เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง - คนส.
21h ·
ใบแถลงข่าว (English version below)
(5 เมษายน 2563)
นักวิชาการนานาชาติเรียกร้องต่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขอให้ปกป้องเสรีภาพทางวิชาการ
นักวิชาการนับร้อยคนจากมหาวิทยาลัยต่างๆในทวีปอเมริกาเหนือ
ยุโรป และเอเชีย
ได้ส่งจดหมายไปยังผู้บริหารระดับสูงของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เรียกร้องให้ผู้บริหารปกป้องเสรีภาพทางวิชาการและยุติการคุกคามต่อ ดร.
ณัฐพล ใจจริง
ดร. ณัฐพล ใจจริง
ซึ่งได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเมื่อปี
2552 และปัจจุบันเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา
กำลังถูกจุฬาฯสอบสวนเกี่ยวกับความบกพร่องโดยไม่เจตนาที่ปรากฏในวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของเขา
ตามการร้องเรียนของนักวิชาการบางคนที่กล่าวหาว่าความบกพร่องนั้นเป็นการกุหลักฐานซึ่งส่งผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองเกี่ยวกับสถานะของพระมหากษัตริย์ในการเมืองไทยดังที่เป็นอยู่ในขณะนี้
การสอบสวน ดร.
ณัฐพลเกี่ยวกับความบกพร่องในวิทยานิพนธ์เช่นนี้เป็นการโหมกระพือให้แก่การ
“ล่าแม่มด” (witch-hunt)
มากกว่าจะเป็นการปกป้องหลักการความซื่อตรงทางวิชาการ (academic integrity)
นักวิชาการนานาชาติเหล่านี้เขียนจดหมายถึงศาสตราจารย์
ดร. บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศาสตราจารย์ ดร.
ปาริชาติ สถาปิตานนท์ รองอธิการบดีด้านวิชาการ และศาสตราจารย์จักรพันธ์
สุทธิรัตน์ รองอธิการบดีด้านการวิจัย ขอให้จุฬาฯ
ยุติการสอบสวนดร.ณัฐพลและขอให้อนุญาตให้สาธารณชนสามารถเข้าถึงวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของดร.ณัฐพลได้
เพราะแทนที่จะปิดกั้น
การถกเถียงกันอย่างเปิดเผยจะเป็นวิธีการประกันความซื่อตรงทางวิชาการที่ดีที่สุดในกรณีนี้
นักวิชาการนานาชาติยังเสนอให้จุฬาฯ
กำหนดนโยบายที่จะสามารถให้ความคุ้มครองแก่นักศึกษาและอาจารย์ที่กล้าจะทำงานที่มีความเสี่ยงทางปัญญา
ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการสร้างสรรค์ผลงานที่ริเริ่มสร้างสรรค์หรือแปลกใหม่ชนิดไม่เคยมีใครทำมาก่อนให้สำเร็จได้
นักวิชาการเหล่านั้นได้อธิบายในจดหมายว่า
ถ้าปราศจากความคุ้มครองนักวิชาการจากการคุกคามให้ร้ายโจมตี
ความเสียหายจะเกิดต่อมหาวิทยาลัยเอง ซึ่งสามารถรับรู้ได้
ไม่ว่าจะเป็นการถกเถียงที่อับจนด้อยคุณภาพในห้องเรียน
วิทยานิพนธ์น่าเบื่อที่ถูกผลิตขึ้นมาอย่างหวั่นเกรงเพราะต้องการให้ปลอดจากภัยคุกคาม
และวิทยาการอันไร้ชีวิตชีวาที่จำกัดตัวอยู่แค่ในกรอบการถกเถียงที่คล้อยตามผู้มีอำนาจเท่านั้น
ความเสียหายจากการผลิตวิทยาการความรู้อันคับแคบคล้อยตามผู้มีอำนาจย่อมหมายถึงความเสื่อมถอยของความเป็นเลิศทางวิชาการ
ในที่สุดก็จะสะท้อนออกมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยในระดับนานาชาติ
ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญมากสำหรับการอยู่รอดของทุกมหาวิทยาลัยในทุกวันนี้
รวมทั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วย
ตัวอย่างของนักวิชาการนานาชาติชั้นนำที่ให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ มีดังต่อไปนี้
Dr. Jeffrey Wasserstrom, Chancellor's Professor of History, University of California, Irvine:
“ขณะนี้
เสรีภาพทางวิชาการกำลังถูกคุกคามในหลายส่วนของทวีปเอเชีย
(อาจเรียกว่าในระดับโลกก็ได้) ณ เวลาเช่นนี้
มหาวิทยาลัยจึงมีความสำคัญยิ่งยวดอย่างไม่เคยมีมาก่อน
เพราะเป็นสถานที่ให้มีการศึกษาไต่สวนอย่างอิสระในประเด็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและระบบการเมืองต่างๆ
...
ข้าพเจ้าจึงมีความกังวลใจอย่างมากเมื่อได้รับรู้ถึงมาตรการต่างๆที่ถูกใช้เพื่อทำให้นักวิชาการไทยผู้น่าเคารพที่ศึกษาในหัวข้อเหล่านี้ต้องสงบเสียงลง
โดยเฉพาะการที่ใช้มาตรการเหล่านี้เน้นตรงความผิดพลาดเล็กๆในรายละเอียดที่เขาทำในช่วงต้นๆของวิชาชีพของเขา
ทั้งที่เขายังได้ยอมรับและพยายามแก้ไขแล้วด้วยซ้ำ”
Dr. Ben Kiernan, A. Whitney Griswold Professor of History at Yale University:
“การปิดกั้นไม่ให้สาธารณชนเข้าถึงวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกนั้น
...
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกำลังกระทำการข่มเหงทางวิชาการที่สมควรถูกประณามอย่างแรงจากชุมชนวิชาการนานาชาติ”
Dr. Jim Glassman, Professor of Geography at the University of British Columbia:
“เสรีภาพในการพูดและเสรีภาพทางวิชาการเป็นมาตรวัดที่ชี้ว่าสังคมและสถาบันสำคัญๆทางสังคมยังมีสุขภาพดีอยู่หรือป่วยไข้ลง
ในสังคมซึ่งแข็งแรงและสุขภาพดี
เสรีภาพพื้นฐานเหล่านี้จะยิ่งทำให้สังคมมีสุขภาพโดยรวมดีขึ้น
ครั้นนักวิชาการ...ก่อความผิดพลาด (ทางวิชาการ) --
ซึ่งพวกเขาไม่มีทางหลีกพ้นไปได้ --
ความผิดพลาดเหล่านั้นจะถูกแก้ไขผ่านการถกเถียงอย่างเปิดเผยและอิสระ
แต่ในสังคมใดก็ตามซึ่งความผิดพลาดอย่างไม่เจตนาถูกแก้ไข...ด้วยการลงทัณฑ์อย่างรุนแรง
ย่อมเผยให้เห็นว่าสังคมนั้นไม่เข้มแข็งเลยที่จะปกป้องสถาบันทางสังคม
แต่เปราะบางและผุพังเพราะสุขภาพที่กำลังถดถอยลงทุกวัน
สังคมไทยในขณะนี้มาถึงทางแยก
การตัดสินใจโดยผู้นำทางนโยบายและโดยปัญญาชนเกี่ยวกับเสรีภาพในการพูดและในการไต่สวนทางปัญญา
จะเผยให้เห็น –และจะมีผลอย่างมากด้วย –
ว่าประเทศและสถาบันต่างๆจะมีสุขภาพดีต่อไปในอนาคตหรือจะถดถอยดิ่งสู่ความป่วยไข้อย่างหนักจนถึงกับสิ้นสลายไปในที่สุดหรือไม่
Katherine
A. Bowie, Vilas Distinguished Achievement Professor of Anthropology,
University of Wisconsin-Madison, former President (2017-2018) of the
Association for Asian Studies:
“หากจุฬาฯล้มเหลวที่จะปกป้องเสรีภาพทางวิชาการอย่างตรงไปตรงมา
จุฬาฯกำลังเสี่ยงทำตนเองให้ดูเหมือนว่าเข้าข้างฝ่ายหนึ่งในความขัดแย้งทางการเมืองระดับประเทศ
ซึ่งกำลังกัดกร่อนประเทศไทยอยู่ในปัจจุบัน
มหาวิทยาลัยมีบทบาทสำคัญที่จะต้องเป็นพื้นที่ของพลเมืองที่สามารถคิดต่างและถกเถียงกันได้
พื้นที่นี้มีความสำคัญอย่างมากต่อสังคมวงกว้าง
ความล้มเหลวที่จะปกป้องเสรีภาพทางวิชาการไม่เพียงแต่จะนำไปสู่ความอับจนของการถกเถียงในสถาบันการศึกษา
แต่จะไม่สามารถหล่อหลอมสร้างผู้นำที่มีพลวัตรอันสร้างสรรค์ในรุ่นต่อไปได้อีกด้วย”
Dr. Andrew J. Nathan, Class of 1919 Professor of Political Science at Columbia University:
ขอร้องให้ผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นตัวอย่างแก่เพื่อนร่วมวิชาชีพทั้งโลก เขากล่าวว่า …
“กรณีที่เกิดขึ้นอยู่ในความห่วงใยของนานาชาติ
เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับนักวิชาการในประเทศไทยวันนี้
อาจจะเกิดกับข้าพเจ้าในสหรัฐอเมริกาในวันพรุ่งก็เป็นได้
ข้าพเจ้าจึงใคร่ขอร้องเป็นการส่วนตัวมายังท่านซึ่งเป็นผู้นำทางวิชาการได้โปรดกระทำการอันจำเป็นเพื่อปกป้อง
ดร. ณัฐพล ใจจริงให้พ้นจากการถูกข่มเหง...
การกระทำของท่านจะเป็นกำลังใจมหันต์ให้แก่นักวิชาการทั่วทั้งโลก”
ดร.
ธงชัย วินิจจะกูล
ศาสตราจารย์เกียรติคุณทางประวัติศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน และดร.
ไทเรล ฮาเบอคอร์น
ศาสตราจารย์ด้านภาษาและวัฒนธรรมเอเชียแห่งมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน
ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มการรณรงค์เขียนจดหมายครั้งนี้
เชื่อว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องยืนเคียงข้างมิตรของเราในประเทศไทย
เพราะบทบาทของมหาวิทยาลัยจะต้องเป็นผู้นำทางส่องสว่างแก่การแลกเปลี่ยนที่อิสระ
และเป็นพื้นที่สำหรับการคิดต่างและการถกเถียงได้อย่างจริงจัง
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งทั้งสำหรับสังคมไทยในวงกว้างและสำหรับมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
ที่จะต้องเกื้อหนุนบรรยากาศสำหรับการแลกเปลี่ยนอย่างวิพากษ์วิจารณ์และสร้างสรรค์
อันเป็นปัจจัยจำเป็นสำหรับความเป็นเลิศทางวิชาการ
[เกี่ยวกับคำแถลงข่าวนี้
โปรดติดต่อ ธงชัย วินิจจะกูล twinicha@wisc.edu และไทเรล ฮาเบอคอร์น
(Tyrell Haberkorn) tyrellcaroline@gmail.com]
อ่านเวอร์ชั่นอังกฤษที่
https://www.facebook.com/ThaiAcademicNetworkforCivilRights/photos/a.487222531441124/1915223291974367/
tisdag 6 april 2021
นักวิชาการนานาชาติเรียกร้องต่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขอให้ปกป้องเสรีภาพทางวิชาการ
Prenumerera på:
Kommentarer till inlägget (Atom)
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar