๑ ก.ค.๕๗ อัพเดทติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของ "องค์กรเสรีไทย "

แถลงการณ์ฉบับที่ 1, องค์กรเสรีไทย, 24 มิถุนายน 2557
(คลิปเสียง) http://www.mediafire.com/listen/t21z85d6nsmbpfd/แถลงการณ์ฉบับที่_1,_องค์กรเสรีไทย,_24_มิถุนายน_2557.mp3
(คลิปวีดีโอ) http://www.mediafire.com/watch/138waf2o8bdmugn/แถลงการณ์ฉบับที่_1,_องค์กรเสรีไทย,_24_มิถุนายน_2557.mp4

สารจากเลขาธิการองค์กรเสรีไทย


สวัสดี เพื่อนชาวไทยผู้มีเสรีภาพและความเป็นไทในจิตวิญญาณทุกท่าน

อาวุธที่ดีที่สุดของประชาชนมือเปล่าในห้วงเวลาของการกดขี่โดยคณะเผด็จการ ทหารยามนี้ คือ “ความจริงใจ ความรัก ในความยุติธรรม รักศักดิ์ศรีความเป็นคน ของคนไทยทุกคน”

นับแต่เกิดการรัฐประหาร คณะเผด็จการทหารพยายามสร้างเรื่องเท็จหลอกลวงจำนวนนับไม่ถ้วน เพื่อทำลายความเชื่อมั่นในเสรีภาพและประชาธิปไตยของเพื่อนชาวไทยที่ลุกขึ้น มาต่อสู้นับแต่วันแรก และล่าสุดนายจักรภพ เพ็ญแข สมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งองค์การเสรีไทย ได้โดนศาลทหารออกหมายจับด้วยการยัดเยียดข้อหามีอาวุธสงคราม ทั้งที่ไม่มีหลักฐานประกอบใดๆ วิธีการสกปรกนี้ ไม่ต่างจากที่เผด็จการทหารเคยใช้กับนักศึกษาในอดีต ที่ใส่ร้าย กุข่าว เรื่องจับอาวุธสงครามได้ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์หลังวันฆ่านกพิราบ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งเวลาได้พิสูจน์ความจริงแล้วว่า เรื่องเหล่านั้น ล้วนเป็นการปั้นข่าวลวง เพื่อทำลายประชาชนผู้เป็นศัตรูโดยตรงกับเผด็จการทหารทั้งสิ้น

ณ ตอนนี้ ศักดิ์ศรีของประเทศชาติและประชาชนชาวไทยตกต่ำถึงขีดสุด อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะถูกปล้นโดยคสช. เผด็จการทหารพยายามปิดหู ปิดตาเรา ไม่ให้เรารับรู้เรื่องราวของการต่อสู้ และไม่ให้เรารับรู้แรงกดดันจากนานาประเทศ ที่มีต่อประเทศไทย ปิดสถานีโทรทัศน์ วิทยุชุมชน ควบคุมเนื้อหาข่าวสาร ส่งทหารไปประจำสถานีโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ เพื่อให้สื่อออกข่าวตามใจคณะเผด็จการทหาร เรียกตัวสื่อมวลชน นักข่าว นักวิชาการ แม้กระทั่งประชาชนอิสระที่นำเสนอข่าวของตนเองผ่านทางโซเชียลมีเดีย จนการนำเสนอข่าวถูกจำกัดไร้เสรีภาพใดๆ

สิ่งที่เราชาวไทยผู้รักและต้องการปกป้องเสรีภาพจะทำได้ด้วยมือเปล่า คือการบอกเล่าความจริงที่เกิดขึ้น ระหว่างประชาชนสู่ประชาชนด้วยกัน ไม่ว่าจะอยู่ในที่ใด เมื่อไร อาชีพ อายุ เพศ ไม่เป็นสิ่งขวางกั้นความจริง ให้ประชาชนได้ก้าวข้ามกรงขังแห่งความหลอกลวงที่เผด็จการทหารสร้างขึ้นมาครอบ งำ

ผู้ร่วมอุดมการณ์เสรีไทยทุกแห่งหน สามารถเป็นตัวกลางระหว่างผู้ได้รับข่าวสารจากโซเชียลมีเดียสู่เพื่อนบ้าน ครอบครัว พี่น้อง มิตรสหาย องค์กรในต่างประเทศ ที่อาจเข้าไม่ถึง พูดความจริงให้มีเสียงดังซ้อนซ้ำย้ำเตือนในจิตสำนึกแห่งเสรี ที่ไม่ยอมให้เผด็จการทหารใช้เศษเงินมาแลกเอามิตรภาพและความรักในความจริง เพื่อตั้งข้อหาข่มขู่คุกคาม

เพื่อนชาวไทยที่รัก เราจะร่วมทำงานทางความคิดต่อเนื่องกันไป จะส่งต่อจดหมายข่าวเสรีไทยเพื่อแจ้งความจริงของการต่อสู้กับความเท็จของ เผด็จการทหาร เพื่อเสรีภาพและมนุษยชนของชาวไทยเป็นประจำทุกอาทิตย์ และเมื่อถึงเวลา เราจะได้ร่วมเดินพร้อมกัน เหยียดหลังตรงเปี่ยมทรนงในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกันอีกครั้ง

ด้วยความเชื่อมั่นต่อพลังประชาธิปไตยของประชาชน

จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ
เลขาธิการองค์กรเสรีไทย
FreeThai
The Organisation of FreeThais for Human Rights and Democracy
“จารุพงศ์”ปล่อยคลิปท้าทาย คสช.อีกรอบ ลั่นเดินหน้าฟ้องโลก-ยูเอ็น ย้ำไม่มีกองกำลังติดอาวุธ มีแค่ปากและอุดมการณ์
 www.youtube.com/watch?v=RzpAzOKkGvg


https://www.youtube.com/watch?v=oA6RLdFGicY&feature=player_embedded


เมื่อ วันที่ 26 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เลขาธิการองค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยได้ เผยแพร่คลิปวีดีโอผ่านยูทูปชื่อ “องค์กรเสรีไทย จารุพงศ์ สัมภาษณ์โดยจอม เพชรประดับ 25 มิถุนายน 255” ความยาว 19.07 นาที โดยนายจารุพงศ์ กล่าวว่า เหตุผลที่ไม่ไปรายตัวต่อ คสช. เพราะตนยึดหลักประชาธิปไตยยึดหลักกฎหมาย และผ่านการเลือกตั้งจากประชาชนทั้งประเทศ โดยได้รับการโปรดเกล้าฯ ตามขั้นตอน จึงไม่มีเหตุผลใดที่ตนจะต้องยอม คสช .เพราะประชาชนได้มอบอำนาจให้ตนตามหลักประชาธิปไตยแล้ว ทั้งนี้ตนไม่ได้หนีไปซุกซ่อนที่ไหน แต่ไปเพื่อทวงคืนความชอบธรรมให้รัฐบาลชุดนี้ และยืนยันว่าตนเองยังเป็นรัฐบาลที่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้เท่านั้น

นายจารุพงศ์ ยังระบุอีกว่า เมื่อตนออกจากประเทศไทยแล้วก็จะเดินสายไปฟ้องต่อนานาอารยะประเทศ ฟ้องต่อองค์กรสิทธิมนุษยชนของยูเอ็น

เพื่อบอกว่าประเทศไทยเกิดสถานการณ์อย่างไรขึ้น ทั้งนี้ตนไม่มีกองกำลังติดอาวุธ ตนมีเพียงปากและอุดมการณ์เท่านั้น และการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนคือต้องคืนอำนาจให้ประชาชน ให้มีการเลือกตั้ง เมื่อถามพิธีกรถามว่าการกระทำนี้มีกลุ่มการเมืองมาสนับสนุนหรือไม่ นายจารุพงศ์ กล่าวว่า ตนลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทยแล้ว ดำเนินการตามระบอบประชาธิปไตยอย่างเสรี ไม่ใช้กำลังอาวุธ และเชื่อว่ากำลังประชาธิปไตยจะแข็งแกร่งกว่าระบบทหาร.







"จักรภพ"ยอมรับคุยกับ จารุพงศ์ วางแผนต่อสู้มาตลอด ระบุตั้งใจอยู่นอกประเทศมากกว่า 5 ปี ลั่นสู้ครั้งนี้หวังเปลี่ยนโครงสร้าง เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. เว็บไซต์ไทยอีนิวส์ดอทบล็อกสปอต ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ นายจักรภพ เพ็ญแข ผู้ต้องหาคดีความผิดกฎหมายอาญามาตรา112 ในฐานะ เลขานุการองค์กรเสรีไทย โดยนายจักรภพ กล่าวว่า ตนและนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ตั้งใจอยู่นอกประเทศไทยมากว่าห้าปี จุดประสงค์เพื่อรอตั้งขบวนการต่อสู้เต็มรูปแบบ
"ที่ผ่านมาเราหวังตื้นๆ ที่ชนะการเลือกตั้ง หรือเอาใจคนบางคนเพื่อให้เขาพอใจสบายใจ เขาจะได้อนุญาตให้เราอยู่ในอำนาจบริหารได้นานหน่อยแม้กระทั่งถึงเวลาชุมนุม ประท้วงกันแล้ว เราก็ยังจัดแบบไม่คิดลุย หวังแค่เอามวลชนมากๆ มาโชว์เพื่อให้เขาคิดเปลี่ยนใจเอง  แนวคิดอย่างนี้ไม่มีทางเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจในรัฐไทยได้ ผมกับคุณจารุพงศ์ได้คุยกันลึกซึ้งกันมานานหลายปี บิดาคุณจารุพงศ์คือนายจารุบุตร เรืองสุวรรณ อดีตเลขานุการส่วนตัวที่ใกล้ชิดนายปรีดี พนมยงค์ เมื่อรู้ว่าคุณจารุพงศ์เดินทางออกนอกราชอาณาจักร นึกในใจทันทีว่า ไม่เสียหลายที่ได้จูนคลื่นสมอง จิตใจ และหัวใจกันมาตลอด คนที่คิดถึงขั้นโครงสร้างอำนาจรัฐมักจะได้ข้อสรุปที่คล้ายกันเสมอ
"นายจักรภพกล่าว นายจักรภพ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ นายจารุพงศ์เป็น เลขาธิการองค์กรเสรีไทย ส่วนตนเป็นเลขานุการบริหารและโฆษกฯ ทำหน้าที่คล้ายๆ ปลัดกระทรวงขององค์กร นอกจากนี้ยังมีคณะกรรมการกลางราว 10 คน ผู้ร่วมอุดมการณ์ที่มีชื่อเสียงและมีประวัติอันเรืองรองในการต่อสู้ทางการ เมืองมีอีกไม่ต่ำกว่า 20 คน นักวิชาการระดับโลกทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
นายจักรภพ ยังยืนยันด้วยว่า งานนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้เข้ามาร่วมรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องใดๆ และ อารมณ์ที่ชาวประชาธิปไตยมีอยู่ในขณะนี้ ไม่ต้องมีใครมาออกคำสั่งหรือชี้นำอะไรทั้งนั้น
"เรื่องเงินทองค่าใช้จ่าย หลายคนนึกว่าไม่มีเศรษฐีมาคอยช่วยแล้วคงจะเดินไม่เป็นแน่ บอกได้ว่าเราจะเดินหน้ากันแบบต้นทุนต่ำหรือ low-cost ทำคล้ายสายการบินแบบประหยัดที่ลดความสิ้นเปลืองทุกชนิดออกหมด เอาแต่เดินทางจากจุด ก. ไปจุด ข. เท่านั้น นอนาคตเราอาจจะระดมทุนในระดับโลกด้วย ให้มันรู้ไปว่าคนไทยส่วนใหญ่มุ่งมั่นขนาดนี้แล้วเราจะอับจนหนทาง"นายจักรภพกล่าว
นายจักรภพ อ้างว่า ขณะนี้ประเทศหลักๆ ในโลกก็เข้าใจองค์กรเสรีไทย และมีการพูดคุยกัน ซึ่งองค์กรฯจะเดินสายขอความสนับสนุนต่อไปและมีมาตรการที่จะขอรับความ อนุเคราะห์อย่างเป็นรูปธรรมหลายอย่าง แต่ในขั้นนี้ขอสงวนไว้ เพราะยังไม่สรุป
http://www.posttoday.com/การเมือง/303002/