ภาพบางภาพ กับการที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ลาออกจากประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ตามด้วยหัวหน้าพรรคลาออก ทำให้หลายคนมโนกันไป ว่าจะเกิดปรากฏการณ์ “รวมเพื่อไทยสร้างชาติ”
มโนหนักกว่านั้นก็มี เช่นทักษิณยิ่งลักษณ์จะได้กลับมา ประเทศชาติจะรุ่งเรืองพ้นวิกฤติเสียที ด้วยฝีมือทักษิณบริหารเศรษฐกิจ
ไม่มีเหตุผลเลย สมมตินะ สมมติ เกิดปรากฏการณ์พลิกผันช็อกโลกขึ้นจริง สังคมก็ยอมรับไม่ได้ เพราะความแตกแยกทางการเมืองไปไกลกว่าทักษิณแล้ว จู่ ๆ จะมาเกี้ยเซียะกันไม่กี่คน ก็มีแต่โดนโห่จากคนทั้งสองฝ่าย
14 ปีของการทำลายทักษิณ มันทำลายประชาธิปไตย ทำลายความยุติธรรม สร้างความเจ็บช้ำให้ประชาชนนับไม่ถ้วน ไม่สามารถบอกว่าเลิกแล้วกันเถอะ โดยไม่กลับสู่ประชาธิปไตยและสะสางความยุติธรรม
ม็อบคนรุ่นใหม่วันนี้ ก็ไม่สนใจทักษิณแล้ว เพียงเห็นว่าทักษิณถูกกระทำ จนประชาธิปไตยถูกทำลาย แต่ทักษิณไม่มีอิทธิพลทางความคิดต่อคนรุ่นใหม่แม้แต่น้อย หรือแม้แต่เสื้อแดงบางกลุ่มในปัจจุบัน
ความเป็นจริงของพรรคเพื่อไทย คือหลังเลือกตั้ง เมื่อตระกูลชินวัตรเฟดตัวออกไป ไม่ได้คุมพรรคเอง ก็เกิดกลุ่มต่าง ๆ ที่ไม่ยอมลงให้กัน ไม่ยอมรับการนำ กลุ่มที่มีอำนาจก็กีดกันคนอื่น ฯลฯ ดังจะเห็นข่าวไม่กี่วันก่อน กลุ่มอีสานก่อหวอด ต้องไปเคลียร์กันระหว่างประชุมสภา
ปัญหาที่เกิดขึ้นจำเป็นต้องล้างไพ่ใหม่ ปรับโครงสร้างให้เหมาะสม จะเกี่ยวกับความพลิกผันทางการเมืองหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง คือแม้ไม่มีดีลอะไร เพื่อไทยก็ต้องปรับอยู่ดี
โดยยังมีเรื่องขำ ๆ ว่า “หญิงหน่อย” ก็มีภาพประนีประนอมไม่ใช่หรือ ถ้าอยากประนีประนอมจะเปลี่ยนใครมา น้าเหลิม? ขำกลิ้งเลย น้าเหลิมมีไว้ลุยต่างหาก
เบื้องลึกเบื้องหลังในการตัดสินใจ คนวงนอกทั้งหลายก็ไม่ทราบหรอก แต่บอกได้ว่า “รวมเพื่อไทยสร้างชาติ” โคตรมโน และไม่มีทางสำเร็จ ต่อให้คิดว่าทักษิณเพื่อไทยอยากเกี้ยเซียะ (ถูกหลอกครั้งที่ร้อย) ประชาชนก็ไม่ยอมรับ
ตั้งโจทย์ง่าย ๆ แต่ตอบยาก ถ้าเรียกเพื่อไทยไปรวม รวมกับใคร ถ้าตู่ยังเป็นนายกฯ เพื่อไทยก็สุนัขสิ มวลชนรุมกระทืบ ถ้าเปลี่ยนเป็นนายกฯ คนกลาง ก็คือเพื่อไทยต้องรวมกับพลังประชารัฐ ที่ป้อมเป็นนายใหญ่ แล้วใช้ 250 ส.ว.โหวตนายกฯ งั้นจะแก้รัฐธรรมนูญไหม แก้อย่างไร เพื่อไทยเพิ่งยื่นญัตติตัดอำนาจ ส.ว.
นายกฯ คนกลางก็ต้องเป็นรัฐบาลแห่งชาติ ซึ่งคนรุ่นใหม่ดักคอไว้แล้ว ไม่เอาด้วย พรรคก้าวไกลก็คงไม่เอาด้วย เป็นฝ่ายค้านพรรคเดียว ถ้ายอมให้ค้านยังพอทำเนา แต่อาจมียุบพรรคซ้ำ รวมทั้งใช้กฎหมายทำลายม็อบ กวาดจับแกนนำ ไม่ต่างอะไรกับเผด็จการในคราบใหม่ 250 ส.ว. I Here ก็ลอยหน้าลอยตาต่อไป
การเกี้ยเซียะตัวบุคคล กลุ่มบุคคล หลังจากใช้เป็นเป้าโค่นล้มมา 14 ปี ประเคนความอยุติธรรมเข้าใส่ ทำลายอำนาจประชาชน ทำลายประชาธิปไตย แล้วจู่ ๆ กลับมาจูบปาก เอาไปใช้ค้ำอำนาจ เหมือนที่เคยกวาดนักการเมืองโดนคดีไปเข้าพลังประชารัฐ
ทำกันอย่างนี้ สังคมไทยไม่อ้วกแตก ก็กลายเป็นสังคมสามานย์ เห็นแก่ประโยชน์เฉพาะหน้า โดยไม่ต้องมีเหตุผลหลักการ คนรุ่นใหม่ คนรักประชาธิปไตยก็ไม่ยอมรับ พวกอ้างศีลธรรมไล่ทักษิณ ก็ต้องเอาหัวมุดโอ่งตาย
นี่คือสมมติ ไม่ใช่บอกว่าเพื่อไทยจะทำอย่างนี้ แต่เห็นมโนกันเหลือเกิน ก็เลยสมมติสถานการณ์ให้ดุ ว่าทำอย่างนี้มีแต่จมดิน
นักมโนคือพวกมองข้ามเงื่อนไขทางสังคม คิดแต่ว่าอำนาจดีดนิ้วแล้วจะจัดการปัญหาได้หมด
ที่มา: ข่าวหุ้นธุรกิจ https://www.kaohoon.com/content/390946
"I Here" ม็อบหน้าสภาตะโกนลั่น ทำฝรั่งงง ถ้าจะบอก I'm here ทำไมเน้นเสียงจน m หาย เสียงสนั่นหวั่นไหวทั้งจากม็อบและผู้ชมทางบ้าน ก้องสองหูถึงเช้า ทำเอาบางคนสงสารสัตว์ ไม่ทราบ 250 ส.ว.+ส.ส.รัฐบาลสะดุ้งสะเทือนบ้างหรือเปล่า
มีอย่างที่ไหน อภิปรายร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นวรรคเป็นเวรสองวัน พอถึงขั้นโหวตรับ-ไม่รับ กลับมาตั้งกรรมาธิการศึกษา ทั้งที่ 1 ในนั้นเป็นร่างของพรรคร่วมรัฐบาล กลับให้ไพบูลย์ นิติตะวัน น้อมนำญัตติตั้งกรรมาธิการ
ซื้อเวลา? ไม่น่าใช่ ยั่วยุให้ประชาชนโกรธทำไม การรับร่างแก้ไขมาตรา 256 ของรัฐบาล ตั้ง สสร.มายกร่างใหม่ทั้งฉบับ ใช้เวลาเกือบ 2 ปี นี่คือซื้อเวลาอยู่แล้ว กว่าจะประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ 250 ส.ว.คงอยู่ครบ 5 ปี เผลอๆ มีบทเฉพาะกาลอยู่ต่อจนเลือกใหม่
ถ้าคิดแค่ซื้อเวลา 1 เดือน แล้วกลับมาโหวตรับ ก็ฉลาดโคตร ทำไมต้องยั่วประชาชนโกรธฟรี จึงมีความเป็นไปได้ที่จะไม่ยอมให้แก้เลยมากกว่า
เพียงอาจซื้อเวลา ให้ประชาธิปัตย์หาทางออกตัว เพราะถ้า ส.ว.+พปชร.โหวตคว่ำ แล้ว ปชป.ไม่ถอนตัวจากรัฐบาล คงต้องใส่ปีกมุดท่อน้ำโสโครกออกจากสภา
อีกแง่หนึ่ง ก็อาจซื้อเวลาเพื่อ "นวด" และปราบม็อบ อย่างที่ทำกับเสื้อแดงมาแล้ว โดยปลุกกระแสต้าน ม็อบอันตราย ทำผิดกฎหมาย ทำให้ประเทศไม่สงบ มีเบื้องหลัง ฯลฯ นำไปสู่การกวาดจับ
ผบ.ตร. ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่า กทม. ก็เริ่มหาเสียง เยาวชนถูกชี้นำเหมือน "เชือกจูงควาย น้ำลายจูงคน" แหมคงได้คะแนนล้นหลาม
พยายามสร้างภาพม็อบคนรุ่นใหม่ก้าวร้าว รุนแรง ทั้งที่การชุมนุมทุกครั้งยังเป็นไปโดยสงบ เช่นที่ตะโกนใส่รถ ส.ส. ส.ว. ก็ไม่ได้ขวาง ไม่ได้ตั้งกรวยห้ามผ่าน ลากคอลงมาทำร้าย
ม็อบไม่ได้บุกรัฐสภา แม้มีคนมากจนปิดถนน คนทั่วไปเลี่ยงใช้เส้นอื่นได้ แต่ก็มีเฟคนิวส์ให้ร้าย อ้างว่ารถพยาบาลผ่านไม่ได้
#19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ก็ไม่เดินฝ่าบังเกอร์รั้วลวดหนาม ทั้งที่การเดินขบวนไปทำเนียบเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ตำรวจต่างหาก ทำเกินกว่าเหตุ ผิด พรบ.ชุมนุมสาธารณะมีโทษสูงสุดจำคุก 6 เดือนปรับหนึ่งหมื่นบาท กลับจะใช้โล่กระบองแก๊สน้ำตาสลาย ไหนใครว่าม็อบเป็นลูกหลาน
แน่ละ การชุมนุมต้องผิดกฎหมาย ภายใต้กฎหมายสูงสุดที่ตั้งพวกตั้งญาติมาโหวตตัวเองเป็นนายกฯ ยังเหลืออะไรให้ประชาชนเคารพกฎหมาย จะชุมนุมไล่รัฐบาลต้องไปขออนุญาตตำรวจ พอตำรวจไม่อนุญาตก็ยัดข้อหา "กบฏ" นี่เรียกว่ากฎหมาย
มีประเด็นให้คิด ทำไมฝ่ายอำนาจไม่ลดกระแส ถ้าผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญพรรคร่วมรัฐบาล แม้ม็อบยังไม่พอใจ ก็ไม่ถึงขั้นปลุกม็อบใหญ่ ซึ่งครั้งนี้จะยิ่งกว่า 19 กันยา
ประเมินผิด? คิดว่าม็อบฝ่อ? ก็อาจเป็นได้ แต่ร้ายกว่านั้น เครือข่ายอนุรักษ์นิยมอาจมองว่าคนรุ่นใหม่ "อันตราย" เอาไว้ไม่ได้ ต้องปราบ ต้องเด็ดแกนนำเข้าคุก ก่อนจะลุกลาม
ซึ่งก็ประเมินผิดอยู่ดี เพราะ "สภาปาหี่" ทำให้คนรุ่นใหม่ยิ่งโกรธ ยิ่งพุ่งเป้าไปที่ศูนย์อำนาจ จนแฮชแท็กในทวิตภพทะลุเพดาน คิดได้อย่างไรว่าเด็ดหัวแกนนำแล้วพลังคนรุ่นใหม่จะถอย เพราะปรากฏการณ์ "แผ่นดินไหว" ที่เกิดขึ้น สะท้อนว่าคนรุ่นใหม่ตั้งแต่อายุ 14-15 ไปถึง 30 ไม่ยอมรับโครงสร้างอำนาจนี้แล้ว
ขณะที่คนปกป้อง ก็น้อยเต็มที ถ้าจะนับรายชื่อจาก google sheet ก็ตามใจ
ปรากฏการณ์นี้คือ ไม่ใช่แค่คนเสื้อแดง คนเหนืออีสานที่เคยเป็นฐาน "ประชาธิปไตยกินได้" แต่คนชั้นกลางรุ่นใหม่ ไม่ยอมรับอำนาจนี้แล้ว ส่วนคนรุ่นเก่าแม้เสียงแตก แม้บางคนไม่เห็นด้วยกับคนรุ่นใหม่ ก็เบื่อหน่ายหมดศรัทธา "คนดีย์ปกครองบ้านเมือง" จนกระอักกระอ่วนใจที่จะปกป้อง
ฝ่ายอำนาจจะจัดการอย่างไร ในหนึ่งเดือนจากนี้ไปคงเห็นชัด แนวโน้มคือการปราบปราม โดยอ้างกฎหมาย ใช้ตำรวจ ใช้หมายศาล จะเป็นการปะทะกันอย่างรุนแรง ระหว่างพลังประชาชน กับเครือข่ายอำนาจที่คุมหมดทั้งตำรวจทหาร รัฐราชการ กระบวนการยุติธรรม
ซึ่งแน่ละ ประชาชนไม่มีอะไรไปสู้กับอำนาจ แต่ก็เป็นเรื่องยากที่อำนาจจะปราบคนไม่ยอมรับไม่ศรัทธาได้หมด หรือกดไว้ได้ตลอดไป การปราบพลังคนรุ่นใหม่จะใช้ต้นทุนสูงมาก เพราะอาจต้องกวาดจับนักเรียนนักศึกษาเป็นพันๆ ต้องปิดกั้นสื่อออนไลน์ ไม่เพียงสูญเสียความชอบธรรม ความยุติธรรม จะยิ่งเกิดความปั่นป่วนทางสังคมทางเศรษฐกิจ จนวิบัติไปพร้อมกัน
แต่อำนาจที่ควบคุมประเทศอาจไม่แคร์อะไรสักอย่าง เหลือแต่ซาก เหลือแต่ความพังพินาศ ก็ต้องรักษาอัตลักษณ์ของชาติไว้
ช่วงต่อไปนี้จึงเป็นหัวเลี้ยวสำคัญ ว่าประเทศจะมีหนทางคลี่คลาย หรือไปสู่ยุคมืด มิดมิดยิ่งกว่าที่ผ่านมา แล้วผู้คุมอำนาจพาเราลงเหวไปด้วยกัน
ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/hot-topics/news_4990853
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar