โชคดีจิง ๆ ที่ไม่ใช่รัฐบาลนังปูว์
ถ้านังปูว์นั่งนายกอยู่ ป่านนี้ มันคงปิดถนนครึ่งประเทศ
เทผลไม้กลางถนนเต็มไปหมดแล้ว สมัยนังปูว์เป็นนายก
คนไทยมีแต่ความทุกข์ เงาะ มังคุด สมัย รบ.ปู กก.45-50 บาท
แพงเป็นประวัติการณ์ และไม่ค่อยมีขาย เพราะพ่อค้าจีน ขนไปหมด
นี่มีประยุทธ์ มาคอยคืนความสุขให้คนไทย ซู้กสุก สุกจนเปื่อย
มังคุด-ทุเรียนล้นตลาด พ่อค้าคนกลางต้องนำออกเร่ขายตามตลาดนัดในราคาถูก
ชาวบ้านแห่เลือกซื้อจำนวนมาก ภาวะราคาผลไม้ในภาคใต้โดยเฉพาะมังคุดและทุเรียนที่ลดลง อย่างต่อเนื่อง
เป็นผลมาจากผลไม้ล้นตลาดทำให้พ่อค้าคนกลางที่เข้าไปตระเวนรับซื้อจากสวนของ ชาวบ้านต้องนำมาเร่ขาย
ตามตลาดนัดในราคาถูก เช่น ที่ตลาดนัดวันอาทิตย์ เขตเทศบาลนครสงขลา
เต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ค้าที่นำมังคุดและทุเรียน
ใส่รถกระบะมาจอดวางขายกันริม ถนนโดยมังคุดราคากิโลกรัมละ 10 บาท
ขณะที่ในตลาดสดราคา 15 บาท
ส่วนทุเรียนบ้านหรือทุเรียนพื้นเมืองกิโลกรัมละ 15 บาท
ทุเรียนพันธุ์ทั้งก้านยาว กระดุมทอง ชะนี และหมอนทอง อยู่ที่กิโลกรัมละ 25-35 บาท
ได้รับความสนใจจากประชาชนที่ไปเลือกซื้อเป็นจำนวนมาก
นายสะฮารี ลาเตะ ชาวอำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี
หนึ่งในพ่อค้าที่นำมังคุดและทุเรียนมาจำหน่าย เปิดเผยว่า
ต้องเร่งระบายสินค้าให้หมดโดยเร็วที่สุดเน้นราคาถูกหากเหลือมากจะขาดทุน
เพราะราคาลดลงอย่างต่อเนื่องและผลไม้จะเสียไม่สวย
เนื่องจากผลไม้ทั้งมังคุดและทุเรียนสดใหม่จะออกสู่ตลาดทุกวัน
Pegasusfire Michael
ราคายางที่คนใต้พอใจและมีความสุขในยุค คสช.คือ กก.ละ 50-60 บาท !!! จะเห็นได้จากการเงียบเป็นเป่าสากไม่มีการออกมาประท้วงปิดถนนปิดบ้านป่วนเมืองเหมือนยุคราคายาง 80-90 บาท ในสมัยรัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์ โดยบอกว่าต้นทุน กก.ละ 100 บาท ขอให้รับซื้อยางในราคา กก.ละ 120 บาท แต่ได้ข่าวว่าบรรดานักการเมืองพ่อค้ากำนันผู้ใหญ่บ้านลูกสมุนกำนันเทือกที่เปิดโกดังรับซื้อยางตุนกันไว้เจ้งหมดเนื้อหมดตัวกันระนาว มีผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งที่สุราษฎร์บอกว่าผมเหม็ดตัวเจ้งไป 5 ล้านบาทเวรกรรมมันติดจรวดรวดเร็วดีจริงๆ
.............................................
-เรื่องนี้ฝากส่งตรงถึงอำมาตย์เผด็จการทรราช...โดยเฉพาะ....
"อย่ารีดเลือดจากปู...ขึ้นภาษี VAT เป็น 10% ก้าวที่ไม่ควรก้าวของ คสช."
ภาษีชนิดนี้จะเก็บจากสินค้าและบริการแทบทุกชนิด เป็นภาษีที่ "คนจน"
จ่ายอัตราเดียวกับ"คนรวย" แม้ได้เงินง่าย ได้เงินมาก
แต่ก็เป็นอันตรายกับเศรษฐกิจระดับรากฐาน ทำให้คนจนทุกข์ยากขึ้นไปอีก
หลายประเทศที่กำลังพัฒนา เขารู้ว่าคนในประเทศยังจน ดังนั้น หากจะหาแหล่งรายได้
หากไม่เข้าตาจนจริงๆเขาจะ "ไม่รีดเลือดจากปู" ด้วยภาษี VAT แต่หาเงินเข้าคลังจากทรัพยากร เช่น การขุดก๊าซขุดน้ำมันในประเทศ หลวงจะหาวิธีเก็บผลประโยชน์ที่สะท้อนราคาทรัพยากรพลังงานในปัจจุบัน จึงเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้ง รัฐ ประชาชน และเอกชน
วันนี้หลวงไทยได้เงินจากทรัพยากร ต่ำเตี้ยติดดิน คือ
ส่วนมาเลเซียมีเงินจากการขุดทรัพยากรปิโตรเลียมอย่างเดียวถึง 40% ของรายได้แผ่นดิน
อย่างที่ผมพยายามบอกรัฐมาตลอดว่า เรื่องปฏิรูปพลังงาน ไม่ใช่ต้องการราคาพลังงานถูกๆแบบประชาชนิยม แต่อยากให้ดูแลทรัพยากรของแผ่นดินและแม่พระธรณีให้มา เพราะนั่น
คือแหล่งรายได้มหาศาลในการพัฒนาชาติ พัฒนาคน
การขึ้นภาษี VAT จึงควรเป็นทางเลือกสุดท้ายครับ
เพราะเศรษฐกิจไทยยังไม่แข็งแรงจึงเท่ากับไปทำให้ชะลอตัวลงไปอีก
ผมมีข้อแนะนำว่า ถ้าท่านต้องการเงินเร็ว โปรดขึ้นภาษีปิโตรเลียมที่เก็บจากผู้รับสัมปทานครับ
เราใช้อัตราเดิมมา 25 ปีไม่เคยเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่ีราคาน้ำมันดิบลิตรละ 3 บาทกว่า
หากท่านจะทำก็ไม่ต้องออกกฎหมายใหม่ เพราะอัตราเพิ่มมีประกาศมา 25 ปีแล้ว แต่ก็ไม่มี รมต.คนใดใช้ มัวแต่สงสารบริษัทน้ำมันจะไม่อ้วนพี วันนี้จึงควรนำกลับมาพิจารณา ท่านจะได้เงินเข้าคลังทันที 2 หมื่นล้านบาทต่อปี (เงินตรงนี้ถือเป็นเศษเงินของบริษัทน้ำมันข้ามชาติ)
ที่สำคัญภาษีนี้ไม่มีผลต่อราคาน้ำมันในประเทศเลย เพราะผู้รับสัมปทานขายให้เราในราคาตลาดโลกอยู่แล้วในขณะนี้ แนวทางนี้ต่างหากจึงเป็นการคืนความสุขที่แท้จริงและ
สร้างความเป็นธรรมให้กับประเทศและประชาชน
จึงเรียนมาด้วยความเคารพ และความห่วงใย คสช
กรกสิวัฒน์
คสช.ยึดอำนาจ คืนความสุขให้อำมาตย์ทรราช..
แต่สร้างความเดือดร้อนคืนความทุกข์ให้คนในชาติ!
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar