onsdag 25 december 2013

จักรภพ เพ็ญแข: ดูแลกรุงเทพฯ ด้วยครับ ยังมีที่ไหนในโลกที่คุณจะได้เห็นตำรวจปราบจลาจลถูกต้อนเช่นวัวควายแต่ไม่ต่อต้าน?


จักรภพ เพ็ญแข: ดูแลกรุงเทพฯ ด้วยครับ
 
จักรภพ เพ็ญแข: ดูแลกรุงเทพฯ ด้วยครับ


สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น
Where in the world would you see riot police being herded like cattle & not resisting?
ยังมีที่ไหนในโลกที่คุณจะได้เห็นตำรวจปราบจลาจลถูกต้อนเช่นวัวควายแต่ไม่ต่อต้าน?

Richard Barrow บล็อกเกอร์ ท่องเที่ยวไทย ทวีต ข่าวประท้วง อาหาร และ เทศกาล
 

December 25, 2013

ดูแลกรุงเทพฯ ด้วยครับ

ผมได้รับคำเตือนจากผู้หวังดีท่านหนึ่ง ฝากไปถึงรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยในขณะนี้ว่า อย่าลืมดูแลคนกรุงเทพฯ ในช่วงเวลาป่วนเมืองอย่างนี้ด้วย ความจริงมวลชนฝั่งเราต่างเข้าใจกันดีว่า เหตุผลที่รัฐบาล “เล่นเอาเถิด” อยู่ในขณะนี้ นั่นคือนิ่งเฉย ไม่โต้ไม่ตอบ หรือโต้ตอบก็ระวังสุ้มเสียงของตัวเองมิให้รุนแรงแข็งกระด้าง นายกรัฐมนตรีก็เลือกที่จะไม่เผชิญหน้ากับม็อบ หรือทำให้อะไรตัวเองกลายเป็นเงื่อนไขจุดชนวนความรุนแรงขึ้นมานั้น เป็นเพราะรู้ดีว่าฝ่ายตรงข้ามต้องการอย่างนั้น เราจึงจะไม่เดินสู่กับดักหรือทำอะไรเข้าทางเขาเป็นอันขาด รู้นี่ครับเครื่องมือของฝ่ายจารีตคือฝูงชนบ้าคลั่ง ศาล องค์กรอิสระ และกองทัพ การใช้ศาลหรือองค์กรอิสระนั้นทำได้ตลอดโดยไม่ต้องมีเงื่อนไขนำทาง แต่ก็เป็นเล่ห์กลเก่าๆ ที่ทั่วโลกเขาอ่านออกหมดแล้ว ทำอีกตัวก็เสื่อมหนักลงไปอีก แต่กลไกกองทัพและฝูงชนบ้าคลั่งนั้นไม่อาจงัดออกมาใช้ได้เพียงฝ่ายเดียว ต้องปลุกเร้าจนสถานการณ์บานปลายสำหรับทั้งสองฝ่าย ถึงขั้นควบคุมอะไรกันไม่ได้อีกต่อไป จึงจะมีเหตุผลเพียงพอให้เลื้อยคลานกันออกมา ทั้งหมดนี้ฝ่ายเราเข้าใจกันดี 

แต่ผู้หวังดีท่านก็เตือนมาว่า จิตใจของคนไม่ใช่เกม โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ ในส่วนที่รักความเป็นธรรม เขาเริ่มจะทนทานไม่ไหวต่อพฤติกรรมอย่างโจรที่ฝ่ายนายสุเทพฯ เป็นตัวแทนของระบอบสำแดงออกมาตั้งแต่วันแรกจนกระทั่งบัดนี้ รัฐบาลและพรรคควรต้องสื่อสารและยึดโยงกับมวลชนกลุ่มนี้ให้ดีด้วย อย่าให้พี่น้องกลุ่มนี้เขารู้สึกถูกทอดทิ้ง โดดเดี่ยว อ้างว้าง จนเสมือนว่าต้องเผชิญภัยครั้งนี้แต่เพียงลำพัง สิ่งที่นายสุเทพฯ ทำถือเป็นการเหยียดหยามมวลชนฝ่ายประชาธิปไตยอย่างยิ่งยวด พี่น้องในกลุ่มนี้อาจจะไม่ใช่คนรักทักษิณ หรือรักพรรคเพื่อไทยทั้งหมด แต่ทุกคนรักหลักการพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยเหมือนกัน และกำลังรู้สึกถูกละเมิดสิทธิพื้นฐานในความเป็นมนุษย์จากมนุษย์อีกประเภทหนึ่งที่หน้าด้านสุดๆ ผู้กำลังประพฤติชั่วในนามชาติ ศาสน์ กษัตริย์ โดยไม่มีตัวแทนของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ออกมาพูดอะไรในทางอื่นเลยแม้แต่คำเดียว จนอาจต้องสรุปว่า คงเห็นด้วยกับนายสุเทพฯ ทั้งหมด เราจำเป็นต้องมีภาพอันชัดเจนของพี่น้องกรุงเทพฯ กลุ่มนี้ ในมโนสำนึกของเราด้วย อย่างน้อยผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยในเขตกรุงเทพฯ เที่ยวนี้ ก็อย่าเอาแต่ขอคะแนนเสียงหรือแถลงนโยบาย โปรดเปิดเวทีให้มวลชนบริสุทธิ์เหล่านี้ได้มีโอกาสระบายถ่ายทอดและเสนอแนวทางต่างๆ เพื่อแก้ไขวิกฤติการเมืองและสังคมในครั้งนี้ด้วยเถิด ช่วยกันยกระดับความรักและความผูกพันที่เรามีต่อกันในนามผู้นำการเมืองและพรรคการเมือง ให้เป็นความรักและความผูกพันทางอุดมการณ์ประชาธิปไตยกันเถิดครับ 

ผมเคยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตกรุงเทพฯ ๒ ครั้ง และแพ้เขาทั้งสองครั้ง แต่ครั้งที่อยู่ในใจมากที่สุดและไม่เคยลืมเลือนเลยก็คือเมื่อครั้งที่ลงในเขตบางกอกน้อย เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๘ ผมต้องลงสมัครแทนตัวผู้สมัครที่เตรียมไว้แล้วเป็นปีๆ คือนายจักรพันธุ์ ยมจินดา ที่มาต้องคำพิพากษาอย่างปัจจุบันทันด่วนจนลงไม่ได้ โดยมีเวลาหาเสียงรวมกันไม่ถึง ๓๐ วัน การรณรงค์หาเสียงในครั้งนั้นทำให้ผมรู้จักพี่น้องชาวกรุงเทพฯ และรู้จักตัวเองมากขึ้นหลายเท่า ผมได้รู้ว่าคนกรุงเทพฯ ที่มีฐานะไม่ดีนักเขาต้องปากกัดตีนถีบเพื่อเอาชีวิตให้รอดในเมืองใหญ่ ทำให้คนกรุงเทพฯ บางคนเกิดอุปนิสัยที่เรียกว่า cynical คือไม่เชื่อถือในความดีงามของอะไรทั้งนั้น พร้อมจะเห็นข้อบกพร่องของทุกสิ่งทุกอย่าง เว้นแต่สิ่งที่มีคนมากรอกหูนานพอจนเชื่อว่าเป็นเทวดาจุติลงมาดับทุกเข็ญ แต่เมื่อเชื่อแล้ว ก็จะหัวปักหัวปำยึดเอาไว้เป็นสรณะแห่งชีวิตเลยทีเดียว คนในเมืองใหญ่ทั่วโลก มักจะเป็นเช่นนี้ หาคนที่คิดอะไรกลางๆ ไม่ได้ เพราะความทุกข์สุขของเมืองใหญ่มักสุดโต่ง หาทางสายกลางไม่ค่อยได้ จิตใจอ่อนๆ ของคนจึงมีลักษณะสุดโต่งตามไปด้วยเสมอ นี่เป็นเรื่องธรรมดา 
คนรักประชาธิปไตยในกรุงเทพฯ มีมาก ไม่ได้บ้าคลั่งสิ่งสมมติไปหมดหรอกครับ แต่ตัวแทนฝ่ายเราเองยังไม่ค่อยเดินเข้าไปหาเขานักเท่านั้นเอง ถือโอกาสเอาการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นเสียเลยสิครับ ผู้สมัครแต่ละท่านโปรดถือตัวเองว่าเป็นตัวแทนแห่งความเป็นกบนอกกะลา ถ้าพูดเองไม่สะดวก ก็เชิญผู้รู้ที่มีมากมายไปพูดให้ จัดเสวนาเล็กๆ ทั่วไปหมดทั้งเขต ใครเข้ามาโวยวายก็ให้เขาชี้แจง ท่านก็ชี้แจงให้เขารับรู้รับทราบว่าความจริงเป็นอย่างไร อย่ากลัวคนด่าหรือแสดงอาการต่อต้าน รักจะอยู่ในการเมืองก็ต้องกล้าหน่อย โดยเฉพาะในยามที่คลั่งสมมติสัจจะกันจนแทบจะเพี้ยนไปหมดทั้งเมืองแล้วอย่างนี้ ก็ต้องเพิ่มดีกรีแห่งขันติธรรมอีกสักสามเท่าตัว

 

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar