måndag 14 januari 2019

updated.."พระบรม" เป็นกษัตริย์แล้ว คุมทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์นับแสนล้านบาท ไม่ต้องพึ่งเงินทักษิณในการสนับสนุนไลฟ์สไตล์ของพระองค์แล้ว...


"พระบรม" เป็นกษัตริย์แล้ว คุมทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์นับแสนล้านบาท ไม่ต้องพึ่งเงินทักษิณในการสนับสนุนไลฟ์สไตล์ของพระองค์แล้ว : อนุสนธิกรณี จุมพล มั่นหมาย "ดวงตก"

(คำอธิบายว่า ทำไมผมจึงใช้ภาพประกอบที่เห็น อยู่ตอนท้ายกระทู้)
ป่านนี้ ทุกคนคงรู้แล้วว่า วันนี้ สตช.ได้ออกมา "ยืนยัน" เรื่องจะดำเนินคดีกับจุมพล มั่นหมาย สื่อทุกฉบับก็ได้ลงข่าวนี้แล้ว อันที่จริง ถ้าอ่านละเอียด จะเห็นว่า ที่ว่า สตช.ออกมา "ยืนยัน" หรือ "ชี้แจง" นั้น แท้จริง ไม่ใช่การแถลงข่าวอะไร เนื้อหาที่ลงๆกันทุกฉบับวันนี้ ก็คือตัวคำร้องเรียน ที่มีการเผยแพร่ทางไทยรัฐตั้งแต่วันแรกนั่นแหละ ("ข่าว"ออกมาเหมือนกันทุกฉบับ คือลอกคำร้องเรียนนั้นมา) สะท้อนว่า ตั้งแต่วันแรก เรื่องนี้ไม่ใช่การ "หลุด" โดยบังเอิญ คือมีการปล่อยเอกสารนี้มาให้ นสพ. (อันที่จริง ผมรู้ตั้งแต่วันแรกว่า มีฉบับอื่นได้รับเหมือนกัน แต่เขาไม่กล้าลง) ปัญหาคือหลายวันที่ผ่านมา นสพ.ต่างๆไม่แน่ใจว่า จะลงได้ไหม ขืนสุ่มสี่สุ่มห้าลงไป แล้วเกิดทางวังไม่พอใจขึ้นมาจะยุ่ง ก็เลยไม่กล้า (หรือกรณีไทยรัฐลงแล้ว ก็เลยลบ ไทยรัฐตอนแรกอาจจะคิดว่าลงได้ แล้วลังเลขึ้นมา)
การ "แถลงข่าว" ของ สตช.วันนี้ ก็คือบอกว่า "เฮ้ย พวกคุณ ลงข่าวไปได้เลย คำร้องเรียนที่ได้กันน่ะ" นั่นคือ สตช. "ไฟเขียว" นสพ. ว่า ลงข่าว(คำร้องเรียน)นั้นได้
ที่ สตช.ออกมา "ไฟเขียว" นสพ. เช่นนี้ แน่นอนล้านเปอร์เซนต์ว่า ต้องได้ "ไฟเขียว" จากวัง คือจากกษัตริย์ใหม่แล้ว ไม่งั้น สตช.ไม่กล้าออกมา "ไฟเขียว" นสพ. หรอก
ตอนนี้ ปัญหาอยู่แค่ว่า กษัตริย์ใหม่จะเอายังไงกับจุมพลต่อไป คือจะเขี่ยออกจากตำแหน่งเลยและอาจจะถึงขั้นให้ สตช.ดำเนินคดีลงโทษด้วย (เหมือนพวกพงษ์พัฒน์ หมอหยอง) หรืออาจจะแค่ให้ออกจากตำแหน่ง แต่ไม่สั่งให้ตำรวจดำเนินคดีต่อ หรือว่า อาจจะแค่ "สั่งสอน" คือแค่ไฟเขียวให้ข่าวไม่ดีเกี่ยวกับเขาออกมาแค่นี้ แล้วสั่งให้เรื่องเงียบ จุมพล "สำนึกผิด" ยอมให้อยู่ต่อ ฯลฯ คือความเป็นไปได้ต่างๆนี้ ยังมีอยู่ อย่างที่เคยพูดหลายครั้ง กษัตริย์ใหม่ unpredictable ทำอะไรตามพระใจชอบอยู่ ถึงเวลาอาจจะ "ให้อภัย" หยุดแค่นี้ ไม่ลงโทษอะไรก็ได้ (ใครตามเฟซบุ๊คผมประจำ คงเคยเห็นกรณีที่ข้าราชการในวังของพระองค์บางคนถูกไล่ออก ถอดยศ แล้วคืนให้ก็มี)
............
ถ้าตามข้อมูลวิกิลีกส์ที่ผมโพสต์ให้ดูเป็นความจริง (goo.gl/62ncHD) คือความสัมพันธ์หรือความสำคัญของจุมพลกับพระบรมในอดีต (ถึงขั้นพระบรมฯเคยพยายามดันให้เป็นผู้บัญชาการตำรวจ) คือการที่จุมพล เป็น "คนขนกระเป๋า(เงิน)" [bag man] คอยเอาเงินที่ทักษิณให้พระบรมมาส่ง (เรื่องที่ทักษิณให้เงินพระบรม เป็นอะไรที่่เรียกว่าแน่นอน ปัญหาว่า ทักษิณเอาเงินจากไหน เงินตัวเองหรือเงินจากกองทุนหวยบนดินตามที่วิกิลีกส์บอก เป็นอะไรที่เช็คไม่ได้ แต่ให้น่ะ ให้แน่)
พูดง่ายๆว่า ในอดีต พระบรมมีเหตุที่จะทรง "โปรดปราน" หรือไว้ใจจุมพล (และโดยความสัมพันธ์เช่นนี้ ก็มีเหตุที่อย่างน้อยต้อง"เกรงใจ"หรือ"พึ่งพิง"ทักษิณในบางระดับ)
แต่ตอนนี้ พระบรมเป็นกษัตริย์ คุมเงินสำนักงานทรัพย์สินฯมูลค่าเป็นแสนล้านบาท และตามกฎหมายทรัพย์สินฯ ให้อำนาจที่จะสั่งหรือเซ็นให้เอารายได้ไปใช้ยังไงก็ได้ "ตามพระราชอัธยาศัยไม่ว่าในกรณีใดๆ" (มาตรา ๖ พรบ.ทรัพย์สินฯ) คือใช้ยังไงก็ได้ตามใจชอบ ความที่ต้องพึ่งทักษิณอยู่บ้าง เพื่อสนับสนุนไลฟ์สไตล์ของพระองค์ และเป็นเหตุให้โปรดหรือไว้ใจจุมพล ก็ไม่มีแล้ว (ควรอธิบายเพิ่มนิด รายจ่ายสนับสนุนไลฟ์สไตล์พระบรมฯ-กษัตริย์ใหม่ อย่างกรณีที่เยอรมันน่ะ ส่วนสำคัญส่วนหนึ่ง เขียนเข้าไปในงบประมาณกลางของรัฐ เช่นงบประมาณเงินอุดหนุนเรื่อง "ดูแลวัง" และอีกสารพัด แต่ว่า ยังไงส่วนนี้ ก็มี "ข้อจำกัด" ในระดับหนึ่ง การที่ทักษิณช่วยเงินพระบรมฯ ก็เพราะเงินตามงบประมาณยังไม่พอ เพราะไลฟ์สไตล์แบบพระองค์มันแพงมากน่ะ)
ตอนนี้ ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ถ้าพระบรมฯจะสั่งให้โอนรายได้ส่วนหนึ่งของสำนักงานทรัพย์สินฯ เข้ามาเป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนไลฟ์สไตล์ของพระองค์ เพราะกฎหมายทรัพย์สินฯให้ทำได้เต็มที่อยู่แล้ว (มาตรา ๖ ที่เพิ่งยกให้ดู)
ผมยังจำได้ว่า สมัยที่ผมเริ่มพูดเรื่องปัญหา พรบ.ทรัพย์สินฯใหม่ๆ แล้วคนรักเจ้าบางคนมาเถียง มาด่าผม คนเหล่านี้ ดูก็รู้ว่า ที่ "รักเจ้า" ความจริงคือรักในหลวงภูมิพล แต่ไม่ได้ปลื้มอะไรกับพระบรมฯหรอก บางคนถามผมประมาณว่า "ทำไมต้องมาวิจารณ์เจ้าตอนนี้" (นัยยะคือ รอให้ในหลวงภูมิพลไม่อยู่ ไม่ได้หรือ) ผมยังเคยพูดแบบกึ่งขำกึ่งจริงว่า ความจริง พวกคุณควรสนับสนุนข้อเสนอเรื่องแก้ไข พรบ.ทรัพย์สินฯของผมตั้งแต่ตอนนี้(คือตอนนั้น)เลย เพราะเกิดในหลวงภูมิพลไม่อยู่ขึ้นมา การควบคุมทรัพย์สินมหาศาลนี้จะตกในมือพระบรม ถึงตอนนั้น จะแก้ก็ไม่ได้แล้ว
...............
ภาพประกอบกระทู้ หลายคนน่าจะจำได้ เป็นเอกสารที่ในหลวงภูมิพลเซ็นชื่ออนุมัติให้เอาเงิน ๒๐๐ ล้านบาท ให้คุณศรีรัศมิ์ (เป็นค่าทำขวัญการหย่า) ตอนนั้นในหลวงภูมิพลเรียกว่าป่วยมากแล้ว ลายเซ็นแสดงความอ่อนพลกำลังมาก (ผมเคยเปรียบเทียบกับลายเซ็นปกติของพระองค์ให้ดู)
เอกสารอีกฉบับที่คู่กัน คือ คำชี้แจงหรือขอร้องของ รมต.คลัง ว่าสื่ออย่าไปลงข่าวเรื่องนี้
ขอให้สังเกตว่า ในหนังสือลายเซ็นในหลวง ที่มีถึง รมต.คลัง ในฐานะ "ประธานบอร์ด" สำนักงานทรัพย์สินฯนั้น เป็นเพียงการแจ้งให้ทราบ คือ รมต.คลังไม่ได้มีอำนาจใดๆในการตัดสินเรื่องจะใช้จ่ายเงินทรัพย์สินฯเลย ตามกฎหมายก็เป็นแบบนั้นมาตลอด ดังที่ผมพูดแล้วพูดอีก (แต่คนรักเจ้าและรัฐไทย ก็พยายามแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ประมาณว่า "สนง.ทรัพย์สินฯ 'ขึ้นกับ' หรือ 'อยู่ในการดูแล' ของ กท.การคลัง" นี่เป็นเรื่องโกหกล้วนๆ)
ยิ่งถ้าดูคำชี้แจงของ รมต.คลัง จะเห็นว่า เขียนไว้ชัดว่า ครั้งนั้นเป็นเรื่องพระบรมฯขอเงินจำนวนนี้ ("ได้ดำเนินการตามที่สมเด็จพระบรมฯ...มีพระราชประสงค์ขอรับเงิน...") คือไม่มีแม้แต่เอ่ยชื่อในหลวงเลยด้วยซ้ำ
แต่สมัยนั้น อย่างน้อยพระบรมฯยังต้องขอลายเซ็นในหลวงอยู่ ตอนนี้ ทรงเซ็นเอง อนุมัติการใช้จ่ายเงินใดๆของสำนักงานทรัพย์สินฯได้ "ตามพระราชอัธยาศัยไม่ว่าในกรณีใดๆ" แล้ว และเป็นผู้เดียวที่มีอำนาจเช่นนี้* คือต่อให้เซ็นให้โอนไปใช้ในเรื่องไลฟ์สไตล์ส่วนตัวใดๆ ก็ "ไม่ผิดกฎหมาย" และ(เช่นที่เป็นมาแต่ไหนแต่ไร)ไม่มีใครสามารถตรวจสอบใดๆได้ (อันที่จริง กรณีเงิน ๒๐๐ ล้าน สำหรับ "ทำขวัญหย่า" ก็เรื่องส่วนตัวนั่นแหละ)
...................
* ตามมาตรา ๖ "รายได้[ของทรัพย์สินฯ] จะจำหน่ายใช้สอยได้ก็แต่โดยพระมหากษัตริย์ตามพระราชอัธยาศัยไม่ว่าในกรณีใดๆ" หลังจากนั้น มีข้อความให้อำนาจ "คณะผู้สำเร็จฯ" ใช้สอยเหมือนกัน แต่จำกัดเฉพาะกรณี พูดง่ายๆคือมีแต่กษัตริย์เท่านั้น ที่จะเอาเงินทรัพย์สินไปใช้ทำอะไรก็ได้ ("ไม่ว่าในกรณีใดๆตามพระราชอัธยาศัย" - คือตามใจชอบ) ผู้สำเร็จฯถ้ามี (ซึ่ง รธน.ที่กษัตริย์ให้แก้ใหม่ ก็ไม่จำเป็นต้องมี) จะใช้ก็ในกรณีจำกัด




มีเรื่องการเมืองเรื่องหนึ่ง ที่ทั้งเหลือง-แดงเห็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ #ไม่มี ความรักเคารพกษัตริย์ใหม่ ทั้งคู่ (ฮา) goo.gl/4XF9BS

มีเรื่องการเมืองเรื่องหนึ่ง ที่ทั้งเหลือง-แดง เห็นไปในทิศทางเดียวกัน
หลายวันนี้ (จริงๆสังเกตมาเป็นเดือนแล้วล่ะ) ผมมานึกๆดู ด้วยความขำๆเหมือนกัน
คือทุกวันนี้ ทุกคนรู้ว่า เรื่องการเมืองเรียกว่าทุกเรื่อง หาความเห็นตรงกันหรือไปในทิศทางเดียวกันในหมู่คนสนใจการเมือง เหลือง กับ แดง ไม่ได้
แต่ผมว่า มีเรื่องนึงที่ไปในทิศทางเดียวกันนะ แน่นอน ไม่ใช่ตรงกันร้อยเปอร์เซนต์ (หรือไม่ใช่ไม่มีข้อยกเว้นในแต่ละกลุ่มเอง ที่มีคนเห็นต่างออกไปบ้าง)
คือความรู้สึกต่อกษัตริย์ใหม่
ผมว่า ไม่ว่าเหลืองหรือแดง หาความรัก-เคารพกษัตริย์ใหม่ไม่ได้
ในหมู่เหลือง แน่นอน เรายังเห็น "ทรงพระเจริญๆๆ" ตามสื่อโซเชียลต่างๆ
แต่เท่าที่ผมสังเกตนะ ผมว่า มันเบาบางผิวเผิน "ใจ" จริงๆ มันไม่มี ความรู้สึกแบบรักเคารพจริงๆ ไม่มี และหลายเดือนนี้ ผมสังเกต ยังไม่เห็นคนที่เรียกว่าเซเลปหน่อยในหมู่เหลือง ไม่ว่าจะดารา นักเขียน ไปถึงวงการอื่นๆ จะมีการแสดงออกในลักษณะรักเคารพกษัตริย์ใหม่อย่างจริงๆจังๆเลย
ในหมู่แดง มีช่วงสั้นๆช่วงหนึ่ง ตอนเปลี่ยนรัชกาลใหม่ๆ ที่มีกระแส "อวย" กษัตริย์ใหม่กันขึ้นมา หรือแม้แต่ตอนนี้ก็ยังพอมีบ้างเป็นคนๆ แต่ผมว่า ไม่กี่เดือนนี้ มันเบาบางไปจนแทบไม่เหลือแล้วกระแสที่ว่านี้
แล้วเอาเข้าจริง แต่ต้นเลย กระแสอวยกษัตริย์ใหม่ในหมู่แดง เป็นเรื่องเชิงการเมืองมากกว่าความรู้สึกรักเคารพจริงๆ คือหวังผลในทางการเมืองว่ากษัตริย์ใหม่จะช่วยแดง เช่น ช่วยทักษิณ ช่วยล้มรัฐะรรมนูญ คสช ไปถึงช่วยตั้งสมเด็จช่วง ซึ่งหลังจากผ่านเวลาไปไม่กี่เดือน ก็เห็นว่า เป็นความหวังลมๆแล้งๆ คือการ "เชียร์" กษัตริย์ใหม่จากฐานการคาดหวังว่ากษัตริย์ใหม่จะทำเรื่องการเมืองเข้าข้างแดง พอไม่มีวี่แววจะเกิดในหลายเดือนนี้ กระแสเชียร์มันก็ค่อยๆหายไปเอง เพราะมันไม่ได้มาจากความรู้สึกรักเคารพอะไรแต่ต้น
(ตอนที่กษัตริย์ใหม่ไม่ตั้งสมเด็จช่วง ในหมู่เหลือง ในการสังเกตของผม มีอารมณ์ประเภท "โล่งใจ" มากกว่าจะเป็นเรื่องเชียร์หรือเกิดการรักเคารพจริงๆ)
สรุปแล้ว ผมว่า "ตลก" ดีเหมือนกันว่า กษัตริย์ใหม่เป็น "ศูนย์รวมเอกภาพทางจิตใจ" ระหว่างสีการเมืองที่ขัดแย้งกัน อย่างที่ไม่มีเรื่องไหนๆเป็น
คือเป็นที่ #ไม่ รักและเคารพ จากทั้งสองฝ่าย (ฮา)

23 Aug 2018 

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar