söndag 19 oktober 2014

ThaiE- news
 จรรยา ตอบข้อกังขา ทำไมขบวนการเยาวชนมิลานร่วมต้านเผด็จการประยุทธ์ จันทร์โอชา




ที่มา เฟซบุ๊ค  Junya Yimprasert

ขอตอบข้อกังขาและข้อสงสัยต่างๆ ของการประท้วงประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มิลาน

ผมขอตอบที่หน้าวอลเลยแล้วกัน ใครจะก๊อปไปฝากเหล่าคนที่ตั้งคำถามหรือข้อกังขามาได้เลยนะฮะ

1. พวกเรา ที่มีทั้งผม คนไทย นักวิชาการทั้งไทยและเทศ ได้มีแผนการไปจัดเวทีเรื่อง "หลังรัฐประหารไทย: การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและปกป้องสิทธิมนุษยชน" ที่การประชุมภาคประชาสังคมเอเชีย-ยุโรป ในวันที่ 11 ตุลาคม 2557 ... ซึ่งเป็นเวทีที่จะส่งข้อเสนอแนะจากภาคประชานไปยังรัฐบาลที่ร่วมประชุม ASEM ซึ่งที่ประชุมต้านรัฐประหารได้ส่งข้อเสนอแนะของเวทีประชุมเราไปให้ทั้งที่ประชุมภาคสังคมเอเชียยุโรปมีมติรับรองในวันสุดท้าย ซึ่งก็ได้รับเสียงปรบมือรับรองกึกก้อง (ดูรายละเอียดhttp://thaienews.blogspot.fi/2014/10/blog-post_91.html)

2, เมื่อรู้ว่าประยุทธ์ จะมามิลาน พวกเราได้คุยกันเรื่องการต้านประยุทธ์กันทันที และคิดเรื่องต้านรัฐประหารทันที และได้ประกาศหน้าเฟซบุ๊คเพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนคนไทยมาร่วมประท้วง ตั้งแต่ต้น ... ทั้งนี้ผมได้ให้สัมภาษณ์กับสื่ออิตาเลี่ยนตั้งแต่ในที่ประชุมถึงความจำเป็นต้องต้านเผด็จการประยุทธ และมีการเผยแพร่และใส่ซับภาษาอิตาเลี่ยน (ดู https://www.youtube.com/watch?v=qPBe_F8Dw4A)

3. หลังจากจบการประชุม สหายชาวอิตาเลียนหลายคน ได้ช่วยประสานกับองค์กรท้องถิ่นในมิลาน ทั้งกลุ่มนักศึกษา นักการเมืองฝ่ายซ้าย กลุ่มนักกิจกรรมยึดคืนพื้นที่เพื่อสังคม และกลุ่มศิลปิน พวกเราทั้งโทรศัพท์ และเดินทางไปพูดคุยด้วยตัวเอง (ดูhttps://www.facebook.com/photo.php?fbid=10203111830537366&set=a.1036821401507.2007094.1254635407&type=1&permPage=1)

4. ในระหว่างนี้พวกเราก็ทำงานสื่อกันทันที โดยประสานกับน้องคนไทยให้ช่วยทำโปสเตอร์และสติกเกอร์ ส่วนผมและอีกทีมก็เขียนแถลงการณ์และส่งให้องค์กรต่างๆ ดูและลงชื่อในแถลงการณ์ (ดู http://thaienews.blogspot.fi/2014/10/blog-post_97.html และhttp://thaienews.blogspot.fi/2014/10/blog-post_18.html)

5. พอเงินของพวกเราหมด ไม่พอแน่ๆ สำหรับการทำสื่อและจ้างช่างภาพ ผมจึงเปิดรับขอการสนับสนุน และได้ทำรายงานการใช้จ่ายไปเรียบร้อยแล้วซึ่งใช้เงินสนับสนุนไปในการประท้วงประยุทธ์ครั้งนี้ 559 ยูโร (ดูhttps://www.facebook.com/junya.yimprasert/posts/10203134344580203)

5. เราได้พบกับองค์กร Cantiere และพูดคุยเรื่องประยุทธ์ ทางองค์กรมีกำหนดการประท้วงเรื่องการเหยียดผิวและเหยียดเชื้อชาติอยู่แล้วในวันที่ 16 ตุลาคม และที่ประชุมมีมติให้การประท้วงเผด็จการประยุทธ์ เป็นประเด็นร่วมในการประท้วงด้วย โดยพวกเราได้ไปทำทำโปสเตอร์ประท้วงกันที่องค์กร นักศึกษาทำป้ายกลาง พวกเราทำป้ายไม่ต้อนรับประยุทธ์

6. สหายอิตาเลียนช่วยวิ่งเรื่องปรินส์สติกเกอร์และโปสเตอร์ และทยอยปิดตามรอบๆ บริเวณที่ประยุทธ์จะเข้าพักตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม และพวกเราก็ทยอยปิดกันทุกเมื่อเมื่อมีโอกาส (https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10203132890143843&set=a.10203132868343298.1073741845.1254635407&type=3&theater)

7. องค์กร Cantiere มีอาคารที่เยาวชนยึดมาจากอาคารที่ว่างเปล่ามาหลายสิบปีเป็นที่พักอาศัยให้กับหลายสิบครอบครัวที่ไร้บ้าน และมีบริเวณให้นักกิจกรรมได้เข้าพักเป็นครั้งคราว และได้เสนอมาตั้งแต่แรกแล้วว่า ยินดีให้คนไทยที่จะเดินทางมาประท้วงประยุทธ์เข้าพักได้ ดังที่ผมได้ประกาศไปแล้ว ผมและเพื่อนก็เข้าพักที่นี่ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม และได้ไปเตรียมงานประท้วงที่สำนักงานขององค์กรแห่งนี้

8. ในวันประท้วง นักศึกษาต่างทราบว่าเป็นงานต้านการเหยียดผิว เหยียดเชื้อชาติ และต้านเผด็จการไทยที่อยู่ในอิตาลี โฆษกของการเดินประท้วงพูดถึงเรื่องนี้ตลอดเส้นทาง และเชิญให้ผมและเพื่อนพูดปราศรัยตลอดเส้นทางเช่นกัน (ดังจะปรากฎในวีดีโอที่กำลังจัดทำใส่ซับไทยอยู่ในขณะนี้) และ ดู (https://www.facebook.com/junya.yimprasert/media_set…)

9. นักศึกษาหลายคนมาขอป้ายประท้วงไปถือด้วยความเต็มใจ และไม่มีการบังคับถือป้ายโดยเขาไม่เข้าใจ เพราะป้ายข้อความสั้นๆ ที่ระบุว่า "ประยุทธ์ ที่นี่ไม่ต้อนรับมึง" ใน 3 ภาษา ไม่มีทางที่คนอ่านออกเขียนได้จะไม่เข้าใจ การไปลดทอนพลังความสมานฉันท์ของนักศึกษาและเยาวชนอิตาเลียนว่าถูกหลอกมา หรือประท้วงอย่างไม่เข้าใจ จึงเป็นการดูถูกพวกเขาอย่างมาก

10. พวกเราได้แจ้งให้ทางองค์กร Cantiere รับทราบความเคลื่อนไหวและผลสะเทือนของการประท้วงครั้งนี้ รวมทั้งข้อกังขาต่างๆ ทางองค์กรจึงได้ออกแถลงข่าวยืนยันเองว่าเป็นเจ้าภาพจัดงานประท้วง ดังภาพข่าวที่เห็น และที่หน้าเวบขององค์กร ที่พาดหัวไว้ว่า "ไม่ต้อนรับเผด็จการประยุทธ์" และ "เผด็จการทหารไทยจงพินาศ" (ดูhttp://bangkok.coconuts.co/…/italian-activist-group-confirm… และhttp://cantiere.org/…/prayuth-non-sei-benvenuto-abbasso-la-…)

11. องค์กร Cantiere เป็นองค์กรก้าวหน้าที่รณรงค์เรื่องสิทธิ เสรีภาพ และความยุติธรรมในสังคม ทั้งปัญหาในอิตาลี และป้ญหาการละเมิดสิทธิประชาชนในหลายประเทศ ทั้งทำงานเชื่อมกับการต่อสู้ของประชาชนเพื่อปลดแอกเผด็จการในหลายประเทศ จึงตระหนักถึงความสำคัญเรื่องการต้านรัฐประหารไทยด้วยจิตสำนึกของตัวเอง ... ซึ่งนี่เป็นสปิริตแห่งการสมานฉันท์สากล ที่ทางเมืองไทยอาจจะยังไม่ได้ทำกันมากนัก

12. กลุ่มนักกิจกรรมอิตาเลียนที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มนี้ รักเมืองไทย และทนไม่ได้ที่จะเห็นประยุทธ์เดินทางมาบ้านเกิดเขาโดยไม่มีการประท้วง พวกเขาไม่ต้องการเอาหน้า หรือได้รับการเชิดชู (และถ้าเปิดหน้าก็จะถูกพวกคลั่งเจ้าถล่มเล่นกันจนเละ)
พวกเรานับสิบคน "ที่ไม่ใช่ผมคนเดียว" ทำงานกันอย่างหนักในเวลากระชั้นชิด เพราะรับไม่ได้กับเผด็จการ เพื่อนท้องถิ่นและต่างชาติ จริงจังที่อยากจะมีส่วนช่วยปลกแอกเผด็จการออกจากหลังของคนไทย
13. พลังสมานฉันท์ของคนอิตาลีและคนต่างชาติในการร่วมจัดการประท้วงครั้งนี้ ควรจะถูกถ่ายทอดเพื่อเป็นพลังให้กับคนไทยในการลุกขึ้นสู้เพื่อปลดแอก ... ไม่ใช่ถูกนำมากังขาและลดทอนพลังเพราะความไม่เคยเคารพ "ความเป็นมนุษย์" ของคนอื่นว่า "คิดและตัดสินใจกันเองเป็น" เช่นที่ไม่เคยเคารพเสียงชาวบ้านไทยว่า "พวกเขาคิดเป็น"

14. สปิริตแห่งการสมานฉันท์เพื่อการปลดแอกเผด็จการของนาชาติมีมานานแล้ว และมีในหลายประเทศ และพลังสมานฉันท์สากล ได้ช่วยรณรงค์ปลดแอกเผด็จการในหลายประเทศแล้วเช่นกัน
15. ขณะนี้พวกเขาเริ่มโฟกัสมาที่ประเทศไทย คนไทยจะมากังขาในพลังของพวกเขา หรือจะร่วมกันทำอะไรสักอย่าง เพื่อร่วมพลังสมานฉันท์คนไทยและคนต่างประเทศในการปลดแอกศักดินาและทหารในประเทศไทยกันเสียที
16. นี่เป็นเรื่องที่ทุกองค์กรการเคลื่อนไหวในไทย และคนไทยในต่างแดน ต้องคิดและพิจารณากันแล้วครับ ถ้าจริงจังในการปลดแอกเผด็จการทหารจากหลังของพวกเราคนไทยอย่างแท้จริง

พวกเราทีมงานวางแผนกันไว้แล้วว่าจะเปิดบล็อคเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์การจัดการประท้วงครั้งนี้อย่างรวดเร็ว ทั้งงานประสานกับองค์กรท้องถิ่น การประสานงานกับสื่อ และการเตรียมกระบวนการทางกฎหมาย รวมทั้งพวกอุปกรณ์การประท้วงต่างๆ เพื่อให้ได้นำไปใช้ในการประท้วงเมื่อประยุทธ์ไปประเทศอื่นต่อไป

หวังว่าการชี้แจงครั้งนี้คงตอบข้อสงสัยและข้อกังขาจนกระจ่างแล้วนะครับ


-คนไทยที่ยุโรปกร่างใช้กฎหมายมาตรา 112 เล่นงานกันมากเกินไปแล้ว



ถามว่าทำไมคนไทยที่ต่างแดน ...

ทำได้เพียงทำกิจกรรมเยินยอผู้นำหรือเทิดพระเกียรติในหลวง แม้ว่าจะมีคนไทยจำนวนเยอะกว่า ที่รับรู้เรื่องราวและอยากจะออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยให้ประเทศไทยกันจะแย่

สถานการณ์ในยุโรปในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้คือ

พวกคลั่งเจ้า และคลั่งทักษิณบางคน ได้ที่ขี่หลังมาตรา 112 มาใช้ในการคุกคามและปรามคนไทยด้วยกันเอง แม้จะอยู่ที่ต่างแดน

ทั้งในนอเวย์ ฟินแลนด์ อังกฤษ เยอรมัน หรืออิตาลี กลุ่มคนคลั่งเจ้าเหล่านี้ ข่มขู่คุกคามคนไทย ที่ออกหน้าออกตาเรื่องเรียกร้องประชาธิปไตยของไทยอย่างเปิดเผย และอย่างบ้าคลั่ง ถึงขั้นลุกขึ้นมาทำร้ายคนไทยที่ประกาศตัวไม่รักเจ้าในที่สาธารณะ ใช้เฟซบุ๊คข่มขู่ว่าจะแจ้งความจับด้วยมาตรา 112

นี่จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่คนไทยที่ยุโรป ที่ยังมีสายสัมพันธ์กับเมืองไทย และยังต้องกลับเมืองไทย จึงเหมือนถูกปิดปากไปด้วย แม้ว่าจะอยู่ในประเทศที่มีเสรีภาพก็ตาม

ตราบใดที่กฎหมายมาตรา 112 ยังอยู่ 
มันจะถูกใช้เป็นเครื่องมืออันสำคัญของเผด็จการและอำมาตย์ ในการกดหัวและปิดปากคนไทย

ปลดล็อคประเทศไทย
ต้องทำให้กฎหมายมาตรา 112 ถูกยกเลิก หรือหมดความศักดิ์สิทธิ์ลงไป นั่นหมายความว่า คนไทยไม่ยอมให้กฎหมายตัวนี้ถูกใช้ข่มขู่ คุกคาม กันได้อย่างไม่มีการตอบโต้

ที่ยุโรป เราตอบโต้คนที่คุกคามและทำร้ายเราด้วยกฎหมายมาตรา 112 ของไทย ได้ด้วยการกดเบอร์สายด่วน 112 เพื่อขอความช่วยเหลือจากตำรวจ และช่วยกันจัดการสงบปากพวกคนคลั่งเจ้าไทยที่ยุโรป ด้วยกฎหมายของยุโรป

ถ้าคนไทยที่มาอยู่ยุโรปแล้ว ยังไม่เคารพกฎหมายยุโรป ยังพยายามเหยียบหัวคนไทยด้วยกันเอง เพราะคิดว่าถือไพ่เหนือกว่าเพราะมี 112 ถ้าละเมิดกฎหมายยุโรป ก็คงถูกจัดการอย่างจริงจังตามกฎหมายนะฮะ ...
และผมคิดว่า ถ้าพวกท่านจะกลับไปอยู่ประเทศไทย ทหารไทยคงยินดีต้อนรับพวกท่านแน่ๆ ครับ

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar