tisdag 4 maj 2021

รู้ทัน 4 พค 64 ส่องคดีธรรมนัส 5 พ ค รอดได้อย่างไร จ๊ะ

Sunai TV

รู้ทัน 4 พค 64 ส่องคดีธรรมนัส 5 พ ค รอดได้อย่างไร จ๊ะ

 

เขาคือใคร และมีประเด็นอะไร ทำไมนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงกับต้องเดือดเนื้อร้อนใจขนาดนี้ Workpoint News จะสรุปสาระสำคัญของเรื่องนี้ให้เข้าใจใน 27 ข้อ

1) ธรรมนัส พรหมเผ่า เกิดในวันที่ 18 สิงหาคม 2508 ปัจจุบันอายุ 54 ปี ชื่อแรกสุดคือ “มนัส” ก่อนเปลี่ยนเป็น “ยุทธภูมิ” เปลี่ยนกลับเป็น “มนัส” อีกรอบ แล้วเปลี่ยนเป็น “พชร” ก่อนที่ล่าสุดจะเลือกใช้ชื่อธรรมนัส ขณะที่นามสกุล ในอดีตเคยใช้ โบกพรหม แต่เปลี่ยนเป็น “พรหมเผ่า”

2) ธรรมนัส เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 25 ก่อนไปเรียนจบ จปร.รุ่น 36 (พล.อ.ประยุทธ์ จบเตรียมทหารรุ่น 12 และ จปร.รุ่น 23) หลังเรียนจบ เจ้าตัวเข้ารับราชการทหาร อยู่หลายสังกัด ทั้งกรมมหาดเล็กรักษาพระองค์ , กรมกำลังพลทหารเรือ และ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา

3) ธรรมนัส ถูกปลดออกจากราชการทหารถึง 2 รอบ ในปีพ.ศ.2534, 2536 แต่ก็ได้รับการล้างมลทินและกลับมารับราชการทั้งสองครั้

อย่างไรก็ตาม ในปี 2541 เขาไปพัวพันกับคดีฆาตกรรม นายพูลสวัสดิ์ จิราภรณ์ โดยคดีนี้ ธรรมนัส โดนออกหมายจับร่วมกับพวกอีก 3 คน รัฐบาลจึงมีคำสั่งให้ถอดยศ เนื่องจากประพฤติตนไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม หลังจากธรรมนัส ติดคุกอยู่ระยะหนึ่ง การสืบคดีเสร็จสิ้น ปรากฎว่าศาลสั่งยกฟ้อง เขาจึงออกจากเรือนจำ โดยไม่มีคดีติดตัว

4) หลังออกจากทหาร ธรรมนัส หันมาทำธุรกิจเต็มตัว โดยเริ่มจากทำบริษัทรักษาความปลอดภัย ชื่อ ธรรมนัส การ์ด และได้รับการประมูล ให้บริหารตลาดคลองเตย รวมถึงเป็นยี่ปั๊วขายสลากกินแบ่งรายใหญ่อีกด้วย

ชื่อเสียงของ ธรรมนัส ได้รับการพูดถึงในฐานะผู้กว้างขวาง หรือนักเลง ที่ควบคุมธุรกิจอยู่เบื้องหลัง เวลาไปไหนมาไหน จะมีลูกน้องมากมายเดินล้อมหน้าล้อมหลังเต็มไปหมด

เคยมีข่าวว่าในระหว่างที่เขาบริหารตลาดคลองเตย ได้ใช้กำลังรื้อข้าวของ พ่อค้า-แม่ค้าที่ไม่พอใจในนโยบายการบริหารของเขา รวมถึง ล่าสุดก็มีชื่อพัวพันกับคดีฉ้อโกงบิทคอยน์ มูลค่ากว่า 800 ล้านบาทอีกด้วย

5) อย่างไรก็ตาม ตัวธรรมนัสได้ปฏิเสธความผิดทั้งหมด และ ยืนยันเสมอว่า เขาไม่ใช่นักเลง

“เราเป็นคนที่พรรคพวกเยอะ เราเป็นคนใจนักเลง เรากล้าได้กล้าเสีย คนที่เป็นลูกผู้ชายใจนักเลง เป็นคนที่น่าคบนะ ผมว่าอย่างนั้น”

6) การทำธุรกิจของธรรมนัส ประสบความสำเร็จโดยดี ทำให้เขาเริ่มหันมาเล่นการเมือง โดยคอยสนับสนุนเบื้องหลังพรรคไทยรักไทย ทำหน้าที่เป็นทีมยุทธศาสตร์ในพื้นที่กรุงเทพฯ จากนั้นก็ช่วยงานฝั่งไทยรักไทย มาโดยตลอด ซึ่งในปี พ.ศ.2557 เขาลงสมัครเลือกตั้งเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยด้วย

7) อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการรัฐประหารเกิดขึ้น ในปี 2557 คสช.เรียก ธรรมนัสไปรายงานตัว เนื่องจากมองว่าเป็น “มาเฟียกรุงเทพฯ” ส่งผลให้ในช่วงรัฐประหารแรกๆ เขาเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่พักใหญ่ทีเดียว

8) เวลาผ่านไป หลังใกล้การเลือกตั้ง มีข่าวสำคัญ เมื่อ ธรรมนัส ประกาศ “เปลี่ยนฝั่ง” จากเดิมทำงานการเมืองอยู่กับเพื่อไทย ย้ายข้ามไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ และลงสมัครสส.เขต 1 จังหวัดพะเยา พร้อมทั้งดำรงตำแหน่ง ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งในโซนภาคเหนือ 16 จังหวัด ให้พลังประชารัฐด้วย

9) การเลือกตั้งในเดือนมีนาคม ผลปรากฏว่า ธรรมนัส ได้รับคะแนนเสียงอย่างท่วมท้น คว้าตำแหน่ง สส.ไปครอง นอกจากนั้น ยังช่วยพลังประชารัฐคว้า สส.เขต ได้ถึง 25 ที่นั่ง ในโซนภาคเหนือที่เป็นฐานที่มั่นของเพื่อไทย

10) จุดเด่นของ ร.อ.ธรรมนัส นอกเหนือจากมีความสามารถในการทำธุรกิจ และมีเครือข่ายที่กว้างขวางแล้ว เขายังเป็นคน “เคลียร์ความขัดแย้ง” ได้ดีที่สุดคนหนึ่งในพรรคพลังประชารัฐอีกด้วย

ย้อนกลับไปในช่วงเดือนมิถุนายน 2562 ดูเหมือนพรรคพลังประชารัฐจะมีรอยร้าว เมื่อ 10 พรรคเล็ก แสดงท่าทีไม่พอใจ พยายามเรียกร้องขอตำแหน่งรัฐมนตรี เช่นเดียวกับ ส.ส.อีสานตอนบน และ ส.ส.กลุ่มด้ามขวานไทย

นั่นทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้มอบหมายให้ ร.อ.ธรรมนัส ไปเคลียร์ปัญหารอยร้าวในพรรค และปรากฏว่า ทุกอย่างเคลียร์ได้จบหมด ทุกฝ่ายทุกกลุ่ม ไม่มีใครแข็งข้ออีกเลย พร้อมรับฟังนโยบายของพรรคโดยดี

หรืออย่างในกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เหมือนจะลังเลไม่สนับสนุนพลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัส ก็เดินทางไปถึงพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อคุยกับ เจ๊ก้อย ล็อบบี้ยิสต์ชื่อดัง ข่าวระบุว่าเพื่อพยายามเกลี้ยกล่อมให้ ประชาธิปัตย์สนับสนุน พปชร.ต่อไป ซึ่งผลลัพธ์ก็คือ ประชาธิปัตย์ ยกมือโหวตให้พปชร.จริงๆ

11) ด้วยผลงานที่โดดเด่นต่อเนื่อง ทำให้ สื่อขนานนามว่า ธรรมนัสคือ “มือซ้าย” ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นคนที่ได้รับภารกิจอะไรมา ก็จัดการให้สำเร็จได้ทุกครั้ง จนทำให้วันที่ 9 กรกฎาคม 2562 ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้รับการเสนอชื่อให้เป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์

12) สื่อมวลชน ตั้งคำถามถึงความเหมาะสมว่า ธรรมนัส ควรเป็นรัฐมนตรีจริงหรือไม่ เนื่องจากในอดีต เคยมีข่าวว่า ต้องติดคุกข้อหาลักลอบขนเฮโรอีน 3.2 กิโลกรัม เข้าประเทศออสเตรเลียมาก่อน ซึ่งถ้ารัฐมนตรีเคยมีโทษอาญาขนาดนี้ แม้จะไม่ได้เกิดที่ในประเทศไทยก็ตาม ย่อมส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ที่ดีของแวดวงการเมืองแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ธรรมนัส ได้อธิบายว่า “ผมเดินทางเข้าออสเตรเลียอย่างถูกต้องทุกขั้นตอน แต่มีความโชคร้าย เพราะคนที่โดนจับเรื่องนำเข้ายา ดันอยู่ในที่เดียวกับที่ผมอยู่พอดี ผมจึงโดนข้อหารู้ว่ามียาเสพติด แต่ไม่แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ ไม่ได้โดนข้อหาผลิตและนำเข้ายาเสพติด ผมถูกคุมขังราว 8 เดือน ก่อนออกมาใช้ชีวิตปกติที่ซิดนีย์อีก 4 ปีเต็ม ก่อนถูกส่งตัวกลับมาไทย”

13) อย่างไรก็ตาม หลังจาก ธรรมนัสแถลง หนังสือพิมพ์ซิดนีย์ เฮรัลด์ มอร์นิ่ง จากออสเตรเลีย ได้ลงข่าวตอบโต้ โดยขึ้นเฮดไลน์ว่า “จากผู้ร้ายสู่รัฐมนตรี : เปิดโปงนักการเมืองเคยเป็นผู้ลักลอบขนยาเสพติด” โดยเล่าเหตุการณ์ว่า ใน พ.ศ.2536 ธรรมนัสไม่ได้อยู่ผิดที่ ผิดเวลา แต่มีการวางแผนลักลอบค้ายา อย่างเป็นระบบ

และศาลได้สั่งจำคุกธรรมนัสเป็นเวลา 4 ปี ที่ออสเตรเลีย และหลังถูกปล่อยตัว ในวันที่ 15 เมษายน 1993 ก่อนจะเนรเทศส่งตัวกลับไทยทันที

14) บทความของซิดนีย์ มอร์นิ่ง เฮรัลด์ มีตัวละครครบทุกคน และเล่าถึงขั้นตอนการจับกุมอย่างละเอียด โดยสื่อออสเตรเลีย ยืนยันในหลักฐานของตนเอง ซึ่งทำให้ข่าวของธรรมนัส กระจายออกไปทั่วโลก และมีการตั้งคำถามกับรัฐบาลว่าสมควรหรือไม่ ที่จะให้ธรรมนัส พรหมเผ่า ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่อไป

15) 11 กรกฎาคม 2562 วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ได้กล่าวหลังจากตีความแล้วว่า “ข้อกฎหมาย กับเรื่องความเหมาะสม เป็นคนละเรื่อง ซึ่งการที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นหลักฐานตรวจสอบจริยธรรมถือเป็นสิทธิ์ของฝ่ายค้าน แต่หากไล่ดูจากลักษณะต้องห้ามการสมัคร ส.ส. และคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี ถือว่า (ร.อ.ธรรมนัส) ไม่ขัดต่อกฎหมาย”

16) เมื่อนายวิษณุ เครืองาม ยืนยันเช่นนั้น ทำให้ต้องมีการเปิดรัฐธรรมนูญ 60 เพื่อตรวจดูว่า ธรรมนัส พรหมเผ่า ขาดคุณสมบัติจริงหรือไม่ ซึ่งปรากฏว่า ในกฎหมายเขียนชัดเจน เกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ที่จะเป็นรัฐมนตรีได้

1- “ไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาให้จำคุก แม้คดีนั้นจะยังไม่ถึงที่สุด หรือมีการรอการลงโทษ”
2- “เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึง 10 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง”

ข้อ 1 หมายความว่า ถ้าหากมีโทษจำคุกอยู่ แม้จะอยู่ในระหว่างการอุทธรณ์ใดๆก็ตาม จะไม่สามารถเป็น ส.ส. หรือรัฐมนตรีได้ ซึ่งในปัจจุบัน ธรรมนัส ไม่ได้มีโทษทางอาญาใดๆเลย ข้อนี้จึงตกไป

ข้อ 2 เขาเคยได้รับโทษจำคุกที่ออสเตรเลีย ในปี 2536 หรือเมื่อ 26 ปีที่แล้ว ซึ่งก็แปลว่า ตามกฎหมาย ร.อ.ธรรมนัส ก็ไม่ขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีเช่นกัน

17) เรื่องตัวบทกฎหมาย ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่ขาดคุณสมบัติ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านได้ออกมาวิจารณ์ถึงความเหมาะสม โดยอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้าน วิจารณ์ว่า “ปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องอ่อนไหว ขอให้นายกรัฐมนตรี อย่าเอาคนเลี้ยงลิงแบบนี้มาอยู่ด้วย ให้ตัวเองลำบาก เพราะเรื่องนี้ กระทบต่อภาพลักษณ์แน่นอน”

18) ขณะที่ ผู้สื่อข่าวไทย ก็พยายามสืบค้นว่า จริงๆแล้ว ธรรมนัส พรหมเผ่า ติดคุก 8 เดือน หรือ 4 ปีกันแน่ ในข้อเท็จจริง โดยมีการไปสอบถาม พ.ต.ท.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ที่เคยเป็นหนึ่งในทีมพนักงานสอบสวนกองปราบ ที่เคยทำคดีธรรมนัสถูกกล่าวหาว่าอุ้มฆ่านักเรียนนอก เมื่อปี 2541 ซึ่ง พ.ต.ท.จรุงวิทย์ กล่าวว่า “จำไม่ได้จริงๆ เพราะมันนานมากแล้ว”

โดยทาง บีบีซี ไทย ได้ติดต่อไปทางซิดนีย์ มอร์นิ่ง เฮรัลด์ เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โดยฝั่งสื่อออสเตรเลีย ได้ยืนยันว่าข้อมูลที่ลงไปทั้งหมด มีการตรวจสอบอย่างถูกต้องดีแล้ว

ไมเคิล รัฟเฟิลส์ ผู้เขียนบทความกล่าวว่า “ร.อ. ธรรมนัสถูกจำคุกตั้งแต่เดือน เม.ย. 2536 และพ้นโทษเมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2540 ซึ่งเรามีเอกสารทางการที่ยืนยันเรื่องนี้ได้ สิ่งหนึ่งที่เขาพูดถูกต้องตามความจริงจากการรายงานของศาลคือ เขาไม่ได้เป็นผู้ขาย ผลิต หรือนำเข้าเฮโรอีน แต่เขาเป็นผู้มีส่วนรู้เห็นและส่วนร่วมกับปฏิบัติการนี้จริง ๆ”

19) 10 กันยายน 2562 ธรรมนัส พรหมเผ่า ใช้เวลา 7 นาที ในการแถลงข่าวกับสื่อมวลชน โดยระบุว่า เขาไม่ใช่ “ผู้บงการ” ในคดียาเสพติด และต่อไปหากใครมาพูดถึงอดีตอีก จะไม่ตอบโต้ แต่จะฟ้องดำเนินคดีทุกคน

ขณะที่ประเด็นรายละเอียด ของคดีนั้น ธรรมนัสกล่าวว่า “มันเป็นเรื่องรายละเอียดที่เราตกลงกับศาลออสเตรเลียเอาไว้ และเป็นเรื่องที่พูดไม่ได้”

นักข่าวถามต่อไปว่า สรุปแล้วติดคุก 8 เดือน หรือ 4 ปีกันแน่ ธรรมนัสตอบว่า “ทุกอย่างได้แถลงข่าวไปหมดแล้ว และจะไม่พูดซ้ำ ซึ่งบางเรื่องหากพูดไปไม่ส่งผลดีต่อตัวเอง และไม่มีประโยชน์ต่อกระบวนการยุติธรรมของออสเตรเลีย”

ก่อนที่จะลงท้ายว่า “ผมว่าหากใครข้องใจเปิดหน้ามาชกกันเลยดีกว่า ไม่ต้องเป็นอีแอบอย่างนี้ ที่พูดไม่ได้หมายถึงจะท้าชก เอาแต่เรื่องอดีตมาพูด เราอยากจะจมอยู่กับอดีต หรืออยู่กับอนาคตล่ะครับ”

20) 11 กันยายน 2562 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรเสรีรวมไทย กล่าวยอมรับว่า ตัวเองเป็นคนให้สื่อออสเตรเลีย หาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคดี และออกมาเปิดเผยเรื่องนี้เอง เพราะหากส่งเรื่องให้รัฐบาลคงไม่ดำเนินการ และประกาศว่า ไม่กลัว ร.อ.ธรรมนัส จะฟ้องร้องกลับ เพราะเชื่อว่านักโทษคดียาเสพติด จะไม่สามารถฟ้องร้องบุคคลธรรมดาได้

“การค้ายาเสพติดก็ชัดเจนอยู่แล้ว อย่ามาอ้างว่าเป็นเรื่องการตัดสินของศาลต่างประเทศ คนค้ายาเสพติด ก็ชั่วกันทั้งนั้น คนแบบนี้จะมาเป็นรัฐมนตรีได้อย่างไร” เสรีพิศุทธิ์กล่าว

21) ในวันเดียวกัน ระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พล.ต.ท.วิศณุ ม่วงแพรสี ส.ส.จากพรรคเสรีรวมไทย ได้ตั้งกระทู้ถามสด ถึงนายกฯ เกี่ยวกับความเหมาะสมที่ตั้ง ร.อ.ธรรมนัสเป็นรัฐมนตรี ทั้งๆที่มีข่าวเรื่องคดียาเสพติด โดยถามว่า นายกฯตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกอย่างไร และเมื่อเรื่องนี้ก่อความเสียหายให้ภาพลักษณ์ประเทศ นายกฯจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร

22) นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ ร.อ.ธรรมนัส ตอบกระทู้ ซึ่งเจ้าตัวยืนยันความบริสุทธิ์ โดยระบุว่า “โทษการนำเข้า จำหน่าย และส่งออกเฮโรอีน แม้เพียงน้อยนิด ก็ 10 ปีนะครับ หากเป็นเฮโรอีน ตามที่เจ้าไมเคิล นักข่าวของออสเตรเลีย มาเสนอข่าวนี่คือจำคุกตลอดชีวิต”

“ผมไม่เคยรับสารภาพว่าผมขนยา ค้ายา หรือนำเข้ายาเสพติด หากเป็นข้อเท็จจริงไปเอามาเลยว่าผมรับสารภาพตรงไหน ผมชี้แจงมาหลายครั้งแล้ว ยังมาถามอีกว่าติดคุก 8 เดือนหรืออะไร ผมไม่ได้เข้าสู่กระบวนการไต่สวนพยานหรืออะไรเลย”

23) นอกเหนือจากนั้น ร.อ.ธรรมนัส ยังยืนยันคุณสมบัติของเขาในการเป็นรัฐมนตรี โดยระบุว่า ที่ไทย เขาไม่เคยต้องคดีอาญาใดๆมาก่อน โดยในคดีอุ้มฆ่านายพูลสวัสดิ์ จิราภรณ์ นักเรียนนอก เขาก็ถูกยกฟ้องในปี 2546 และคดีอื่นๆใดๆ ก็ได้รับการล้างมลทินไปหมดสิ้นแล้ว

และได้กล่าวสรุปว่า “ผมจะไม่ยอมอยู่กับเรื่องเก่าๆ ซึ่งเปรียบเสมือนฝันร้ายสำหรับผม หลังจากวันนี้ฝันร้ายเหล่านี้ ต้องหายไปจากชีวิตผม และหากผู้ใดสงสัยประเด็นที่ผมกล่าว ท่านมาถามผมส่วนตัวได้”

24) 12 กันยายน 2562 ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงประเด็นของธรรมนัส พรหมเผ่าว่าได้ตรวจสอบคุณสมบัติทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะทำการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี

“อ้าว ผมก็เป็นคนคัดคนเข้ามา เพราะมีคนเสนอเข้ามา แต่ทั้งหมดได้ผ่านกลไกการตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งก็จบลงแค่นั้น ผมจบแล้ว” นายกฯ กล่าว

25) นอกเหนือจากประเด็นเรื่อง คดีความที่ออสเตรเลีย ยังมีประเด็นเรื่องวุฒิการศึกษาของ ธรรมนัสอีกด้วย โดยข้อมูล ในเว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า ธรรมนัสจบ ปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยคาลามัส อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งตามข้อมูลแล้ว มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ไม่ได้ถูกรับรองอย่างถูกต้อ

แต่ล่าสุด ร.อ.ธรรมนัส เผยว่าข้อมูลในเว็บไซต์มีความคลาดเคลื่อน เพราะเขาจบปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นคนละสถาบันกัน

26) ท้ายที่สุดแล้ว สำหรับในเรื่องประเด็นยาเสพติด ทางฝั่ง ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรที่ผิดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามทางฝ่ายค้าน เตรียมทำหนังสือไปถึงศาลของประเทศออสเตรเลีย เพื่อขอคำพิพากษาตัวจริง ให้รู้กันไปเลยว่า จริงๆแล้ว ร.อ.ธรรมนัส จำคุก 8 เดือน หรือ 4 ปีกันแน่ และที่ ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง เป็นเรื่องจริงหรือไม่

27) เราก็คงต้องติดตามกันต่อไป ว่าบทสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่เราเห็นคือ สังคมในยุคปัจจุบัน ให้ความสำคัญกับเรื่องความโปร่งใสเป็นอย่างมาก ยิ่งคนที่จะรับตำแหน่งทางการเมือง ยิ่งต้องเคลียร์ตัวเองให้เรียบร้อย เพื่อให้ประชาชนรู้ว่า คนที่จะมาบริหารประเทศ การมือสะอาดเป็นสิ่งสำคัญ

 
 
บีบีซีไทย - BBC Thai
7 tim

สารพัดสิ่งที่ ร.อ. ธรรมนัส เป็นได้.. “คนใจนักเลง” “คนเลี้ยงลิง” “คนรับเผือกร้อน”

 

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar