tisdag 26 juli 2022

ครม.อนุมัติ 1.09 หมื่นล้าน สร้าง สวนสัตว์ใหม่ คลองหก


 
ทำไมไม่ให้วชิราลงกรณ์เอาเงินตัวเองออกล่ะ สวนสัตว์อยู่ตรงนั้นมานานปี ตลอดสมัยพ่อก็ไม่คิดจะย้าย พอวชิราลงกรณ์ขึ้นเป็นกษัตรฺย์ ก็จัดแจงไล่ไป เอาที่คืน โดยไม่ถามว่าพร้อมหรือไม่ ก็ออกเงินเองด้วยสิ 1.09 หมื่นล้าน ไหนโฆษณาว่าใจดี "ให้ที่" ไง
 
Bild

..................................................................

อัพเดตเรื่องปิดเขาดินถาวร: ไม่มีคำอธิบาย-ไม่มีแถลงข่าวจากองค์การสวนสัตว์ว่า ทำไมต้องรีบปิด ทั้งที่สวนสัตว์ใหม่ยังสร้างไม่เสร็จอย่างน้อย 3-5 ปี
(แถมท้าย ประวัติย่อเขาดิน เผื่อใครยังไม่รู้ "สวนสัตว์เขาดิน" นี่เป็นผลผลิตของ "คณะราษฎร" นะครับ)
เมื่อสัปดาห์ก่อน ผมโพสต์ข่าวเรื่องเขาดินประกาศปิดถาวรสิ้นเดือนนี้ โดยไม่ได้แสดงความเห็นอะไรไว้ ส่วนหนึ่งเพราะเห็นว่า จะมีการแถลงข่าววันอังคารที่ 14 นี้ อยากฟังว่าเขาจะพูดอะไรก่อน จะได้เขียนความเห็นทีเดียวเลย
เมื่อวานผมเช็คอีกทีว่าเขาแถลงอะไรไปบ้าง เลยเพิ่งรู้ว่า ตั้งแต่วันที่ 10 (คือ 3 วันหลังจากมีข่าวจะปิดและผมโพสต์ลิงค์) ทางสวนสัตว์ได้ยกเลิกการแถลงข่าววันที่ 14 ไปแล้ว
ดูรายงานข่าวของ "โพสต์ทูเดย์" ได้ที่นี่ https://goo.gl/yCoFU3
ที่น่าสนใจคือ จากรายงานของ "โพสต์ทูเดย์" ดูเหมือนผู้บริหารของเขาดิน ไม่ได้มีส่วนในการเสนอความเห็นหรือตัดสินใจเรื่องการปิดเลย ตัวคุณพิทักษ์ อุ่นซ้อน ผอ.เขาดินบอกว่า "ได้รับหนังสือแจ้งจากองค์การสวนสัตว์... ให้เข้าสู่แผนการย้ายสวนสัตว์ดุสิต โดยจะเปิดให้บริการวันสุดท้ายในวันที่ 31 ส.ค.นี้" (สำหรับท่านที่ไม่ทราบ เขาดินเป็นเพียงหนึ่งในสวนสัตว์ทั่วประเทศ ที่อยู่ในการดูแลของ "องค์การสวนสัตว์" อีกต่อหนึ่ง) พูดง่ายๆคือ "ระดับบน" คือองค์การสวนสัตว์เพียงแต่บอกมาให้เขาดินปิดเลย ซึ่งผมมั่นใจว่า องค์การสวนสัตว์เอง ก็คงได้รับคำสั่งมาอีกที เรื่องการแถลงข่าว คุณพิทักษ์ก็บอกว่าไม่ทราบเรื่อง เป็นเรื่องขององค์การสวนสัตว์ ซึ่งดังที่เพิ่งกล่าว ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว
จากเพจ สวนสัตว์ดุสิต Dusit Zoo มีการให้เหตุผลที่ไม่มีแถลงข่าวว่า "เนื่องจากฝ่ายผู้ปฏิบัติงานต้องเตรียมแผนดำเนินการต้อนรับและดูแลประชาชนจำนวนมากที่มาเยี่ยมชมสัตว์ต่างๆ" ซึ่งผมว่าเป็นเหตุผลชอบกลมาก การแถลงข่าวน่าจะใช้ผู้อำนวยการหรือเจ้าหน้าที่แค่ 1-2 คนเท่านั้น จะกระทบการ "เตรียมต้อนรับดูแลประชาชน" ได้เชียวหรือ? ถ้าจะให้เดา ผมคิดว่า ผู้บริหารคงไม่อยากให้มีการซักไซ้จากสื่อมวลชนมากกว่า
ล่าสุด เมื่อวานนี้ "ไทยรัฐ" รายงานว่าเขาดินได้ "จัดนิทรรศการแสดง 'โฉนดที่ดินพระราชทาน'" ใครอยากดูภาพหน้าตา "โฉนดพระราชทาน" ที่ดินปทุมธานี สำหรับสร้างสวนสัตว์ใหม่แทนเขาดิน ดูได้ที่นี่ https://goo.gl/nov2hF
.........................
ปัญหาที่ชวนกังขา ตั้งแต่มีข่าวว่าจะปิดเขาดินคือ ทำไมต้องรีบปิดตอนนี้ เพราะตามที่เพจ "เขาดิน" บอก (ต้องเสริมนิดว่าเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ "แอดมิน" เพจฯ ดูจะน่ารักมาก ตอบคำถามและความเห็นของผู้อ่านอย่างขยันขันแข็งเลย) กว่าสวนสัตว์แห่งใหม่จะสร้างเสร็จ ต้องกินเวลาประมาณ 3-5 ปี ซึ่งก็ตรงกับที่มีรายงานไว้ในสื่อตั้งแต่ตอนต้นปี
หมายความว่า พอปิดเขาดินสิ้นเดือนนี้ จะต้องย้ายสัตว์พันกว่าตัวที่มีอยู่ กระจายกันไปตามสวนสัตว์ต่างๆทั่วประเทศ คือ เขาเขียว, เชียงใหม่, โคราช, สงขลา, อุบล, ขอนแก่น ก่อน เมื่อสวนสัตว์ใหม่สร้างเสร็จ จึงค่อยย้ายกลับมารวมกันที่สวนสัตว์ใหม่อีกที ซึ่งการย้ายสัตว์เยอะๆไปหลายแห่งแล้วย้ายกลับมาที่ใหม่แบบนี้ คงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทั้งคนทั้งสัตว์แน่ (ไม่ต้องพูดถึงงบประมาณ)
ทำไมไม่รอให้สร้างที่ใหม่เสร็จ แล้วย้ายทีเดียว? ผมคิดว่าคำตอบก็ง่ายๆว่า วชิราลงกรณ์คงต้องการให้เริ่ม "เคลียร์พื้นที่" เลยตั้งแต่ตอนนี้ โดยไม่คำนึงว่าจะทำให้สิ้นเปลืองและยุ่งยากสำหรับคนและสัตว์เกินจำเป็นแค่ไหน
มีผู้อ่านเพจเขาดินบางท่าน เสนอว่า อย่างน้อยน่าจะเลื่อนวันปิดเขาดินออกไปอีก 2 วัน เพราะวันที่ 1-2 กันยายน เป็นเสาร์-อาทิตย์พอดี จะได้เปิดให้ประชาชนได้มาชมและร่ำลาเขาดินกันได้มากขึ้น ก็ไม่รู้ผู้บริหารจะยอมเรื่องเล็กๆแค่นี้ไหมนะ
.....................
สุดท้าย สำหรับท่านที่ไม่ทราบ เขาดิน หรือ เขาดินวนา หรือชื่อทางการ "สวนสัตว์ดุสิต" เป็น "ผลผลิต" ของ "คณะราษฎร" นะครับ
คือแรกเริ่มเดิมที รัชกาลที่ 5 ไปเที่ยวประเทศฝรั่ง แล้วประทับใจ Botanic Gardens ของเขา กลับมาก็เลยให้ทำ "สวนพฤกษชาติ" หรือ Botanic Garden ในเขตวังบ้าง เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ชมต้นไม้ เป็นการส่วนพระองค์ (หรือสำหรับเจ้านายที่พระองค์เชิญชวนมา) โดยขุดดินบริเวณนั้น ทำเป็นบึงน้้ำ แล้วเอาดินที่ขุดทำเป็นเขาย่อมๆ เลยทรงเรียกว่า "เขาดิน" และเพิ่มคำว่า "วนา" เข้าไปด้วย (สรุปคือ "เขาดินวนา" เป็น "นิ้คเนม" ที่ ร.5 ตั้ง) แต่สวนพฤกษชาติ "เขาดินวนา" ของพระองค์เป็นสวนส่วนพระองค์นะคร้บ ไม่ได้เปิดให้ประชาชน ในเพจเขาดินมีการอ้างว่า ถึงรัชกาลที่ 7 มี "พระราชดำริ" ว่าจะเปิดให้ประชาชนได้ใช้สวน แต่จริงๆก็ไม่มีการทำ
มีนาคม 2481 (ตามปฏิทินปัจจุบันจะต้องเป็น 2482) รัฐบาลคณะราษฎรเลยขอเอาสวนพฤกษชาติ "เขาดินวนา" นั้น มาทำเป็นสวนสัตว์ที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้
การที่ "เขาดิน" เป็นผลผลิตคณะราษฎร คงไม่ใช่สาเหตุที่วชิราลงกรณ์ต้องการย้ายออกไป เหมือนกรณี "หมุดคณะราษฎร" หรอก กรณีนั้นเป็นเรื่องความเชื่อโชคลาง กรณี "เขาดิน" เป็นส่วนหนึ่งของไอเดียสร้าง "วังวชิราลงกรณ์คอมเพล็กซ์ ที่ผมเคยเล่าไปแล้ว - ใครยังไม่เคยอ่าน ดูที่นี่ https://t.co/UtKBeI6B8O

พระราชฐานให้แบ่งเขตเป็น ๔ เขต ดังนี้
เขต ก. ภูวนารทลีลา, อุดร, HQ, สวนหงส์, พูลพาวิลเลี่ยน
เขต ข. ภูธรลีลาศ, พ.อัมพร, สวนกุหลาบ
เขต ค. พรหมโสภิณ, ราชฤทธิ์รุ่งโรจน์, พ.อานันตสมาคม
เขต ง. พ.วิมานเมฆ, พ.บ้านลุง, พ.อภิเสกดุสิต
"เขาดิน" จะจัดเป็น "Royal Garden" และให้สร้างอุโมงค์ลอด แต่ให้มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี
บ้านพลอเอกเปรม อาจมีการทุบและสร้างใหม่
พื้นที่ควบคุมราชวิถี ให้สร้างอุโมงค์ลอดเพื่อเข้า พ.วิมานเมฆ
ในอนาคตจะปิดถนนอู่ทองใน
ประตูทางเข้าออกมี ๔ ทาง คือ ประเสริฐราชศักดิ์, ภูธรลีลาส, ภูวนารถลีลา และ ทวยเทพสโมสร
 
Ingen fotobeskrivning tillgänglig.

ปูทางสร้างวังใหญ่วชิราลงกรณ์ อีกหนึ่งจังหวะก้าว?

หนึ่งปีที่ผ่านมา ได้มีจังหวะก้าวหลายอย่าง ที่ส่อไปในทิศทางสนับสนุนข่าวลือที่ว่า วชิราลงกรณ์มีแผนต้องการสร้างวังใหญ่กลางเมือง ตั้งแต่ให้รื้อหมุดคณะราษฎร, จัดสวนสนามตอนเช้าลานพระรูป, ปิดถนนบางส่วนและปิดการเข้าชมวังเก่าบริเวณนั้น, ให้ที่ดินสำหรับสร้างสวนสัตว์ใหม่นอกเมือง, เมื่อเร็วๆนี้ ยกเลิกการจัดงานกาชาดที่สวนอัมพร, พร้อมกันนั้น ตลอดปีที่ผ่านมา ก็มีข่าวลือในหมู่อาจารย์และนักศึกษามหาลัยสวนดุสิต-สวนสุนันทาว่า มหาลัยจะต้องย้ายจากที่เดิมในอนาคต
และล่าสุดนี้ สั่งให้สนามม้านางเลิ้งย้ายออกไป (อ่านรายงานเรื่อง สนง.ทรัพย์สินฯ สั่งให้ย้ายสนามม้านางเลิ้งออก ได้ที่นี่ https://goo.gl/339dSb)
เท่าที่ผมเช็คได้ วชิราลงกรณ์มีไอเดียทำนองนี้จริงๆ แต่ในที่สุด จะทำได้แค่ไหน คงยังต้องรอดูต่อไป ที่ผ่านมา เขาต้องการอะไร ก็ได้โดยตลอด ดังนั้น เรื่องนี้ก็อาจจะเป็นจริงขึ้นมาได้
แต่ดังที่ผมเคยเขียนไป โครงการแบบนี้ ถ้าจะลงมือทำจริงๆ ต้องใช้เงินระดับร้อยล้านพันล้าน หมายความว่า รัฐบาลใหม่จะต้องเป็นรัฐบาลที่วชิราลงกรณ์ไว้ใจได้ ถ้าเป็นไปได้ วชิราลงกรณ์ก็คงแฮปปี้ให้ คสช.ที่ตอบสนองเขาทุกอย่าง อยู่ต่อไปเรื่อยๆ แต่เสียงเรียกร้องให้มีเลือกตั้ง ในที่สุด ไม่น่าจะต้านทานไม่ให้เกิดได้ นั่นหมายความว่า นายกฯคนต่อไปที่จะมาหลังเลือกตั้ง วชิราลงกรณ์จะต้อง "เม็กชัวร์" ว่า เป็นคนที่เขาไว้ใจได้ ขออะไรก็ได้อีก
.............
ตอนนี้ เริ่มมีการพูดกันในหมู่นักวิชาการแอ๊คติวิสต์บางคน ถึงการ "แยกเรื่องทหารกับเรื่องสถาบันกษัคริย์ออกจากกัน" ทำเรื่องแรกก่อน อีก 5 ปี ค่อยมาว่ากันใหม่ในเรื่องหลังอะไรทำนองนั้น
ในแง่ของความจำเป็นบังคับของเมืองไทย ผมพอจะเข้าใจระดับหนึ่ง (แต่กรณีที่ทำให้เริ่มพูดๆกันนั้น ไม่ใช่เกิดจากความจำเป็นจริงๆด้วยซ้ำ) แต่ถ้านักวิชาการปัญญาชนแอ๊คติวิสต์จะเริ่มทำเป็น "ทฤษฎี" ขึ้นมาว่า สองเรื่องนี้แยกกันได้ นั่นจะไม่เพียงเป็นการหลอกตัวเอง แต่จะเป็นการหลอกสาธารณชนด้วย (ไว้ถ้าขยัน ผมจะหาเวลาเขียนเรื่องว่า อะไรคือสิ่งที่เรียกว่า "ผลพวงการรัฐประหาร" จริงๆอีกที)
on a more personal note: บอกตรงๆว่า หลายวันนี้ เกิดอารมณ์เบื่อๆขึ้นมาเหมือนกันว่า ข้าพเจ้าก็อายุมากพอสมควรแล้ว (จะครบ 60 ในไม่กี่เดือนนี้) อยากใช้เวลาเลี้ยงแมวและอ่านหนังสือปรัชญาที่ยังไม่ได้อ่านก่อนตายแล้ว ยังต้องมารับภาระทำเรื่องที่ทำมาหลายสิบปีนี้ต่อ (เหมือนต้องมา "เริ่มพูดกันใหม่" ด้วยซ้ำว่า เรื่องทหารกับเรื่องเจ้ามันแยกกันไม่ออกอย่างไร) เพราะ "คนรุ่นใหม่" ที่อ้างกันนักหนาว่า จะมาสร้างอนาคตใหม่ "คลีนอัพ" เรื่องไม่ดีๆที่คนรุ่นเก่าทำๆไว้ ดันทำท่าจะไม่ยอมจับเรื่องนี้แล้ว บางอารมณ์ที่เซ็งๆ ก็นึกขึ้นมาเหมือนกัน "เป็นคนรุ่นใหม่ภาษาอะไรฟะ ไม่เอาไหนขนาดนี้ โยนเรื่องยากๆให้คนแก่ทำตลอดเวลา เลือกทำแต่เรื่องฮิปๆป๊อบๆ?"
 

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar