ข่าวสดออนไลน์
"ประชาธิปไตยไม่ปรองดอง"
คอลัมน์ ใบตองแห้ง
"ประชาธิปไตยไม่ปรองดอง" คอลัมน์ ใบตองแห้ง
วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
"ประชาธิปไตยกับเผด็จการเป็นหุ้นส่วนกันไม่ได้" ปรบมือให้ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจะต้อง "ไม่สมรู้ร่วมคิดกับเผด็จการไม่ว่ากรณีใดๆ"
เชื่อพรรคเพื่อไทยได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่เชื่อมวลชนได้ ใครที่ "สมรู้ร่วมคิดกับเผด็จการ" ต่อให้เป็นทักษิณ เป็นตระกูลชินวัตร หรือเป็นณัฐวุฒิเอง ก็สูญสิ้นความเชื่อถือจากมวลชน
ว่าที่จริง พรรคเพื่อไทยกับมวลชนของตนเองก็มีช่องว่าง พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งจากชีวิตเลือดเนื้อเสื้อแดงเมื่อปี"53 พอได้เป็นรัฐบาลก็สู้บ้างถอยบ้าง ต้องอาศัยมวลชนปกป้องและดันหลังอยู่เรื่อย แต่สุดท้ายก็ทำพัง "นิรโทษสุดซอย" ครั้นเกิดรัฐประหาร นักการเมืองส่วนใหญ่ก็ไม่ถูกไล่ล่า มีแต่มวลชนที่ตกอยู่ในสภาวะคับแค้นขมขื่น จนยิ่งลักษณ์ถูกถอดถอน ถูกดำเนินคดี จึงค่อยมี "ชะตากรรมร่วมกัน"
ฉะนั้นวันไหนถ้าพรรคเพื่อไทยกลับลำ เอาตัวรอด เกี้ยเซี้ย เพียงเพราะอยากเป็นรัฐบาล มวลชนก็จะร้องยี้ ไม่ต่างกับก๊วนการเมืองที่แยกตัวจากไทยรักไทยหรือพลังประชาชน
ตลอดหลายเดือนในการยกร่างรัฐธรรมนูญ มีหมวดหนึ่งที่สื่อพันธมิตร กปปส. สนใจมาก คือหมวดว่าด้วย "การสร้างความปรองดอง" แต่เป็นตลกร้าย ที่ผู้รักประชาธิปไตยและมวลชนเสื้อแดงไม่แยแสสนใจเลย
คนฝ่ายแรกสนใจเพราะกลัวจะ "นิรโทษทักษิณ" โวยวายร่างรัฐธรรมนูญที่เขียนว่าถ้า "สำนึกผิด" ก็ให้อภัยโทษ
แต่คนฝ่ายหลังย้อนถาม อะไรคือสำนึกผิด เราผิดตรงไหน ที่เรียกร้องเสรีภาพ ประชาธิปไตย ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ แล้วกลับถูกปราบปราม ถูกเข่นฆ่า ถูกจับกุมคุมขัง ขณะที่คนสั่งใช้กระสุนจริงกลับลอยนวล (และยังลอยหน้าลอยตาสึกมาอวดกร่าง)
กมธ.เป็นใครมาจากไหนที่บอกให้ทุกฝ่าย "สำนึกผิด" ทำราวกับเป็นเทวดาลอยลงมาจากฟากฟ้า ทั้งที่เห็นไส้เห็นพุงว่าอยู่ข้างไหน ตัวเองล่ะ สำนึกผิดหรือยัง
ประชาธิปไตยไม่ใช่ไม่ต้องการปรองดอง แต่ปรองดองต้องอยู่บนฐานความยุติธรรม เมื่อไหร่ที่ไม่มีความยุติธรรมก็ไม่ต้องปรองดองกัน อย่าพยายามบิดเบือน "ปฏิรูปลดความเหลื่อมล้ำ" ทำราวกับว่าความขัดแย้งเกิดขึ้น เพราะประชาชนจนโง่ ตกเป็นเหยื่อนักการเมือง ทั้งที่เป็นเรื่องของความอยุติธรรม การเรียกร้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ศักดิ์ศรีของ "คนเท่ากัน" ที่ถูกกระทำอยู่ข้างเดียว อย่าอ้างตนเป็นคนดีมีความรู้ ใช้กำลังป่าเถื่อนล้มเลือกตั้ง แล้วทำตาใส จะเป็นพระมาโปรด เป็นผู้มีเมตตามาปฏิรูปประเทศเพื่อสัตว์ผู้ยากไร้
ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยไม่ยอมรับคุณ เพียงแต่วันนี้เราแสดงออกไม่ได้ แต่ไม่เป็นไร โลกไม่หยุดนิ่งกับที่หรอก วันหนึ่งจะได้เห็นกัน
สิ่งที่คุณพูดกัน จริงๆ แล้วไม่ใช่ "สร้างความปรองดอง" แต่เป็นการ "บังคับให้ยอมจำนน" บังคับให้ยอมรับความอยุติธรรม ให้ก้มหัวยอมแพ้ต่ออำนาจที่ไม่เป็นธรรม แล้วจะให้อภัย ให้กลับตัวกลับใจ เริ่มต้นชีวิตใหม่ ฯลฯ
ฝันไปเถอะ พลังประชาธิปไตยไม่มีวันยอมจำนน
คุณอาจเกี้ยเซี้ยกับนักการเมืองได้ คุณอาจเกี้ยเซี้ยกับพรรคเพื่อไทยได้ คุณอาจเกี้ยเซี้ยกับทักษิณได้ (โถๆๆ ทักษิณอยากเกี้ยเซี้ยตลอดมา ไม่มีใครยอมเกี้ยเซี้ยเท่านั้นเอง) แต่คุณไม่มีทางเกี้ยเซี้ยกับประชาชนผู้รักประชาธิปไตยได้ คุณไม่มีวันทำให้พลังประชาธิปไตยยอมจำนนได้
ประชาธิปไตยไม่มีวันยอมจำนน เพียงแต่ประชาธิปไตยไม่สามารถเอาชนะด้วยกำลัง ด้วยความรุนแรง เพราะอุดมการณ์ประชาธิปไตยคืออยู่ร่วมกับความเห็นต่างอย่างมีเหตุผล ไม่เหมือนอุดมการณ์สังคมนิยม หรือเผด็จการ ที่ต้องการชัยชนะเพื่อกวาดล้างฝ่ายตรงข้าม อุดมการณ์ประชาธิปไตยจึงดูเหมือน "เสียเปรียบ" และเป็นฝ่ายถูกกระทำอยู่ตลอด แต่พลังของประชา ธิปไตยก็อยู่ที่เสรีภาพ และความมีเหตุผล ซึ่งไม่มีใครโค่นลงได้
ฉะนั้นใครมีอำนาจอยากทำอะไรก็เชิญ จะปราบจะจับจะขัง พลังประชาธิปไตยอดทนได้ แต่มีช่องเมื่อไหร่ก็ตอบโต้ด้วยหลักการเหตุผล จะทนอยู่อย่างนี้ตลอดก็ให้รู้ไป มีเสรีภาพมากขึ้นเมื่อไหร่ เราก็จะรณรงค์ลบล้างสิ่งที่คุณทำ ร่างรัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตยเราไม่รับ แต่ถ้าผ่านไปสู่เลือกตั้ง ใครแพ้ชนะ ใครเกี้ยเซี้ยช่างมัน เราก็จะเคลื่อนไหวสร้างพลังของความถูกต้องชอบธรรม สู้กันจนหมดลมหายใจ ไม่ชนะไม่เป็นไร เรามีคนรุ่นใหม่หนุนเนื่อง
ประชาชนเกาหลีอดทนรอ 16 ปี ประชาชนชิลีอดทนรอ 27 ปี เรารอกี่ปีก็ได้ แต่ไม่จำนน
เชื่อพรรคเพื่อไทยได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่เชื่อมวลชนได้ ใครที่ "สมรู้ร่วมคิดกับเผด็จการ" ต่อให้เป็นทักษิณ เป็นตระกูลชินวัตร หรือเป็นณัฐวุฒิเอง ก็สูญสิ้นความเชื่อถือจากมวลชน
ว่าที่จริง พรรคเพื่อไทยกับมวลชนของตนเองก็มีช่องว่าง พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งจากชีวิตเลือดเนื้อเสื้อแดงเมื่อปี"53 พอได้เป็นรัฐบาลก็สู้บ้างถอยบ้าง ต้องอาศัยมวลชนปกป้องและดันหลังอยู่เรื่อย แต่สุดท้ายก็ทำพัง "นิรโทษสุดซอย" ครั้นเกิดรัฐประหาร นักการเมืองส่วนใหญ่ก็ไม่ถูกไล่ล่า มีแต่มวลชนที่ตกอยู่ในสภาวะคับแค้นขมขื่น จนยิ่งลักษณ์ถูกถอดถอน ถูกดำเนินคดี จึงค่อยมี "ชะตากรรมร่วมกัน"
ตลอดหลายเดือนในการยกร่างรัฐธรรมนูญ มีหมวดหนึ่งที่สื่อพันธมิตร กปปส. สนใจมาก คือหมวดว่าด้วย "การสร้างความปรองดอง" แต่เป็นตลกร้าย ที่ผู้รักประชาธิปไตยและมวลชนเสื้อแดงไม่แยแสสนใจเลย
คนฝ่ายแรกสนใจเพราะกลัวจะ "นิรโทษทักษิณ" โวยวายร่างรัฐธรรมนูญที่เขียนว่าถ้า "สำนึกผิด" ก็ให้อภัยโทษ
กมธ.เป็นใครมาจากไหนที่บอกให้ทุกฝ่าย "สำนึกผิด" ทำราวกับเป็นเทวดาลอยลงมาจากฟากฟ้า ทั้งที่เห็นไส้เห็นพุงว่าอยู่ข้างไหน ตัวเองล่ะ สำนึกผิดหรือยัง
ประชาธิปไตยไม่ใช่ไม่ต้องการปรองดอง แต่ปรองดองต้องอยู่บนฐานความยุติธรรม เมื่อไหร่ที่ไม่มีความยุติธรรมก็ไม่ต้องปรองดองกัน อย่าพยายามบิดเบือน "ปฏิรูปลดความเหลื่อมล้ำ" ทำราวกับว่าความขัดแย้งเกิดขึ้น เพราะประชาชนจนโง่ ตกเป็นเหยื่อนักการเมือง ทั้งที่เป็นเรื่องของความอยุติธรรม การเรียกร้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ศักดิ์ศรีของ "คนเท่ากัน" ที่ถูกกระทำอยู่ข้างเดียว อย่าอ้างตนเป็นคนดีมีความรู้ ใช้กำลังป่าเถื่อนล้มเลือกตั้ง แล้วทำตาใส จะเป็นพระมาโปรด เป็นผู้มีเมตตามาปฏิรูปประเทศเพื่อสัตว์ผู้ยากไร้
สิ่งที่คุณพูดกัน จริงๆ แล้วไม่ใช่ "สร้างความปรองดอง" แต่เป็นการ "บังคับให้ยอมจำนน" บังคับให้ยอมรับความอยุติธรรม ให้ก้มหัวยอมแพ้ต่ออำนาจที่ไม่เป็นธรรม แล้วจะให้อภัย ให้กลับตัวกลับใจ เริ่มต้นชีวิตใหม่ ฯลฯ
ฝันไปเถอะ พลังประชาธิปไตยไม่มีวันยอมจำนน
ประชาธิปไตยไม่มีวันยอมจำนน เพียงแต่ประชาธิปไตยไม่สามารถเอาชนะด้วยกำลัง ด้วยความรุนแรง เพราะอุดมการณ์ประชาธิปไตยคืออยู่ร่วมกับความเห็นต่างอย่างมีเหตุผล ไม่เหมือนอุดมการณ์สังคมนิยม หรือเผด็จการ ที่ต้องการชัยชนะเพื่อกวาดล้างฝ่ายตรงข้าม อุดมการณ์ประชาธิปไตยจึงดูเหมือน "เสียเปรียบ" และเป็นฝ่ายถูกกระทำอยู่ตลอด แต่พลังของประชา ธิปไตยก็อยู่ที่เสรีภาพ และความมีเหตุผล ซึ่งไม่มีใครโค่นลงได้
ฉะนั้นใครมีอำนาจอยากทำอะไรก็เชิญ จะปราบจะจับจะขัง พลังประชาธิปไตยอดทนได้ แต่มีช่องเมื่อไหร่ก็ตอบโต้ด้วยหลักการเหตุผล จะทนอยู่อย่างนี้ตลอดก็ให้รู้ไป มีเสรีภาพมากขึ้นเมื่อไหร่ เราก็จะรณรงค์ลบล้างสิ่งที่คุณทำ ร่างรัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตยเราไม่รับ แต่ถ้าผ่านไปสู่เลือกตั้ง ใครแพ้ชนะ ใครเกี้ยเซี้ยช่างมัน เราก็จะเคลื่อนไหวสร้างพลังของความถูกต้องชอบธรรม สู้กันจนหมดลมหายใจ ไม่ชนะไม่เป็นไร เรามีคนรุ่นใหม่หนุนเนื่อง
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar