onsdag 28 maj 2014

วันนี้ชัดเจน จากคำสั่งนี้ บอกให้รู้ว่าองค์ราชันย์เจ้าของเผด็จการอำมาตย์ทรราชราชาธิปไทยคือผู้สั่งให้ยึดอำนาจประชาชน โดยสั่งให้ทหารปิดประเทศซึ่งไม่ได้เป็นขององค์ราชันย์คนเดียว.. ความเป็นจริงประเทศไทยเป็นของประชาชนไทยทุกคนร่วมกันเป็นเจ้าของ ประชาชนรู้ทัน นะจ๊ะ นะจ๊ะ เสื่อม เสื่อมสุดๆ...พวกอำมาตย์ชั่ว...




   วันนี้ ( 28 พ.ค.) เมื่อเวลา 20.33 น. ที่ผ่านมา โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ได้เผยแพร่ คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ 27/2557 ให้นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกฯ แต่ยังปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี และให้ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย มาปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีอีกหน้าที่หนึ่ง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
          หลังจากนั้น ได้มีการเผยแพร่คำสั่ง คสช.ที่ 28/2557 ให้นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี และให้นายดิสทัต โหตระกิตย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา รักษาราชการแทน
          นอกจากนี้ คสช.ยังมีคำสั่งที่ 29/2557 ให้นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักวิชาการด้านกฎหมาย ไปรายงานตัวที่ห้องจามจุรี สโมสรกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 29 พ.ค.2557 เวลา 10.00-10.30 น.




พระอาจารย์ท่านประธานที่ปรึกษา  ???



บรรยายด้วยภาพ   ดูดีๆใครเป็นใครแล้วจะได้คำตอบว่า...ใคร??สั่งให้ยึดอำนาจ 
พวกในภาพแค่ข้าทาสรับใช้มือปืนรับจ้างทำการยึดอำนาจเท่านั้น..อย่าสนใจทำเพื่อ" เงิน  เงิน  เงิน"
และผลประโยชน์เท่านั้น ...อีเปรมขุนศึกคู่บรรลังย์ขององค์ราชันย์ผู้ทรยศต่อประชาชน


เส้นทางเดินของเจ้าพ่อบูรพาพยัคฆ์  คอนเน็กชั่นกว้างไกล“บิ๊กป้อม”ผู้พี่ใหญ่ของ ก๊วน “3 ป.บูรพาพยัคฆ์” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการกองทัพบก


ถ้าฉายจับไปยังฉากหลังของ รมว.กลาโหมรายนี้ เป็นเรื่องที่ต้องซูมหาจุดโฟกัส เพื่อสำรวจร่องรอยที่ผ่านมา และประเมินเส้นทางเดินต่อไปของเขา


 ด้วยสายสัมพันธ์กว้างขวาง คอนเน็กชั่นกว้างไกล ทั้งเป็น“พี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์” แลในฐานะ “แกนกลาง”ของ “เซนต์คาเบรียลเน็ตเวิร์ค”

อดีตนักเรียนร่วมรั้วเซนต์คาเบรียล คืออีกเครือข่ายของ พล.อ.ประวิตร ที่สมาชิกรุ่งเรืองอยู่ในยุครัฐบาลขิงแก่ ที่มีนายกฯ จากรั้ว ซ.ค. รัฐมนตรี และ สนช.สาย ซ.ค.“เซนต์คาเบรียล”เป็นตับ
   
หากเริ่มต้นสาวโยงสายป่านความสัมพันธ์จาก เพื่อนพ้องน้องพี่ เลือดสีน้ำเงินขาว“ซ.ค.-เซนต์คาเบียล”ของ พล.อ.ประวิตร   คัดกันหลักๆ ที่แนบแน่น จัดอยู่ในกลุ่ม“พวกของประวิตร” ต้องเริ่มมาจากกลุ่มธุรกิจใน “คอมลิงค์” บริษัทสื่อสารใหญ่ที่เติบโตมาด้วยสัมปทานเคเบิ้ลใยแก้วเลียบทางรถไฟ


โดยมี 2 คีย์แมนสำคัญอย่าง ม.ร.ว.ปรีดียาธร เทวกุล อดีตผู้ว่าฯ ธปท. -ศิริธัช โรจนพฤกษ์ บิ๊กคอมลิงค์ในปัจจุบัน และยังเคยมี บัณฑูร ล่ำซำ ผู้บริหารธนาคารกสิกรไทย สันติ ภิรมย์ภักดี บิ๊กเบียร์สิงห์ ร่วมลงทุนด้วย  ล้วนระดับบิ๊กเบิ้มเซนต์คาเบรียลแก๊ง
   
โดยมีมือบริหาร ปัฐวาท สุขศรีวงศ์ -นายสาคร สุขศรีวงศ์ และมืออาชีพที่แม้จะเป็นคนนอกกลุ่ม SG กรุ๊ปแต่มีบทบาทสูงทางธุรกิจ ณรงค์ ศรีสะอ้าน ที่มาจากธนาคารกสิกรไทย มาสร้างคอมลิงค์ และเพิ่งแยกย้ายไปนั่งเก้าอี้รองผู้บริหารไทยเบฟฯ   เป็นเครือข่ายคอมลิงค์ ที่วันนี้ยังเกาะติด และขยายไลน์ไปทางธุรกิจพลังงานทดแทน โดยมี2 บริษัทที่เป็นแกนหลัก กลุ่มบุญอเนก-ซีฮอร์ส ผู้เล่นรายใหญ่ จาก 3 กลุ่มหลักบนสนามนี้
   
ขณะที่บริษัทปรีดาปราโมทย์ ในเครือคอมลิงค์ ที่เคยรับสัมปทานจำหน่ายตั๋วรถไฟ ที่เริ่มรุกงานใหม่ ขยับลงทุนในธุรกิจสื่อครบวงจรย่านบางนา   นอกจากนี้เลือดน้ำเงินขาวในวงการการเมือง ที่จัดเป็นพวกของประวิตร ที่ได้ชื่อว่าเป็น“บิ๊กบราเธอร์ ซ.ค.” มีทั้ง สุวัจน์ ลิปตพัลลภ กร ทัพพะรังสี คนในตระกูลอดิเรกสาร ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา พ้อง ชีวานันท์ และ ฯลฯ
   
ขณะที่ “มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก” ที่ พล.อ.ประวิตรเดินงานมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากพ้นตำแหน่ง ผบ.ทบ.ทำงานด้านการอนุรักษ์ผืนป่า และสัตว์ป่าในพื้นที่ชายแดนด้านบูรพาทิศ ถิ่นที่เขาเคยรับราชการทหาร มาตั้งแต่ติดดาวใหม่ๆ   มูลนิธิฯ ที่ตั้งอยู่ภายในรั้ว ร.1 รอ. ที่ถูกพูดถึงในฐานะ“จุดรวมพล” ในเกมพลิกขั้ว ที่กำลังมาแรง และถูกจับตาว่า   จะเป็นอีกขั้วอำนาจที่ทรงอิทธิพล
   
วันนี้ทั้ง 2 เครือข่ายทั้งเซนต์คาเบรียลคอนเน็กชั่นและธุรกิจคอมลิงค์ บวกกับสายสัมพันธ์จากรั้วเตรียมทหาร เริ่มวิ่งเข้ามาจับขั้ว โดยมี พล.อ.ประวิตรเป็นแกนกลาง   พัฒนาการไปสู่ความเป็น“พวกของประวิตร”


โดยหากสำรวจรายชื่อกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด จะเห็นได้ว่า พวกของประวิตร มากมายและกว้างไกลเพียงใด   นอกจากบรรดาบิ๊กทหาร พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา พล.อ.ไพศาล กตัญญู พล.อ.นพดล อินทปัญญา พล.อ.เลิศฤทธิ์ เวชสวรรค์ พล.อ.อภิชัย ทรงศิลป์ รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
   
ในระดับโครงสร้างสำคัญ ในการปฏิบัติงานในพื้นที่ ก็จะมีสองนายทหารแห่งแดนบูรพาทิศ ทั้ง พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แท่ทัพภาคที่ 1 อดีต ผบ.พล.ร.2 รอ. และ พล.ต.วลิต โรจภักดี ผบ.พล.ร.2 ก็จะมาร่วมประชุมด้วย   ขณะที่กรรมการมูลนิธิฯ ในสายพลเรือน ปรากฏชื่อ สถิตย์ สวินทร อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ คนภาคตะวันออก จรูญ จันทร์จำรัสแสง ผู้บริหารบริษัทเบญมาศก่อสร้าง นายทุนพรรคความหวังใหม่สมัยรุ่งเรือง
   
กมล เอี้ยวศิวิกูล ผู้บริหารไมด้า แอสเซท บริษัทจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า เจ้าของนิตยสารเพนท์เฮาส์ และอดีตหวานใจ ดาราสาวทรงโตก็มาเกาะอยู่ด้วย โดยรับบทบาทบริการจัดหาทีเด็ดให้นายใหญ่ในยามราตรี    บำรุง ล้อเจริญวัฒนา นักธุรกิจ ประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว ถิ่นของเจ้าพ่อวังน้ำเย็น เสนาะ เทียนทอง ที่สนิทสนมกับ พล.อ.ประวิตร สมัยรับราชการ คุมหน่วยด้านชายแดนบูรพา
และที่ขาดไม่ได้ “ปัฐวาท สุขศรีวงศ์”แห่งคอมลิงค์ และเซนต์คาเบรีย    แต่ที่น่าสนใจ คือ พล.อ.พัฒฑะนะ พุฑานานนท์ อดีตรอง ผบ.ทบ. ที่นั่งเป็นรองประธานบริหารฝ่ายโรงงานของ“เบียร์ช้าง”
   
ถึงตรงนี้ ต้องบอก น่าจับตาเครือข่ายของ รมว.กลาโหม ที่วันนี้มีทั้ง ทุนสื่อสารยักษ์ พลังงาน นายแบงก์นายธนาคาร บิ๊กทหารผู้คุมอำนาจกองทัพ นักการเมือง สื่อมวลชนทรงอิทธิพล อีกทั้งดีลระดับสุดยอด
   
“สิงห์” และ“ช้าง”อยู่อย่างสงบนิ่ง ในราวป่าเดียวตะวันออกของ “บิ๊กป้อกทั้งหมดมีความสัมพันธ์ เกาะเกี่ยว โยงใย เชื่อมต่อ ทั้งในทางการเมือง และทางธุรกิจ ในนาม“เฟรนด์ออฟป้อม” ขั้วอำนาจใหม่ที่กำลังมาแรง ทำท่าจะพุ่งทะลุยอดไม้  เหนือขั้วทักษิณ และขั้วอำมาตย์   เป็นคอนเน็กชั่นที่ทรงพลัง มีแรงดูดมหาศาล หากวันใดวันหนึ่ง พล.อ.ประวิตร ตัดสินใจไม่หยุดอยู่แค่เก้าอี้ รมว.กลาโหม!

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar