onsdag 3 augusti 2022

นี่ละคือระบอบกษัตริย์เผด็จการ หรือกษัตริย์ทรราช ( The Tyrants King ) ที่อำนาจทุกอย่างรวมศูนย์อยู่ในมือของกษัตริย์ แต่ผู้เดียว อำนาจนิติบัญญัติ (รัฐสภา) อำนาจบริหาร ( รัฐบาล ) อำนาจ ตุลาการ ( ศาล ) และกองทัพทั้งหมดรวมถึงข้าราชการทั่วประเทศอยู่ใต้อำนาจของกษัตริย์แต่ผู้เดียว จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าประเทศไทยปกครองโดยกษัตริย์ทรราช

 

เรื่องจักรๆ วงศ์ๆ สมัยนี้ “มีประเด็นปวดเฮดซ่อนอยู่”

อันเรื่องจักรๆ วงศ์ๆ สมัยนี้ (ช่วงที่ก้อยหายหน้าไปนานมากจนแอนดรูว์คิดถึง) “มีประเด็นปวดเฮดซ่อนอยู่” ตามความสะกิดต่อมทำนองคลองนิตินัย ซึ่ง royalist watcher อย่าง @SaiSeeMaP ชวนให้คำนึงถึง

อันเนื่องมาแต่การ “โปรดเกล้าฯ ให้รับโอน พล.ต.รวิศ รัชตะวรรณ อดีต ผบ.ร.ร.เตรียมทหาร บก.ทัพไทย (ไป) เป็นข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัย รักษาพระองค์” นั้นนอกจากเป็นโองการโปรดกระหม่อม โดยไม่มีสนองฯ แล้ว

คุณพูติกาลบอกว่า “เหมือนจะอ้างผิดมาตรา (ด้วย) แฮะ” เพราะโดยปกติของการโอนข้าราชการ “ฝ่ายอื่นที่ไม่ใช่ข้าราชการในพระองค์” มาเป็น #ข้าราชการในพระองค์ หรือ ‘vise versa’ ในทางกลับกัน มันอยู่ในพระราชอำนาจตาม พรฎ.มาตรา ๑๔

เขาดูจากพระราชกรณียกิจเรื่องอย่างนี้ที่ผ่านมา ๓ ครั้ง ไม่ว่าจะ โอน องค์ภา จากข้าราชการอัยการไปสังกัด หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์’ ในตำแหน่งเสนาธิการกองบัญชาการฯ ยศพลเอก อ้างระเบียบบริหารราชการในพระองค์ ม.๑๔

ก่อนหน้านั้น ๔ เดือน ก็ยังใช้ ม.๑๔ โอน ตาแดง กับ ผัวแป้ง’ หรือพลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ (ผบ.ทบ.) กับ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ (อธิบดีกรมราชทัณฑ์) ไปเป็นรองเลขาธิการพระราชวัง ระดับ ๑๑ หมายเลข ๖ และ ๗ ตามลำดับ

อันนี้ Sai-See-Ma ชวนให้ครุ่นคิดนิดนึง “เป็นการโอนย้ายในวันสุดท้ายก่อนเกษียณ ไม่รู้ทำไมไม่รออีก 1 วันให้เกษียณก่อนค่อยแต่งตั้ง จะได้ไม่ต้องทำเรื่องโอนย้ายให้วุ่นวาย” จะอย่างไรก็แล้วแต่ ในต้นเดือนกุมภาพันธ์ ๖๔ ห่างจากโอนองค์ภา ๕ วัน

มีประกาศให้เป็นผลย้อนหลัง ๓ วัน โอนพลตรี สมบัติ ธัญญะวัน ผอ.สำนักงานพัฒนา หน่วยทหารพัฒนา ไปสังกัดหน่วยถวายความปลอดภัย รักษาพระองค์’ ตำแหน่ง ปฏิบัติการพิเศษ ยศพลโท คราวนี้ไม่อ้าง ม.๑๔ แระ รวมทั้งโอนนาวาเอกสกาย เภกะนันท์ อีกคน

จะด้วยเหตุผลกลใดทำให้เลิกใช้พระราชอำนาจตามที่ตัวบทกฎหมายระบุไว้ แล้วอ้างเพียงมาตรา ๑๐, ๑๓ และ ๑๕ เช่นนี้แม้ว่าข้าราชบริพารก้นวังจะไม่ติดใจ ยกไว้เป็นเรื่องของพระองค์ แต่ประชาชนที่ใส่ใจในความแหวกแนวของพระราชกรณียกิจ คิดลึก

“ไม่รู้การไม่อ้าง ม.๑๔ มีนัยอะไรหรือเปล่า” ศายษีมา พูติกาล มองอย่างทวนน้ำ เนื่องจากพระราชอำนาจตามอัธยาศัยนี้ พอเหลาลงไปกลายเป็น ตามอำเภอพระราชหฤทัย ยังกะยุคพระเจ้าเอกทัต โดยเฉพาะถ้าเป็นการโอนอย่าง ‘vise versa’

“ชวนให้สงสัยว่า ถ้าตำแหน่งอย่าง ผบ.ทบ. นี่ก็สามารถโอนข้าราชการในพระองค์ไปเป็นได้ตามพระราชอัธยาศัยหรือเปล่า” ก็ทีตอนโอน ผบ.ทบ.แดงมาเป็นข้าราชการในพระองค์ทั้งที่ยังไม่เกษียณ ก็ได้ทำไปแล้ว จะทำกลับกัน (กลางคัน) บ้างไหม

เลยลามปามต่อยอดไปยังข้อสงสัยที่ไกลกว่าตำแหน่ง ผบ.ทบ.ด้วยว่า ถ้าจะเอา ผบ.ครม.มาสังกัด ในพระองค์’ ตำแหน่งองคมนตรี (งี้) ตอนก่อนจะครบ ๘ ปีบ้างไหม หรือ ‘vise versa’ ทรงพระราชทานใครสักคนจากฝ่ายในไปแทนเมื่อครบ ๘ ปีล่ะ

โจทย์นี้น่าคิด

(https://twitter.com/SaiSeeMaP/status/1554522214619561984) 

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar