ร่าง พ.ร.บ. “สมรสเท่าเทียม” ของพรรคก้าวไกล ได้ชัยชนะในสภาเหนือความคาดหมาย ตามรอย “สุราก้าวหน้า” ทั้งที่คณะรัฐมนตรีลากไปดอง 60 วันแล้วสั่งคว่ำทั้งสองฉบับ แต่ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลกลับแหกโผ รับหลักการด้วยมติ 210-180
เมื่อเทียบกับ “สุราก้าวหน้า” 178-137 ก็คล้ายกันคือ ส.ส.ประชาธิปัตย์+เศรษฐกิจไทย+พรรคเล็ก โหวตให้เป็นหลัก พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย โหวตให้ประปราย โดยมีทั้งซ้ำหน้าและไม่ซ้ำหน้ากัน
ถามว่าอภิปรายไม่ไว้วางใจประยุทธ์ และ 10 รัฐมนตรี จะมีแหกโผอย่างนี้ไหม-ไม่มีทาง พรรคร่วมรัฐบาลยังไม่แตกแยกขนาดนั้น การที่ ส.ส.โหวตให้กฎหมายสองฉบับ เป็นธรรมชาติของนักการเมืองที่มองเห็นฐานเสียง เห็นความเปลี่ยนแปลงทางสังคม เห็นพลัง “ประชาชนเบียร์” เห็นพลัง LGBTQ ที่ทะลุทะลวงในช่วงไม่กี่ปี
ว่าที่จริง มันก็ไม่ใช่เรื่องที่คนทั่วไปจะต้องเดือดร้อน คุณชอบดูซีรีส์วายหรือไม่ชอบ การออกกฎหมายให้พวกเขามีสิทธิเท่าเทียม ก็ไม่ได้หนักหัวกบาลใคร
ชัยชนะของชัชชาติในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ชัยชนะของสุราก้าวหน้า-สมรสเท่าเทียม เป็นชัยชนะเฉพาะพื้นที่ของฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งฝ่ายอนุรักษนิยมขวางไม่ได้ พวกเขามองว่าพออนุโลมได้ เพราะไม่กระทบโครงสร้างอำนาจ แต่หากชนะเลือกตั้งเป็นรัฐบาล หากจะแก้รัฐธรรมนูญ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ชัยชนะเฉพาะจุดเกิดในภาพสวนทาง รัฐบาลดันทุรัง บริหารประเทศล้มเหลวตกต่ำ แต่อำนาจยังแข็งปั๋ง เครือข่ายอนุรักษนิยมยังไว้ยึดมั่นประยุทธ์ “พิการทางความคิด” เป็นศูนย์กลางของอำนาจสุดโต่งรุนแรง จัดการคนที่ต่อต้าน เช่น หว่าน 112 จับกุมคุมขังไม่ให้ประกัน ล่าสุดก็ตั้งข้อหาปิยบุตร และทีมโฆษณาลาซาด้า
พูดง่ายๆ ถ้าไม่ใช่ประยุทธ์ เปลี่ยนนักการเมืองคนอื่นเป็นนายกฯ พลังขวาสุดโต่งก็จะโทรมลง ไม่สามารถคลั่งขนาดนี้ แต่ประยุทธ์นั่นแหละ บริหารล้มเหลวประชาชนเบื่อหน่าย ทำลายเครดิตฝ่ายอนุรักษ์เอง
ชัชชาติฟีเวอร์ “ทำงาน ทำงาน ทำงาน” จึงกลายเป็น “ซอฟต์เพาเวอร์บ่อนทำลายประยุทธ์” อย่างที่ “หนุ่ม เมืองจันท์” กล่าว แต่ลึกลงไปกว่านั้น ชัชชาตินี่แหละคือผู้นำที่อนุรักษนิยมไทยโหยหา แต่หาไม่เจอ
Perfect Man ผู้มุ่งมั่น สามารถรวมพลัง รวมจิตใจคน ไม่ถือโทษโกรธใคร ไม่เอาแต่สั่ง ลงไปดูหน้างานแล้วพูดคุยกับเจ้าหน้าที่และประชาชนอย่างอารมณ์ดี นี่ไม่ได้สร้างภาพแต่เกิดมาเพื่อทำลายประยุทธ์โดยธรรมชาติ
ติ๊กไว้ด้วย ชัชชาติทำตัวภักดี ไม่เป็นพิษภัยต่ออำนาจนำ แต่สามารถกล่อมเกลาคนรุ่นใหม่ เช่นที่ตอบคำถาม “รุ้ง” เรื่อง 112 คนแบบนี้ต่างหากที่ฝ่ายอนุรักษ์ต้องการ ไม่ใช่ใช้ความรุนแรงบดขยี้ จับกุมคุมขังหวังให้เด็กเข็ดหลาบ กลับเคียดแค้นยิ่งขึ้น
วันนี้คะแนนนิยมชัชชาติใน กทม.อาจเกิน 2 ล้านไปแล้ว เพราะคนรุ่นเก่าหัวอนุรักษ์ถ้าไม่รั้นเกินก็เห็นว่าผู้นำแบบชัชชาติเหมาะกว่าประยุทธ์ “ดนตรีในสวน” ที่มีคนดูล้นหลาม ส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ม็อบเสื้อแดงม็อบสามนิ้ว ขณะที่ดุริยางค์ทหารใช้งบประมาณจัดการแสดงอย่างเงียบเหงา
อย่างไรก็ดี ขณะที่คนล้นหลามดูดนตรีในสวน ก็เกิดม็อบไล่ประยุทธ์ เกิดม็อบทะลุแก๊ส เหมือนภาพคนละโลก แต่เป็นปรากฏการณ์คู่กันที่ “เซาะกร่อนบ่อนทำลาย” ระบอบประยุทธ์
พูดอย่างนี้เหมือนสุดโต่ง แต่เป็นธรรมชาติของการเคลื่อนไหว ขบวนประชาธิปไตยที่ขับไล่ระบอบประยุทธ์ หรือบ้างก็มุ่งรื้อล้างโครงสร้างอำนาจอนุรักษ์ เป็นเหมือนการทำสงครามที่ยิงขีปนาวุธหลายหัวรบ พิสัยใกล้-พิสัยไกล มีการต่อสู้หลายระดับ หลากเป้าหมาย แต่ละกลุ่มแต่ละฝ่ายก็แตกต่างกัน ทั้งมีจุดร่วมกันและขัดแย้งกัน
เช่นคนชั้นกลางฟีลกู๊ดก็อาจพอใจกับการสนับสนุนชัชชาติในสวน แต่ม็อบทะลุแก๊สปะทุจากความกดดันทางเศรษฐกิจ ความแตกต่างทางชนชั้นในสังคมเหลื่อมล้ำ
LGBTQ ต้องการสิทธิเท่าเทียม แต่คนบางส่วนอาจพอใจแค่กฎหมายผ่าน ขณะที่ LGBTQ รุ่นใหม่ต่อต้านเผด็จการชายเป็นใหญ่ จนกลายเป็นแถวหน้าที่กล้าหาญของม็อบสามนิ้ว
ความขัดแย้งในสังคมไทยช่วงนี้ดูเหมือนสับสน จากการต่อสู้หลากหลาย ในขณะที่ผู้กุมอำนาจยังคงดิบเถื่อน ดันทุรัง ไม่แยแสใคร ไม่สนใจความเปลี่ยนแปลง แต่มันคือความเปลี่ยนแปลงทีละกระบิ ก่อนปะทุใหญ่อีกครั้ง
โดยมีตัวเร่งทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อทั้งโลก อัตราดอกเบี้ย ราคาน้ำมัน ที่มีผลจากโควิดและสงคราม ขณะที่รัฐไทยไร้ประสิทธิภาพ ไม่สามารถปรับตัวได้ ขยับทางไหนก็เป็นปัญหา ขึ้นดอกเบี้ย? อุ้มน้ำมัน? ขึ้นภาษี? หนี้รัฐติดเพดานหนี้ครัวเรือนล้นหลาม งบราชการงบประจำงบปรสิตทั้งหลายยังไม่เดือดร้อน
การเมืองไทยอาจไม่เปลี่ยนด้วยคะแนนอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรืออาจไม่เปลี่ยนด้วยเลือกตั้งแลนด์สไลด์ (ชนะเลือกตั้งได้ก็โดนโค่นได้) แต่แรงปะทุจากหลายด้านพร้อมกัน อย่างที่ไม่เคยมีในหลายสิบปี อาจจะทำให้เปลี่ยนเกินความคาดหมาย
ฝ่ายประชาธิปไตยควรยอมรับความขัดแย้ง มีความคิดมีเป้าหมายแตกต่างโดยไม่ใช่ศัตรู เราอยู่ใต้เผด็จการ เมื่อไหร่ที่เป็นประชาธิปไตย เราอาจเป็นเดโมแครตหรือรีพับลิกัน แต่ต่อสู้ทางความคิด ไม่ทำรัฐประหารหรือใช้ 112 ปิดปาก
ส่วนอำนาจอนุรักษ์ ก็อย่าประมาท ใช้ความอำมหิตกับคนรุ่นใหม่
จับกุมคุมขังไม่ได้ประกัน เพิ่มความเคียดแค้น
โดยคิดว่ายังไงก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้
ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/news_7116431
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar