ThaiE - News
คลิกอ่านเรื่องทั้งหมด "-คำสัมภาษณ์ 'วัฒน์ ท่าเสา' กับ นักข่าวบางกอกโพสต์ - หกเดือนที่ผ่านมา สิ่งที่คิดไว้ กับ สิ่งที่เป็นอยู่ มันต่าง-เหมือน กันอย่างไรบ้าง?
ความรัก ความศรัทธา ต้องออกมาเอง จากหัวใจผู้คน ไม่ใช่เอากฎหมาย 112 ไปบังคับให้รัก ใครไม่รัก ต้องติดคุก
อย่าว่าแต่รักสถาบันกษัตริย์เลย แค่รักผู้หญิงสักคนหนึ่ง ผมเอาปืนไปจี้ เอากฎหมายไปบังคับเขาได้ไหมว่า เอ็งไม่รักกู เอ็งต้องตาย ต้องติดคุก แล้วเขาจะรักเหรอ
ถามจริงๆ คุณใช้อะไรคิดนะ จึงไปบังคับให้คนต้องรักคุณ คนตั้งเกือบเจ็ดสิบล้าน บางคนเขาอาจไม่รักคุณ แล้วคุณจะฆ่าเขาหรือ มีแต่คนเป็นโรคจิตอย่างรุนแรงเท่านั้น ที่ต้องการให้คนทั้งเจ็ดสิบล้านคน รักตัวเองคนเดียว รักคนอื่นไม่ได้นะ ไม่รักไม่ได้ ไม่รักต้องติดคุก..โอ๊ย ผมจะอธิบายกับพวกโรคจิตอย่างไรดี
แล้วผลจะเป็นอย่างไร ผลคือ คนจะรักคุณน้อยลง น้อยลงเรื่อยๆไง รุ่นหลานเหลน เช่น อั้ม เนโกะ เขาเปิดเผยตัวตนเลยว่า เขาต้องการ รีปับลิก แล้วยังไง คุณจะไปไล่ฆ่า รุ่นหลานอย่าง อั้ม เนโกะ หรือ
ไอ้รุ่นผม เรียกร้องเบาะๆแค่ ให้กษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญจริงๆ ซึ่งผมเห็นว่า เป็นข้อเสนอที่ทุกฝ่ายน่าจะหยวนๆกันได้ ไม่ล่วงล้ำก้ำเกินกันมากไป เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย สามารถอยู่กันไปได้อย่างมีความสุข ทั้งฝ่ายอำนาจราชา และฝ่ายอำนาจประชา แต่โดยความเป็นจริง เห็นกันอยู่ว่าฝ่ายอำนาจราชา เขาไม่แคร์ ไม่สนใจ มีแต่ไล่ฆ่าไล่จับเข้าคุก ขนาดคนไปเขียนในห้องน้ำยังไล่จับมาเข้าคุกเลย ผมว่า มันวิปริตแล้วนะครับ แค่จะไปเขียนระบายในห้องน้ำยังทำไม่ได้เนี่ย
ห้า พี่มีอะไรจะฝากถึงคนในประเทศที่ยังดิ้นรน พยายามแสดงออกในสิ่งที่ตนเองคิดและเชื่อ อยู่ไหม
คิดว่าคนข้างในจะดิ้น จะโวยวายกันไปได้กี่มากน้อย
ผมเชื่อในหลักคิดของพุทธศาสนา หัวใจของศาสนาพุทธ เขียนไว้ตามฐานพระพุทธรูปโบราณว่า เย ธัมมา เหตุปภวาฯลฯ ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ ดำรงอยู่แต่เหตุ และต้องดับที่เหตุ คุณธรรมกี่ประการก็เอาไม่อยู่หรอกครับ ถ้าเหตุแห่งทุกข์ มันยังอยู่ ทุกข์คือการเป็นเผด็จการ ปิดหู ปิดตา ปิดปาก เขาก็ต้อง ออกมาชูสามนิ้ว อย่าลืมว่า ในสมัยสงครามเย็น อเมริกาได้สร้างภาพ สร้างความเคยชินว่า ประเทศไทยนี้ ต่างจากประเทศคอมมิวนิสต์นะ มีสถาบันกษัตริย์นะ และเป็นประเทศเปิด มีเสรีภาพนะ ก็สร้างภาพมาอย่างนี้ จนเป็นความเคยชินว่า คนไทยต้องมีเสรีภาพนะ มันไม่เหมือนเกาหลีเหนือ ที่ฝ่ายคอมมิวนิสต์รัสเซียและจีนสร้างภาพไว้ว่า ต้องเป็นเมืองปิด ต้องแช่เข็ง ความเคยชินที่ต่างกัน จึงทำให้คนไทย ยังต้องออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องเสรีภาพ เพราะอยู่ๆ คุณจะมาแช่แข็งให้อยู่กันแบบเกาหลีเหนือ รับไม่ได้หรอก ขอบอก ว่าหากไม่ผ่อนปรน ไม่เข้าใจฐานที่มีของสังคมไทย สักวันมันอาจเกิดเรื่องน่าเศ้ราขึ้น
หก ต่างชาติ หรือแม้แต่องค์กรอย่างเสรีไทย ของคุณจารุพงศ์ จะเกี่ยวข้อง เกื้อหนุนกับคนลี้ภัยต่างแดนได้อย่างไร
เสรีไทยต้องถามเขาเองครับ ยังไงๆเราก็ต้องชื่นชมในจุดยืนของเขา ส่วนอนาคตข้างหน้า ก็ดูกันไป ถึงอย่างไร ผมก็ชื่นชมจุดยืนของกรรมการเสรีไทย อย่าง ท่านจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ และคุณจักรภพ เพ็ญแข ที่ไม่คลอนแคลน ไม่ยอมทำตามเสียงเกลี้ยกล่อมจากเมืองไทย เท่านี้ก็ชื่นใจครับ ส่วนคนลี้ภัยนั้น เสรีไทยแถลงมาแล้วว่า “ช่วยตัวเอง”
เจ็ด มีอีกเรื่องที่อาจดูน่ารำคาญ แต่คนไทยยังงมงายและคิดว่า ทุกคนที่ออกนอกประเทศได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจากทักษิณ และอาจจะมีสถานภาพที่ดี(พยายามเสี้ยมว่าดีกว่าคนอยู่ในประเทศ) จริงๆแล้ว คนต่างแดน ได้สื่อสารและเข้าใจเป้าหมายและแนวทางของทักษิณกันแค่ไหน เป็นพวกเดียวกันจริงๆเหรอ
อ้าว พวกเรากับทักษิณ ร่วมชะตากรรมกันมายาวนานแล้วนะครับ นับแต่รัฐประหาร ปี 2549 ส่วนบางครั้งเรารู้สึกว่า ทักษิณไปโดนเขาหลอกอีกแล้ว นั่นก็เป็นรายละเอียด เงื่อนไขชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน ยังไงก็ยังรัก ยังเห็นใจกันอยู่ ยิ่งออกมาอยู่ต่างแดนเหมือนกัน ยิ่งเข้าใจหัวอกของทักษิณ ที่ต้องออกมาก่อนเรา นานมากแล้ว
ไอ้เรื่องการช่วยเหลือทางการเงิน มันเป็นความจริงของชีวิต เวลาลำบาก มีคนมาช่วย เราย่อมจดจำรำลึก และคนช่วย มักกำชับว่า “ไม่ประสงค์ออกนาม” ผมมีน้องๆนักเขียน มีเพื่อน มีสหายรุ่นเข้าป่า ช่วยกันไปตามมีตามเกิด กูไม่รวย แต่กูอยากช่วยมึง ประมาณนี้ บางทีมีคนรวยมาช่วย ก็ยิ่งดีสิครับ ชอบนะ จะบอกให้ ไม่เคร่งเครียดหรอก พอได้อยู่ได้กินไปวันๆ ไม่เป็นภาระอะไรมาก
ผมเคยผ่านช่วงชีวิตที่ต้องทำงานเลี้ยงดูครอบครัว ส่งลูกสามคน จนเรียนจบหมด อันนั้นหนักกว่ามาก ตอนนี้ แค่เลี้ยงตัวเองคนเดียวไปวันๆ ไม่มีปัญหาครับ
ส่วนเรื่องเป้าหมาย ตอนนี้เรากับทักษิณมีเป้าเดียวกัน เป้าหมายใกล้ๆแค่นี้ ยังไม่เป็นจริงเลย
ผมไม่ใช่พวกลัทธิคัมภีร์ ประเภทว่า ร่วมกับชนชั้นนายทุนโค่นชนชั้นศักดินา แล้วค่อยโค่นชนชั้นนายทุน ปะโธ่ คนจะต้องร่วมเป็นร่วมตายกัน แล้วยังคิดมาโค่นกันเองอีก คิดได้ไง บ้า..โค่นนี้เสร็จ จะไปโค่นโน้น แล้วใครเขาจะร่วมมือกับคุณ เพ้อฝันนะ อายุก็มากๆกันแล้ว
ผมต้องการแค่ทำความฝันแปดสิบปี ของคนรุ่นนายปรีดี พนมยงค์ ให้เสร็จ คือเป็นประชาธิปไตย มีรัฐสวัสดิการ ประชาชนมีสิทธิ มีเสรีภาพ พอแล้ว แค่นี้ ไม่รู้จะได้เห็นหรือเปล่าในชาตินี้ ปู้โธ่ ดูสิ ในคุก ก็เต็มไปด้วยนักโทษการเมือง นักโทษ 112 นี่คือความจริง ถ้าคุณเป็นนักลัทธิมาร์กซ หัวใจของลัทธิมารกซ์ คือ อยู่กับความจริง ไม่เพ้อฝัน ไม่คิดเองเออเอง
แล้วของแถมประเภท เผด็จการชนชั้นกรรมาชีพ นั่นผมก็ไม่เอาเด็ดขาด ใครติดคัมภีร์ อยากได้เผด็จการชนชั้นกรรมาชีพ ให้ไปอ่านประวัติศาสตร์รัสเซียในยุค สตาลิน ประชาชนเป็นสิบๆล้าน ต้องลำบากเดือดร้อนติดคุกล้มตาย ภายใต้เผด็จการสตาลิน ที่อ้างว่าเป็นเผด็จการชนชั้นกรรมาชีพ อีกทั้งพวกกวี นักเขียนรัสเซีย พากันเข็ดหลาบที่สุด
และถ้าจะทำงานใหญ่ ขอให้เลิกคิดเล็กคิดน้อยกันเสียที เรื่องจุกๆจิกๆ แบบแย่งเศษกระดูกกัน มีปัญหาก็คุยกันภายใน อย่ามาสาวไส้ให้กากิน มองโลกตามความเป็นจริง
การทำงานใหญ่นั้นเป็นไปไม่ได้หรอก ที่จะไม่มีสปอนเซอร์หนุนช่วย กองทัพเรดการ์ด ของ เลนิน ติดปืนพรึ่บเดียวสี่หมื่นกระบอก เพราะมีเยอรมันหนุนช่วย
เหมาเจ๋อตุงสร้างฐานที่มั่น เลี้ยงกำลังพลหลายหมื่นคนได้ เพราะสตาลินช่วยส่งเงินปีละหลายล้านรูเบิลให้ รวมไปถึง โฮจิมินห์ เจ้าสุภานุวงศ์ กำลังอาวุธ ปัจจัยต่างๆ มีจีน มีรัสเซียช่วย จึงรบชนะฝรั่งเศส รบชนะอเมริกา (พูดอย่างนี้ ไม่ได้มองข้ามการร่วมแรงร่วมใจกันของผู้รักชาติเวียดนาม – ลาว นะครับ มันเป็นเงื่อนไขมาประกอบกัน เพื่อชัยชนะ)
ฟิเดล คัสโตร แห่งคิวบา ก็เช่นกัน
ส่วน เช กูวาร่า ไปเข้าป่าโบลีเวีย ไปไม่รอดเพราะอะไรล่ะ ขนาดได้นมมาไม่กี่กระป๋อง เชยังต้องไปทะเลาะกับลูกน้อง เพราะเชไม่มีสปอนเซอร์ใหญ่ มีแต่สปอนเซอร์รายย่อย อย่าง จังปอลซาร์ต นักเขียนฝรั่งเศส
พคท. หรือ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ต้องยุติบทบาทเมื่อคอมมิวนิสต์จีนมาจับมือกับขุนศึกและศักดินาไทย หยุดการให้ สปอนเซอร์ นี่คือเรื่องของ สปอนเซอร์การเมือง
แปด ถ้าจะให้ย้อนกลับแก้ไขอดีตเมื่อเร็วๆนี้ คิดว่าเรื่องใดที่ไม่ควรเกิดขึ้น หรือควรจะได้บังเกิดขึ้นมากที่สุด เช่น เหมาเข่ง ไม่มีแล้วเพื่อไทยอยู่ยาวไป หรือจริงๆเสื้อแดง ต้องไม่มีการใช้อาวุธตั้งแต่ปี53 หรือจริงๆต้องบีบเรื่องแก้112ให้มากกว่านี้ หรือจริงๆไม่ควรผลักดันเรื่องนี้ให้พวกเขากลัวจนต้องกวาดล้างหนักอย่างนี้ หรือเพราะสื่อ มันห่วย ฯลฯ
อดีตแก้ไขไม่ได้ ให้มันผ่านไป เราต้องอยู่กับปัจจุบัน ธรรมชาติของขบวนการต่อสู้ก็เป็นอย่างนี้ คือจากอ่อนหัด ไร้เดียงสา แล้วจึงค่อยเติบโตขึ้น มันเป็นเรื่องของคนจำนวนมาก การจะเข้าใจร่วมกัน ย่อมต้องผ่านประสบการณ์ร่วม
อย่างเรามองเห็นว่า นปช.มีมวลชนมากมายมหาศาล ทว่า ไม่มีการจัดตั้งในทางลึกเลย พอโดนโจมตี พอเพลี้ยงพล้ำ ก็ย่อมแตกสลาย เป็นเรื่องที่มองเห็น แต่เราไปทำอะไรไม่ได้
ช่วงรัฐประหาร 22 พฤษภาคม ขนาดระดับแกนนำเวที นปช. ยังไปไม่เป็นเลย ติดแหง็กแถวชายแดนไทย จนต้องกลับไปรายงานตัว เพราะไม่มีการจัดตั้ง ไม่มีการเตรียมทางหนีทีไล่ ไม่อยากทับถมนะครับ มองเป็นบทเรียน แนวทาง ยึดอำนาจรัฐด้วยไมโครโฟน นั้น ต้องคิดให้ลึกกว่าเก่า
จะเหมาเข่ง ไม่เหมาเข่ง เพื่อไทย ยิ่งลักษณ์ พวกนี้ เราอ่านโครงสร้างการเมืองไทย ที่ยิ่งลักษณ์อยู่มาได้สองปีกว่า นี่นับว่ายอดหญิงเก่งมากแล้ว เกินคาดนะ และ ฝ่ายเจ้า เขาก็อดทนอยู่เหมือนกัน แต่เราต้องรู้ว่า วันหนึ่ง เขาต้องฟาดยิ่งลักษณ์ลงไป มันเป็นเกมเดินฝ่ากับระเบิด แล้วแต่ว่า ก้าวไหนน้องปูจะไปเหยียบระเบิด นี่คือชะตากรรมของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของปวงชนชาวไทย ในขณะที่ฝ่ายศักดินา ยังคุมอำนาจแท้จริงไว้
ไม่อยากไปเรียกร้องฝ่ายไหนในการแก้ไขอดีต ผมนึกถึงแต่ว่า พวกคนรุ่นผมที่ผ่านประสบการณ์สมัยเดือนตุลามา ทั้งปี 2516 และ 2519 เคยเข้าป่า พวกเราขาดการเชื่อมโยงประสบการณ์เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป คือเว้นวรรค หยุดสนใจเรื่องพวกนี้ ไปทำมาหากิน สร้างครอบครัว สร้างตัว เลี้ยงลูก เป็นพักใหญ่ กว่าจะกลับมาพบว่า โครงสร้างสังคมการเมืองไทย มันไม่พัฒนา หนำซ้ำ ห่วยแตกกว่าเดิม เสียใจตัวเองในเรื่องนี้ มันเป็นอดีตที่ไก้ไขไม่ได้ เพราะฉะนั้น สูจงทำปัจจุบันและอนาคตให้ดี
ขอบคุณพี่ที่อดทนกับคำถามที่แลดูเหมือนมาจากนอกโลก
ผมต่างหาก อยู่นอกโลก ยิ่งอยู่นอกโลก เมื่อมองกลับเข้ามา ยิ่งมองเห็นโลก ตอแหลแลนด์ ชัดเจน
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar