พรรคภูมิใจไทยประกาศไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล ฐานเสนอแก้ 112
ต่อให้ไม่มีนโยบายแก้ 112 พรรคบุรีรัมย์โมเดล นักการเมือง บ้านใหญ่ระบบอุปถัมภ์ไหลมารวมกัน สมมติได้ ส.ส.จ่อตั้งรัฐบาล ไปโขกหัวกราบกรานพรรคขวัญใจคนชั้นกลางในเมือง ให้มาร่วมรัฐบาล เขาก็ไม่ร่วมหรอก
มิพักต้องกล่าวว่าพรรคไหนดูดงูเห่า แต่จุดยืนแนวทางไม่มีวันเข้ากันได้ แม้นโยบายบางเรื่องเช่นกฎหมายกัญชา ก้าวไกลมีสปิริตพอที่จะโหวตให้
ภูมิใจไทยกับก้าวไกล เป็นพรรคการเมืองที่ต่างกันสุดขั้ว พรรคหนึ่งก่อตั้งโดยนักการเมืองที่คนชั้นกลางร้อง “ยี้” อีกพรรคหนึ่งมีคนบริจาคภาษีให้มากที่สุด 27 ล้าน 6 หมื่นกว่าราย ซึ่งคนเสียภาษีต้องมีเงินเดือน 2.6 หมื่นขึ้นไป
ว่าที่จริง ก็เห็นใจและพอรู้ว่าเสี่ยหนูกลัวอะไร แต่อดขำไม่ได้ว่าวันนี้ ภารกิจปกป้อง 112 ไม่ยักเป็นของพรรคคนชั้นกลางในเมืองอีกต่อไป สมัยก่อนเป็นพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งวันนี้ก็ยังยืนหยัดไม่แก้รัฐธรรมนูญหมวด 2 ไม่แตะ 112แต่มีข้อสงสัย ประชาธิปัตย์ยุคหลังอภิสิทธิ์ ยังเป็นพรรคของคนชั้นกลางในเมืองหรือไม่ เห็นผู้สมัคร ส.ส.ทั้งภาคใต้ภาคกลาง กลายเป็นบ้านใหญ่ระบบอุปถัมภ์เกือบหมด
ที่คุยว่าชนะ ส.ก.คืนชีพเมืองหลวง เอาเข้าจริงคือเพื่อไทยก้าวไกลตัดคะแนนกันเอง คะแนนคนชั้นกลางในเมืองส่วนใหญ่ไม่ใช่ของ ปชป.แล้ว เงินบริจาคภาษีก็ได้น้อยกว่าก้าวไกล 9 เท่า
พรรคการเมืองที่ปกป้อง 112 กลายเป็นพรรคระบบอุปถัมภ์ ที่ “สลิ่ม” เคยยี้ ขณะที่พรรคเพื่อไทยแม้ไม่ตอบเรื่อง 112 เพราะมุ่ง นโยบายแก้ปากท้อง ไม่ต้องการชนประเด็น Controversy ก็พูดไม่ได้อยู่ดีว่า ห้ามแตะห้ามแก้ มวลชนเสื้อแดงจะโห่เอา
พรรคก้าวไกลจึงชูธงแก้ 112 ลงเลือกตั้งในสถานะพรรค ของคนชั้นกลางในเมืองรุ่นใหม่ หรืออาจจะรวมรุ่นกลางรุ่นเก่าก็ได้ ในบริบทที่คนชั้นกลางในเมืองเปลี่ยนไป เป็น “สลิ่มเฟส 2” ซะเยอะแล้ว
พรรคก้าวไกลยังหาเสียงด้วยนโยบายท้าทายแหลมคมอีกหลายเรื่อง ลงประชามติแก้รัฐธรรมนูญ ปฏิรูปกองทัพ ปฏิรูปศาล ฯลฯ นโยบายประชาธิปไตยหลักๆ คงไม่ต่างจากเพื่อไทย แต่ก้าวไกลก็แหย่ในประเด็นที่ไม่มีใครเคยแหย่ เช่น ให้พระมีสิทธิเลือกตั้ง
นโยบายยังออกไม่หมดแต่เชื่อว่าจะมีหลายข้อแตกต่างเช่นทางเศรษฐกิจ ให้สังเกตว่าก้าวไกลแข็งขันต้านควบรวมซีพีดีแทค (พ่อฟ้าไปเอง)
จุดยืนท่าทีอย่างนี้ ภาคธุรกิจหอการค้าสภาอุตสาหกรรมบลาๆๆ คงไม่ชอบ แต่ฐานเสียงก้าวไกลคือคนรุ่นใหม่ในคอนโดฯ ตามแนวรถไฟฟ้า นักเรียนนักศึกษา ที่มองว่าประเทศถูกผูกขาดจนพวกเขาไม่มีโอกาส
นโยบายก้าวไกลที่จะมาเป็นแพ็กเกจ ไม่ใช่แค่เรื่องการเมืองเศรษฐกิจ แต่ยังจะฉีกความคิดเก่าทางค่านิยม วัฒนธรรม เหมือนความโดดเด่นและความกล้าในเวทีรัฐสภา ตั้งแต่เรื่องใหญ่ไปถึงเรื่องเล็ก เช่นอภิปรายงบซื้อพัดยศ ซึ่งถูกใจคนชั้นกลางหัวใหม่ ทำไมต้องให้งบ ลูกศิษย์ลูกหาอยากฉลองพัดยศไปซื้อกันเองก็ได้
นักการเมืองก้าวไกลนั้นไม่ได้ทำให้คนชั้นกลางรุ่นใหม่รู้สึกเป็นนักการเมือง แบบเจ้าพ่ออิทธิพลทุนท้องถิ่นผู้รับเหมาที่มาจากระบบอุปถัมภ์ แต่ทำให้รู้สึกเหมือน “เพื่อน” ตัวเองเข้าไปอยู่ในสภา
นี่คือก้าวไกลที่จะชูธงแก้ 112 พร้อมทัศนคติใหม่ท้าทายเรื่องศาสนา วัฒนธรรม การศึกษา ถามว่าจะชนะไหม ไม่ เป็นแค่ยกเพดานปูทางสู่การเปลี่ยนแปลง เลือกตั้งครั้งนี้ไม่ชนะหรอกในทางยุทธศาสตร์คือหวังให้เพื่อไทยชนะวงกว้าง แล้วก้าวไกลได้ ส.ส.เขตเมือง+คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อเป็นเชื้อปะทุทะลุเพดาน
แล้วถ้าพรรคแก้ 112 ได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ 5-6 ล้าน จะทำไง อำนาจอนุรักษนิยมยอมไม่ได้หรอก ถึงไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ พวกเขาก็ไม่ยอมให้วัดความนิยม
งั้นยุบพรรคไหม พรรคไทยภักดีไปร้อง กกต.ตรวจสอบ แก้ 112, 116 ให้พระเลือกตั้งได้ผิดกฎมหาเถรสมาคม
ลองยุบสิครับ ถ้าไม่อับอายชาวโลก “ยุบพรรคเพราะจะแก้ 112”
ในทางการเมือง หนึ่ง เตะหมูเข้าปากเพื่อไทย ติ่งแบกโล่งอก ไม่ต้องกุมขมับเชิงยุทธศาสตร์ว่าเขตตัวเองควรเลือกพรรคไหน
สอง อย่าลืมบทเรียน ยุบอนาคตใหม่แล้วเป็นไง นี่ก้าวไกล สร้างฐานมา 3 ปี เป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ความคิดใหม่หลากหลาย เรื่อง สมรสเท่าเทียม สุราก้าวหน้า
สาม ยุบตอนไหน จะได้ผลต้องยุบระหว่างเลือกตั้ง เหมือนไทยรักษาชาติ ไม่งั้นตั้งพรรคใหม่ได้
แต่จะยิ่งทำให้คนไม่พอใจ ม็อบลงถนน
ข้อสำคัญจะเอาเหตุผลอะไร อยากแก้ 112 เป็นความผิด? สภาห้ามแก้ ต้องรัฐประหารเท่านั้น จึงแก้ไขเพิ่มโทษได้
ถ้าก้าวไกลได้ ส.ส.ไม่ถึงครึ่ง เขาก็แก้ไม่ได้ รู้กันอยู่ว่าได้ไม่ถึงก็ปล่อยให้เขาหาเสียงไป
ใครอยากปกป้อง 112 ก็เลือกพรรคแมลงสาบพรรคบุรีรัมย์พรรคสุพรรณ์ ตามแต่ใจ
ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/news_7327828
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar