lördag 18 oktober 2014

๑๙ ต.ค.๕๗ ณ.วัดบางไผ่ วันสุดท้าย ร่วมกัน" อำลา-อาลัย "การจากไปชั่วนิรันดรของ "วีรบุรุษผู้กล้า" พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ชายชาติทหารนักสู้ผู้มีประชาธิปไตยในหัวใจ...ประชาชนมาอำลาท่านเป็นครั้งสุดท้าย ทุกคนมาด้วยความเชื่อมั่นศรัทธาในหัวใจ และเพื่อเป็นการพิสูจน์ให้คนในสังคมไทยและคนในสังคมโลกได้รับรู้ว่าท่านคือผู้บริสุทธ์เป็น "นักการเมืองน้ำดี" ที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่อย่างแท้จรืง ประชาชนทุกคนมาเองด้วยใจรักและศรัทธาไม่มีใครบังคับ"ปลุกระดม"ให้มาอย่างแน่นอน ...ด้วยจิตคารวะ ขบวนการประชาธิปไตยไทยในสแกนดิเนเวีย...



บรรยากาศ วัดบางไผ่  จัดเตรียมพื้นที่.. เพื่อรองรับประชาชน ที่จะมาร่วมในพิธี
พระราชทานเพลิงศพ "ทหารกล้าประชาธิปไตย"
พันเอก ดร.อภิวันท์ วิริยะชัย
(5 foton)









วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 00:01 น. ข่าวสดออนไลน์

รำลึก "เสธ.เปีย" คอลัมน์ ใบตองแห้ง

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE16VTFPVFkyTWc9PQ==&catid=07

พิธีพระราชทานเพลิงศพ  พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย วันอาทิตย์นี้ จะมีเสื้อแดงไปร่วมถึง 5 หมื่นตามที่ "ปลุกระดม" กันไหม

ท่านนายกฯ บอกว่าให้เกียรติคนตายบ้าง แหม ก็ให้เกียรติสิครับถึงไป แม้อาจมีบางคนใช้โอกาสนี้แสดงพลัง ระบายความอึดอัด แต่ถ้าไม่รักไม่ผูกพันก็คงไม่ถ่อสังขารไป

พูดจริงๆ ไม่เห็นจะมีอะไร ต่อให้ไปเป็นแสนก็วันเดียวจบ เผาศพแล้วกลับบ้านไปอยู่ใต้กฎอัยการศึก ดีเสียอีกได้ระบายแรงดันออกมาบ้าง ยังไงก็ไม่มีงานศพแกนนำเสื้อแดงทุกวัน ขืนเป็นงั้นคนอีกข้างดีใจตาย แล้วก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้ใจมวลชนอย่างเสธ.เปีย

กองทัพควรภาคภูมิใจ นะครับ ที่ศิษย์เก่าจปร. และ วัดนวลนรดิศเป็นที่รักของผู้คนมากขนาดนี้ เสธ.เปีย เป็นที่รักเพราะความเป็นนักสู้ เป็นคนจริง และจริงใจ พูดคำไหนคำนั้น นิสัยชายชาติทหารโดยแท้ ไม่ใช่นักการเมืองฉวยโอกาส

เสธ.เปียมีอุดมคติมั่นคง ต่อสู้ร่วมกับมวลชนตั้งแต่รัฐประหาร 49 ในยามมืดมนที่สุด ทั้งที่ตัวเองจะหลีกหนีแล้วค่อยกลับมาห้อยโหนทีหลังก็ได้ ถ้าย้อนประวัติไป เสธ.เปียยืนอยู่กับบิ๊กจิ๋วตั้งแต่พฤษภา 35 รู้จักแกนนำพฤษภารวมทั้งจตุพร พรหมพันธุ์ ตั้งแต่ตอนนั้น มีคนเล่าว่า คำว่า "วงจรอุบาทว์" คอร์รัปชั่น-รัฐประหาร ก็เสธ.เปียพูดคนแรก ก่อนบิ๊กจิ๋วหยิบมาใช้จนติดปาก

เสธ.เปียขึ้นเวทีแล้วกร้าว จนถูกกล่าวหาทางร้ายหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่ใช่ฮาร์ดคอร์มุทะลุใช้กำลัง ถ้าจำกันได้ ตอนอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นำม็อบบุกรัฐสภาปี"53 เสธ.เปียก็เข้าไปห้ามว่าทำแบบนี้เสียหายหมด สมัยทำหน้าที่รองประธาน แม้พรรคประชาธิปัตย์หาเรื่องจะถอดถอน แต่ใครฟังอภิปรายจะเห็นว่าเสธ.เปียแยกแยะได้ อันไหนส่วนตัว อันไหนหน้าที่ ส.ส.เพื่อไทยพูดเลอะเทอะยังถูกไล่ออกนอกห้องประชุมไปหลายราย ต่อมาภายหลัง องอาจ คล้ามไพบูลย์ ยังวิพากษ์ "ค้อนปลอม" ว่าเมื่อเปรียบเทียบกัน พ.อ.อภิวันท์ทำหน้าที่ได้ดีกว่า

ที่จะละเลยไม่พูดถึงไม่ได้คือ เสธ.เปียยึดมั่นในอุดมการณ์จนวาระสุดท้าย ทั้งที่ช่วงรัฐบาลเพื่อไทยรุ่งเรืองก็ไม่เคยได้อะไรตอบแทน มีข่าวจะได้เป็นประธานก็ไม่ได้เป็น (ถ้าเป็นคงไม่ซื้อนาฬิกา) รัฐมนตรีก็ไม่ได้เป็น มารับเป็นประธานส.ส. ซึ่งต้องกลืนเลือดโหวต "นิรโทษสุดซอย" เป็นมลทินในบั้นปลาย เพราะเป็นผู้ใหญ่หนีมติพรรคไม่ออก

ในขณะที่รำลึกถึงเสธ.เปียก็ควรรำลึกข้อนี้ด้วยว่า พรรคเพื่อไทยก็มีปัญหา ไม่ใช่เรื่อง "ต่างตอบแทน" แต่เป็นเรื่องละเลยนักต่อสู้ที่ตั้งใจจริง พอเสวยสุข ก็มีใครมาจากไหนไม่รู้มะรุมมะตุ้ม

พรรคเพื่อไทยชนะเลือก ตั้งด้วยชีวิตเลือดเนื้อมวลชน ด้วยผลพวงพฤษภา 53 ด้วยพลังประชาธิปไตยที่ต่อต้านรัฐประหารตุลาการภิวัฒน์ แต่พรรคเพื่อไทยยังทำตัวเป็นพรรคการเมืองเก่า เต็มไปด้วยนักการเมืองเก่า ไม่ใช่พรรคของมวลชน ทั้งที่มีมวลชนล้นหลาม อาศัยความที่มวลชนประชาธิปไตยไม่มีทางเลือกเพราะหันไปทางไหนมีแต่พวกจ้องล้ม ประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทยก็ทำตามอำเภอใจจนพังเพราะนิรโทษสุดซอยตามใบสั่ง "นายใหญ่"

รัฐประหารก็มีข้อดีด้านกลับ บังคับให้ขบวนเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทยต้องปรับตัว พรรคถอยไปอยู่แถวหลัง นักวิชาการนักศึกษาอยู่แถวหน้า กลายเป็นการถกด้วยปัญญาและเหตุผล ขณะที่มวลชนในชนบทกระจัดกระจาย

พรรคเพื่อไทยและนปช.ต้อง "ปฏิรูปตัวเอง" ไม่แพ้กัน ในการไปสู่พรรคของมวลชน ให้มวลชนมีส่วนร่วมใช้อำนาจตัดสินใจ ไม่งั้นไม่มีใครเอาด้วย นปช.ก็ต้องมองอนาคตว่าถ้าจะเคลื่อนไหวต้องมีเหตุผล รู้ประมาณ รอฉันทามติสังคม ซึ่งจะคลี่คลายไปสู่การ "สลายขั้ว" ในบางเรื่อง
ที่พูดนี่เพื่อจะเรียนรัฐบาล คสช.ด้วยนะครับว่าอย่ากลัว มวลชนเสื้อแดงมีอิสระ มีหัวคิด ไม่ใช่ใครเป่านกหวีดไปทางไหนก็ได้ ถ้าพวกเขาไปงานศพก็เพราะเคารพรักรุ่นพี่ จปร.ของท่าน หรือพร้อมกันนั้นอาจอยากมีกิจกรรมบ้าง แต่ไม่ต้องห่วง พวกเขารู้ดีว่าทางข้างหน้ายังอีกไกล ไม่ควรผลีผลาม ไม่มีใครอยากลุกฮือต่อต้านท่านจนตัวตายเพื่อให้พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง กลับมาเป็นอย่างเดิมอีก ขอเพียงเข้าใจกันบ้าง ยอมรับว่าเห็นต่าง แล้วต่างคนก็หาหนทางไปสู่จุดหมายที่ดีกว่า ขอเพียงอย่าเกิดความอยุติธรรมหรือถูกย่ำยีจากอีกข้างจนเหลืออด ยังไงก็พอจะ Wait ได้

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar