ประชาชนพร้อม วัคซีนไม่พร้อม โดยธราธร จึงรุ่งเรืองกิจ

 ธนวัฒน์ วงค์ไชย - Tanawat Wongchai

8h ·

ประชาชนพร้อม วัคซีนไม่พร้อม โดยธราธร จึงรุ่งเรืองกิจ

- ตอนนี้ทั่วโลกฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม 10 % สหภาพยุโรป 36% อิสราเอล 62% ในอาเซียน ลาวฉีดแล้ว 8% กัมพูชา 14% ส่วนไทยได้ฉีดเพียง 3% ซึ่งถือว่าน้อยมาก ไม่ว่าจะเทียบกับอาเซียน หรือเทียบกับทั้งโลก

- แนวโน้มการฉีดวัคซีนในไทย มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ฉีดมากที่สุดต่อวันประมาณ 160,000 คนต่อวัน แต่ยังห่างไกลจากตัวเลขที่ประยุทธ์ให้นโยบายว่าต้องฉีดให้ได้วันละ 5 แสนคน หรือเดือนละ 15 ล้านโดส

- เรามีวัคซีนที่ได้รับมอบแล้วจำนวนทั้งสิ้น 6.1 ล้านโดส ยืนยันแล้วแต่ยังไม่ส่งมอบ 64 ล้านโดส เรามีวัคซีนที่ยืนยันแล้วมีสัญญาชัดเจนแล้ว 70 ล้านโดส

- เรามีวัคซีนที่ยืนยันแล้วเป็นวัคซีนทางเลือก จากซิโนฟาร์ม จำนวน 1 ล้านโดส ยังไม่ยืนยันวัคซีนทางเลือก จากโมเดอร์นา จำนวน 10 ล้านโดส และยังไม่มีการยืนยัน แต่เป็นวัคซีนรัฐ จากไฟเซอร์จำนวน 10 ล้านโดส

- รวมทั้ง 2 ก้อน คือ 92 ล้านโดส ใกล้เคียงกับที่รัฐให้สัญญาไว้ คือ 100 ล้านโดส

- ประชาชนไม่เชื่อมั่นในการบริหารของรัฐ เกิดความคลุมเครือ เอาแน่เอานอนไม่ได้ ขัดแย้งกันเอง ประชาชนรู้สึกสับสน ไม่รู้จะเชื่อรัฐบาลดีหรือไม่

- รัฐบาลมีการเปลี่ยนเป้าหมาย จำนวน และเวลาในการฉีดวัคซีนบ่อยครั้ง ปีก่อนบอกจะฉีด 65 ล้านโดส ต้นปีบอกจะฉีด 63 ล้านโดส เดือนเมษาบอกจะฉีด 100 ล้านโดส เดือนพฤษภาบอกจะฉีด 150 ล้านโดส แต่ไม่ได้บอกเลยว่าจะทำอย่างไร ก่อนจะไปถึงจุดนั้น และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคิดถี่ถ้วนแล้วหรือยัง

- รัฐบาลไม่ชัดเจนกับบทบาทของเอกชน ตอนแรกจะให้เอกชนมาร่วมจัดหาวัคซีน ต่อมากลับไม่ให้เอกชนเข้าร่วมจัดหาวัคซีน แต่ต่อมาก็อนุญาตให้เอกชนนำเข้าวัคซีนทางเลือกที่ไม่ซ้ำกับรัฐอีก

- เกิดความสับสน และความไม่ชัดเจนของการส่งมอบวัคซีนจากแอสตร้า เซเนก้า ซึ่งอนุทินให้สัมภาษณ์กลับไปมา ทำให้การวางแผนการกระจายและฉีดวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพได้ยาก

- เกิดความสับสนของช่องทางการลงทะเบียนฉีดวัคซีน มีการเปลี่นนแนวทางบ่อยครั้งจนทำให้ประชาชนสับสน

- COVAX คือ ภาคีความร่วมมือขององค์การอนามัยโลก มุ่งหวังให้ประเทศกำลังพัฒนาได้เข้าถึงการจัดสรรวัคซีนอย่างเป็นธรรม

- ไทยเคยบอกว่าเราส่งหนังสือแสดงเจตจำนงค์ขอเข้าร่วม COVAX แต่ต่อมากลับบอกว่า COVAX มีต้นทุนสูง อำนาจต่อรองน้อย เลยขอเจรจาโดยตรงกับผู้ผลิตแทนดีกว่า และต่อมาได้มีการส่งหนังสือของวัคซีนที่กลุ่มประเทศ COVAX ได้เกินความต้องการ แล้วไทยจะคืนให้ทีหลัง นี่แสดงให้เห็นชัดเจนถึงท่าทีที่กลับไปกลับมาของรัฐบาลต่อ COVAX

- วัคซีนล่าช้าทุกเดือน คือ ต้นทุนทางเศรษฐกิจ

- ธนาธรเสรอให้นายกต้องลงมือเจรจา ตัดสินใจด้วยตัวเอง ควบคุม/วางแผนสต็อกวัคซีนอย่างโปร่งใส ประชาชนตรวจสอบได้ เปิดเผยสัญญาการส่งมอบวัคซีน ฉีดวัคซีนสะดวกด้วยบัตรประชาชนใบเดียว และใช้มาตรการจูงใจให้คนไปฉีดวัคซีนไม่ใช่ลงโทษ

- ธนาธรยกตัวอย่างนายกอิสราเอล ยกหูถึงผู้บริหารไฟเซอร์มากถึง 30 ครั้ง จึงขอเสนอให้ประยุทธ์แทนที่จะตั้งกรรมการ ให้ลงมาเจรจาวัคซีน และตัดสินใจเอง โดยเจรจาว่า มีวัคซีนที่ส่งมอบได้ภายในปีนี้เหลือกี่โดส สามารถส่งวัคซีนได้เมื่อไหร่ และราคาเท่าไหร่

- การจัดการสต็อกวัคซีน ต้องทำให้โปร่งใส ประชาชนเข้าถึงได้ เก็บข้อมูลในอดีตและวางแผนสำหรับอนาคต จะทำให้เราบริหารวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

- การฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันไม่ให้เสียชีวิต ควบคุมการแพร่ระบาด ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติ ดังนั้น ต้องวางยุทธศาสตร์โดยการฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด และมากที่สุด ซึ่งต้องทำให้การฉีดวัคซีนได้ง่ายและสะดวกที่สุด ด้วยการให้ประชาชนสามารถถือบัตรประชาชนใบเดียว เดินไปที่ไหน ก็ฉีดได้

- ในเมือง Detroit ของสหรัฐ ได้ออกนโยบาย good neighbor program ให้เพื่อนบ้านช่วยเพื่อนมาฉีดวัคซีน หากทำได้เอาไปเลย 50 เหรียญ บางที่ใครไปฉีดวัคซีนได้รับแจกโดนัท แจกอาหาร แจกขนม แจกเบียร์ แจกล็อตเตอรี่เงินหวย ล็อตเตอรี่ทุนการศึกษา นี่คือรัฐบาลที่เข้าใจประชาชน ไม่ใช่มองประชาชนเป็นภาระ ต้องลงโทษ ต้องสั่งสอนเสมอไป

นี่คือการฉายภาพปัญหา และแนวทางในการแก้ปัญหาได้อย่างเป็นระบบมาก หวังว่าประยุทธ์จะฟังสักนิด แล้วเอาไปปรับใช้นะครับ

...

ทิวากร แย้มสอาด

ด่าจนเหนื่อยแล้ว