แฟ้มชัง(ระบอบ)ประยุทธ์? :คอลัมน์ ใบตองแห้ง

วันที่ 22 กันยายน 2562 - 17:10 น.

แฟ้มชัง(ระบอบ)ประยุทธ์? :คอลัมน์ ใบตองแห้ง

ระหว่างฝ่ายค้านอภิปรายถวายสัตย์ไม่ครบ ท่านผู้นำก็โชว์แฟ้มลับ “โครงข่ายขบวนการทำลายประเทศ” ไม่รู้แฟ้มลับแบบไหน ใช้ตัวหนังสือโตเบ้อเริ่ม ประยุทธ์ก็ไม่ใช่คนโง่ ทำไมจะไม่รู้ว่า วางบนโต๊ะต้องโดนสื่อแอบถ่าย

ใครมีชื่อในแฟ้มบ้าง ถ้าให้ประชาชนทาย ร้อยละ 99.99 ต้องบอกว่าทักษิณ ยิ่งลักษณ์ เพราะไม่รู้มีปมอะไร เทียบฝีมือตัวเองกับคนแดนไกลอยู่ตลอด แม้ตอนนี้ แม้วอาจโดนธนาธรแซงคิว เข้าช่องทางด่วน ในฐานะ “ความคิดอันตราย” ลัทธิอิลลูมินาติ ปลุกคนรุ่นใหม่ ปิยบุตรก็ตัวร้าย ดันสะกิดบอกคนไทยทั้งประเทศให้ไปดูคลิปถวายสัตย์ ทั้งที่วิษณุบอกว่าไม่ควรพูด

รวมไปถึงช่อ “รัฐธรรมนูญเฮงซวย” สุทิน คลังแสง ว่ารัฐบาลดึงฟ้าต่ำ ฯลฯ ไปๆ มาๆ ก็น่าจะรวมหมดทั้ง 7 พรรคฝ่ายค้าน นักเคลื่อนไหว โบว์ เพนกวิน เนติวิทย์ ฯลฯ เครือข่ายนักวิชาการ NGO ที่จะรณรงค์แก้รัฐธรรมนูญ

เผลอๆ อาจนับรวมขบวนการทำลายเส้นเลือดใหญ่ พวกที่เปิดเผยคำพิพากษาศาลออสเตรเลีย พวกที่ตั้งข้อกังขาวุฒิการศึกษา พวกที่เรียกหาจริยธรรม พวกกรมประชาสัมพันธ์ที่ทำ “ผังล้มไก่อู”

พูดอย่างนี้มโนหรือเปล่า อาจเป็นแฟ้มลับผู้ก่อการร้าย แต่ผู้ก่อการร้ายที่ไหนกัน ใหญ่โตถึงขั้นโครงข่ายขบวนการ จนต้องเอามาโชว์ระหว่างการอภิปรายของพรรคฝ่ายค้าน

แล้วใครบ้าง ที่โดนพวกท่านชี้หน้าว่าชังชาติ ต้องการทำลายประเทศ ก็เห็นแต่คนที่เกลียดชังรัฐประหาร ขยะแขยงการสืบทอดอำนาจโดยกติกาเอาเปรียบ ทั้งที่ไม่มีใครชังประเทศ เพราะประเทศเป็นของเราทุกคน ที่ชังก็คือเครือข่ายอำนาจอนุรักษนิยม ซึ่งยึดประเทศไป บังคับให้ประชาชนเป็นแค่ผู้อาศัย ไม่ได้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย แต่ประชาชนต้องเสียภาษี ต้องมีหน้าที่เชื่อฟัง มีหน้าที่สามัคคี มีหน้าที่ลดถุงก๊อบแก๊บ ฯลฯ ทุกข์ยากเดือดร้อนก็รอความอนุเคราะห์จากรัฐบาล เกิดทุพภิกขภัย ก็รอความเมตตาจากส่วนราชการ กองทัพ แถมโดนด่าอีกต่างหาก ว่าเอาแต่แบมือขอ

รายงานฝ่ายความมั่นคง ตั้งแต่ยุค 6 ตุลา 2519 ถึงปัจจุบัน ไม่เคยมองว่าประเทศคือประชาชน มีแต่มองว่าใครต่อต้านอำนาจอนุรักษนิยม คือพวกทำลายประเทศทั้งนั้น

ระบอบอำนาจในปัจจุบัน ซึ่งมีประยุทธ์เป็นตัวแทน ใหญ่โตกว้างขวางกว่าประยุทธ์ เพราะเป็น “โครงข่ายขบวนการทำลายประชาธิปไตย” ที่หวนมายึดอำนาจตั้งแต่รัฐประหาร 19 กันยา 2549

“รัฐประหารเสียของ” เพราะมีเลือกตั้งก็ยังแพ้ทักษิณ แต่วางโครงสร้างกับดักกฎหมาย องค์กรอิสระ ส.ว.สรรหา ใช้ม็อบปิดสนามบินสร้างสถานการณ์ จนล้มรัฐบาล มวลชนลุกฮือต่อต้าน ก็ตาย 99 ศพ ปลุกความเกลียดชังฝังลึก จนรัฐบาลเพื่อไทยพลาด “นิรโทษสุดซอย” ก็เกิดผู้นำม็อบปิดเมืองขัดขวางเลือกตั้ง กับผู้นำรัฐประหาร ที่เพิ่งแสดงความรักใคร่อย่างไม่ปิดบัง

รัฐประหารเฟสสอง คือขบวนการต่อเนื่อง ยึดครองประเทศ 5 ปี วางกลไกรัฐราชการเป็นใหญ่ ปิดกั้นสิทธิเสรีภาพ ทำลายรากฐานประชาธิปไตย วางกลไกสืบทอดอำนาจผ่านรัฐธรรมนูญ 2560 โดยประยุทธ์อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ เพราะหัวหน้า คสช.มีอำนาจเหนือรัฐ จึงไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ เพราะเป็นรัฏฐาธิปัตย์ที่ยึดอำนาจด้วยปืนด้วยรถถัง ไม่อยู่ใต้กฎหมายใดๆ เพราะอยู่เหนือกฎหมาย ออกคำสั่งเป็นกฎหมาย

ประเทศไทยหลังเลือกตั้ง จึงเป็นประชาธิปไตยจอมปลอม มีเลือกตั้งเป็นพิธีกรรมให้ต่างชาติยอมรับ สามารถเดินทางไป UN คุยอวดผลงาน 17 ปี 30 บาทรักษาทุกโรค แต่เจตนารมณ์คือต้องการยึดประเทศไว้ ภายใต้การปกครองอย่างเข้มงวด ทุกฝ่ายต้องเชื่อฟัง แม้ยอมให้มีพรรคร่วมรัฐบาล พรรคฝ่ายค้าน แต่ต้องให้ความร่วมมือ ประชาชนต้องร่วมมือ สื่ออย่าสร้างความขัดแย้ง ฯลฯ กระทั่งผู้นำไปตรวจน้ำท่วม พรรคเพื่อไทยก็ควรมาต้อนรับ

แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามพล็อต ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ชนะถล่มทลาย 6.3 ล้านเสียง ข้อกล่าวหาของจุลเจิมไม่ระคาย ประเด็นถวายสัตย์ยิ่งมายิ่งบานปลาย และยังไม่จบ กระแสแก้รัฐธรรมนูญก็ขยาย มีคนเข้าร่วมหลายฝ่าย กระทั่งหม่อมอุ๋ย กษิต ภิรมย์

รัฐบาลก็เริ่มมีแผล ทั้งเส้นเลือดใหญ่ ทั้งความไร้ประสิทธิภาพ ถูกประชาชนมองว่าไม่ใส่ใจน้ำท่วมอุบล แทนที่จะเร่งทำงาน แก้มือ กลับโวยวาย รัฐมนตรีห่วยไม่รับผิดชอบ จะเอานายกฯ ระบอบนี้หรือระบอบรัฐประหาร

ดูเหมือนว่านี่เป็นสัญญาณใกล้เข้าสู่ “เฟสสาม” เพราะกลัวจะเอาไม่อยู่ เครือข่ายอำนาจต้องจัดการ “ตัวอันตราย” เพียงแต่เฟสสามอาจยังไม่ใช่รัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญตัวเอง ซึ่งเร็วไป อาจเป็นการใช้อำนาจบางอย่างผสมกลไกที่เรียกว่า “กฎหมาย” เพื่อกวาดล้าง

ว่าที่จริง ระบอบที่คุมประเทศอยู่นี้ ไม่มีใครล้มได้หรอก เพราะมีทั้งปืนทั้งกฎหมาย เมื่อเห็นพลังประชาธิปไตยใหญ่โต กว้างขวาง หากหาทางประนีประนอม ก็ยังรักษาอำนาจได้อีกยาว

แต่เมื่อไหร่ที่คิดกวาดล้างฝ่ายตรงข้าม แฟ้มบนโต๊ะก็กองสุมไม่มีที่วาง เพราะเอาเข้าจริงพวกท่านต่างหากเป็นคนส่วนน้อยของประเทศ ดันหาว่าประชาชนต้องการทำลายประเทศ

................................................................

คราวก่อนมาแผ่นเดียว เที่ยวนี้พกมาเป็นเล่ม...
.
ผังล้มเจ้า เล่าเรื่อง คุยเขื่องข่ม
เอาโสมม จมปลัก เข้าหักหาญ
โอละพ่อ ก่อเข็ญ เป็นตำนาน
เพราะดักดาน การก่อน สะท้อนไป....
.
เพื่อป้ายผิด บิดเบี้ยว ทำเลี้ยวเลาะ
มุ่งจำเพาะ เจาะจง ให้สงสัย
โยงกันมั่ว ชั่วช้า ห่าจังไร
หวังเพียงได้ เอาผิด คิดเกลียดชัง....
.
คราวก่อนมา แผ่นเดียว จบเหี่ยวเฉา
คราวนี้เอา เป็นเล่ม มุ่งเข้มขลัง
เพื่อหลอกตา คนโง่ โชว์พลัง
เขียนธงตั้ง สั่งเสีย เลียยันตาย....
.
มโนไป ไกลลิบ เป็นสิบร้อย
แผนซ้ำรอย คอยโยง พวกโครงข่าย
ว่าคิดต่าง ทางระยำ คำบรรยาย
ลืมชิ๊บหาย พวกตน มันคนทำ....
.
จากผังนั้น ฝันไกล ไปเล่มนี้
คราบอัปรีย์ สีหม่น คนนั่งขำ
บทละคร สอนใจ ให้จดจำ
ใครตกต่ำ ถลำลึก ลองนึกดู....

๓ บลา