tisdag 20 april 2021

เพนกวินแถลงต่อศาล ขอถอนทนาย-ปฏิเสธกระบวนการยุติธรรม ในคดี Mobfest

Thai E-News

เพนกวินแถลงต่อศาล ขอถอนทนาย-ปฏิเสธกระบวนการยุติธรรม ในคดี Mobfest


ธีร์ อันมัย
7h ·

เพนกวิน แถลงต่อศาล
"ข้าแต่ศาลที่เคารพ เนื่องด้วยข้าพเจ้ายังไม่ต้องคำพิพากษาให้มีความผิดตามกฎหมายมาตราใดๆ ซึ่งถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ การที่ศาลคุมขังข้าพเจ้าไว้ทำให้ไม่สามารถต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น กระบวนการนี้ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรม จึงไม่ขอยอมรับ ขอปฏิเสธทุกกระบวนการ ไม่ลงลายมือชื่อใดๆ จนกว่าจะได้รับสิทธิการประกันตัวและสู้คดีอย่างเต็มที่ " พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวินแถลงต่อศาลในวันนี้ และยืนยันกับแม่ว่าจะอดอาหารต่อไปจนกว่าจะได้รับ "สิทธิการประกันตัว"
.....

The Reporters
11h ·

UPDATE: ‘เพนกวิน’ แถลงต่อศาลขอถอนทนายความ 3 คน ออกจากกระบวนการพิจารณาคดีม็อบเฟสต์ ‘แม่เพนกวิน’ เผย ลูกชายยืนยันจะอดอาหารต่อเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมหลังจากนี้
วันนี้ (19 เม.ย. 64) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กรณีที่ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ในความผิดฐาน “หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทฯ” จากการชุมนุมกลุ่มม็อบเฟสต์ เมื่อวันที่ 13-15 พ.ย. 63 โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวนายพริษฐ์มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการตรวจพยานหลักฐานว่า คดีนี้นายพริษฐ์เป็นจำเลยตามความผิด ม.112, 116 และมาตราอื่นๆ โดยวันนี้นายพริษฐ์นั่งรถเข็นเข้ามาในห้องพิจารณาคดี ซึ่งครอบครัวและเพื่อนๆ ได้มีโอกาสพูดคุยกับนายพริษฐ์ เพราะตอนนี้นายพริษฐ์มีปัญหาเรื่องการเรียน เนื่องจากไม่ได้เข้าสอบและอาจต้องถูกรีไทม์ ศาลจึงอนุญาต ซึ่งวันนี้ถือว่าได้รับการผ่อนปรนจากศาลพอสมควร
อย่าไงนายกฤษฎางค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้อัยการแถลงสืบพยานทั้งหมด 32 ปาก และนายพริษฐ์แถลงต่อศาลว่า ตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมในการต่อสู้คดี เพราะไม่ได้รับสิทธิ์ในการปล่อยตัวชั่วคราว ทำให้ไม่มีโอกาสแสวงหาพยานหลักฐานมาต่อสู้คดี และขอไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม จึงขอไม่เข้าร่วมการต่อสู้คดี ปล่อยให้โจทก์ทำหน้าที่สืบพยานต่อไป อีกทั้งได้ขอยื่นถอนทนายความทั้งหมดรวมจำนวน 3 คน โดยให้เหตุผลว่า หากมีทนายความไปก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้เพราะตนเองไม่ได้รับสิทธิในการตรวจสอบพยานหลักฐานเพื่อต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีการขอศาลด้วยว่าไม่ต้องเบิกตัวตนเองมาขึ้นศาลอีก
อย่างไรก็ตาม ทนายความชี้แจงด้วยว่า หลังจากนี้ต้องทำการนัดสืบพยานโจทก์ต่อไป เพราะนายพริษฐ์ไม่อนุญาตให้ตนเองไปนัดสืบพยาน เพราะคิดว่าไม่อยากเข้าร่วมกระบวนการนี้ จึงไม่ได้ไปร่วมการนัด ซึ่งศาลให้นัดสืบพยานโจทก์จำนวน 9 นัด และฝ่ายจำเลยหากมองในแง่นักกฎหมาย การที่จำเลยไม่มีการตั้งทนายความ ศาลสามารถตัดสินไปตามที่โจทก์กล่าวหาได้ แต่นายพริษฐ์เชื่อว่าตนเองไม่ได้รับโอกาสต่อสู้คดีเนื่องจากไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวซึ่งเป็นสิทธิ์ที่ตนเองคิดว่าควรได้รับ อีกทั้งยังมองว่าถึงแม้ตนเองจะแพ้คดี แต่ก็ชนะในแง่ของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งท้ายที่สุดศาลก็สามารถมีคำพิพากษาออกมาได้
ส่วนความกังวลหลังจากนี้ทนายความระบุว่า หากพ้นจากการเป็นทนายความให้แก่จำเลยแล้ว ตนเองจะไม่มีภารกิจใดในคดีนี้อีก แต่ความห่วงใยที่มีอยู่คือมีความห่วงกังวลแก่ผู้ที่ออกมาต่อสู้เพื่ออุดมการณ์และเขาเหล่านั้นควรได้รับโอกาสในการพิสูจน์ตามกระบวนการยุติธรรมที่เป็นธรรม จึงมีความเป็นห่วงในฐานะน้องที่รู้จัก แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้แล้ว เพราะเขายืนยันจะไม่เข้าร่วมกระบวนการยุติธรรม โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ด้าน นางสุรีรัตน์ กล่าวว่า วันนี้ดีใจที่ได้เจอลูก เบื้องต้นได้สังเกตว่าลูกมีสุขภาพที่แย่ลง ดูผอมลง น้ำหนักลดกว่า 20 กิโลกรัม รวมทั้งแขนของลูกมีร่องรอยการเจาะสายน้ำเกลือ ส่วนตัวจึงรู้สึกเป็นห่วงลูกอยาก และอยากให้ศาลให้ประกันตัว เนื่องจากทราบมาว่าภายในเรือนจำมีเชื้อโรคเยอะ ลูกมีร่างกายอ่อนแอ จึงเกรงว่าจะทำให้อาการของลูกรุนแรงขึ้น โดยลูกชายยืนยันว่าจะอดอาหารต่อไปเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ซึ่งครอบครัวอยู่ระหว่างหารือกับทนายความในการยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ประกันตัวนายพริษฐ์ต่อศาลเพื่อพิจารณาขอปล่อยตัวอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับบรรยากาศภายในห้องพิจารณาคดีวันนี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้คุมตัว นายพริษฐ์ขึ้นมาบนห้องพิจารณาคดี โดยนายพริษฐ์ ได้สวมแว่นตา หน้ากากอนามัย นั่งรถเข็น และมีสายน้ำเกลือ โดยมีสภาพร่างกายที่ผอมลง และ อิดโรยอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งมีการดมยาดมอยู่ตลอดเวลา เมื่อเข้ามาภายในห้องพิจารณา นายพริษฐ์ได้ขอให้เพื่อนผู้ชาย 2 คน ซึ่งเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ เข้ามาในห้องพิจารณาคดี เพื่อปรึกษาเรื่องการเรียน และศาลได้อนุญาตให้หารือกับเพื่อน ทนายความ แม่ และน้องสาว ประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นนายพริษฐ์ ได้พยายามลุกขึ้นจากรถเข็น แต่ไม่สามารถพยุงตัวลุกได้ ศาลจึงให้นั่งแถลง ซึ่งนายพริษฐ์ได้แถลงต่อศาลโดยการพูดอย่างช้า ๆ ด้วยน้ำเสียงแปลกไปมีเนื้อหาว่า
"ข้าแต่ศาลที่เคารพเนื่องด้วยข้าพเจ้ายังไม่ต้องคำพิพากษาให้มีความผิดตามกฎหมายมาตราใดๆ ซึ่งถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ การที่ศาลคุมขังข้าพเจ้าไว้ทำให้ไม่สามารถต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น กระบวนการนี้ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรม จึงไม่ขอยอมรับ ขอปฏิเสธทุกกระบวนการไม่ลงลายมือชื่อใดๆ จนกว่าจะได้รับสิทธิการประกันตัวและสู้คดีอย่างเต็มที่"
#TheReporters #เดอะรีพอร์ตเตอร์
.....

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar