Prachatai
28 ก.พ. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (28 ก.พ.) เวลา 19.10 น. อานนท์ นำภา ให้สัมภาษณ์กับสื่อที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ หลังได้รับการปล่อยตัว เบื้องต้น อานนท์กล่าวขอบคุณประชาชนที่มาต้อนรับและมาร่วมให้กำลังใจ ขอบคุณเรือนจำที่ดูแลตนเป็นอย่างดี และขอบคุณศาลที่ให้ปล่อยตัวชั่วคราว ให้ออกมาสู้ตดีข้างนอก
อานนท์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ยังมีประชาชนอีก 5 คน เป็นสมาชิกกลุ่มทะลุแก๊ซ และทะลุฟ้า ยังคงถูกฝากขังในเรือนจำ ซึ่งทีมทนายความยืนยันไม่ทิ้ง พร้อมช่วยเหลือจนกว่าจะได้รับการประกันตัวอย่างแน่นอน
อานนท์ ระบุว่า ทิศทางการต่อสู้ต่อไปของคนรุ่นใหม่เพิ่งเริ่มต้น และจะเป็นแรงและกำลังใจให้คนรุ่นต่อไปเรื่อยๆ
“ถึงวันนี้ การต่อสู้เรื่องสิทธิ เสรีภาพ มันได้กลายเป็นพันธกิจของคนรุ่นใหม่ไปแล้ว สังคมเก่าคงตามไม่ทัน ถ้าถามต่อไปจะมีการต่อสู้อะไร ตอบไม่ได้ คนรุ่นใหม่วิธีคิด วิธีการแสดงออกมันไปไกลกว่านั้น ผมคิดว่ามันจะมีความตื่นเต้น และเดาไม่ถูก ในปี 63 เขาพาเราขึ้นรถไฟเหาะมาแล้ว ผมคิดว่าต่อไปนี้ มันจะมีรูปแบบการต่อสู้ซึ่งพิศดาร และมุ่งไปสู่ชัยชนะของคนทั้งสังคม ผมไม่ใช้ชัยชนะของฝ่ายประชาธิปไตย แต่เป็นชัยชนะของคนทั้งสังคม” อานนท์ กล่าว
ทนายอานนท์ ระบุต่อว่า สังคมยังมีความหวังที่จะเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน เมล็ดพันธุ์ที่หว่านลงไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว มันทั่วถึง มันยังรอการผลิบาน ทั้งคนรุ่นใหม่ก็ดี หรือคนที่ผ่านสังคมมา ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเหลือง เสื้อแดงก็ดี สุดท้ายมันจะสรุปร่วมกัน สังคมมันต้องการศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความเท่าเทียม คนรุ่นใหม่ด้วยความสัตย์จริง หวังดีต่อประเทศชาติ ไม่ว่าจะเป็นน้องๆ มันที่ออกมาต่อสู้ เพนกวิน ไผ่ ไมค์ รุ้ง หรือคนอื่นๆ หรือคนที่เป็นทะลุแก๊ซ หรือทะลุฟ้า รูปแบบการต่อสู้อาจจะแตกต่างกันไป แต่สุดท้ายแล้ว เขาจะพิสูจน์ว่าสิ่งที่เขาทำมันเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ไม่ใช่ประโยชน์ส่วนตัว
สำหรับเงื่อนไขที่ศาลกำหนดให้ อานนท์ กล่าวว่า เขายินดีให้ความเคารพทั้งต่อเงื่อนไขศาล และเงื่อนไขของการต่อสู้ เรื่องของการต่อสู้ก็ต้องเคารพมวลชนเช่นกัน ถ้ามวลชนต้องการให้พูด เขาก็จะพูดโดยเคร่งครัดต่อเงื่อนไขของศาล และหน้าที่ของขบวนควบคู่กันไป
ทนายสิทธิฯ ระบุต่อว่า หลังออกมา ตนยืนยันจะทำงานในฐานะทนายความต่อไป เนื่องจากมีประชาชนอีกหลายพันคนที่ถูกดำเนินคดีทางการเมือง
อานนท์ กล่าวต่อประเด็นสุขภาพ เพราะก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยจากทนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ว่า ทนายอานนท์ป่วยเป็น Long COVID ในเรือนจำ ซึ่งเขาบอกว่า เรื่องสุขภาพไม่มีอะไรน่ากังวล เพราะอยู่ในเรือนจำ มีการออกกำลังกายตลอด นำหนักลดไป 7 กก.
“ผมคิดว่า สุดท้ายเรื่องเสรีภาพ
ความเสมอภาคศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์มันเป็นสัจจะ
และมันเป็นสิ่งที่ต้องเป็นไป เราปฏิเสธโลกที่มันหมุนไปไม่ได้ …
วันหนึ่งมันจะพิสูจน์วันหนึ่งความจริงเป็นยังไง เราจะค่อยๆ พิสูจน์มันไป”
อานนท์ ทิ้งท้าย
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar