นายชูพงษ์ ถี่ถ้วน นักเคลื่อนไหวทางการเมืองซึ่งอยู่ในฟิลิปปินส์ และได้รับมอบหมายจากครอบครัว พ.อ.ดร.อภิวันท์ วิริยะชัย ให้ชี้แจงความประสงค์ของ พ.อ.ดร.อภิวันท์ ในการนำศพกลับประเทศไทยเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาว่า ครอบครัว พ.อ.อภิวันท์ ฝากกราบขอบพระคุณคนไทยทุกคน ที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ที่ห่วงใยและเป็นกำลังใจให้กับพ.อ.อภิวันท์มาโดยตลอดขณะที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และสิ่งที่พ.อ. อภิวันท์ได้ฝากไว้ก่อนเสียชีวิตคือ ให้นำศพ กลับมาทำบุญที่วัดบางไผ่ นนทบุรี อย่างสงบเรียบร้อย ไม่ต้องการให้เป็นประเด็นการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น ต้องการกลับมาอย่างสงบ ไม่ประสงค์ที่จะทำให้เกิดความขัดแย้ง หรือเกิดความเข้าใจผิดเกิดขึ้นแต่อย่างใด
ในส่วนของการชันสูตรศพนั้น นายชูพงษ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของฟิลิปปินส์ และเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยที่ฟิลิปปินส์ ก็ได้ทำการพิสูจน์ศพตามขั้นตอนของกฎหมายเรียบร้อยแล้ว ทุกขั้นตอนได้รับการรับรองจากสถานทูตไทยแล้วด้วย ทุกอย่างได้จบสิ้นที่ฟิลิปปินส์แล้ว และทราบว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย เช่น การชำระคดี นั้นได้มีการติดต่อประสานงานเพื่อนำชื่อของพ.อ.อภิวันท์ ออกจากสารบ เนื่องจากได้เสียชีวิตไปแล้ว
นายชูพงษ์กล่าว ส่วนข้อกังวลว่าจะมีปัญหาอื่น ๆ ตามมาอีกนั้นยืนยันไม่ได้ แต่ การประสานงานทั้งหมดที่ครอบครัวของท่านอภิวันท์ ได้ประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆในฟิลิปปินส์และสถานทูตไทย แม้แต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
นายชูพงษ์เปิดเผยด้วยว่า ระหว่างที่พ.อ.อภิวันท์ รักษาตัวอยู่ที่ ร.พ.ในฟิลิปปินส์ นั้น รพ.นั้นมีการรักษาความลับขั้นสูงสุด และระบบการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด
“ที่ ร.พ.ในฟิลิปปินส์ ต้องลบชื่อท่านออกจากสารบบ เพราะขณะที่รักษาอยู่นั้น มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานความมั่นคงของไทย ติดต่อเข้าไปด้วย ซึ่งก็จะไม่มีชื่อพ.อ.อภิวันท์ ใครจะเข้าเยี่ยม จะต้องให้ ภรรยา และผม รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของฟิลิปปินส์ อนุญาตก่อนใน ร.พ. ก็จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประมาณ 20 คนคอยดูแลอยู่ด้วย” นายชูพงษ์กล่าว
นายชูพงษ์กล่าวว่า ฝากถึง คสช. ฝากถึง พล.อ.ประยุทธ์ หรือแม้กระทั่ง พล.อ.อุดมเดช ด้วยว่า คนที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวายเกี่ยวกับพิธีศพของ ท่านอภิวันท์ นั้นเชื่อว่าไม่ใช่คนเสื้อแดง แต่ให้ระวังพวกเสื้อเหลืองไว้จะดีกว่า เพราะเริ่มเห็นแล้วเช่น การออกมาคัดค้านไม่ให้มีการพระราชทานเพลิงศพเป็นต้น
นายชูพงษ์ กล่าวว่า ขอย้ำให้คนไทยทุกคนได้ทราบว่า ดร.อภิวันท์ ไม่ได้เป็นผู้ร้าย ไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดแค่ผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งฐานะทางกฎหมายนั้นถือว่าท่านยังเป็นผู้บริสุทธ์
“ครอบครัวของท่านอภิวันท์ต้องขอขอบคุณคณะแพทย์ ที่ รพ.ประเทศฟิลิปปินส์ด้วยที่ ได้ดำเนินการรักษาอย่างดีที่สุด ซึ่งภรรยาของท่านอภิวันท์ ซึ่งอดีตเป็นพยาบาลเคยทำงานอยู่ในอเมริกา ก็ได้กล่าวชมของคณะแพทย์ที่นี่ว่าได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้วเหมือนกัน” นายชูพงษ์กล่าว
นายชูพงษ์กล่าวว่า หลังจากนี้ ตนจะต้องเดินออกจากประเทศฟิลิปปินส์ เพราะต้องการเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างลับ ๆ ต่อไป และก่อนที่ตนจะจากลาร่างอันไร้วิญญาของ พ.อ.ดร.อภิวันท์ ก็ขอให้วิญญาณท่าน ดร.อภิวันท์ได้ไปสู่สุขคติภพ “สิ่งที่พี่เปียที่ได้ทำมาตลอดนั้นเป็นประโยชน์กับประเทศชาติอย่างมหาศาล ภารกิจที่เหลืออยู่พวกเรายินดีที่จะรับเป็นภาระที่จะต้องทำต่อไป ขอให้พี่เปีย หลับอย่างมีความสุขอยู่ในสรวงสวรรค์ ขอบคุณพี่เปียที่ทำเพื่อประเทศชาติ และประชาชนคนไทย”นายชูพงษ์กล่าว.
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar