söndag 29 maj 2022

ใบตองแห้ง: สลิ่มอกแตก

ใบตองแห้ง

“ไม่เลือกเราเขามาแน่” แต่เลือกใคร เทพเทือก ดารา กปปส. ให้เลือกสกลธี จำลอง สนธิ พธม. ให้เลือกรสนา แต่หมอตุลย์ ดร.นิด้า ให้เลือกอัศวิน ถ้างั้นจะเอา สุชัชวีร์ & ประชาธิปัตย์ ไปทิ้งที่ไหน

เลือกผู้ว่าฯ กทม.ถึงโค้งสุดท้าย ก็ยังมองไม่ออกว่า คะแนนเสียง “สลิ่ม” จะเทรวมกันได้ กลายเป็นรบกันเองมากกว่า เสรี วงษ์มณฑา เศร้าจุกอกว่า “แม้จะเสียใจที่แพ้ แต่ก็ไม่เสียใจเท่ากับการเห็นสลิ่มด่ากัน แบบไม่ให้เกียรติการตัดสินใจของกันและกัน แม้คนเคยร่วมอุดมการณ์ก็ยังประณามกัน”

จำไว้นะ “ไม่เลือกเราเขามาแน่” ใช้เวลาสู้กันตัวต่อตัวกับขั้วตรงข้าม ถ้าฝั่งเดียวกันมีหลายกลุ่มหลายเฉด มาบอกให้เลือกทางยุทธศาสตร์ ก็ทะเลาะกันทันทีเพราะเท่ากับแย่งปลาในบ่อเพื่อน

อันที่จริง ฝั่งเสรีประชาธิปไตยก็ใช่ว่าเสียงไม่แตก แต่ไม่ถึงขั้นประกาศให้เลือกทางยุทธศาสตร์ เพราะชัชชาตินำโด่งมาก่อนแล้ว กระนั้น การแข่งขันก็เข้มข้นทั้งวงกว้างเชิงลึก กระทั่ง กูรูบางสำนักประเมินว่า ถ้ามีดีเบตอีกสักเดือน วิโรจน์อาจตีคู่ ขึ้นมาก็ได้

การเลือกตั้งครั้งนี้มีนัยสำคัญไม่ใช่แค่ใครชนะ เพราะจะวัดพลังคนกรุงต่างขั้วต่างเฉด เช่น 8 ปีผ่านไป กปปส.ยังเป่านกหวีดเรียกคนได้แค่ไหน แมลงสาบพันธุ์แท้เหลือเท่าไหร่ เสื้อเหลืองเหนียวแน่นกับจำลองสนธิเหลือกี่ราย (คิดถึงพรรคการเมืองใหม่) คะแนนอัศวินก็พิสูจน์เครือข่ายอุปถัมภ์ ระบบราชการ ที่ต้องการผู้นำแบบผู้หลักผู้ใหญ่

ซึ่งผลที่ออกมาไม่ใช่ตัดคะแนนกันธรรมดา แต่จะถึงขั้นเสียหน้า เสียเครดิตผู้สนับสนุนที่ยาวเป็นหางว่าว ถ้าหนุนแล้วได้คะแนนน้อยนิด คงต้องคลุมปี๊บ

ส่วนอีกฝั่ง แม้แข่งขันจริงจังก็ไม่ถึงขั้นตึงเครียด เพราะชัชชาตินำมาแต่แรก ไม่จำเป็นต้องประกาศ “แลนด์สไลด์” ก้าวไกล ส่งวิโรจน์ลง ก็ไม่จำเป็นต้องตั้งเป้าถึงขั้นชนะ แค่วัดพลัง “ทวงคืนสนามหลวง” สร้างความนิยม สร้างฐาน ส.ก. ปูเลือกตั้งใหญ่ โดยทำใจแต่แรกว่าคะแนนวิโรจน์คือฐานต่ำสุดของก้าวไกล เพราะ FC ก้าวไกลก็มีไม่น้อยที่จะเลือกชัชชาติ

เช่นเดียวกับศิธา วัดฐานตั้งต้นไทยสร้างไทย และเน้น ส.ก.บางเขตที่เป็นฐานสุดารัตน์

แล้วคะแนนชัชชาติวัดฐานเพื่อไทยไหม ใช่เลย แต่ต้องหารลงไปไม่น้อย เพราะคนจะเลือกชัชชาติมีทั้งคนเลือกก้าวไกล เสรีรวมไทย คนตรงกลางๆ หรือแม้แต่อนุรักษนิยมอ่อนๆ ที่ไม่ใช่สลิ่มฝังหัว

ทำไมฝั่งอนุรักษ์ยังมีคนเลือกชัชชาติ ถ้าลบความเกี่ยวพันเพื่อไทย ในแง่ตัวบุคคล ชัชชาตินี่แหละคือ Perfect Man ของคนชั้นกลางอนุรักษนิยม พรั่งพร้อมทั้งคุณสมบัติ ชาติตระกูล (มาจาก elite ที่ใกล้ชิดชนชั้นนำยิ่งกว่าฝั่งสลิ่มด้วยซ้ำ) ขณะเดียวกันก็หิ้วถุงแกงติดดิน จึงได้ทั้งฐานเพื่อไทยและวงกว้างกว่า

ผลเลือกตั้งผู้ว่าฯ มองข้ามช็อตก็จะวัดเลือกตั้งใหญ่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และย่อมมีผลต่อการตัดสินใจยุบสภาเลือกตั้งใหม่ รวมถึงตัดสินใจจะใช้กติกาแบบไหน

สมมติเช่นชัชชาติ “แลนด์สไลด์” ทิ้งห่างฝ่ายสลิ่มรวมกัน แม้ไม่ใช่คะแนนเพื่อไทยทั้งหมดดังกล่าว ประยุทธ์ก็คงไม่ยุบสภาง่ายๆ คงต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปจนครบวาระ กติกาเลือกตั้งบัตรสองใบ คำนวณปาร์ตี้ลิสต์ใช้ 100 หาร ที่ผ่านกรรมาธิการแล้ว อาจพลิกด้านๆ ก็ได้ เพราะกลัวเพื่อไทยแลนด์สไลด์

สมมติขำๆ ถ้าวิโรจน์ชนะ หรือไม่ชนะแต่คะแนนเหยียบล้าน เครือข่ายอำนาจคงเตรียมนับถอยหลังรัฐประหาร กระทรวงศึกษาธิการต้องเตรียมหลักสูตรบังคับแต่งชุด-ร้องเพลง-เรียนประวัติศาสตร์ ให้เข้มคลั่ง

สมมติชัชชาติ-วิโรจน์ ตัดคะแนนกันเอง แล้วสลิ่มรู้รักสามัคคี เทคะแนนให้คนใดคนหนึ่งชนะ ก็จะจุดความหวังชนะเลือกตั้งทั้งประเทศ โดยอาศัยเพื่อไทย-ก้าวไกลตัดกันเอง (ขณะที่รังสีอำมหิตติ่งเพื่อไทยติ่งส้มจะแรงกล้าทันที)

แต่ข้อหลังเป็นไปได้ยาก เพราะสลิ่ม “อกแตก” อย่างที่เสรีคร่ำครวญ แม้เลือกตั้งใหญ่เป็นไปได้มากกว่า เพราะขั้วรัฐบาล ไม่แตกมากขนาดนี้ และเป็นการเลือกตั้งในชนบท ที่พรรคฝ่ายรัฐบาลจะเอาชนะด้วยนักการเมือง “บ้านใหญ่” ระบบอุปถัมภ์ แต่นั่นก็คือการเมืองแบบที่คนชั้นกลางต่อต้านมาตลอดไม่ใช่หรือ

พูดกันจริงๆ เถอะว่าการเมืองในฝันของคนชั้นกลาง ตั้งแต่หลังพฤษภา 35 ที่อยากได้ “คนดีปกครองบ้านเมือง” เกลียดนักการเมืองจากเลือกตั้ง จนเกิดสองนคราประชาธิปไตย คนชนบทเลือกรัฐบาล คนกรุงล้มรัฐบาล ล้มไม่ได้ก็ออกบัตรเชิญรัฐประหาร นั้นล่มสลายไปแล้ว

อำนาจศรัทธา คนดีจากแต่งตั้ง ก็เสื่อมไปหมดแล้ว เหลือแต่ประยุทธ์จากรัฐประหาร กวาดต้อน “นักการเมืองยี้” มาผสมพันธุ์ การเมืองในอุดมคติของคนชั้นกลางแตกสลาย ตัวแทนในสนามเลือกตั้งช่วงต่อไป อาจนับพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ด้วยซ้ำ อาจเหลือแต่พรรคกล้า พรรคพลัง พรรคไทยภักดี ที่เป็นตัวแทนฝั่งอนุรักษ์

เอาเข้าจริง พรรคแบบที่คนชั้นกลางอยากได้ กลายเป็นพรรคอนาคตใหม่ ทั้งท่วงทำนอง วิธีหาเสียง การเมืองแบบใหม่ บทบาทในสภา ฯลฯ เสียอย่างเดียว คือทัศนคติ Liberal แหลมคมไปอีกฝั่ง

แต่เชื่อไหมละว่า ท่ามกลางความเงียบ คนชั้นกลางในเมืองที่เคยเป็นสลิ่มจำนวนไม่น้อย พร้อมจะหย่อนบัตรให้ชัชชาติ หรือให้ก้าวไกล อย่างเงียบๆ โดยไม่ประกาศขอโทษหรือกลับใจแต่อย่างใด 

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/news_7061144

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar