torsdag 8 november 2018

ตู่หน้าบางสังคมโง่ : คอลัมน์ใบตองแห้ง

ตู่หน้าบางสังคมโง่

ตู่หน้าบางสังคมโง่ : คอลัมน์ใบตองแห้ง

ลุงตู่ของคนชั้นกลางในเมืองเนี่ย เป็นคนมีเสน่ห์นะ โดยเฉพาะเวลาพูดจา แสดงกิริยาท่าทาง ไม่ว่าตอนอารมณ์ดี หรือหน้านิ่วคิ้วขมวด ยังกะปวดหน่วง ล้วนเรียกเรตติ้งจากทางบ้าน กดไลก์กดแชร์กันกระฉูด คนรักก็จะรู้สึกว่า ที่ท่านบ่นท่านยัวะ เพราะความจริงใจ แบกประเทศไว้หลังอาน คนชังก็สนุกสนาน กดหัวร่อน้ำหูน้ำตาไหล เผด็จการที่ไหนทำได้อย่างนี้มั่ง

เสียดายพูดคืนวันศุกร์ ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ โควตคำพูดคมๆ ลงเฟซบุ๊ก ก็เหมือนไม่ใช่ตัวท่าน มันต้องตอนตอบโต้นักข่าว สัญจรพบชาวบ้าน หรือปราศรัยให้โอวาท ถึงจะมันส์ อย่างที่พูดกับ 500 นักวิจัยเมื่อวันจันทร์ ฟังจากเทปข่าว ก็หัวร่อกันครื้นเครง
ตอนที่ฟังแล้วสะใจสุดๆ คือลุงบ่นสังคมไทยไร้สาระ สนใจเรื่องไม่เป็นเรื่อง แทนที่จะฟังลุงคืนวันศุกร์ ก็มัวดูละครแย่งมรดกพันล้าน เอาใจช่วยพระนาง ทั้งที่ตัวเองไม่มีสักบาท แต่ฟังละครด่ากันแล้วมีความสุข
หรือเฮโลสาระพาตั้งตัวเป็นศาล เป็นอัยการ เป็นหมอ ตัดสินเรื่องนั้นเรื่องนี้ รู้ดีไปหมด ทนายออกทีวีทุกช่อง เช้า กลางวัน เย็น ชี้นำคดี นี่เห็นด้วยจริงๆ นะ ใครถูกใครผิดสมัยนี้ สำคัญที่สร้างกระแส ทนายดังปั่นดราม่าออกสื่อ ดึงสังคมคล้อยตาม พอลูกขุนออนไลน์ตัดสิน ก็ได้เปรียบตั้งแต่ยังไม่ขึ้นศาล แบบลอตเตอรี่ 30 ล้าน เจ๊บ้าบิ่นฟังแล้วซึ้ง มาให้กำลังใจเลย

ลุงตู่บ่นสังคมไทยเหลวไหล ไร้สติ ไม่เหมือนต่างประเทศสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ฟังทีไรสะใจทุกที ผมก็คนรุ่นหลังท่านไม่กี่ปี โตมากับนิตยสารชัยพฤกษ์เหมือนกัน โคตรรำคาญสังคมสมัยนี้ มีแต่เรื่องไร้สาระ เบาปัญญา ขายข่าวคลิกเบตดาราดราม่าท่วมโลกดิจิตอล ไม่สนใจชาติบ้านเมือง สนใจแต่เรื่องคนถูกหวย 90 ล้าน ดาราแย่งผัวหย่าเมีย ไม่งั้นก็เปิดวาร์ป ใส่ชุดว่ายน้ำ ครางชื่อกันทั้งเมือง
สังคมสมัยนี้เบาปัญญาถึงขั้นปล่อยรถติดมาหลายทศวรรษ คิดวิธีแก้ไม่ออก ต้องรอให้ลุงตู่ไปทำพิธีเปิดอุโมงค์ตอน 08.30 เช้าวันจันทร์ กลับมาจึงปิ๊งไอเดียว่าต้องสั่งตำรวจอยู่ในป้อมเท่านั้น อย่าออกมาโบกรถ จึงจะแก้รถติดได้

คนจนสมัยนี้ก็จนเพราะไม่รู้จักพัฒนาตัวเอง ต้องให้สั่งให้สอน ยางพาราสามกิโลร้อยก็ตะบี้ตะบันขายกันอยู่นั่น ไม่รู้จักไปขายดาวอังคาร ไม่รู้จักปลูกหมามุ่ยมั่ง ปลูกมะพร้าวมั่ง ปาล์มน้ำมันก็บริหารจัดการไม่เป็น ราคาตกต่ำ ต้องให้ทหารไปคุมโรงงาน

การที่ลุงบ่นสังคมเบาปัญญาจึงเป็นเรื่องน่าทึ่ง สวนทฤษฎี “เผด็จการวิทยา” เพราะเผด็จการมีแต่อยากให้สังคมโง่ลง เช่นบังคับให้คนท่องอาขยาน เอาทหารมาฝึกวินัย สอนให้รักชาติบ้านเมือง ให้เป็นคนดีมีศีลธรรม โดยไม่รู้จักตั้งคำถาม โต้เถียง คิดต่าง เพื่อสร้างพุทธิปัญญา เผด็จการมีแต่อยากให้คนคิดตาม เชื่อฟัง เพื่อที่ทหารจะปกครองได้ง่ายๆ โดยเฉพาะสังคมตื้นเขิน วูบวาบ ฟูมฟาย อ่อนเหตุผล ยิ่งง่ายต่อการสร้างความนิยม

เพิ่งเห็นลุงตู่นี่แหละ เป็นเผด็จการสวนทฤษฎี อยากให้คนคิดเป็น คิดสร้างสรรค์ บ่นสังคมเบาปัญญา อยากให้คนรุ่นใหม่ นักวิจัย สนใจร่วมกันพัฒนาชาติบ้านเมือง
แต่เอ๊ะ พอคนรุ่นใหม่ออกมาเรียกร้อง “อยากเลือกตั้ง” ไหงโดนจับกุมคุมขัง บ่อนทำลายความมั่นคง ใครวิพากษ์วิจารณ์ ใครเห็นต่าง แค่กดไลก์กดแชร์ก็ยังโดน พ.ร.บ.คอมพ์
ถามจริง สังคมโง่เพราะใคร ทำไมมีแต่สื่อขายข่าวดาราดราม่า ถ้าเชิญนักวิชาการผู้มีสติปัญญามาออกทีวี จะขัดประกาศ คสช.ไหม

ที่ลุงพูดทั้งหมด คืออยากให้คนรุ่นใหม่ ให้นักวิจัย คิดเป็นแบบหุ่นยนต์ เหมือนในแร็พไทยแลนด์ 4.0 ช่วยกันสร้างสรรค์วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี โดยไม่ต้องมีสติปัญญาทางสังคมการเมือง อย่ายุ่งเรื่องอำนาจ ประชาธิปไตย ทำมาหากินใช้ ชีวิตชิกๆ ชิลๆ ไป ภายใต้การนำของเทคโนแครตอำนาจนิยม อย่าสนใจความไร้สติไร้เหตุผลทั้งหลายที่ “ประเทศกูมี”
เพราะถ้าคิดเป็นจริงๆ แล้วมีคนกล้ายกมือถาม มันจะยุ่ง ลุงครับ/คะ ที่ลุงบอกว่าไม่หน้าด้าน ถ้าลุงได้เป็นนายกฯ หลังเลือกตั้ง จากการยกมือของ 250 ส.ว. คสช.ตั้ง จากเสียง ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ของสี่รัฐมนตรี จากการเลือกตั้งใต้ ม.44 ไม่ยอมให้ต่างชาติสังเกตการณ์ อย่างนี้วัฒนธรรมไทยเขาเรียกว่า หน้าบางหรือ

อย่าไปบ่นสังคมเบาปัญญาเลย ถ้าไม่เบาปัญญา รัฐประหารจะอยู่สี่ปีกว่าได้อย่างไร ถ้าสังคมไทยโง่จริง ก็เป็นเรื่องดีกับผู้มีอำนาจ เพียงระวัง สังคมแกล้งโง่เพราะยังแสดงออกไม่ได้เท่านั้นเอง

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar