söndag 31 januari 2016

Somsak Jeamteerasakul.....ถ้าในหลวงสวรรคต "โร้ดแม็พ" คสช จะเปลี่ยนไหม?

Somsak Jeamteerasakul
"โร้ดแม็พ" คสช - ในหลวง - มาตรา ๔๔
ตาม "โร้ดแม็พ" หลังสุดของ คสช-มีชัย บอกว่า จะมีเลือกตั้งใกล้ๆสิ้นปี ๒๕๖๐ (เห็นว่าจะราวพฤศจิกายน) ก็คืออีกเกือบๆ ๒ ปี นับจากนี้
โอเค สมมุติว่า ทุกอย่างเดินไปตามนี้ - คำถามใหญ่คือ ในหลวงจะอยู่ถึง ๒ ปีจากนี้ไหม?
ประเมินแบบเป็นจริง (realistic) คิดว่าคงยาก
ทีนี้ ถ้าในหลวงสวรรคตภายในเวลา ๒ ปีนี้ล่ะ? (อันที่จริง โอกาสจะอยู่ไม่เกินปีนี้มีสูงไม่น้อย)
ถามว่า กำหนดการทั้งหลายที่ว่า จะเปลี่ยนไหม? โอกาสที่ คสช จะบอกว่า เรากำลังอยู่ในช่วงไว้อาลัย ไปถึงการจัดการเรื่องขึ้นครองราชย์ของพระบรมฯ ฯลฯ ให้เลื่อนเรื่อง รธน, เรื่องเลือกตั้ง การรณรงค์การเมืองอะไรไปก่อน ก็มีอยู่สูง
(แล้วปัญหาแบบนี้ ไม่มีนักข่าวเมืองไทยจะกล้าถาม ให้ประยุทธ์ตอบแน่ๆ)
ทีนี้ ก็มาถึงเรื่องที่มีหลายคนพูดไปแล้ว คือตาม ร่าง รธน คสช-มีชัย ประยุทธ์จะมีอำนาจเต็มด้วย ม.๔๔ ไปจนถึงการมีนายก รมต ใหม่อย่างเป็นทางการ ซึ่งต่อให้สามารถเป็นไปตาม "โร้ดแม็พ" อะไรที่ว่า ก็คืออีก ๒ ปีเต็มๆจากจุดนี้ คือกว่าจะเลือกตั้งพฤศจิกายน ๒๕๖๐ และเปิดสภา ตั้งนายกฯใหม่ ก็ต้องไปต้นปี ๒๕๖๑ แน่
ภายใต้อำนาจ ม.๔๔ ประยุทธ์-คสช จะสั่งให้ทำอะไรก็ได้ ไม่เพียงเรื่องเลื่อนกำหนดการทุกอย่างออกไป, ไปจนถึงเรื่องอย่าง สมมุติต่อให้ รธน "ผ่านประชามติ" แล้ว จะออกคำสั่งให้ล้ม ไม่ใช้ก็ได้ หรือ "ผ่านประชามติ" ไปแล้ว ใช้ ม.๔๔ เพิ่มบางมาตรา บางหมวดเข้าไปก็ได้ (เช่น เพิ่มองค์กรอะไรแบบ "กรรมการยุทธ์ศาสตร์" ในร่างบวรศักดิ์ ก็ได้) กระทั่ง มีกำหนดจะเลือกตั้งแล้ว ก็ยกเลิกได้ หรือ .. เลือกตั้งเสร็จ สั่งโมฆะเลือกตั้ง ก็ยังได้ ทั้งหมดนี้จะด้วยข้ออ้างโยงกับเรื่องเปลี่ยนรัชกาลหรือด้วยข้ออ้างอื่นก็ได้ ... พูดง่ายๆคือ ด้วย ม.๔๔ ที่จะยังมีไปอีก ๒ ปีเต็มๆ จะทำอะไรก็ได้
ดังนั้น ทุกๆอย่างที่บอกว่ามี "โร้ดแม็พ" กำหนดไว้แล้วอะไรนี่ เอาเข้าจริง ไม่ค่อยมีความหมายอะไร
ปมเงื่อนที่สำคัญจริงๆ อยู่ที่ ๒ เรื่องนี้ : การสวรรคตของในหลวง/เปลี่ยนรัชกาล และ ม.๔๔

Chaturon Chaisang.....รัฐธรรมนูญเวอร์ชั่น "มีชัย" ผูกเงื่อนวิกฤต ท่อต่อเผด็จการ

Chaturon Chaisang
รัฐธรรมนูญเวอร์ชั่น "มีชัย" ผูกเงื่อนวิกฤต ท่อต่อเผด็จการ




เลวร้ายกว่าที่คิด
เห็นร่างรัฐธรรมนูญเบื้องต้นแล้วพบว่าเนื้อหาที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ก่อนหน้านี้มีอยู่ครบถ้วนและยังมีเนื้อหาส่วนที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อนเพิ่มเติมขึ้นมาอีกทำให้ร่างรัฐธรรมนูญนี้ยิ่งเลวร้ายมากยิ่งขึ้น
ร่างรัฐธรรมนูญนี้ทำให้อำนาจอธิปไตยไม่เป็นของปวงชนชาวไทย แต่อำนาจทั้งหลายอยู่กับองค์กรและกลุ่มบุคคลที่ไม่ได้มาจากประชาชนและไม่มีความเชื่อมโยงกับประชาชนเช่นวุฒิสภา องค์กรอิสระและศาลรัฐธรรมนุญซึ่งประชาชนตรวจสอบไม่ได้ เป็นการทำลายระบบตรวจสอบถ่วงดุลอย่างสิ้นเชิง ภายใต้รัฐธรรมนูญอย่างนี้การเลือกตั้งจะไร้ความหมายคือประชาชนได้ไปเลือก แต่เลือกไม่ได้ รัฐบาลหลังการเลือกตั้งจะบริหารไม่ได้ ตอบสนองความต้องการของประชาชนไม่ได้และถ้าเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งก็จะเป็นรัฐบาลที่อ่อนแอไม่มีเสถียรภาพและอยู่ไม่ได้นาน ร่างนี้เป็นร่างที่สร้างเงื่อนไขและแรงจูงใจให้สังคมก้าวสู่วิกฤตที่จะเอื้ออำนวยให้เกิดการล้มรัฐบาล การขัดขวางการเลือกตั้งทำได้ง่าย เปิดช่องให้เกิดการตีความที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาด้วยวิธีการที่ไม่เป็นประชาธิไตยเช่นการให้มีรัฐบาลคนนอกที่อาจปกครองประเทศเป็นเวลานาน
เมื่อปรากฏว่าตัวรัฐธรรมนูญเองสร้างวิกฤต แต่ก็จะพบว่ารัฐธรรมนูญนี้แก้ไม่ได้แล้ว การแก้ความขัดแย้งจึงเหลือเพียงการฉีกรัฐธรรมนูญเท่านั้น

รัฐธรรมนูญแบบนี้จึงกำลังทำให้ประเทศเดินเข้าสู่วงจรเดิมคือมีเลือกตั้งแล้วก็เกิดการล้มรัฐบาลและฉีกรัฐธรรมนูญโดยความร่วมมือกันของกลุ่มคนที่สามารถกระทำผิดกฎหมายได้โดยไม่มีขีดจำกัดเนื่องจากระบบยุติธรรมล้มเหลวและไม่ได้รับการแก้ไข ร่วมกับกลไกในรัฐธรรรมนูญที่ไม่มีความเชื่อมโยงกับประชาชน
เมื่ออ่านร่างทั้งหมดแล้วจะพบว่าร่างนี้มีเนื้อหาที่เลวร้ายกว่าที่เคยเปิดเผยมาก่อนหน้านี้คือเป็นรัฐธรรมนูญฉ้อฉลที่วางหมากกลไว้อย่างซับซ้อน แต่ละส่วนเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบเพื่อให้แน่ใจว่าอำนาจทั้งหลายจะไม่อยู่ที่ประชาชนเลย เป็นรัฐธรรมนูญที่มุ่งรองรับการปกครองที่เป็นเผด็จการอย่างถาวร แต่แม้ว่าเนื้อหาที่เปิดเผยแล้วในขั้นนี้จะเป็นปัญหาอย่างร้ายแรงแล้วก็ตาม กระบวนการที่จะทำให้เกิดการปกครองที่เป็นเผด็จการอย่างถาวรยังไม่สิ้นสุด ร่างรัฐธรรมนูญนี้ยังได้ปูทางให้กระบวนการนี้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นอีกหลังจากรัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้วทั้งการออกกพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 10 ฉบับ การกำหนดยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปสำคัญๆที่ล้วนแต่จะเกิดขึ้นภายใต้กระบวนการที่ไม่เป็นประชาธิปไตยและประชาชนไม่มีส่วนร่วมใดๆแต่จะมีผลไปอีกยาวนาน
คณะกรรมการร่างยังได้แสดงธาตุแท้ของตนโดยปราศจากความละอายใดๆด้วยการเขียนบทเฉพาะกาลที่อาจกล่าวได้ว่าเลวร้ายยิ่งกว่าตัวร่างเองคือนอกจากจะกำหนดว่าจะเกิดขึ้นอะไรขึ้นอีกเพื่อให้ระบบเผด็จการที่ออกแบบไว้มีความสมบูรณ์แล้วยังรับรองบรรดาประกาศ คำสั่งและการกระทำของคสช.หรือของหัวหน้าคสช.ที่ใช้บังคับอยู่หรือที่จะใช้บังคับต่อไปให้เป็นสิ่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ดังที่ปรากฏในมาตรา 270 มาตรานี้มีความหมายคือเป็นการนิรโทษกรรมให้แก่คสช.ทั้งเรื่องที่ทำมาแล้วและที่จะทำต่อไปซึ่งจะหมายความว่าคสช.และหัวหน้าคสช.จะทำอะไรก็ได้โดยไม่ผิดกฎหมายใดๆทั้งสิ้น เมื่อรวมเข้ากับมาตรา 257 แล้วจะมีความหมายว่าประเทศไทยจะอยู่ภายใต้การปกครองของคสช.ที่อยู่เหนือกฎหมายทั้งปวงรวมทั้งรัฐธรรมนูญเองแม้ในช่วงที่มีการลงประชามติและการเลือกตั้งเรื่อยไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่เข้าปฏิบัติหน้าที่
บทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญนี้กำลังจะยืดเวลาของการที่ประเทศไม่เป็นนิติรัฐและไม่มีหลักนิติธรรมให้ยาวนานออกไป ใครที่หลงเข้าใจว่าเมื่อรัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้วบ้านเมืองจะเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ประชาชนจะมีเสรีภาพมากขึ้นจึงต้องทำความเข้าใจเสียใหม่
ส่วนใครที่หวังว่าเมื่อมีการเลือกตั้งขึ้นแล้วบ้านเมืองจะดีขึ้น วิกฤตจะไม่เกิดขึ้น รัฐบาลจะแก้ปัญหาของประเทศตามที่ประชาชนต้องการ เศรษฐกิจจะดีขึ้นและประชาชนจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นนั้น คงต้องขอเรียนให้ทราบว่าร่างรัฐธรรมนูญนี้จะทำลายความหวังทั้งหลายนั้นอย่างแน่นอน



คลิป อ.ชูพงศ์์ เปลี่ยนระบอบ ประจำวันที่ ๓๑ มค. ๕๙

หลวงตาชูพงศ์ เปลี่ยนระบอบs foto.
ชูพงศ์ เปลี่ยนระบอบ  ....๓๑ มค. ๒๕๕๙
ตอน รัฐธรรมนูญขี้หมูไหล ระวังสัญญาณแห่งการนองเลือดทียากจะหลีกเลี่ยง
คลิกฟัง-http://www.youtube.com/watch?v=ltxmzTf4Rqc
คลิกฟัง-http://www.youtube.com/watch?v=ltxmzTf4Rqc
ดาว์โหลดเพื่อการเผยแพร่ ตอน รัฐ"นูญ" ขี้หมูไหล ระวัง บัลลัยทั้งประเทศ 
http://www.mediafire.com/…/40o2bqyav94…/chupon-2016-1-31.mp3
คลิกดูเพิ่ม-Visa mer

จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ : รัฐธรรมนูญโจร ของโจร เพื่อโจร

 

รายการ "ชี้ผิด ชี้ถูก" ตอนที่ 1 หัวข้อ "รัฐธรรมนูญโจร ของโจร เพื่อโจร"
โดย จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ

31jan2016
คลิกฟัง-
http://bit.ly/1WUgFRT

สภาพปัญหาที่สะท้อนสังคมไทย...ใครรับผิดชอบ???ในการแก้ไขปัญหา

prachachat
(หมายเหตุ-หน้าที่ของ ผู้ปกครอง-โรงเรียน-สถานบันเทิง-เจ้าหน้าที่ตำรวจ )  

lördag 30 januari 2016

Somsak Jeamteerasakul....ย้อนรอยวิกฤติ 10 ปี: นิยายในตำนาน "โรงงานปลากระป๋อง" หรือ “นิยายยายไฮ” (แจก pdf รวมครบทุกตอน)



ย้อนรอยวิกฤติ 10 ปี นิยายในตำนาน "โรงงานปลากระป๋อง" ("นิยายยายไฮ") - พร้อม pdf รวมครบทุกตอน

              

ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์..." คนเฮงซวย"????..ในสายตา คสช.



http://prachatai.org/journal/2016/01/63767

ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ กับชีวิตลี้ภัยในต่างแดน

ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ได้ชื่อว่าเป็นนักวิชาการที่วิจารณ์กองทัพ อย่างเผ็ดร้อน มาตั้งแต่ก่อนรัฐประหาร และวิจารณ์ คสช. เรื่อยมา อาจเป็นเพราะคาแรคเตอร์วิจาณ์แบบตรงไปตรงมา ขี้เล่น และแสบๆ คันๆ ของปวิน จึงทำให้เขาเคยถูก หัวหน้า คสช. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เรียกว่าเป็น “คนเฮงซวย” ครั้งหนึ่ง ระหว่างการถามตอบกับนักข่าว 
 
เขาเป็นนักวิชาการคนแรกๆ ที่ถูกคสช. เรียกไปรายงานตัว แต่เนื่องจากเขาไม่ไป จึงถูกออกหมายจับและถูกยกเลิกหนังสือเดินทาง ต่างจากผู้ลี้ภัยการเมืองคนอื่นที่ต้องหนีระหกระเหินหลบหนีออกนอกประเทศและดิ้นรนหางานทำในประเทศใหม่ ปวินนั้นมีตำแหน่งเป็นรองศาสตราจารย์ที่ศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโตตั้งแต่ปี 2555 ทำให้ชีวิตลี้ภัยของเขาค่อนข้างสบายเมื่อเทียบกับผู้ลี้ภัยคนอื่นๆ ที่ประชาไทเคยสัมภาษณ์มา 
 
ชีวิตลี้ภัยเป็นอย่างไรบ้าง 
 
โดยรวม ยังสามารถใช้ชีวิตได้ปกติ ขอบคุณรัฐบาลญี่ปุ่นที่ให้ความช่วยเหลือในเรื่องสถานะผู้ลี้ภัย และทำให้ผมสามารถเดินทางได้อีกครั้ง การเดินทางเป็นหัวใจสำคัญในการทำหน้าที่นักวิชาการ เพราะงานผมส่วนใหญ่มันอยู่ต่างประเทศทั้งสิ้น ความช่วยเหลือดังกล่าวมีความจำเป็น เพราะหนังสือเดินทางไทยนั้นถูกยกเลิกไปแล้ว 
 
การมีเครือข่ายกับสถาบันต่างประเทศนั้นก็สำคัญ ผมเพิ่งกลับจากสหรัฐอเมริกามา เป็นการไปทำงานวิชาการล้วนๆ ผมก็รู้สึกขอบคุณรัฐบาลญี่ปุ่น 
 
มหาวิทยาลัยเกียวโตที่ผมทำงานมาตั้งแต่ปี 2555 นั้นก็ให้การสนับสนุนค่อนข้างดี ได้รับการยืนยันจากทางมหาลัยว่า ผมจะได้รับการปกป้อง เพราะมหาลัยก็ทราบว่า นี่คือกรณีกลั่นแกล้งทางการเมือง และผมก็เป็นนักวิชาการ ผมควรมีเสรีภาพทางวิชาการในการวิจารณ์ คสช. 
 
ทางรัฐบาลญี่ปุ่นก็ไม่เคยบอกให้ผมหยุดวิจารณ์คสช. หรืออะไรเลย แต่ผมเองก็คำนึงถึงความจำเป็นที่จะวิจารณ์ในกรอบของบทบาทนักวิชาการเท่านั้น
 
คิดว่า เพราะเหตุใดจึงถูก คสช. เรียกไปปรับทัศนคติ และตามมาด้วยหมายจับเพราะไม่ไปรายงานตัว
 
ผมคิดว่า ไม่ได้เกี่ยวกับบทความชิ้นไหนเป็นพิเศษ แต่เป็นการที่ผมวิจารณ์ทหารอย่างต่อเนื่อง สะสมมาเรื่อยๆ นี้ชี้ให้เห็นว่า เขาเพ่งเล็งผมและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับผมมานานแล้ว เขามีรายชื่อผู้ที่ถูกเพ่งเล็งอยู่แล้ว แล้วพอมีรัฐประหารก็ใช้โอกาสนี้มาปิดปากคนเหล่านี้ 
 
มันเป็นสันดานของผมที่ผมเป็นคนตรงไปตรงมา ถ้าใครห้ามผมทำอะไร ผมจะยิ่งทำ เป็นนิสัยส่วนตัว นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพของผม ผมสอนรัฐศาสตร์และสอนการเมืองไทย เราก็ควรวิจารณ์กองทัพและสถาบันกษัตริย์ด้วย ในขณะที่นักวิชาการบางคนอาจจำกัดตัวเองไม่ไปวิจารณ์สองสถาบันนี้เพื่อให้อยู่รอด แต่ถ้าผมไม่ทำ ผมถือเป็นการทรยศวิชาชีพของผม แม้ผมจะรู้ว่า จะมีผลกระทบ ผมก็ต้องทำ และตอนนี้ผมก็มาไกลเกินจะถอยหลังกลับแล้ว 
 
เท่าที่สังเกต คุณยังระวัง ไม่ให้คำวิจารณ์ของคุณเข้าข่ายมาตรา 112 เพราะอะไร? 
 
ผมยังทำในกรอบของนักวิชาการ ก็มีการให้ความเห็นส่วนตัวอยู่บ้าง และไม่ทำมากไปกว่านี้ แต่ผมก็เข้าใจคนที่ไปไกลถึงขั้นเรียกร้องให้มีสาธารณรัฐอย่าง อ.สุดา รังกุพันธ์ ก็เป็นบทบาทของเขา 
 
อย่างไรก็ตาม ในความเห็นของผม ผมยังเห็นความสำคัญของสถาบันกษัตริย์อยู่ แต่สถาบันจะอยู่รอด เมื่อเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย และผมยังมีความหวังในจุดนั้น มันก็ตลก ถ้ามีคนกล่าวหาว่าผมล้มเจ้า คือผมอาจเสนอให้ยกเลิก 112 แต่ก็เป็นไปเพื่อปกป้องสถาบันให้อยู่ยาวนาน ไม่ใช่เพื่อล้มสถาบัน
 
จริงหรือ? หรือว่าคุณเซฟตัวเองเพื่อไม่ให้โดนข้อหา มาตรา 112 ลดเงื่อนไขในการได้กลับประเทศในอนาคต 
 
ไม่ใช่เลยครับ ผมกล้าพูดด้วยสัจจะ การกลับไทยก็สำคัญกับผม แต่ผมก็ทำใจได้ เพราะจริงๆ ผมไม่ได้อยู่ไทยมา 20 ปีแล้ว แม้จะกลับไปบ่อย แต่ก็ไม่ได้อยู่จริงจัง การไกลบ้านของผมเป็นเรื่องชินแล้ว เพราะฉะนั้นผมกล้ายืนยันว่า จุดยืนต่อสถาบันกษัตริย์ของผมไม่ใช่ความพยายามประณีประนอม 
 
มองสถานการณ์เสรีภาพวิชาการไทยว่าอย่างไรบ้าง
 
แย่มากๆ ไม่คิดว่าจะมาถึงจุดตันขนาดนี้ มันเกือบจะเป็นกฎสากล ว่าที่ไหนๆ ก็ต้องให้เสรีภาพทางวิชาการ ไม่งั้นสังคมจะตีบตัน ไม่มีพื้นที่ในการแสดงความคิดเห็น 
 
ตอนวันที่ 24 พ.ค. ที่ผมโดนเรียก ตอนแรกผมยังคิดว่าเป็นเรื่องโจ๊ก ผมยังคิดว่า เขาคงทำอะไรผมไม่ได้เพราะผมมีสถานะเป็นนักวิชาการ แต่กลายเป็นว่า ผมเองที่ซื่อเกินไป ตอนนั้นผมไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริงจังขนาดนี้ แต่ต่อมามีหมายจับ และพาสปอร์ตของผมถูกยกเลิก 
 
คิดว่า คสช.จะปกครองประเทศอีกนานแค่ไหน
 
คิดว่านาน รัฐประหาร 2557 ต่างจากรัฐประหาร 2549 รัฐประหาร 2549 นั้นมุ่งกำจัดทักษิณ ส่วนรัฐประหารครั้งนี้มุ่งเข้ามาจัดการการเปลี่ยนผ่าน ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่า จะลากยาวไปนานแค่ไหน ตอนนี้คสช. กำลังโหนความชอบธรรมของรัชสมัยนี้ และฉวยโอกาสจากสุญญากาศทางการเมือง และความวิตกกังวลที่มีต่อการเปลี่ยนผ่าน เขาก็ต้องลากช่วงนี้ออกไปนานที่สุด แต่ในที่สุดก็ไม่มีอะไรอยู่ถาวร เขาต้องอยู่นานพอสมควรเพื่อให้แน่ใจว่า การเปลียนผ่านจะเป็นไปอย่างราบรื่น กองทัพจะต้องทำให้แน่ใจว่า กองทัพจะยังได้รับผลประโยชน์เช่นเดิม แล้วจึงจะลดบทบาทลงมาได้ 
 
ตอนนี้สิ่งที่กองทัพต้องทำควบคู่กันไปคือการวางโครงสร้างการเมืองใหม่ผ่านการร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้แน่ใจว่า พอลงจากอำนาจไปแล้ว ฝ่ายอำนาจเก่ายังได้ประโยชน์ และต้องสกัดกั้นทักษิณได้ด้วย 
 
รัชกาลที่เก้า เป็นรัชกาลที่เรียกได้ว่า ประสบความสำเร็จเกินคาด (magical, overly successful) แต่พอเรามองไปข้างหน้า แล้วพบโดยเปรียบเทียบว่า อนาคตจะให้ประสบความสำเร็จเท่าเดิมหรือดีกว่าเดิมนั้นคงยาก ก็เกิดเป็นความวิตกกังวล การทำรัฐประหาร ก็คือการเข้ามาจัดการความวิตกกังวลตรงนี้ 
 
อะไรคือจุดตายของ คสช.?
 
ผมคิดว่าจะต้องเป็นแรงกดดันภายใน มากกว่าแรงกดดันจากต่างประเทศ เช่น ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง นี่น่าจะเป็นปัญหาหลักที่นำมาสู่ความตกต่ำของ คสช. คือสังมไทยค่อนข้างไม่ค่อยตื่นตัวทางการเมือง politically passive ถ้าไม่มีไฟลนก้น ก็เฉยๆ ได้ ที่ผ่านมาอาจมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่หลายครั้งซึ่งทำให้มีคนถูกจับ แต่ผมก็ยังไม่เห็นคลื่น หรือกระแสต่อต้านคสช. มันต้องเป็นเรื่องปากท้องนี่แหละ ถึงจะกระทบกับทุกคน ที่อาจทำให้สถานะของ คสช. ง่อนแง่นได้ 
 
มองอนาคตของตัวเองอย่างไร
 
ที่ผ่านมาผมไม่เคยอ้างเลยว่า สิ่งที่ทำ จะขับเคลื่อนว่า จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และผมก็ไม่หวังขนาดนั้นว่าจะขับเคลื่อนประเทศไทยได้ แต่ผมจะทำต่อไป เพราะมันเป็นบทบาทในฐานะนักวิชาการ ผมก็หวังจะได้กลับไทย เพราะครอบครัวผมอยู่่ั่นั่น แต่ถ้าอยู่ไปแล้วต้องไปปิดหูปิดปาก ผมอยู่ข้างนอกแล้วมีเสรีภาพดีกว่า  
 
ผมยังเชื่อว่าสังคมไทยยังมีแสงสว่างทึ่ปลายอุโมงค์ รัชสมัยหน้าอาจเป็นรัชสมัยที่คาดเดาได้ยาก และนำมาสู่ความผันผวน แต่ในความผันผวนนี้ก็อาจมีเรื่องดีก็ได้ (ประชาไทเซ็นเซอร์การวิเคราะห์ต่อไปของปวินเพราะมีความเสี่ยงต่อ มาตรา 112) 

fredag 29 januari 2016

ได้เวลาที่คนในสังคมไทยทุกคนทุกชนชั้นและทุกสถาบันต้องตื่นตัวเหลียวมองดูสังคมรอบข้าง แล้วปรับเปลี่ยนแนวคิดตัวเองให้เหมาะกับยุคสมัย ยอมรับ"ความจริง" ว่าสังคมไทยมีปัญหาที่เกิดจากระบอบการปกครอง ดังนั้นคนในสังคมต้องช่วยกันรับผิดชอบร่วมกัน หาทางแก้ไขนำความถูกต้องยุติธรรมคืนสู่สังคมไทย...ไม่ปล่อยให้สังคมไทยล่มสลาย....






(ปัญหาในพุทธศาสนา????)

มหาเถรสมาคม ยกประกาศคณะสงฆ์ ห้ามภิกษุสามเณรเรียกเงินค่าเวทมนตร์ และห้ามทดลองของขลัง รวมทั้งห้ามเป็นหมอเสน่ห์ยาแฝด อาถรรพ์ ยังพระสังฆาธิการทั่วประเทศแบนพระปลุกเสกตุ๊กตาลูกเทพ ฝืนลงโทษสึก




(ปัญหาเจ้าหน้าที่ส่อทุจริต?????)


(หมายเหตุ-ไทยมีภิกษณีที่ไปบวชมาจากศรีลังกามีฐานใหญ่อยู่นครปฐมพระชาวลังกานี้เคยหายไปจากประเทศศรีลังกาอยู่ระยะหนึ่ง..ต่อมีจึงได้มารับอุปณาจากประเทศไทยไปบวชให้เพื่อสืบต่อศาสนาพุทธ..จนกลายกลับมาเป็นอุปณาที่บวชให้ภิกษุณีไทยในวันนี้ -)



๓ บลา / การ์ตูนเซีย ประเทศนี้เต็มไปด้วยของเทพ...

การ์ตูนเซีย ศุกร์ 29/1/59.... ประเทศนี้เต็มไปด้วยของเทพ...








ประเทศนี้ เข้าขั้น อาการหนัก
ได้ประจักษ์ ชัดเจน เห็นแจ่มแจ๋ว
เหมือนจิตป่วย เต็มที่ ไร้วี่แวว
จะฟื้นแล้ว ทำตน เป็นคนดี....

เต็มไปด้วย ของเทพ ให้เสพติด
พาชีวิต สาละวน จนป่นปี้
พบแต่เรื่อง จมทุกข์ สุขไม่มี
ประเทศนี้ ป่วยไข้ แต่ไร้ยา....

เห่อลูกเทพ ประโคมข่าว มาเล่าเครื่อง
คำคุยเขื่อง วีนเทพสุด มนุษย์ป้า
รธน.เทพ วิตถาร ละลานตา
คำสั่งข้า ม.44 นี่เทพเลย....


จะหันซ้าย แลขวา กลัวไปหมด
ยุคเก็บกด อนิจจา เจ้าข้าเอ๋ย
อยู่อย่างเทพ สุดสยอง ของไม่เคย
ตายละเหวย ป่วยขั้นเทพ เจ็บถึงตาย....

#โปรดสุภาพห้ามพาดพิงบุคคลอื่น
๓ บลา



คลิกดู-การ์ตูนเซีย พฤหัส 28/1/59 ตุ๊กตาลูกเทพ หรือจะสู้ ต...

ขบวนการทำลายชาติ? ขายชาติขายแผ่นดิน .?..ใครรับผิดชอบ?.... บุกตรวจบริษัทยักษ์ใหญ่ ยึดเงินสด 83 ล้านในห้องพักรร.ตรวจสอบ!! สงสัยกว้านซื้อที่

บุกตรวจบริษัทยักษ์ใหญ่ ยึดเงินสด 83 ล้านในห้องพักรร.ตรวจสอบ!! สงสัยกว้านซื้อที่


วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2559 

วันที่ 29 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.ร.5/ผบ.ฉก.ร.5 พร้อมด้วยทหาร กอ.รมน.ภาค 4 สน. เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ส่วนหน้า ตำรวจ สภ.สะเดา เจ้าหน้าที่ที่ดิน และพาณิชย์ จ.สงขลา เข้าตรวจสอบ บริษัท MBI GROUP ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา เป็นบริษัทข้ามชาติที่เข้ามาทำธุรกิจโรงแรม 6 แห่ง รีสอร์ต 2 แห่ง  อพาร์ตเมนต์ 9 แห่ง หมู่บ้านวัฒนธรรมอาเซียน สวนไดโนเสาร์ เมืองคาร์บอย ฟิวเจอร์ปาร์ค ฟาร์มม้า และ สวนแพนด้า เงินลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการเข้าตรวจค้นโรงแรม THE WAI ม.7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา ซึ่งมีส่วนเชื่อมโยงกับ บริษัท MBI GROUP ตรวจยึดเงินไทย เงินริงกิตมาเลเซีย เงินดอลล่าร์ไต้หวัน และ เงินหยวนของจีน รวมประมาณ 83 ล้านบาท ซึ่งเก็บเอาไว้ในกระเป๋าเดินทาง ภายในห้องพักชั้น 4 ห้อง 401
 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ยึดเงินทั้งหมดไว้ตรวจสอบถึงที่มาที่ไปอย่างละเอียด ให้ ปปง. และ DSI ทำการสอบสวน และตรวจสอบเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินทั้งระบบ และการเข้ามาจัดตั้งบริษัทในประเทศไทย อาจจะเชื่อมโยงกับกลุ่มอิทธิพลชายแดนภาคใต้


แหล่งข่าวจาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ได้ติดตามการดำเนินการทางธุรกิจของบริษัทมาระยะหนึ่ง เนื่องจากพบข้อสงสัยในการเข้ามากว้านซื้อที่ดิน และการทำธุรกิจในพื้นที่หลายอย่าง คาดว่าเงินที่มีการยึดไว้ตรวจสอบ อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับนักการเมืองตำแหน่งรัฐมนตรีของประเทศเพื่อนบ้านบางคนด้วย
แหล่งข่าวเผยว่า บริษัท MBI GROUP จดทะเบียนในนามของบริษัทหลายบริษัท มีนายเตียว วุย ฮวด ชาวมาเลเซีย เป็นกรรมการผู้จัดการ มีคนไทยเป็นคณะผู้บริหาร และทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบธุรกิจใน อ.สะเดา











พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันยังไม่มีนโยบายให้ต่างชาติเช่าที่รัฐ ระบุมีเพียงมาตรการของ BOI ที่ส่งเสริมการลงทุนและให้สิทธิประโยชน์ในนิคมอุตสาหกรรมเท่านั้น
คลิกดู-http://prachatai.org/journal/2016/01/63794






อัพเดท เปิดชื่อ ‘กรรมการ’ บริษัทบารอนฯ คู่ขัดแย้ง–ไล่รื้อชุมชน ‘ชาวเลราไวย์’

เปิดชื่อ ‘กรรมการ’ บริษัทบารอนฯ คู่ขัดแย้ง–ไล่รื้อชุมชน ‘ชาวเลราไวย์’




ชาตรี หมาดสตูล ผู้แทนบริษัทบารอนฯ ให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2559 ภายหลังเกิดเหตุชายฉกรรจ์ 100 ราย ปะทะกับชาวเลจนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 10 รายว่า สาเหตุที่นำเครื่องจักรกลมาปิดทางสัญจรไม่ให้บุคคลภายนอกเข้ามาในพื้นที่ เนื่องจากต้องการปรับไถพื้นที่ในการก่อสร้างวิลล่า จำนวน 17 ห้อง บนเนื้อที่ 33 ไร่
อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่สามารถดำเนินการได้สักครั้ง เนื่องจากถูกชาวไทยใหม่ขับไล่
ชาตรี ย้ำว่า บริษัทบารอนฯ มีเอกสารสิทธิถูกต้องตามกฎหมาย และที่ผ่านมาก็ได้ตรวจสอบโฉนดกับสำนักงานที่ดินภูเก็ตมาหลายรอบแล้ว ซึ่งก็ได้รับคำยืนยันว่าเป็นเอกสารสิทธิที่ถูกต้อง
“บริษัทบารอนฯ ได้ขออนุญาตทางจังหวัดในการเข้าปรับพื้นที่ โดยทางจังหวัดก็อนุญาตให้เข้าพื้นที่ได้ ส่วนที่ดินผืนดังกล่าวมีการซื้อขายกันมา 3 ครั้งแล้ว โดยครั้งนี้เป็นของบริษัทบารอนฯ” ชาตรี ระบุ
“สำนักข่าวสิ่งแวดล้อมกรีนนิวส์” ได้ตรวจสอบข้อมูลจากสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า บริษัทบารอนฯ จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2533 ทะเบียนเลขที่ 0105533082564
สำหรับคณะกรรมการ (บอร์ด) ของบริษัทบารอนฯ มีทั้งสิ้น 5 ราย ประกอบด้วย 1.นางสุชาดา ลีสวัสดิ์ตระกูล 2.นายพิชัย โกมลวิทยาธร 3.นายชาลี โสภณพนิช 4.นายวิวัฒน์ สุทธิพงษ์ชัย 5.นางสาวิตรี รมยะรูป โดยมีทุนจดทะเบียน 600 ล้านบาท
บริษัทบารอนฯ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 49 อาคารเอเชียเสริมกิจ ชั้น 8 ซอยพิพัฒน์ (สีลม3) ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร โดยระบุประเภทกิจการว่า “ลงทุนในหลักทรัพย์”
ชื่อของ “ชาลี โสภณพนิช” และ “สุชาดา ลีสวัสดิ์ตระกูล” เคยตกเป็นข่าวเมื่อประมาณต้นปี 2553 ในฐานะ 2 ใน 8 คณะกรรมการบริษัท “จันทบุรีคันทรีคลับ” จำกัด และบริษัท “สวนจันทบุรี” ซึ่งถูกกล่าวหาว่า “บุกรุกป่าสงวน” บนเขาสอยดาว รวมพื้นที่กว่า 482 ไร่ เพื่อสร้างเป็นสนามกอล์ฟสอยดาวไฮแลนด์
ขณะนั้นบริษัทสวนจันทบุรี ครอบครองที่ดินประมาณ 4,010 ไร่เศษ ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว เขตป่าสงวนแห่งชาติเขาสอยดาว เขตป่าไว้ถาวรเขาสอยดาว และได้มีการสร้างลวดหนามล้อมรอบพื้นที่ไว้ทุกด้าน โดยอ้างว่ามีโฉนดที่ดิน จำนวน 5 แปลง ที่ดินที่เตรียมออกโฉนด จำนวน 6 แปลง และที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ
ที่สุดแล้ว อัยการสูงสุดชี้ขาดว่าสนามกอล์ฟสอยดาวไฮแลนด์มีเจตนารุกล้ำเข้ายึดถือครอบครองที่ดิน จึงมีความเห็นให้สั่งฟ้องบริษัท สวนจันทบุรี และให้เพิกถอนเอกสารสิทธิที่ไม่ถูกต้อง
นอกจากบอร์ดบริษัทบารอนฯ แล้ว ปัจจุบัน “ชาลี” ยังดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด และเป็นผู้ถือหุ้นในลำดับที่ 8 ในกิจการสร้างโรงงานอุตสาหกรรม โดยมี “สุชาดา” ซึ่งถือหุ้นในบริษัทเดียวกันนี้ ในลำดับที่ 3
“ชาลี” ยังดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP ซึ่งอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมี “ธนาคารกรุงเทพ” เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และมี “สุชาดา” ถือหุ้นเป็นลำดับที่ 12
“ชาลี โสภณพนิช” เป็นบุตรชายของ นายชาตรี โสภณพนิช ประธานกรรรมการธนาคารกรุงเทพ (BBL) และผู้ถือหุ้นในลำดับที่ 16 สัดส่วน 0.89%
ความเชื่อมโยงข้างต้น นำมาสู่การยื่นหนังสือของ “ชาวเลราไวย์”
เมื่อวันที่ 28 ม.ค.2559 ชาวเลราไวย์ ได้เดินทางไปยังธนาคารกรุงเทพ สาขาภูเก็ต เพื่อยื่นหนังสือถึง “ชาตรี โสภณพนิช” ในฐานะประธานบอร์ด BBL และบิดาของ “ชาลี” ขอความช่วยเหลือให้ประสานบุตรชาย เข้ามาแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในพื้นที่
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
สำนักข่าวสิ่งแวดล้อม Greennews‘


Prachatai
ดีเอสไอชี้ชาวเลราไวย์ ภูเก็ต อยู่ก่อน 100 ปี ระบุกระบวนการออกโฉนด ไม่ชอบด้วยกฎหมาย


Somsak Jeamteerasakul .....หมวดกษัตริย์ในร่าง รธน คสช-มีชัย ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงครับ

Somsak Jeamteerasakul
Somsak Jeamteerasakul

หมวดกษัตริย์ในร่าง รธน คสช-มีชัย ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงครับ (ยกเว้นมาตราเล็กที่เพิ่มเข้ามามาตราหนึ่งที่ไม่มีความสำคัญอะไรนักในเชิงกฎหมาย - แต่มีในเชิงอื่น)
 
ที่จริง เป็นประเด็นเล็กนะ (เพราะมันไม่มีอะไร) แต่ผมไม่อยากให้กลายเป็นเรื่องให้เสียเวลากันเปล่าๆน่ะ คือเห็นมีการส่งข้อความทางไลน์ทำนองว่า รธน นี้ มีความแตกต่างในหมวดกษัตริย์ โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่อง "ราชธิดา" .......
ไม่ใช่นะครับ ร่าง รธน ฉบับนี้ เช่นเดียวกับ รธน ‪#‎ทุกฉบับ‬ ตั้งแต่ รธน รสช 2534 มาถึง รธน "ฉบับประชาชน" 2540 มาถึง รธน รัฐประหาร คมช 2550 (มาถึงฉบับบวรศักดิ์ที่ล้มไปด้วย)
ไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆในส่วนที่เกี่ยวกับหมวดกษัตริย์ครับ เป็นการลอกกันมา (จาก รธน รสช 2534) แบบที่เรียกว่า "คำต่อคำ" (เรื่องเสนอชื่อ "ราชธิดา" ก็เหมือนเดิมทุกอย่างครับ ทุกฉบับที่ว่ามา รวมถึงฉบับนี้)
ที่ส่งๆข้อความทางไลน์ ผมเช็คแล้ว เป็นความเข้าใจผิดกันเอง ดู รธน ฉบับต่างๆ ไม่ละเอียด ดูแบบตกหล่นกันเองครับ


อันที่จริง ฉบับนี้ เป็นครั้งแรก (นับแต่ปี 2534) ที่มีการเพิ่มเข้ามามาตราหนึ่ง แต่มันไม่ได้สำคัญอะไรนัก* คือ เรื่องการปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่ง ให้ว่า ไม่จำเป็นต้องทำต่อกษัตริย์ก็ได้ ให้ทำต่อรัชทายาทหรือผู้แทนพระองค์ที่กษัตริย์มอบหมายก็ได้ (ก็เหมือน รธน "ชั่วคราว" ฉบับนี้ที่มีการมาแก้เข้าไป) และให้ก่อนการปฏิญาณตน ก็สามารถทำงานไปได้พลางๆเลย
* โอเคว่า ไม่สำคัญอะไรในเชิงกฎหมาย แต่ถ้าจะให้วิเคราะห์ในเชิงวิชาการให้กว้างออกไปในปริบททางประวัติศาสตร์ ก็อาจจะบอกว่า อันนี้เป็นการสะท้อนว่า ในหลวงภูมิพลมีความสำคัญน้อยลงๆ (ง่ายๆเลยปัจจุบันคือป่วย จนไม่สามารถทำหน้าที่แบบนี้แล้ว) และในอนาคต - อย่างที่ผมเคยเสนอ - ผมคิดว่า "ชนชั้นนำไทย" ที่ คสช เป็นตัวแทน พยายามจะสร้างระบบที่ผมเรียกว่า monarchy without a monarch คือ "ระบอบกษัตริย์นิยมที่ไม่มีกษัตริย์[ภูมิพล]" และดังนั้น เรื่องการปฏิญาณ ก็อาจจะเรียกว่าเป็นรูปธรรมเล็กๆที่สะท้อนเรื่องนี้ แต่อันนี้ ก็เริ่มมีมาตั้่งแต่ตอนนี้ คือ ใน รธน ชั่วคราวนี้แล้ว อีกหน่อย รัชกาลใหม่ ยังไง พระบรมฯก็ไม่มีทางมีบารมีแบบในหลวง และดังนั้น พวก "ฟังชั่น" เหล่านี้ ก็ไม่ค่อยมีความสำคัญแล้ว หรือพูดอีกอย่าง ไม่สามารถทำให้มีความสำคัญอะไรได้ ไม่เหมือนหลายปีก่อน ตอนในหลวงยังแข็งแรง ที่การเข้าเฝ้า "ปฏิญาณ" เป็นโอกาสหนึ่งที่ในหลวงจะมีพระราชดำรัส ... เช่นอีกไม่กี่เดือน ก็จะครบ 10 ปี พระราชดำรัสที่สำคัญมาก ที่มาจากโอกาสแบบนี้ คือ "พระราชดำรัสตุลาการภิวัฒน์" (25 เมษายน) ซึ่งยังไง จากวันนี้ไปถึงอนาคต ก็ไม่มีทางมีอีกแล้ว (ยกเว้นพระบรมฯจะมีปาฐิหารย์ "แปลงพระองค์" เป็นคนใหม่เลยได้ ซึ่งคงไม่มีหรอก)
เรื่องให้ทำงานไปได้เลยพลางๆ ท้้งๆที่ยังไม่ได้ปฏิญาณต่อกษัตริย์ ก็เป็นเรื่องเดียวกัน คือสะท้อนความสำคัญที่น้อยลงขององค์กษัตริย์.

ขอความร่วมมือคือคำสั่ง?.จากหัวหน้าคณะคสช.ม.44 คนหลากหลายบุคลิก...แล้วภาพไหนคือตัวตนที่แท้จริง? ชี้ทุกแผนงานของรัฐบาลดีเกิน100% แต่ยอมรับสำเร็จไม่ถึง 50%???





อยากรู้จังว่า ใครสั่งมาให้ทำเรื่องน่าอายแบบนี้..... ไทยขอ 'กูเกิล' ลัดขั้นตอน เซ็นเซอร์เนื้อหา ไม่ต้องรอคำสั่งศาล แต่ 'หน้าแตก'

ThaiE - News




คลิก-อยากรู้จังว่า ใครสั่งมาให้ทำเรื่องน่าอายแบบนี้..... ไทยขอ 'กูเกิล' ลัดขั้นตอน เซ็นเซอร์เนื้อหา ไม่ต้องรอคำสั่งศาล แต่ 'หน้าแตก'
คลิก-ไทยขอ 'กูเกิล' ลัดขั้นตอน เซ็นเซอร์เนื้อหา ไม่ต้องรอคำสั่งศาล

ที่มา ประชาไท
Thu, 2016-01-28

กมธ.สื่อ ของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศหารือกูเกิล ขอปิดกั้นเว็บเนื้อหากระทบความมั่นคง แบบไม่ต้องรอคำสั่งศาล พร้อมขอให้นึกถึงความสัมพันธ์อันดีที่ประชาชนมีต่อสหรัฐอเมริกา และความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อกูเกิลฯ ชี้หากมีปัญหาในการประกอบธุรกิจในประเทศไทย ขอให้เสนอรัฐบาลไทยได้ โดย กมธ.พร้อมพิจารณาผลักดันและให้ความช่วยเหลือเต็มที่
28 ม.ค. 2559 วานนี้ เพจเฟซบุ๊ก
กลุ่มพลเมืองต่อต้าน Single Gateway: Thailand Internet Firewall #opsinglegateway เผยแพร่เอกสาร "สรุปผลการประชุมคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ครั้งที่ 11" ซึ่งระบุถึงการพูดคุยระหว่างคณะกรรมาธิการฯ กับตัวแทนจากบริษัท กูเกิล
ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบกับเว็บไซต์ของสภาขับเคลื่อนเพื่อการปฏิรูปประเทศ พบว่ามีเอกสารตรงกัน (
ดูเอกสาร)


เอกสารนี้ จิ๊กจกในห้องประชุม(ห้อง ๒๑๙ อาคาร๒ รัฐสภา) คาบเอามาให้

ช่างไม่อายเลยนะครับ ที่ไปขอให้กูเกิ้ล ทำผิดกฎหมาย(ละเมิดสิทธิ์ของประชาชนผุ้ใช้บริการ)แบบนั้น แล้วโดนทางกูเกิ้ลตอกกลับหน้าหงายว่า ทางกูเกิ้ลยินดีปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายที่นานาชาติปฏิบัติอยู่ คือให้มีคำสั่งศาล มาครับ....
หน้าแตก แหลกละเอียดไหมละครับ ทีนี้........
เรื่องการละเมิดสิทธิ์ เสรีภาพ ของประชาชน นี่เป็นที่เชี่ยวชาญกันเหลือเกินนะครับ แต่ตอนท้ายอ่านดูแล้วรู้สึกเหมือนไปข่มขู่ กูเกิ้ล ยังไงก็ไม่รู้นะ.....
อยากรู้จังว่า ใครสั่งมาให้ทำเรื่องน่าอายแบบนี้.....
ลุงตู่ อีกหรือเปล่า.....

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
บางส่วนของเอกสาร

"....คณะกรรมาธิการฯจึงมีความประสงค์ที่จะให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศไทย และ บริษัท กูเกิลฯ ในการป้องกันหรือสอดส่องการกระทำที่จะไม่ให้เกิดผลกระทบและก่อให้ความเสียหายตามมา โดยขอให้ทางบริษัท กูเกิ้ล ฯ ช่วยถอดเว็บไซด์ที่มีลักษณะดังกล่าว ที่เผยแพร่ผ่านเครือข่าย กูเกิ้ล เช่น ยูทูป เป็นต้น ไม่ให้ออกเผยแพร่ เพื่อสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นต่อไป

....ผู่้แทน บริษัท กูเกิ้ล ฯได้ให้ข้อมูลว่า...บริษัท กูเกิล ฯ มีบริการและนโยบายที่เป็นมาตรฐานเหมือนกันทั่วโลก การถอดถอนหรือป้องกันการเผยแพร่เว็บไซด์ผิดกฎหมายของประเทศใด ประเทศหนึ่งนั้น บริษัท กูเกิลฯ ไม่อาจพิจารณาหรือตัดสินใจเองได้ จำต้องได้รับการร้องขอจากหน่วยงานที่มีอำนาจของประเทศนั้นและมีขั้นตอน กระบวนการอันเป็นที่ยอมรับได้ในระดับสากล นั้นคือการขอให้ศาลมีคำสั่งระงับ ยับยั้งการเผยแพร่เว็บไซด์ดังกล่าว ซึ่งทางกูเกิลฯ ได้ถือปฏิบัติเป็นมาตรฐานเดียวกันในทุกประเทศทั่วโลก...."

".....ในท้ายที่สุด คณะกรรมาธการได้ขอให้ กูเกิลฯ คำนึงถึงความสัมพันธ์อันดีที่ประชาชนมีต่อประเทศสหรัฐอเมริกา และความรู่้สึกดีที่มีต่อ กูเกิลฯ นำไปเป็นข้อพิจารณาด้วย พร้อมกันนี้หากมีปัญหาหรือความกังวลใดๆในการประกอบธุรกิจของ กูเกิลฯ ในประเทศไทย และอยากให้ช่วยเหลือ ขอให้เสนอทางรัฐบาลไทยได้และทางคณะกรรมาธิการพร้อมพิจารณาผลักดันและให้ความช่วยเหลือเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่....."

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
หมายเหตุ : สามารถขยายอ่านได้เองนะครับ.....
คลิกอ่านต่อทั้งหมด-ไทยขอ 'กูเกิล' ลัดขั้นตอน เซ็นเซอร์เนื้อหา ไม่ต้องรอคำสั่งศาล

"บิ๊กตู่" เตือน คิดแต่เรื่องประชาธิปไตย ประเทศจะถอยหลังไปเรื่อยๆ ????

matichononline
http://www.matichon.co.th/news/18474

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 มกราคม ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1 เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเปิดงาน”อาชีวศึกษาทวิภาคีไทย” พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง”อาชีวศึกษา ฝีมือชนคนสร้างชาติ” ที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวะศึกษา (สอศ.) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-30 มกราคม 2559 โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวตอนหนึ่งว่าการสร้างคนต้องสร้างการเรียนรู้การใช้สมอง ที่ไม่ใช่สมองที่คิดแต่เรื่องความขัดแย้งการละเมิดสิทธิมนุษยชนการละเมิดกฎหมาย คิดแต่ประชาธิปไตย เพราะถ้ายังติดกับเรื่องเหล่านี้ ประเทศจะเดินหน้าไม่ได้ถอยหลังไปเรื่อย ทั้งนี้ช่วงที่ตนอยู่จะต้องสร้างอาชีพสร้างรายได้ ประหยัด อดออมโดยนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้และศึกษาให้ลึกซึ้งนี้คือกระบวนการประชาธิปไตยที่ท่านสร้างมาทั้งเรื่องความมั่นคงการพัฒนาและการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า นอกจากความสามารถเฉพาะตัว เราต้องฝึกคนมีความชำนาญอย่างลึกซึ้งทั้งระบบเพื่อพัฒนาไปเป็นผู้บริหารสำหรับคนที่เอาทุนรัฐไปต้องมีการติดตาม อยู่ตรงไหน มีการพัฒนาหรือไม่ ถ้ายังไม่พัฒนาก็ให้ไปเพิ่มมา ซึ่งการสร้างการเรียนรู้ต้องเริ่มจากคนที่ไม่รู้อะไรเลยอย่างภาษาอังกฤษต้องเริ่มจากภาษาอังกฤษเพื่อประชาชนให้พูดที่จะต้องใช้ในชีวิตประจำวันได้ วันนี้ที่คุยกับต่างประเทศทุกวัน ทั้งที่มีคนพูดว่าไม่มีใครคบเราโดยตนศึกษาประวัติศาสตร์ของเขาทั้งหมดมีการเปลี่ยนผ่านอย่างไร ดังนั้นเขาก็ต้องเข้าใจประวัติศาสตร์ของเราด้วยตนไม่ฝืนประชาธิปไตยอะไรทั้งสิ้น แต่ต้องให้เวลาเราเดินหน้าด้วย
นายกฯ กล่าวว่าทั้งหมดที่พูดไปต้องไปกำหนดเป็นโรดแม็ปไปกำหนดจัดทำงบประมาณที่ต้องบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นด้วยซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังจัดทำงบประมาณใหม่หมดทั้งงบฯโครงการก่อสร้างพื้นฐาน งบฯประจำงบฯเร่งด่วนที่เกี่ยวกับการแก้ปัญหาวันนี้รัฐบาลทำไปเป็นพันเรื่องแต่จะเป็นรูปธรรมหรือไม่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันอย่าท้อแท้ซึ่งเรื่องของความคิดไม่มีวันแก่ต้องดูแลกันในวันข้างหน้าไม่ใช่อยากได้ทุกอย่างแต่ไม่ร่วมมือ ที่ขอมาทุกเรื่องต้องดูด้วยว่ารัฐบาลมีเงินไหมพอรัฐบาลจะคุยเรื่องภาษีก็ไม่เอา แต่เวลาลดราคาก็มากันใหญ่อย่างนี้มันไปกันไม่ได้เมื่อเก็บภาษีไม่ได้ผู้ประกอบการก็แย่ที่บอกรายได้การส่งออกลดลงในรอบ 10 ปีแล้วเคยไปดูไหมว่ารอบบ้านการส่งออกลดลงด้วยหรือไม่ซึ่งไม่เคยดูต้องไปสอนคนให้เข้าใจว่าตอนนี้ประชาคมโลกเป็นอย่างไร ไม่อย่างนั้นตนก็โดนด่าทุกวันบิ๊กตู่" เตือน คิดแต่เรื่องประชาธิปไตย ประเทศจะถอยหลังไปเรื่อยๆ - มติชนออนไลน์



(หมายเหตุ-พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นทหารอาชีพ  เกิดมาในครอบครัวทหาร  เป็นทหารเสือราชินีทหารพระราชารับใช้วัง  อีกทั้งภรรยาก็ร่วมทำงานรับใช้วัง  ชั่วชีวิตของพลเอกประยุทธ์มีหน้าที่วนเวียนรับใช้อยู่ใต้คำสั่งของอำมาตย์เผด็จการ ไม่เคยมีอิสรภาพเสรีภาพมีความคิดเป็นของตนเองไม่เข้าใจว่า"ระบอบประชาธิปไตย"คืออะไร?ชั่วชีวิตตกอยู่ในวังวนของสังคมปิดหูปิดตาแบบเผด็จการ  ดูได้จากคำพูดที่ออกมาเตือนประชาชน".คิดแต่เรื่องประชาธิปไตย ประเทศจะถอยหลังไปเรื่อยๆ ."จนลืมยุคลืมสมัยว่าปัจจุบันคือยุคไฮเทคโลกไร้พรหมแดน  ประชาชนไทยก้าวล่วงหน้าไปไกลถึงไหนแล้ว..)


ประชาธิปไตย

นับแต่(คลิกดู)สงครามโลกครั้งที่สองยุติ ทั่วโลกตื่นตัวกับระบอบประชาธิปไตย แผนที่ดังกล่าวแสดงให้เห็นรัฐที่มองว่าตนปกครองระบอบประชาธิปไตย แผนที่เมื่อ ค.ศ. 2012
  รัฐที่มองว่าตนปกครองระบอบประชาธิปไตย
  รัฐที่มิได้มองว่าตนปกครองระบอบประชาธิปไตย ได้แก่ วาติกัน








ประชาธิปไตยเป็นระบอบการปกครองแบบหนึ่งซึ่งการบริหารอำนาจรัฐมาจากเสียงข้างมากของพลเมือง ผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย โดยพลเมืองอาจใช้อำนาจของตนด้วยตนเองหรือผ่านผู้แทนที่เลือกไปใช้อำนาจแทนก็ได้ ประชาธิปไตยยังเป็นอุดมคติที่ว่าพลเมืองทุกคนในชาติร่วมกันพิจารณากฎหมายและการปฏิบัติของรัฐ และกำหนดให้พลเมืองทุกคนมีโอกาสแสดงความยินยอมและเจตนาของตนเท่าเทียมกัน
ประชาธิปไตยเกิดขึ้นในบางนครรัฐกรีกโบราณช่วงศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเอเธนส์หลังการก่อการกำเริบเมื่อ 508 ปีก่อนคริสตกาลประชาธิปไตยแบบนี้เรียกว่า ประชาธิปไตยทางตรง ซึ่งพลเมืองเกี่ยวข้องในกระบวนการทางการเมืองโดยตรง แต่ประชาธิปไตยในปัจจุบันเป็นประชาธิปไตยแบบมีผู้แทน โดยสาธารณะออกเสียงในการเลือกตั้งและเลือกนักการเมืองเป็นผู้แทนตนในรัฐสภา จากนั้น สมาชิกสภาจะเป็นผู้ตัดสินใจด้วยเสียงข้างมาก ประชาธิปไตยทางตรงยังมีอยู่ในระดับท้องถิ่นหลายประเทศ เช่น การเลือกตั้งสมาชิกเทศบาล อย่างไรก็ดี ในระดับชาติ ความเป็นประชาธิปไตยทางตรงมีเพียงการลงประชามติ การริเริ่มออกกฎหมายและการถอดถอนผู้ได้รับเลือกตั้ง
แม้ในปัจจุบัน ประชาธิปไตยจะยังไม่มีนิยามที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วกันก็ตาม แต่มีการระบุว่าความเสมอภาคและอิสรภาพเป็นคุณลักษณะสำคัญของประชาธิปไตยนับแต่โบราณกาล หลักการดังกล่าวสะท้อนออกมาผ่านความเสมอภาคทางกฎหมายของพลเมืองทุกคน และสิทธิเข้าถึงกระบวนการทางกฎหมายโดยเท่าเทียม ตัวอย่างเช่น ในประชาธิปไตยแบบมีผู้แทน ทุกเสียงมีน้ำหนักเท่ากันทั้งสิ้น และไม่มีการจำกัดอย่างไร้เหตุผลใช้บังคับกับทุกคนที่ปรารถนาเป็นผู้แทน ส่วนอิสรภาพได้มาจากสิทธิและเสรีภาพตามที่กฎหมายบัญญัติ ซึ่งโดยทั่วไปได้รับการคุ้มครองโดยรัฐธรรมนูญ
ประชาธิปไตยถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการในกรีซโบราณ แต่วิธีปฏิบัติแบบประชาธิปไตยปรากฏในสังคมอยู่ก่อนแล้ว รวมทั้งเมโสโปเตเมีย ฟินีเซียและอินเดีย วัฒนธรรมอื่นหลังกรีซได้มีส่วนสำคัญต่อวิวัฒนาการของประชาธิปไตย เช่น โรมันโบราณ ยุโรปและอเมริกาเหนือและใต้ มโนทัศน์ประชาธิปไตยแบบมีผู้แทนเกิดขึ้นส่วนใหญ่จากแนวคิดและสถาบันซึ่งได้ถูกพัฒนาระหว่างยุคกลางของยุโรปและยุคภูมิธรรมในการปฏิวัติอเมริกาและการปฏิวัติฝรั่งเศส
ประชาธิปไตยถูกเรียกว่า "ระบอบการปกครองสุดท้าย" และแพร่หลายอย่างมากไปทั่วโลก สิทธิในการออกเสียงลงมติในหลายประเทศได้ขยายวงกว้างขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปจากกลุ่มค่อนข้างแคบ (เช่น ชายมั่งมีในกลุ่มชาติพันธุ์หนึ่ง ๆ) โดยนิวซีแลนด์เป็นชาติแรกที่ให้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งทั่วไปแก่พลเมืองทุกคนใน ค.ศ. 1893 ประชาธิปไตยมักถูกเข้าใจสับสนกับระบอบการปกครองแบบสาธารณรัฐ ในบางนิยาม "สาธารณรัฐ" เป็นประชาธิปไตยรูปแบบหนึ่ง แต่นิยามอื่นทำให้ "สาธารณรัฐ" เป็นคำที่มีความหมายต่างหาก ไม่เกี่ยวข้องกัน อย่างไรก็ดี แม้การดำเนินการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยแม้จะได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน แต่ต้องเผชิญกับปัญหาหลายประการที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน อย่างเช่น ข้อพิพาทเกี่ยวกับดินแดน การอพยพเข้าเมือง และการกีดกันกลุ่มประชากรบางชาติพันธุ์ เป็นต้น
องค์การสหประชาชาติได้ประกาศกำหนดให้วันที่ 15 กันยายน ของทุกปี เป็นวันประชาธิปไตยสากล




(หมายเหตุ-ฝากให้คณะคสช.รวมทั้งเครือข่ายพวกอำมาตย์เผด็จการทรราชราชาธิปไตยผู้เกลียดและกลัวระบอบประชาธิปไตยได้อ่านศึกษาเรียนรู้ให้เข้าใจ"ระบอบประชาธิปไตย" เพื่อปรับตัวปรับใจปรับเปลี่ยนแนวความคิดให้ทันยุคทันสมัยสามารถอยู่ร่วมกับคนในสังคมได้  โดยเลิกยึดติดกับการใช้ชีวิตแบบเก่าที่โบราณล้าหลังคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของประเทศไทยมีอภิสิทธิ์อยู่เหนือกฎหมายใครแตะต้องไม่ได้ ....สำหรับผู้ที่สนใจสามารถคลิกอ่าน"เพิ่มเเติม"ติดตามรายละเอียดแต่ละหัวข้อได้ที่ตัวอักษรสีเขียวในบทความ)