แถลงการณ์ขององค์การเสรีไทย เพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธ ิปไตย
เรื่อง ไม่ยอมรับและประณามรัฐธรรมน ูญของระบอบเผด็จการ
ตามที่คณะรัฐประหารผู้เรียก ตนเองว่า คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห ่งชาติ หรือ คสช. ได้รับพระราชทานเอกสารที่เร ียกว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไ ทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.๒๕๕๗ เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๗ และใช้อำนาจที่ยึดมาโดยผิดก ฎหมาย ประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายส ูงสุดของแผ่นดินไทยนั้น
องค์การเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประ ชาธิปไตย ขอประกาศว่าโดยที่ คสช. นั้นเองเป็นองค์การอาชญากรร มที่กระทำความผิดอย่างอุกอา จและจงใจเจตนาในการทำลายประ ชาธิปไตย อ้างว่ากระทำการยึดอำนาจเพื ่อแก้ไขปัญหาและจะคืนความสุ ขให้กับปวงชนชาวไทย ทั้งที่ตนเองมีส่วนรู้เห็นห รือแม้แต่มีส่วนร่วมกับแผนบ ่อนทำลายรัฐบาลประชาธิปไตยท ี่มาจากการเลือกตั้งของประช าชนมาตั้งแต่ต้น จึงไม่มีสิทธิตามกฎหมายและค วามชอบธรรมใดๆ ที่จะออกคำสั่งแก่ปวงชนชาวไ ทย ดั่งว่า ตนเองเป็นประมุขแห่งรัฐ
เอกสารที่เรียกว่ารัฐธรรมนู ญฯ ฉบับนี้ จึงไม่ควรถือว่ามีอำนาจผูกพ ันใดๆ ต่อสิทธิ เสรีภาพ และการแสดงออกทางกฎหมายของป วงชนชาวไทย เราจึงขอยืนยันไม่ยอมรับอำน าจ อันเกิดจากการใช้กำลังที่เห นือกว่าเข้าข่มขู่บังคับเช่ นนี้ และขอให้ผู้สนับสนุนระบอบปร ะชาธิปไตยทุกคนมีจุดยืนที่แ น่วแน่ร่วมกันดังกล่าว
ความในมาตราต่างๆ ทั้ง ๔๘ มาตรา ที่คณะรัฐประหาร คสช. ได้รับพระราชทานมานั้น มีสาระที่ขัดต่อการปกครองใน ระบอบประชาธิปไตยอยู่เกือบท ั้งฉบับ ในภาพรวมนั้น ก็เป็นเอกสารที่สร้างขึ้นมา เพื่อรับใช้เครือข่ายอำนาจเ ดิมและอภิสิทธิ์ชน ซึ่งมีจำนวนเพียงน้อยนิดของ สังคมไทย โดยไม่ได้ใส่ใจต่อความรู้สึ กนึกคิดของปวงชนชาวไทย ๖๕ ล้านคนเลย ประหนึ่งว่าพวกเราคือผู้ใต้ บังคับบัญชาที่จะถูกสั่งการ ให้กระทำการใดๆ ก็ได้ตามอำเภอใจของผู้สั่งก าร ทัศนคติเผด็จการเยี่ยงนี้ ปรากฎชัดทั่วไปทั้งฉบับ เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว ่า เครือข่ายอำนาจเดิมที่นำมาส ู่การรัฐประหารในคราวนี้ มีความขัดแย้งขั้นพื้นฐานกั บการปกครองในระบอบประชาธิปไ ตยโดยสิ้นเชิง ความขัดแย้งที่หยั่งรากลึกใ นสังคมไทยตลอดมา ก็มาจากทัศนคติอันล้าหลังเย ี่ยงนี้ เราจึงไม่อาจปลงใจเชื่อคำโฆ ษณาชวนเชื่อทั้งปวงของคณะรัฐปรหาร คสช. ได้เลย
อย่างไรก็ตาม เราขอยกตัวอย่างสาระที่ไม่น ่าเชื่อว่าจะปรากฎในโลกยุคใ หม่ จากเอกสารฉบับนี้บางมาตราไว ้ให้ปรากฎ เพื่อย้ำยืนยันจุดยืนต่อต้า นระบอบเผด็จการที่กำลังครอบ งำเมืองไทย และให้วิญญูชนได้พิจารณาด้ว ยตนเอง ดังนี้
๑. มาตรา ๓๕ เป็นมาตราที่ระบอบเผด็จการไ ทย จงใจเจตนาวางรากฐานของการผู กขาดอำนาจในระยะยาวจนอาจถึง ขั้นถาวร วรรคต่างๆ ในมาตรานี้ มีเจตนาทำลายโอกาสที่สังคมไ ทยจะได้กลับคืนสู่ภาวะประชา ธิปไตยอันมั่นคง ด้วยการทำลายระบบพรรคการเมื อง เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษ ฎรแตกเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มน้อ ย คงอำนาจอันล้นพ้นของศาลรัฐธ รรมนูญที่จะทำลายกลไกที่มาจ ากการเลือกตั้งเมื่อใดก็ได้ องค์การอิสระของรัฐ ที่ไม่เคยเป็นอิสระจริง ก็ยังมีอำนาจมากมายต่อไปในบ ทบาทผู้แสดงสมทบของระบอบเผด ็จการไทย แม้แต่การให้คณะกรรมการการเ ลือกตั้งมีอำนาจชี้ขาดสูงสุ ดว่า บุคคลใดกระทำผิดในฐานะซื้อเ สียงและให้คนผู้นั้นหมดสิทธ ิทางการเมืองไปชั่วชีวิต ก็เป็นหนทางที่อาจนำมาสู่กา รกลั่นแกล้งรังแกและละเมิดส ิทธิทางการเมืองได้ไม่ยาก รวมความแล้ว มาตรานี้มีความประสงค์ที่จะ ทำลายโอกาส ที่ประชาชนจะเลือกพรรคการเม ืองใดด้วยเสียงข้างมากเช่น ท ี่เกิดขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๔๔ เป็นต้นมา
๒. มาตรา ๓๘ ที่ให้อำนาจยกร่างรัฐธรรมนู ญแบบไม่รู้จบ ร่างเสร็จไม่พอใจก็ยกร่างให ม่ ได้ตามความพอใจอย่างไม่มีกร อบเวลา ก็นับเป็นการย้อนยุครัฐธรรม นูญแบบเผด็จการทหารที่เราเค ยผ่านมาแล้วในสมัย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ต่อเนื่องกับ จอมพลถนอม กิตติขจร ที่ใช้เวลาร่างรัฐธรรมนูญยา วนานถึง 12 ปี คณะรัฐประหารและเครือข่ายอำ นาจเดิมของไทย สามารถที่จะใช้ความข้อนี้ยื ดระยะการร่างรัฐธรรมนูญต่อไ ปได้นานเท่านาน ซึ่งก็ตรงกับสิ่งที่องค์การ เสรีไทยฯ ได้กล่าวไว้ตั้งแต่แรกเริ่ม ว่า การยึดอำนาจครั้งนี้ต้องการ ครอบงำประเทศไทย เป็นระยะเวลาอันยาวนาน จนกว่าเขาจะแน่ใจว่าปวงชนชา วไทยไม่สามารถลุกขึ้นมาแบ่ง ปันอำนาจหรือต่อรองใดๆ กับเขาได้อีก
๓. มาตรา ๔๔ ก็ไม่แตกต่างนักกับมาตรา ๑๗ สมัยเผด็จการสฤษดิ์ ธนะรัชต์ มาตรานี้ให้อำนาจอย่างกว้าง ขวางและเบ็ดเสร็จกับคณะที่ ใ ช้กำลังเข้ายึดครองอำนาจการ ปกครองแผ่นดิน ถึงขั้นล้างบาปอันใหญ่หลวงใ ห้กับตนเองและผู้สมรู้ร่วมค ิดโดยสิ้นเชิง มิหนำซ้ำยังตั้งตัวเหนือหลั กการ นิติรัฐ-นิติธรรม อันเป็นหลักสากลที่ทั่วโลกย อมรับ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไร้ยางอ ายและไม่มีศักดิ์ศรีใดๆ หลงเหลืออยู่อีกเลย
๔. เอกสารฉบับนี้ให้อำนาจอย่าง ล้นพ้นแก่ข้าราชการประจำของ รัฐ โดยให้ข้าราชการประจำมาดำรง ตำแหน่งทางการเมืองได้ โดยไม่ต้องพ้นจากตำแหน่งเดิ ม หลักการที่ปวงชนชาวไทยเป็นผ ู้กำหนดทิศทางของรัฐ โดยมีข้าราชการประจำมีหน้าท ี่รับปฏิบัติ ถูกทำลายลงในพริบตา จากนี้ไปเราอาจได้เห็นข้ารา ชการประจำแสดงอำนาจบาตรใหญ่ ต่อประชาชนมากขึ้น ซึ่งเป็นบรรยากาศย้อนยุคไปใ นอดีต ที่ผู้ทำงานให้กับรัฐมีอำนา จเหนือกว่าประชาชนผู้เสียภา ษีอากร มาเป็นเงินเดือนและค่าตอบแท นของเขา นับเป็นองค์ประกอบหนึ่งของร ะบอบเผด็จการโดยแท้
องค์การเสรีไทยฯ และผู้สนับสนุน เห็นว่าข้อกำหนดใดๆ ในเรื่องสิทธิและเสรีภาพของ ประชาชน ที่ปรากฎในเอกสารรัฐธรรมนูญ เผด็จการนี้ นับว่าไม่มีประโยชน์ใดๆ เลย เนื่องจากว่า มาตราที่ให้อำนาจอย่างล้นเห ลือแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐมีล ักษณะที่ครอบงำการใช้อำนาจร ัฐทั้งระบบอยู่แล้ว จึงขอยืนยันว่าคณะรัฐประหาร และเครือข่ายเผด็จการไทย มีเจตนาอันเป็นปฏิปักษ์ต่อส ิทธิเสรีภาพของปวงชนชาวไทย
การที่คณะรัฐประหาร คสช. ประกาศซ้ำอยู่หลายครั้งว่า พวกเขาได้กระทำการยึดอำนาจก ารปกครองอย่างผิดกฎหมาย ก็เพื่อต้องการให้เกิดกระบว นการปฏิรูปการเมือง เพื่อลดความขัดแย้งนั้น แต่สิ่งที่ปรากฎในเอกสารรัฐ ธรรมนูญเผด็จการ แสดงชัดเจนว่าได้ตัดขาดอำนา จของประชาชนออกจากกระบวนการ เลือกตั้งออกโดยสิ้นเชิง และไม่มีที่ใดในเอกสารรัฐธร รมนูญเผด็จการที่ระบุถึงมาต รการปฏิรูปศาลและอำนาจในกระ บวนการยุติธรรม องค์การอิสระฯ ระบบราชการ และแม้แต่กองทัพแห่งชาติเอง ทั้งที่ทุกสถาบันในประเทศไท ยมีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาท ี่เกิดขึ้นมานานเกือบหนึ่งท ศวรรษ จึงนับเป็นการใช้อำนาจเถื่อ นบังคับขับไสปวงชนชาวไทยไปส ู่ทิศทางที่พวกเขาต้องการ โดยใช้กำลังและอาวุธกดขี่ปร ะชาชน
เราจึงขอประณามเอกสารซึ่งคณ ะรัฐประหารเรียกว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไ ทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.๒๕๕๗ ว่าเป็นเอกสารเถื่อน และเป็นมิจฉาทิฏฐิต่อการปกค รองในระบอบประชาธิปไตย
นอกจากนั้น องค์การเสรีไทยฯ ขอรับเป็นผู้ประสานงานยกร่า งรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนขึ้น ในเร็ววันนี้ เพื่อให้เป็นทางเลือกของปวง ชนชาวไทยต่อไป ในระหว่างดำเนินการในเรื่อง นี้ ปวงชนชาวไทยและชาวต่างประเท ศที่สนับสนุนแนวทางประชาธิป ไตย โปรดแสดงการต่อต้านอำนาจเถื ่อนของเผด็จการ คสช. ด้วยการเผยแพร่ตราสัญลักษณ์ ขององค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิ มนุษยชนและประชาธิปไตย ในทุกโอกาสที่ท่านสามารถกระ ทำได้ เพื่อแสดงว่าชาวประชาธิปไตย ยังมีตัวตนและพร้อมต่อสู้เพ ื่อทำลายอภิสิทธิ์ชนในสังคม ไทยต่อไปโดยไม่หยุดยั้ง
แถลง ณ วันศุกร์ที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๗
เรื่อง ไม่ยอมรับและประณามรัฐธรรมน
ตามที่คณะรัฐประหารผู้เรียก
องค์การเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประ
เอกสารที่เรียกว่ารัฐธรรมนู
ความในมาตราต่างๆ ทั้ง ๔๘ มาตรา ที่คณะรัฐประหาร คสช. ได้รับพระราชทานมานั้น มีสาระที่ขัดต่อการปกครองใน
อย่างไรก็ตาม เราขอยกตัวอย่างสาระที่ไม่น
๑. มาตรา ๓๕ เป็นมาตราที่ระบอบเผด็จการไ
๒. มาตรา ๓๘ ที่ให้อำนาจยกร่างรัฐธรรมนู
๓. มาตรา ๔๔ ก็ไม่แตกต่างนักกับมาตรา ๑๗ สมัยเผด็จการสฤษดิ์ ธนะรัชต์ มาตรานี้ให้อำนาจอย่างกว้าง
๔. เอกสารฉบับนี้ให้อำนาจอย่าง
องค์การเสรีไทยฯ และผู้สนับสนุน เห็นว่าข้อกำหนดใดๆ ในเรื่องสิทธิและเสรีภาพของ
การที่คณะรัฐประหาร คสช. ประกาศซ้ำอยู่หลายครั้งว่า พวกเขาได้กระทำการยึดอำนาจก
เราจึงขอประณามเอกสารซึ่งคณ
นอกจากนั้น องค์การเสรีไทยฯ ขอรับเป็นผู้ประสานงานยกร่า
แถลง ณ วันศุกร์ที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๗
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar