ้อง ร้องขึ้นศาลไต่สวนพิจารณาคดีตามกระบวนการยุติธรรมปกติรวม 11 ราย (รวมทั้งกรณีสองพี่น้องแซ่ฉิ่นข้างต้น) ในข้อหาวางเพลิง, ค้ายาเสพติด และความผิดทางการเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์

ได้แก่ :-

-6พฤศจิกายน 2501 จอมพลสฤษดิ์ใช้อำนาจคณะปฏิวัติสั่งประหาร นายซ้ง แซ่ลิ้ม ข้อหาจ้างวานวางเพลิงที่ตำบลบางยี่เรือ กรุงเทพฯ

- 29 พฤศจิกายน 2501 จอมพลสฤษดิ์ใช้อำนาจคณะปฏิวัติสั่งประหาร นายฮ่อนซิ่น แซ่ฉิ่น ข้อหาวางเพลิงที่ตำบลวัดพระยาไกร กรุงเทพฯ

- 29 ธันวาคม 2501 จอมพลสฤษดิ์ใช้อำนาจคณะปฏิวัติสั่งประหาร นายอึ้ง ศิลปงาม ข้อหาวางเพลิงที่ตลาดท่าช้าง อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี

ต่อมาเมื่อประกาศใช้ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พ.ศ.2502 แล้ว จอมพลสฤษดิ์ในฐานะนายกรัฐมนตรีก็หันไปใช้อำนาจตาม ม.17 แห่งธรรมนูญฯ ฉบับดังกล่าวเพื่อประหารผู้ต้องหาแทน ได้แก่ :

- 26 มิถุนายน 2502 จอมพลสฤษดิ์ใช้อำนาจ ม.17 สั่งประหาร นายศิลา วงศ์สิน ข้อหากบฏผีบุญ ที่บ้านใหม่ไทยเจริญ ต.สารภี อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา

- 6 กรกฎาคม 2502 จอมพลสฤษดิ์ใช้อำนาจ ม.17 สั่งประหาร นายศุภชัย ศรีสติ ผู้นำสภาคนงานแห่งประเทศไทย ซึ่งต่อต้านการรัฐประหารและปฏิวัติของสฤษดิ์ต่อเนื่องมาตั้งแต่รัฐประหาร 16 กันยายน 2500

- 31 พฤษภาคม 2504 จอมพลสฤษดิ์ใช้อำนาจ ม.17 สั่งประหาร ครูทองพันธ์ สุทธิมาศ และ ครูครอง จันดาวงศ์ อดีตเสรีไทยสายอีสานภายใต้การนำของ นายเตียง ศิริขันธ์, อดีตกบฏสันติภาพ และอดีต ส.ส.สกลนคร ข้อหาคอมมิวนิสต์ ที่สนามบิน อ.สว่างแดนดิน จ. สกลนคร

- เดือนสิงหาคม 2504 จอมพลสฤษดิ์ใช้อำนาจ ม.17 สั่งประหาร นายเลี่ยงฮ้อ แซ่เล้า ข้อหาผลิตเฮโรอีน

- 24 เมษายน 2505 จอมพลสฤษดิ์ใช้อำนาจ ม.17 สั่งประหาร นายรวม วงศ์พันธ์ สมาชิกกรมการเมือง พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ข้อหาคอมมิวนิสต์

ประเด็นปัญหาของการใช้อำนาจรัฐเด็ดขาดสัมบูรณ์เอาชีวิตผู้ต้องหาว่ากระทำผิด กฎหมายโดยไม่ผ่านการไต่สวนต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมเช่นนี้อยู่ที่ไหน?

เพื่อเข้าใจปมประเด็นนี้ เราควรต้องถามตัวเองว่า - ขอยกกรณีการสั่งประหารสองพี่น้องแซ่ฉิ่นข้อหาวางเพลิงที่ตลาดพลูข้างต้นเป็น ตัวอย่าง

เรารู้แน่รู้ทั่วชัวร์ป้าปหรือไม่ว่าสองพี่น้องแซ่ฉิ่นไม่ได้วางเพลิงจริงๆ?

คำตอบก็คือไม่, เราไม่รู้แน่

ในทางกลับกัน ถามอีกว่า เรารู้แน่รู้ทั่วชัวร์ป้าปหรือไม่ว่าสองพี่น้องแซ่ฉิ่นวางเพลิงจริงๆ?

คำตอบก็คือไม่, เราไม่รู้แน่อีกเหมือนกัน

แต่ทั้งที่เราไม่รู้แน่ทางใดทางหนึ่ง สองพี่น้องแซ่ฉิ่นก็ได้ตายไปแล้ว พวกเขาถูกประหารตายไปโดยที่เรายังไม่รู้แน่ไง

เราปล่อยให้รัฐของเราฆ่าคนตายโดยไม่รู้แน่ว่าเขาผิดได้อย่างไร?

เมื่อวานนี้ที่โดนอาจเป็นคนแปลกหน้าที่เราไม่รู้จัก แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าสักวันหนึ่งข้างหน้าตัวเราเอง ญาติพี่น้อง คนรัก หรือเพื่อนมิตรของเราจะไม่โดนรัฐฆ่าตายไปโดยยังไม่รู้แน่ว่าผิดเข้าบ้าง?

การใช้อำนาจปฏิวัติ และ ม.17 เสมือนเครื่องประหารหัวสุนัขเพื่อเล่นงานผู้ต้องหาแบบรวบรัด ศาลเตี้ยข้างต้นเป็นนิทัศน์อุทาหรณ์ให้เราตระหนักคำนึงถึงธาตุแท้ของอำนาจ รัฐเมื่อปลดเปลื้องถนิมพิมพาภรณ์อันเลิศอลังการทิ้งไปหมดแล้วว่า...

ในความหมายดิบๆ ที่สุด, อำนาจรัฐคืออะไร?

ตอบ : อำนาจรัฐคืออำนาจที่มีสิทธิ์ฆ่าเราได้ภายใต้เงื่อนไขที่แน่นอน เช่น เราดันไปทำผิดกฎหมายข้อหาร้ายแรง อาทิ ปล้นฆ่าข่มขืน ก่อการร้ายฆ่าหมู่ผู้บริสุทธิ์ ฯลฯ

ในความหมายนี้ รัฐก็คือองค์กรนักฆ่าส่วนกลางของสังคม (public assassins) ผู้ทำหน้าที่อันสังคมส่วนรวมมอบหมายให้ ที่สำคัญได้แก่ :

- ปกป้องสิทธิในร่างกาย ชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลพลเมืองผู้เป็นสมาชิกสังคม และ

- ปกป้องสังคมจากศัตรูผู้รุกรานภายนอก

โดยเป็นไปตามเงื่อนไขข้อกำหนดของกฎหมายอันเป็นกติกาที่สังคมกำหนดไว้กำกับ นักฆ่าส่วนกลางที่สำคัญได้แก่ เงื่อนไขว่าด้วยลักษณะความผิด, กระบวนการวิธีพิจารณาสอบสวนพิสูจน์ความผิด และเกณฑ์การลงโทษตามความผิด

เมื่อรัฐมีอำนาจฉกาจฉกรรจ์อุกฤษฏ์เหนือชีวิตเราเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องควบคุมอำนาจรัฐให้ดี กล่าวคือ :

ควบคุมดูแลให้รัฐฆ่าถูกคน ฆ่าถูกเงื่อนไข ฆ่าถูกขั้นตอน ฆ่าเมื่อสมควรและจำเป็นต้องฆ่า

และในทางกลับกัน รัฐจักต้องฆ่าไม่ผิดคน ฆ่าไม่ผิดเงื่อนไข ฆ่าไม่ผิดขั้นตอน ห้ามฆ่าเมื่อไม่สมควรและไม่จำเป็นต้องฆ่า ภายใต้กติกาของกฎหมาย

กว่านักฆ่าของส่วนกลางจะฆ่าใครได้สักคนจึงต้องผ่านกระบวนการยุติธรรมที่ซับ ซ้อน ยืดเยื้อและอาจยาวนาน... ทั้งๆ ที่ถ้าใช้ศาลเตี้ยรุมประชาทัณฑ์กันเดี๋ยวนั้นเลยจะรวดเร็วทันใจมี ประสิทธิภาพกว่า

แต่นั่นแหละคือ อารยธรรม (civilization) ของการอยู่ร่วมกันเป็นสังคม

สังคมอารยะซึ่งเคารพหลักการที่ว่ากล่าวให้ถึงที่สุดแล้ว ชีวิตคุณเป็นของคุณ (self-ownership : You own yourself.) ไม่ใช่ชีวิตคุณเป็นของรัฐ ที่ผู้ปกครองจะต้มยำทำแกงเมื่อไหร่อย่างไรก็ได้ตามอำเภอใจอย่างในระบอบสัม บูรณาญาสิทธิ์ (Absolutism) ทั้งปวง

ในหลายปีที่ผ่านมา รัฐไทยได้ใช้เครื่องประหารหัวสุนัขภายใต้กฎหมายที่ให้อำนาจพิเศษต่างๆ อย่างค่อนข้างบ่อยครั้ง ฟุ่มเฟือย เพื่อรับมือแก้ไขภัยคุกคามความมั่นคง

ผลก็คือสังคมไทยบาดเจ็บบอบช้ำจากพิษภัยแห่งอำนาจพิเศษเหนือการกำกับควบคุม ของสังคมเองในกรณีต่างๆ เช่น ฆ่าตัดตอนผู้ต้องสงสัยค้ายาบ้า, อุ้มหายทนายสมชาย นีละไพจิตร, มัสยิดกรือเซะ, โรงพักตากใบ, เมษา-พฤษภาอำมหิตที่ราชประสงค์, อุ้มหายบิลลี่หรือพอละจี รักจงเจริญ และล่าสุดคือกรณีวิสามัญฯ 4 ศพที่ทุ่งยางแดง เป็นต้น

ถ้าจะว่าสังคมไทยเสพติดโหยหาการใช้อำนาจเด็ดขาดสัมบูรณ์มาแก้สารพัดปัญหา อย่างมักง่าย ก็ต้องสรุปคู่กันไปด้วยว่าสังคมไทยไม่มีปัญญาความสามารถจะกำกับควบคุมไม่ให้ การใช้อำนาจเด็ดขาดสัมบูรณ์นั้นออกไปนอกขอบเขต เกินกว่าเหตุ หรือแม้แต่ทุจริตฉ้อฉล บิดเบือนฉวยใช้อำนาจไปในทางมิชอบ จนประเทศชาติส่วนรวมและเพื่อนร่วมชาติร่วมสังคมของเราเองต้องประสบความเสีย หาย บาดเจ็บล้มตาย

และสุดท้ายแล้ว คนไทยก็ถูกร้องขอบอกกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่นั่นแหละ ว่าให้ไว้ใจวางใจและหวังพึ่ง "ความดี" ของผู้ที่เข้ามาใช้อำนาจ, ว่า "คนดีๆ" อย่างท่านจะไม่ใช้อำนาจสัมบูรณ์นั้นไปทำอะไรมิชอบ ชั่วช้า เสียหาย รังแกเข่นฆ่าใครต่อใครแน่นอน เชื่อเถอะ

แล้วไง? กี่ครั้งแล้ว? กี่ร้อยพันหมื่นแสนล้านบาทแล้ว? กี่ศพแล้ว? ยังไม่เห็นไม่เข็ดอีกหรือ?

สังคมที่ไม่ยอมสรุปเรียนรู้ และลุกขึ้นมาดูแลรับผิดชอบตัวเอง แก้ไขปัญหาเอง แทนที่จะหวังพึ่งอำนาจเด็ดขาดสัมบูรณ์ที่ตัวเองควบคุมไม่ได้ ก็เหมือนการจับตัวเองขังไว้ในสภาพไม่บรรลุวุฒิภาวะทางการเมืองตลอดไป ล่ามตัวเองผูกติดกับเครื่องประหารหัวสุนัข ไม่ว่ามันจะมาในยี่ห้อ ม.17, ม.21, ม.27, หรือ ม.44 ก็ตามที