ฝากให้ประชาชนไทยอ่าน."รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม"..เพื่อให้รู้ทันเผด็จการอำมาตย์ศักดินา นายทุน ขุนศึก ว่าพวกเขากำลังคิดทำอะไรกันแน่ ผ่านร่างทรง "คสช" อย่ากระพริบตาโปรดรอดูอย่างมีสติ แล้วจะรู้ว่าการยึดอำนาจครั้งนี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังเต็มไปด้วยความหวาดระแวงซึ่งกันและกันทั้งอำมาตย์ผู้บงการและทหารผู้ทำการยึดอำนาจ สำหรับประชาชนคือตัวประกันซึ่งเวลานี้ ต้องรอย่างมีสติ มีความอดทน มีความสามัคคีเป็นกำลังใจให้กันและกัน ทุกคนต้องคิดถึงตนเองช่วยตัวเองใช้ชีวิตปกติเหมือนที่ผ่านมา ไม่มีอะไรแน่นอนบนความไม่แน่นอน อย่าท้อแท้ แน่วแน่มั่นคงเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงเท่านั้น...

โดย  ใบตองแห้ง : ประชาไทย


ภาพย้อนแย้งวันนี้ การคุมตัว อ.สาวตรี
ในขณะที่เจ๊หน่อยยังไปจีบปากจีบคอเสวนา "ก้าวข้ามความขัดแย้ง"
แล้วคสช.ตั้งบอร์ดบีโอไอให้เก้าอี้องค์กรภาคธุรกิจเต็มไปหมด แสดงให้เห็นอะไร

มันแสดงว่ารัฐประหารครั้งนี้ พยายามสร้าง "สมานฉันท์" ในหมู่อีลิท
ประนีประนอมกับชนชั้นนำทางการเมือง
ไม่เว้นแม้นักการเมืองเพื่อไทย

ส่วนตัวผมเชื่อว่าจะพยายามหาทางหย่าศึกกับทักษิณด้วย
เพื่อให้ชินวัตรถอยออกไปจากการเมือง แม้จุดลงตัวอาจยากอยู่  
เพราะถ้าผ่อนคลายให้ทักษิณ พวกสลิ่มยกหวีดก็เต้น)
ขณะที่ภาคธุรกิจก็ได้ทุกอย่างที่ต้องการ ทั้งโครงการลงทุนขนาดใหญ่ 
ไม่ปฏิเสธกระทั่งรถไฟความเร็วสูงเป้าหมายที่ถูกจัดการอย่างจริงจังกลับเป็น "ความคิดเสรี"
กลับเป็นนักคิดนักวิชาการประชาธิปไตยซึ่งแม้ไม่ได้กำจัดอย่างยุคสฤษดิ์
 ก็ถูกบังคับให้ปิดปาก และอาจมีมาตรการอื่นๆ ตามมาก็ได้ เช่น อ.วรเจตน์ หรือ สศจ.ที่ยังไม่รายงานตัว
อาจกลายเป็นผู้มีคดีติดตัว ตลอดชีวิต ตามที่วิษณุ เครืองาม ตีความ
เผลอๆ อาจถูกสมคิด เลิศไพฑูรย์ ให้ออกจากราชการ ฐานขาดงานเกิน 15 วัน

ลองคิดดูว่าการร่างรัฐธรรมนูญโดยไม่มีวรเจตน์ ไม่มีนิติราษฎร์
ไม่มีสมัชชาปกป้องประชาธิปไตยคอยวิจารณ์ จะสบายใจเฉิบขนาดไหน
เผลอๆ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะเขียนไว้ไม่ให้แก้ไขได้ และมีบทส่งท้าย
ให้คำสั่งและประกาศ คสช.มีผลไปชั่วกัลปาวสาน