tisdag 30 augusti 2022

ไม่อยากให้ลืม "เฉลิมศักดิ์ เรือนมงคล" นายทหารที่พยายามลี้ภัย แต่ไม่สำเร็จ สันนิษฐานว่าถูกฆ่าตายไปแล้ว

 

#ตามหาคนหาย ในวัน #ผู้สูญหายสากล ไม่อยากให้ลืม "เฉลิมศักดิ์ เรือนมงคล" นายทหารที่พยายามลี้ภัย แต่ไม่สำเร็จ สันนิษฐานว่าถูกฆ่าตายไปแล้ว นี่คือเรื่องราวของเขา


Andrew MacGregor Marshall
February 12, 2020
เรื่องของ เฉลิมศักดิ์ เรือนมงคล เหยื่อรายที่เก้าของนักลอบฆ่าไทยในต่างประเทศ
(Scroll down for English version)
เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปแล้วว่า ชาวไทยผู้เห็นต่างจากผู้นำ ที่ถูกกล่าวหาว่าหมิ่นสถาบันกษัตริย์ ได้หายตัวไปจากที่พักพิงในประเทศเพื่อนบ้านในสี่ปีที่ผ่านมานี้ และอย่างน้อย มีสองท่านในจำนวนนั้น ได้เป็นที่ยืนยันแล้วว่าถูกฆ่าตายไปแล้ว และก็เป็นไปได้มาก ว่าทั้งแปดคน ก็ถูกฆ่าตายไปแล้วด้วย โดยทหารฝ่ายปกครองที่นิยมเจ้า
อิทธพล สุขแป้น หรือที่รู้จักกันในชื่อ ดีเจซุนโฮ หายตัวไปในลาวเมื่อเดือนมิถุนายน ๒๐๑๖ และไม่มีใครได้ข่าวของเขาอีกเลย
ในวันที่ ๑๐ กรกฎาคม คศ ๒๐๑๗ มีชาย ๑๐ คน สวมชุดดำใส่หมวกคลุมหน้า เปิดแต่ตาจมูกปาก และพูดภาษาไทย บุกเข้าจับตัว นาย วุฒิพงษ์ กชธรรมกุล หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ โกตี๋ ที่บ้านพักในประเทศลาวที่เขาลี้ภัยไปอาศัยอยู่
โกตี๋ กับภรรยาและเพื่อนอีกคนหนึ่ง ที่อยู่ด้วยกัน ถูกทำร้าย และช็อคด้วยปืนสตั๊นไฟฟ้า จากนั้นก็ถูกเอาผ้าปิดตา และมัดข้อมือไพล่หลังด้วยที่รัดพลาสติก แล้วโกตี๋ ก็ถูกจับขึ้นรถเอาตัวไป โดยคนร้ายทิ้งภรรยาและเพื่อนของเขาไว้ในบ้าน
ไม่มีใครได้ข่าวคราวของโกตี๋อีกเลยตั้งแต่ถูกอุ้มหายไป ตามแหล่งข่าวทางทหารที่ทราบเรื่องการปฏิบัติการนี้โดยตรง กลุ่มชายที่บุกลักพาตัวโกตี๋ เป็นทหารกำลังหน่วยพิเศษ ได้พาเขาไปในป่าทึบห่างไกลผู้คน แล้วโกตี๋ก็ถูกฆ่าในป่านั้น แล้วพวกลักพายังปัสสาวะใส่บนศพ แล้วฝังร่างในป่านั้น
ในเดือนธันวาคม ปี คศ ๒๐๑๘ นาย สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ และสหายคือ นาย ชาติชาญ บุพวรรณ และ นาย ไกรเดช ลือเลิศ ได้หายตัวไปจากบ้านที่เวียงจันทน์ ซึ่งเป็นที่พักอาศัยในระหว่างที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศลาว
เวลาต่อมาในวันที่ ๒๖, ๒๗ และ ๒๙ เดือนเดียวกัน มีศพ ๓ ศพลอยมาติดตลิ่งแม่น้ำโขงฝั่งไทย ทั้งสามศพถูกห่อด้วยกระสอบป่านหุ้มด้วยตาข่าย ถูกมัดด้วยเชือก
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยรักษาความสงบลำน้ำโขงของกองทัพเรือได้มาถึง ก็พบว่ามีศพหายไปหนึ่งศพ อีกสองศพถูกส่งไปชันสูตรในกรุงเทพ และได้รับการยืนยันว่าเป็น นาย ชาติชาญ และ นายไกรเดช สภาพทั้งสองศพ ขาทั้งสองข้างถูกหัก ซึ่งคงมาจากการทารุณกรรม ถูกมือมัดไพล่หลัง คว้านท้องยัดด้วยคอนกรีต
เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ผู้หลบภัยจากการมีความเห็นต่างสามคน มี ชูชีพ ชีวสุทธิ ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามว่า ลุงสนามหลวง และสหายอีกสองคน คือ สยาม ธีรวุธ และ กฤษณา ทับไท ก็หายตัวไป พวกเขาถูกจับขณะที่กำลังพยายามเดินทางเข้าประเทศเวียตนาม จากฝั่งลาว ด้วยพาสปอร์ตปลอม แต่ทางเวียตนามปฏิเสธไม่รับรู้ว่า ทั้งสามหายไปไหน และทางการไทยก็อ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นอะไรด้วยทั้งนั้น
เป็นไปได้ว่า ทั้งสามถูกส่งตัวให้ฝ่ายไทย และถูกฆ่าไปในที่สุด
เรื่องของคนทั้งแปดที่หายไป ได้รับการรายงานในวงกว้าง ระหว่างสื่อนานาชาติและองค์การพิทักษ์สิทธิมนุษยชน แต่ยังมีเหยื่อรายที่เก้า ที่ยังไม่มีใครรายงานถึง นอกจากผม ผมได้ติดตามสืบเสาะเขามาตั้งแต่เดือน ๒๐๑๘ และนึ่คือเรื่องที่ผมได้ทราบมา
เหยื่อรายนี้คือ ร้อยโท เฉลิมศักดิ์ เรือนมงคล นายทหารหน่วยหมวกแดง ซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดกับอดีตผู้บัญชาการทหารบก เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้ได้ให้การสนับสนุนด้านการงานของเขามาตลอด
ในวันศุกร์ที่ ๓๐ มีนาคม ระหว่างที่อยู่ที่นราธิวาส เฉลิมศักดิ์ ถูกเรียกตัวกลับกรุงเทพ เพราะต้องสงสัยว่า เป็นผู้อยู่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเฟซบุ๊ค เพจหมิ่นสถาบัน ที่มีชื่อว่า “พิซซ่าชาวใน” เขาได้ติดต่อ เฉลิมชัยเพื่อขอความช่วยเหลือปกป้องให้ความปลอดภัย แต่เฉลิมชัยกล่าวว่า มันเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสมากเกินกว่าที่เขาจะช่วยได้
ดังนั้น เฉลิมศักดิ์ จึงตัดสินใจหนีออกจากประเทศไทย โดยบินไปยังกรุงพนมเปญ หวังว่าจะไปขอความช่วยเหลือจาก UNHCR ที่นั่น แต่ก็ถูกปฏิเสธ ระหว่างที่อยู่ในกรุงพนมเปญ เขาพบว่าบัญชีธนาคารของเขาถูกปิด จึงคิดว่าที่กัมพูชาไม่ปลอดภัยเสียแล้ว เขาจึงบินไปถึงกรุงมนิลาในวันที่ ๖ เมษายน คศ ๒๐๑๘
ในขณะเดียวกัน ทางการไทยก็สั่งระงับพาสปอร์ตของเขา ทั้งฉบับทหารและพลเรือน
เฉลิมศักดิ์ ได้ติดต่อ UNHCR ในกรุงมนิลา และจะไปพบเจ้าหน้าที่ที่นั้น เมื่อจะเปิดทำการในวันจันทร์ที่ ๙ เมษายน คศ ๒๐๑๘ แต่เขาได้หายตัวไปในวันเสาร์อาทิตย์ ที่ ๗ หรือ ๘ เมษายน และทั้งครอบครัวและเพื่อนฝูงก็ไม่ได้รับข่าวคราวของเขาอีกเลย
จากแหล่งข่าวทั้งไทยและทางการทูตนานาชาติกล่าวว่า เขาถูกจับตัวส่งกลับประเทศไทย โดยผ่านทางมาเลเซีย และสันนิษฐานว่าถูกฆ่าตายไปแล้ว
ทางการไทยก็เงียบไปกับเรื่องการหายตัวของเฉลิมศักดิ๋ สื่อมวลชนทั้งของไทยและต่างประเทศ รวมทั้งกลุ่ม เอ็นจีโอ ต่างก็มิได้รายงานเช่นกัน
ผมขอร้องสื่อมวลชน และกลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนนานาชาติ ให้ทำอะไรมากกว่านี้ที่จะนำเสนอเรื่องการหายไปของเฉลิมศักดิ์ เขาเป็นเหยื่อที่ถูกลืม ของพวกนักฆ่าไทยที่ไล่ล่าผู้เห็นต่างที่ลี้ภัยไปต่างประเทศ จำนวนที่ทราบกันทั่วไปว่ามีแปดคน ไม่ถูกต้อง ที่จริงแล้วมันมีเก้าคน
โปรดอย่าปล่อยให้ เฉลิมศักดิ์ เรือนมงคล ถูกลืมไป
...............
𝗧𝗵𝗲 𝘀𝘁𝗼𝗿𝘆 𝗼𝗳 𝗖𝗵𝗮𝗹𝗼𝗲𝗺𝘀𝗮𝗸 𝗥𝘂𝗲𝗻𝗺𝗼𝗻𝗴𝗸𝗼𝗻 — 𝘁𝗵𝗲 𝗻𝗶𝗻𝘁𝗵 𝘃𝗶𝗰𝘁𝗶𝗺 𝗼𝗳 𝗧𝗵𝗮𝗶 𝗮𝘀𝘀𝗮𝘀𝘀𝗶𝗻𝘀 𝗮𝗯𝗿𝗼𝗮𝗱
It's widely known that eight Thai dissidents accused of insulting the monarchy have gone missing from other Southeast Asian countries over the past four years. Two are confirmed to have been killed, and it is probable all eight were murdered by the royalist military regime.
Ittipon Sukpaen, known as DJ Sunho, disappeared in Laos in June 2016, and nothing has been heard from him ever since.
In July 2017, 10 armed men dressed in black, wearing black balaclavas, and speaking Thai, seized dissident Wuthipong Kachathamakul, also known as Ko Tee, at his house in Vientiane where he had been living in exile.
Ko Tee, his wife, and a friend who was also in the house were beaten, shocked with electric stun guns, and were blindfolded and had their hands tied with plastic cuffs. The armed men drove Ko Tee away in a car, leaving his wife and friend at the house.
Ko Tee has also never been heard from since his abduction. According to a military source with direct knowledge of the operation, the men who kidnapped him were Thai special forces soldiers. They drove him to a remote area of forest where they murdered him, urinated on his corpse, and buried him.
In December 2018, Surachai Danwattananusorn and his comrades Chatcharn Buppawan and Kraidej Luelert also vanished from the house where they had been living in exile in Vientiane.
Later that month, on December 26, 27 and 29, three corpses washed up on the banks of the Thai side of the Mekong River. The corpses were wrapped in rice sacks and fish nets, tied with rope.
One of the corpses disappeared after police and a naval patrol boat arrived at the scene. The two other corpses were sent to the Forensic Science Institute in Bangkok and identified as Chatcharn and Kraidej. Their legs had been broken, probably as a result of torture, they were handcuffed, and they had been disembowelled and stuffed with concrete.
In May last year, three more dissidents — Chucheep Chiwasut, who was known as Uncle Sanam Luang, and his comrades Siam Theerawut and Kritsana Thapthai, also disappeared. They were arrested while trying to cross from Laos to Vietnam using fake passports. But the Vietnamese say they don't know where the three men are, and the Thai authorities also claim they don't know anything about it.
It's probable the three were handed over to Thai forces and murdered.
The stories of these eight victims have been widely reported by international media and human rights organisations. But there is a ninth victim, who nobody has reported on, apart from me. I have been investigating his case since his disappearance in April 2018. This is what I have been able to find out:
His name is Chaloemsak Ruenmongkon [เฉลิมศักดิ์ เรือนมงคล]. He was a sub-lieutenant in the elite "red beret" special forces, and was very close to former commander-in-chief Chalermchai Sitthisart who personally mentored him and supported his career.
On Friday March 30, 2018, while he was in Narathiwat, Chaloemsak was summoned back to Bangkok because he was suspected of being behind the anti-monarchy and anti-junta Facebook page “พิซซ่าชาวใน". He contacted Chalermchai, asking for reassurances about his safety, but Chalermchai said the case was so serious he could offer no help or protection.
So Chaloemsak decided to flee Thailand. He flew to Phnom Penh, where he planned to seek protection from the UNHCR. But they refused to help him. While in Cambodia he discovered his Thai bank accounts had already been shut down. He knew Cambodia was not safe, so he flew to Manila in the Philippines, where he arrived on April 6, 2018.
Meanwhile, the Thai authorities cancelled his civilian and military passports.
Chaloemsak made contact with the UNHCR in Manila, and planned to visit their office when it reopened on Monday April 9 2018. Sometime during the weekend of April 7/8, he disappeared, and none of his friends or family have ever heard from him again.
Several senior Thai and foreign diplomatic sources say he was captured and taken back to Thailand via Malaysia. He is also presumed to have been murdered.
There has been silence about the disappearance of Chaloemsak from the Thai authorities. Thai and international media and NGOs have so far failed to report it.
I would urge journalists and international human rights organisations to do more to highlight the disappearance of Chaloemsak. He is a forgotten victim of the Thai assassination squads targeting dissidents abroad. It's not correct that there have been eight victims so far. The number is nine.
Please don't let Chaloemsak Ruenmongkon be forgotten.
.....
Prim Maneechot
February 19
"เฉลิมศักดิ์ เรือนมงคล" คือนายทหารที่พยายามลี้ภัย แต่ไม่สำเร็จ
เฉลิมศักดิ์ ถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นแอดมิน 'เพจพิซซ่าชาวใน' เพจที่พูดคุยถึงข่าวคราวของวังทวีฯ เขาพยายามลี้ภัยออกทางมาเลเซีย ก่อนจะถูกจับกุมตัวกลับมาแล้วหายสาบสูญไป
เวลาที่ทหารตำรวจออกมาพูด ออกมายืนเคียงข้างประชาชน เขาไม่ได้เสี่ยงแค่หน้าที่การงาน หลายๆครั้งคือชีวิต ไม่ใช่แค่ของตัวเองด้วย ของพ่อแม่ ของลูกเมีย ของทุกคน
มันใกล้มือใกล้ตีน เวลาเห็นcomment ชาวเน็ตบอก "ลาออกมาเลยค่ะ" "ลาออกมา" มึงก็พูดง่ายคึเล่นขายของติ มันไม่ง่ายเหมือนเล่นเน็ตเนาะ
สำหรับเรา อยู่ไปเถอะ อยู่ไป อยู่เพื่อช่วยเปลี่ยนแปลงจากข้างใน ส่งข้อมูล อยู่เพื่อดูแลสวัสดิการทหาร อยู่ดูแลหลักสูตร อยู่แล้วเติบโต โตไปก็อย่าเป็นพี่แบบที่เราเกลียด
อยู่แล้ว connect กันไว้ อยู่ให้รู้ว่าไม่ได้อยู่เพียงลำพัง
อย่างน้อยก็ยังมีเพื่อน มีพี่ มีน้องอยู่ฝั่งนี้เสมอ
อยู่เพื่อรอดูคนที่มันอุ้มหายเฉลิมศักดิ์ คนที่มันอุ้มหายวันเฉลิมชดใช้ให้พวกเราทุกคน
อยู่ก็อยู่ให้มันเป็นประโยชน์ด้วยเน่อ
.....

Phompan Charoenchuang
May 20, 2018
ร้อยโท เฉลิมศักดิ์ เรือนมงคล นายทหารหมวกแดง หายตัวไป
คาดว่า ถูกขังอยู่ที่คุกทวีวัฒนา
โดย กองทัพบก เชื่อว่า เฉลิมศักดิ์ เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
เฟซบุ๊ค เพจ พิซซ่าชาวใน (ปิดตัวไปแล้ว)
เป็นเพจที่วิจารณ์ การยึดอำนาจ และราชวงศ์
ต่อมาได้หนีออกนอกประเทศ ข่าวกรอง ทบ. ระบุว่า
หนีไปมาระหว่าง กัมพูชา และฟิลิปปินส์ หาประเทศลี้ภัย
โดยทาง กระทรวงต่างประเทศ ได้ยกเลิกพาสปอร์ตของ เฉลิมศักดิ์
ต่อมา เฉลิมศักดิ์ ถุกจับตัวได้ที่ มาเลเซีย และถูกส่งข้ามแดนมาไทย
แต่กลับไม่มีข่าวคราว ญาติหาตัวไม่พบ ว่าถูกคุมขังที่ไหน
ทำให้เชื่อว่า เฉลิมศักดิ์ ถูกส่งตัวเข้าคุกทวีวัฒนา
แทนการดำเนินคดีปกติทั่วไป

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar