เฒ่านักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยาผู้โหดเหี้ยม
โดยงานสัมมนาเรื่อง "สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กับความมั่นคงของประเทศ" ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ เมื่อวัน 21 ธันวาคมที่ผ่านมา "ป๋าเปรม" ได้เป็นประธานกล่าวเปิดงาน
"ขณะนี้บ้านเมืองของเรามีการแบ่งฝ่ายกันเห็นได้อย่างชัดเจน มูลเหตุคืออะไรก็รู้ๆ กันอยู่ ทำให้มีผลข้างเคียงไปถึงความรักความสามัคคีของคนในชาติของเรา เป็นข้อจำกัดต่อความสำเร็จ
ผมมีความเห็นส่วนตัวว่าการที่มีความคิดเห็น ความเชื่อที่แตกต่างกัน ไม่เป็นอุปสรรคของการดำรงความรัก ความสามัคคีของคนไทยแม้แต่น้อย ถ้าคนในชาติมุ่งประสงค์ในสิ่งที่สำคัญที่สุดของประเทศเราคือความสงบสุข ความร่มเย็น ความสันติ และความมั่นคงโดยแท้แน่นอน ความเห็นและความเชื่อที่แตกต่าง จะไม่เป็นสิ่งกีดกันให้คนไทยรู้รักสามัคคีกัน" พล.อ.เปรมระบุ
คำพูดนี้ถือเป็นน้ำจิ้ม เรียกน้ำย่อยได้ดีทีเดียว ดังนั้น ต้องจับตาวันที่ 27 ธันวาคมนี้ว่าจะมีสัญญาณอะไรที่ออกมาจาก "บ้านสี่เสาฯ" ที่ส่งไปถึง "การเมือง กองทัพ และคนแดนไกล" หรือไม่.....
....................................................................
"ฟ้าเมื่อต่ำจึงทำหินแตก"
ฟ้ามืดครึ้ม ฝนกระสุนกระหน่ำ ดั่งสายฟ้า
ฟาดเปรี้ยงลงสู่สู่พสุธาเหล่ารากหญ้าให้ลุกใหม้ล้มตาย
ทั้งหญ้าแพรกและตะใคร่ มอส ที่เกี่ยวเกาะหินผาต้องแตกจากสายฟ้าระราน
แสดงแสนยานุภาพเพี้ยงอัคคีแยกแตกลง
ฟ้าทำต่ำโดยพลังก้อนเมฆแห่งตน"ฟ้าเมื่อต่ำจึงทำหินแตก"
หรือว่าคลื้นลมชีวิตสงบฟ้าไสไร้เมฆา
ฤาฟ้าจึงสว่างสู่ ความสดใสที่ชาวไทยสมกับที่ชาวไทยรอคอย
ทุกสรรพสิ่งตื่นจากภวังค์ลุกขึ้นรับความสดใส
และสู้ดำเนินชิวิตตามวิถีสัตว์โลก
ที่มี เป็น เห็นจริงในสัจธรรมความจริง ที่ว่าไม่มี"คนดีเกินคน"
พระศรีอารยะก็คือใจคนนั่นแหละ
นี่คือชาววิไลยในตำนานนับร้อยปีที่เราจดจำ
หนานเมือง สล่าง่าวบ้านนอกวันนี้โพนอินดีน่าคิด น่าฟังไม่จูงหมาหานายเหมือนที่เคย
กลับมาคิดใหม่ทำใหม่ในใจคนเสื้อแดงอีกครั้ง
ขอบคุณในท่าที่ ที่มีต่ออนาคตไทย
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar