söndag 5 september 2021

"เรามาไกลเกินกลับไปนับหนึ่ง"

"ดีล" แบบเพื่อไทย (พ่อแม้ว 66/23��) ล้มไม่เป็นท่า ? + ความเป็นไปทางการเมืองหลังจากนี้ 

 

Atukkit Sawangsuk
för 22 timmar sedan

"ดีล" แบบเพื่อไทย
(พ่อแม้ว 66/23)
............................
อ๊ะอ๊ะ บอกติ่งก่อนว่า ไม่ใช่จะด่า "ดีล" เป็นเรื่องเลวร้าย
และไม่ได้เชื่อพวกเมากาว มโนว่าธรรมนัสจะเป็นนาตาชายึดพรรค พปชร.ล้มประยุทธ์ชูเพื่อไทยเป็นนายกฯ...

Visa mer



Atukkit Sawangsuk
8h ·

"ดีล" แบบเพื่อไทย
(พ่อแม้ว 66/23)
............................
อ๊ะอ๊ะ บอกติ่งก่อนว่า ไม่ใช่จะด่า "ดีล" เป็นเรื่องเลวร้าย
และไม่ได้เชื่อพวกเมากาว มโนว่าธรรมนัสจะเป็นนาตาชายึดพรรค พปชร.ล้มประยุทธ์ชูเพื่อไทยเป็นนายกฯ
แต่สมมติมันเป็นจริงจะดีใจไหม ก็อย่างปิยบุตรว่า ทำไงก็ได้เอาประยุทธ์ออกไปก่อน
แต่ท้ายที่สุดมันก็ไม่จริงใช่ไหมล่ะ
..............................
อย่างที่เคยพูดแล้วว่า ยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยคือ "ดีล"
ถ้ามียุบสภาเลือกตั้งใหม่ เพื่อไทยก็หวังชนะแบบแลนด์สไลด์
ได้เกิน 250 เสียง แล้วทำดีล
ก็อย่างที่โทนี่ประกาศชัดเจน ไม่แก้หมวด 1,2 ไม่แตะ 112
เพื่อไทยจะเข้ามาโชว์ฝีมือแก้เศรษฐกิจปากท้อง ทำให้คนรุ่นใหม่เห็นอนาคต
ทำให้ทุกคนมีความหวัง มีสตางค์ในกระเป๋า จะได้ไม่มีแรงกดดันวิจารณ์งบสถาบัน ฯลฯ
ในขณะเดียวกันก็ต้องต่อรองให้ปล่อยคนรุ่นใหม่ นิรโทษ
ให้กลับไปเรียนหนังสือ ใช้ชีวิตชิลๆ เรียนจบก็จะมีอนาคตเพราะพี่โทนี่เสกเศรษฐกิจได้
ความขัดแย้งจบนะ (เลือกความสงบจบที่พี่โทนี่) เหมือนเอา 66/23 กลับมาปัดฝุ่นใหม่
ขายไอเดียอย่างนี้เชื่อสิภาคธุรกิจก็เอา เจ้าสัวซีพี กัลฟ์ ไม่อยากถูกด่าอีกแล้ว
.............................
ในวิถีการเมือง ถามว่าคิดอย่างนี้ผิดไหม ไม่ผิดหรอก สวยหรูด้วยซ้ำ Compromise
ปัญหาคือ มันเป็นไปได้ไหม
ข้อสำคัญคือ เจ้าของอำนาจเขาเอาหรือ
ยกตัวอย่าง "ดีลมโน" มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่ป้อมแป้งจะล้มตู่ เว้นแต่มีใบสั่ง
สั่งเพื่อ? เขาคิดว่าอยู่กับตู่อย่างนี้สบายที่สุดแล้ว
เทียบแม้วกับตู่ ใครรับใช้ได้ดีกว่า
..................................
แน่ละ เพื่อไทยหวังว่าถ้าชนะแลนด์สไลด์(ด้วยบัตรสองใบแบบ40) จะมีอำนาจต่อรอง
แต่การแผ่อำนาจที่สร้างความขัดแย้ง มันอาจจะมาไกลเกินกำลังเพื่อไทย compromise
พูดกันง่ายๆ ในเบื้องต้น สมมติได้ 270 เสียง ส.ว.ต้องยอมให้เป็นรัฐบาล
มันก็มีด้านดีบ้างในแง่ของการสกัดอำนาจรัฐ ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพมากขึ้น
แต่ถ้าไม่สามารถปฏิรูปกองทัพ ตำรวจ รัฐราชการ ศาล องค์กรอิสระ
เดี๋ยวไอ้ศรีก็ไปร้องยุบพรรคตัดสิทธิล้มรัฐบาล
.................................
สำคัญกว่านั้น ม็อบสามนิ้วเรียกร้องข้อ 3 มาจากอะไร
มาจากการขยายอำนาจ ควบคุมไปทุกอย่าง ทหาร ตำรวจ รัฐราชการ
ภาคธุรกิจ (ทำไมต่างชาติไม่อยากลงทุน)
กระทั่งการศึกษาบังคับเด็กท่องจงรัก เด็กมัธยมจึงลุกฮือ
มันไม่เหมือนอดีตสมัยคิ้มซาบซึ้ง (สมัยนั้นเขาเนียนกว่า)
ถ้าเหมือนอดีต เราอาจไม่เห็นม็อบคนรุ่นใหม่มากขนาดนี้ เราอาจไม่เห็นกระแสออนไลน์ขนาดนี้
การ compromise โดยไม่ปฏิรูปเลย มันเป็นไปไม่ได้
การ compromise โดยบอกว่าไม่แตะ เพียงเปลี่ยนจากตู่โง่เป็นเพื่อไทยแล้วจะสร้างความพอใจให้ทุกคน
มันเป็นไปไม่ได้
..................................
อันนี้ยังไม่อยากพูดยาวเรื่องความขัดแย้งในฝ่ายประชาธิปไตย
แต่สรุปสั้นๆ ว่าเพราะแนวทางต่างกันจึงขัดแย้ง
ซึ่งก็ไม่แปลกนะ คิดแบบเพื่อไทย ก็มองว่าแนวทางแบบก้าวไกลแบบคนรุ่นใหม่ เป็นไปไม่ได้หรอก
อำนาจใหญ่โตมโหฬารขนาดนั้น ไม่มีทางชนะเขาได้ ต้องหาทางต่อรอง
แต่คิดแบบก้าวไกลแบบคนรุ่นใหม่
ก็เหมือนที่ Benja Apan ร่ายกลอนในม็อบเมื่อวาน
"เรามาไกลเกินกลับไปนับหนึ่ง"
เรามาไกล เกินกลับ ไปนับหนึ่ง
ประวัติศาสตร์ ขาดครึ่ง ร่วมกันเขียน
รอยตีน ไม่เปื้อนฝุ่น ที่หมุนเวียน
จะต้องเปลี่ยน แปลงยุค ในยุคเรา
.
อานนท์ นำภา
ถึงหลังชนฝา​ ก็ต้องสู้ค่ะ
 

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar