Thai E-News
เพนกวินแถลงต่อศาล ขอถอนทนาย-ปฏิเสธกระบวนการยุติธรรม ในคดี Mobfest
ธีร์ อันมัย
7h ·
เพนกวิน แถลงต่อศาล
"ข้าแต่ศาลที่เคารพ
เนื่องด้วยข้าพเจ้ายังไม่ต้องคำพิพากษาให้มีความผิดตามกฎหมายมาตราใดๆ
ซึ่งถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์
การที่ศาลคุมขังข้าพเจ้าไว้ทำให้ไม่สามารถต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น
กระบวนการนี้ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรม จึงไม่ขอยอมรับ ขอปฏิเสธทุกกระบวนการ
ไม่ลงลายมือชื่อใดๆ จนกว่าจะได้รับสิทธิการประกันตัวและสู้คดีอย่างเต็มที่
" พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวินแถลงต่อศาลในวันนี้
และยืนยันกับแม่ว่าจะอดอาหารต่อไปจนกว่าจะได้รับ "สิทธิการประกันตัว"
.....
The Reporters
11h ·
UPDATE:
‘เพนกวิน’ แถลงต่อศาลขอถอนทนายความ 3 คน
ออกจากกระบวนการพิจารณาคดีม็อบเฟสต์ ‘แม่เพนกวิน’ เผย
ลูกชายยืนยันจะอดอาหารต่อเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมหลังจากนี้
วันนี้
(19 เม.ย. 64) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก
กรณีที่ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีที่พนักงานอัยการ
สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง
นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ในความผิดฐาน “หมิ่นประมาท ดูหมิ่น
หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทฯ”
จากการชุมนุมกลุ่มม็อบเฟสต์ เมื่อวันที่ 13-15 พ.ย. 63
โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวนายพริษฐ์มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
นายกฤษฎางค์
นุตจรัส ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการตรวจพยานหลักฐานว่า
คดีนี้นายพริษฐ์เป็นจำเลยตามความผิด ม.112, 116 และมาตราอื่นๆ
โดยวันนี้นายพริษฐ์นั่งรถเข็นเข้ามาในห้องพิจารณาคดี
ซึ่งครอบครัวและเพื่อนๆ ได้มีโอกาสพูดคุยกับนายพริษฐ์
เพราะตอนนี้นายพริษฐ์มีปัญหาเรื่องการเรียน
เนื่องจากไม่ได้เข้าสอบและอาจต้องถูกรีไทม์ ศาลจึงอนุญาต
ซึ่งวันนี้ถือว่าได้รับการผ่อนปรนจากศาลพอสมควร
อย่าไงนายกฤษฎางค์
กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้อัยการแถลงสืบพยานทั้งหมด 32 ปาก
และนายพริษฐ์แถลงต่อศาลว่า ตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมในการต่อสู้คดี
เพราะไม่ได้รับสิทธิ์ในการปล่อยตัวชั่วคราว
ทำให้ไม่มีโอกาสแสวงหาพยานหลักฐานมาต่อสู้คดี
และขอไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม จึงขอไม่เข้าร่วมการต่อสู้คดี
ปล่อยให้โจทก์ทำหน้าที่สืบพยานต่อไป
อีกทั้งได้ขอยื่นถอนทนายความทั้งหมดรวมจำนวน 3 คน โดยให้เหตุผลว่า
หากมีทนายความไปก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้เพราะตนเองไม่ได้รับสิทธิในการตรวจสอบพยานหลักฐานเพื่อต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ยังมีการขอศาลด้วยว่าไม่ต้องเบิกตัวตนเองมาขึ้นศาลอีก
อย่างไรก็ตาม
ทนายความชี้แจงด้วยว่า หลังจากนี้ต้องทำการนัดสืบพยานโจทก์ต่อไป
เพราะนายพริษฐ์ไม่อนุญาตให้ตนเองไปนัดสืบพยาน
เพราะคิดว่าไม่อยากเข้าร่วมกระบวนการนี้ จึงไม่ได้ไปร่วมการนัด
ซึ่งศาลให้นัดสืบพยานโจทก์จำนวน 9 นัด และฝ่ายจำเลยหากมองในแง่นักกฎหมาย
การที่จำเลยไม่มีการตั้งทนายความ ศาลสามารถตัดสินไปตามที่โจทก์กล่าวหาได้
แต่นายพริษฐ์เชื่อว่าตนเองไม่ได้รับโอกาสต่อสู้คดีเนื่องจากไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวซึ่งเป็นสิทธิ์ที่ตนเองคิดว่าควรได้รับ
อีกทั้งยังมองว่าถึงแม้ตนเองจะแพ้คดี แต่ก็ชนะในแง่ของกระบวนการยุติธรรม
ซึ่งท้ายที่สุดศาลก็สามารถมีคำพิพากษาออกมาได้
ส่วนความกังวลหลังจากนี้ทนายความระบุว่า
หากพ้นจากการเป็นทนายความให้แก่จำเลยแล้ว ตนเองจะไม่มีภารกิจใดในคดีนี้อีก
แต่ความห่วงใยที่มีอยู่คือมีความห่วงกังวลแก่ผู้ที่ออกมาต่อสู้เพื่ออุดมการณ์และเขาเหล่านั้นควรได้รับโอกาสในการพิสูจน์ตามกระบวนการยุติธรรมที่เป็นธรรม
จึงมีความเป็นห่วงในฐานะน้องที่รู้จัก แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้แล้ว
เพราะเขายืนยันจะไม่เข้าร่วมกระบวนการยุติธรรม
โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ด้าน นางสุรีรัตน์ กล่าวว่า
วันนี้ดีใจที่ได้เจอลูก เบื้องต้นได้สังเกตว่าลูกมีสุขภาพที่แย่ลง ดูผอมลง
น้ำหนักลดกว่า 20 กิโลกรัม รวมทั้งแขนของลูกมีร่องรอยการเจาะสายน้ำเกลือ
ส่วนตัวจึงรู้สึกเป็นห่วงลูกอยาก และอยากให้ศาลให้ประกันตัว
เนื่องจากทราบมาว่าภายในเรือนจำมีเชื้อโรคเยอะ ลูกมีร่างกายอ่อนแอ
จึงเกรงว่าจะทำให้อาการของลูกรุนแรงขึ้น
โดยลูกชายยืนยันว่าจะอดอาหารต่อไปเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม
ซึ่งครอบครัวอยู่ระหว่างหารือกับทนายความในการยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ประกันตัวนายพริษฐ์ต่อศาลเพื่อพิจารณาขอปล่อยตัวอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับบรรยากาศภายในห้องพิจารณาคดีวันนี้
เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้คุมตัว นายพริษฐ์ขึ้นมาบนห้องพิจารณาคดี
โดยนายพริษฐ์ ได้สวมแว่นตา หน้ากากอนามัย นั่งรถเข็น และมีสายน้ำเกลือ
โดยมีสภาพร่างกายที่ผอมลง และ อิดโรยอย่างเห็นได้ชัด
รวมทั้งมีการดมยาดมอยู่ตลอดเวลา เมื่อเข้ามาภายในห้องพิจารณา
นายพริษฐ์ได้ขอให้เพื่อนผู้ชาย 2 คน
ซึ่งเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ เข้ามาในห้องพิจารณาคดี
เพื่อปรึกษาเรื่องการเรียน และศาลได้อนุญาตให้หารือกับเพื่อน ทนายความ แม่
และน้องสาว ประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นนายพริษฐ์ ได้พยายามลุกขึ้นจากรถเข็น
แต่ไม่สามารถพยุงตัวลุกได้ ศาลจึงให้นั่งแถลง
ซึ่งนายพริษฐ์ได้แถลงต่อศาลโดยการพูดอย่างช้า ๆ
ด้วยน้ำเสียงแปลกไปมีเนื้อหาว่า
"ข้าแต่ศาลที่เคารพเนื่องด้วยข้าพเจ้ายังไม่ต้องคำพิพากษาให้มีความผิดตามกฎหมายมาตราใดๆ
ซึ่งถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์
การที่ศาลคุมขังข้าพเจ้าไว้ทำให้ไม่สามารถต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น
กระบวนการนี้ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรม จึงไม่ขอยอมรับ
ขอปฏิเสธทุกกระบวนการไม่ลงลายมือชื่อใดๆ
จนกว่าจะได้รับสิทธิการประกันตัวและสู้คดีอย่างเต็มที่"
#TheReporters #เดอะรีพอร์ตเตอร์
.....
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar