ตามข่าวคุณสมบัติ บุญงามอนงค์มาตลอด
อ่านข่าวการที่ภรรยาตามหาตัวและอ่านจดหมายลูกสาวของหนูหริ่งตลอดจนบท
สัมภาษณ์ของหนูหริ่งเองแล้ว
ก็ขอแสดงความห่วงใยและเห็นใจมายังภรรยาและลูกสาวของหนูหริ่งด้วย
ผมไม่มีลูก แต่ก็เข้าใจความห่วงใยได้จากภรรยา น้องๆและญาติมิตร
รวมทั้งพ่อผมซึ่งอายุ 87
แล้วซึ่งถึงแม้จะเป็นคนเข้มแข็งและฝากคนไปบอกผมในเรือนจำตลอดว่าพ่อเข้มแข็ง
ดี ไม่ต้องเป็นห่วง แต่พอผมออกมาจริงๆ
ก็พบว่าพ่อเครียดอยู่หลายวันเหมือนกัน สุขภาพก็แย่ลงไปอีก
บังเอิญหรืออย่างไรไม่ทราบที่น้องสาวผมคือฐิติมาก็ถูกคุมตัวไปอยู่ค่ายทหาร
เสีย 7 วันด้วยในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน
พ่อก็เลยพิเศษหน่อยที่มีลูกถูกคุมตัวไปพร้อมกัน 2 คน
ผมออกมาแล้วพ่อบอกว่าไม่ห่วงผมเท่าไหร่แต่ห่วงลูกสาวมากกว่าเพราะเป็น
ผู้หญิงและไม่เคยผ่านเรื่องหนักๆมาก่อน
หวังว่าภรรยาและลูกของหนูหริ่งคงสบายใจขึ้นบ้าง
อย่าางน้อยก็รู้ว่าหนูหริ่งอยู่ไหน
จะไปเยี่ยมได้อย่างไรและในเรือนจำก็น่าจะมีเพื่อนมิตรอยู่พอสมควรหวังว่าหนู
หริ่งจะได้รับการประกันตัวในโอกาสต่อไป
ซึ่งก็ยังต้องสู้คดีกันต่อด้วยข้อหาที่หนักหนาพอทีเดียว
มีประเด็นหนึ่งที่หนูหริ่งพูดไว้ล่าสุดที่ผมเห็นว่าน่าสนใจและอยาก
ให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายรับฟังอย่างจริงจังก็คือหนูหริ่งเสนอว่าควรเปิด
พื้นที่ให้กับผู้ที่เรียกร้องประชาธิปไตยโดยสันติวิธีหรือที่หนูหริ่งเรียก
ว่าสายพิราบ
ผมเองก็เสนอความเห็นอย่างนี้ไว้ในโอกาสต่างๆมาตลอด
ในการแก้ปัญหาภาคใต้ผมก็เสนอไว้หลายครั้งและแนวความคิดนี้ก็เป็นที่ยอมรับ
มากขึ้นในการกแก้ปัญหาที่นั่น
ล่าสุดตอนที่ไปแถลงข่าวที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศผมก็เสนอความเห็นนี้
ไว้อีกโดยบอกว่าการเปิดโอกาสให้ผู้ที่เรียกร้องประชาธิปไตยโดยสันติวิธี
สามารถแสดงออกได้ย่อมเป็นการหลีกเลี่ยงการที่ผู้คนจะไปใช้วิธีการอื่นๆ
เราต้องการจะปรองดอง ปฏิรูปและสร้างประชาธิปไตยกันไม่ใช่หรือ
หากต้องการอยางนั้น
ย่อมจำเป็นที่จะต้องเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมและการที่จะทำให้สิ่ง
เหล่านี้เกิดขึ้นได้
การพูดคุยกันอย่างสันติย่อมเป็นวิธีที่พึงปรารถนาที่สุดมิใช่หรือ
ผมเชื่อว่าหนูหริ่งพูดเรื่องนี้ไม่ใช่เพราะตนเองถูกจับแล้วจึงพูด
และที่พูดนั้นไม่ใช่เพื่อเป็นประโยชน์ต่อหนูหริ่งเอง
แต่ที่พูดนั้นเป็นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาของบ้านเมือง
จึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายให้ความสนใจในเรื่องนี้ครับ
( คนที่มีจิตใจดีและเป็นนักประชาธิปไตยย่อมมองโลกในแง่ดีเสมอ แต่ปัญหาในสังคมไทย ผู้ที่กุมอำนาจคือฆาตกรตาเดียว และมีลูกน้องที่เป็นสุนัขรับใช้เป็นโจรตาเหล่ ที่พูดภาษาคนไม่รู้เรื่อง ฉนั้นท่านจะพูดดีอย่างไร มองโลกในแง่ดีอย่างไร พวกสัตว์ทั้งหลายที่มันเป็นเจ้าของอำนาจอยูในเมืองไทยเวลานี้มันไม่ฟังท่านหรอก ถ้ามันจะให้ประเทศไทยมีประชาธิปไตย มีความสันติสุข ประชาชนมีการกินดีอยู่ดี พระราชาตาเดียวมันไม่ฆ่าพี่ชายเพื่อแย่งชิงราชบัลลังก์แล้วขึ้นเป็นกษัตริย์แทน เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญที่ในหลวงอานันทม์ได้พระราชทานให้ตั้งแตปี พศ. ๒๔๗๕ ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่เป็นประชาธิปไตยที่สุด แต่ พระอนุชาคือน้องชายที่เป็นรัชกาลองค์ปัจจุบัน เป็นผู้ทำลายระบอบประชาธิปไตยนั้นลงโดยการสนับสนุนให้พรรคประชาธิปัตย์และทหารฝ่ายขวายึดอำนาจในปี ๒๔๙๐
ระบอบราชาธิปไตยก็ได้สถาปนาขึ้นตั้งแต่วันนั้นมาจนถึงวันนี้ การยึดอำนาจโดยทหารได้มีมาเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง จนในเวลาปัจจุบันเพื่อรักษ่าอำนาจเผด็จการให้แก่กษัตริย์ ดังนั้นตราบใดถ้าระบอบเผด็จการของกษัตริย์ภูมิพลยังครอบงำสังคมไทยอยู่ ไม่ว่าท่านจะพูดดี และมองโลกในแง่ดีหรือเสนอทางออกที่ดีอย่างไร พระเจ้าตาบอดและทหารตาเหล่ของมันก็ไม่ฟังท่านหรอก นอกจากใช้วิธีการตาต่อตาฟันต่อฟัน เหมือนกับประเทศ ลาว เนปาล หรือ ฝรั่งเศส เท่านั้น . ) ข้อเสนอของผู้อ่าน
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar