ชกศรีสุวรรณได้เงินบริจาค 6.5 ล้าน? แม้ “ลุงศักดิ์” บอกไม่ถึง แต่เชื่อได้ว่ามีคนช่วยล้นหลาม
ยอมรับเถอะว่าเป็นความจริง คนจำนวนมาก “สะใจ” ดูคลิปรอบเดียวไม่พอ ต้องดูซ้ำไปซ้ำมา ขนาดรองเท้าลุงศักดิ์ ที่สัมผัสร่างศรี ก็กลายเป็นยี่ห้อยอดฮิตทันใด
ฝ่ายประชาธิปไตยสนับสนุนความรุนแรง? สลิ่มโวยวาย ถ้าฝ่ายประชาธิปไตยเป็นรัฐบาลจะไล่ทำร้ายพวกเขา
อันดับแรก แกนนำม็อบ แกนนำฝ่ายค้าน นักวิชาการประชาธิปไตย ไม่ได้สนับสนุน คนรุ่นใหม่ติดแฮชแท็กใน ทวีตภพ #ความรุนแรงไม่ควรเป็นทางเลือก แต่ห้ามความ “สะใจ” ของมวลชนไม่ได้
สอง ไม่มีใครบอกว่าใช้ความรุนแรงถูกต้อง ทุกคนเห็นว่าผิด และต้องถูกดำเนินคดี เพียงแต่เรี่ยไรเงินช่วยสู้คดี ถ้ามีรัฐบาลประชาธิปไตย ใครชกใครก็ต้องถูกดำเนินคดี แต่ความสะใจ การช่วยเหลือสู้คดี เป็นเรื่องที่แต่ละบุคคลสมัครใจ
สาม การรี่เข้าไปชก แม้เป็นความรุนแรง แต่ไม่เกิดอันตรายสาหัส ถ้าลุงศักดิ์ใช้อาวุธ ใช้ปืนใช้มีดใช้ไม้ คนในฝ่ายประชาธิปไตยก็จะประณามอย่างหนักหน่วงเช่นกัน
“หมออั้ม” จึงย้อนถามสลิ่มว่า ตอนที่เชียร์มือปืนป๊อปคอร์นยิงลุงอะแกว หรือสะใจเสธ.แดงโดนลอบยิงโดยสไนเปอร์ เย้ยหยัน อ.วรเจตน์ถูกชก จ่านิวถูกลอบทำร้าย ลูกนัทโดนยิงแก๊สน้ำตาจนตาบอด คนพวกนี้เคยต่อต้านความรุนแรงหรือไม่ ทำไมดัดจริตโพสต์ต่อต้านความรุนแรงให้ศรีสุวรรณ
ตอนสลายม็อบเสื้อแดงปี 53 กระสุนจริงยิงหัว ใช้ความรุนแรงต่อเนื่องหลายวัน จนมีคนตาย 99 ศพ เคยต่อต้านความรุนแรงหรือไม่ เห็นแต่พวกโลกสวย เก็บศพแล้วบิ๊กคลีนนิ่ง
หรือตอนตั้งม็อบปี 57 กรวยปิดถนน คนผ่านทางโดน รุมกระทืบ มีใครตำหนิไหม
สลิ่ม ซึ่งเป็นคนชั้นกลางในเมือง คิดว่าตัวเองเป็นคนดี มีมารยาท สุภาพเรียบร้อย เข้าวัดทำบุญ ไม่นิยมความรุนแรง แต่สนับสนุนรัฐประหาร ตุลาการภิวัตน์ ใช้ปืนยึดอำนาจ ออกคำสั่งเป็นกฎหมาย บังคับให้คนเคารพกฎหมาย แล้วใช้กฎหมายอย่างอยุติธรรม นั่นแหละคือการใช้ความรุนแรง แม้ไม่ใช่ทางกายภาพ
ความอยุติธรรมที่เกิดจากรัฐประหาร ออกคำสั่งจับกุมคุมขังคนต่อต้าน ความอยุติธรรมที่เกิดจากกฎหมาย ยุบพรรคตัดสิทธิ พอเกิดการประท้วง ก็ใช้ คฝ.สลายม็อบด้วยความรุนแรง ในนามของกฎหมาย ตั้งข้อหา ยัดข้อหา ไม่ให้ประกัน รังแกกันในนามของกฎหมาย
มันจึงทำให้เกิดความเหลืออด เกิดการตอบโต้ เพราะความเกลียดชัง ซึ่งห้ามกันไม่ได้ ใครปลุกความเกลียดชัง ถ้าไม่ใช่รัฐประหารตุลาการภิวัตน์ ยัดความอยุติธรรม กระทำกับคนฝ่ายเดียวมา 16 ปี
แล้วจะบอกว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยต้องสันติ อหิงสา อย่าใช้ความรุนแรง ซึ่งก็ใช่ คนฝ่ายประชาธิปไตยต้องเตือนกันเอง การใช้ความรุนแรงไม่สามารถนำมาซึ่งประชาธิปไตย ยิ่งใช้ความรุนแรงยิ่งเป็นเหยื่อ เพราะฝ่ายรัฐมีทั้งอำนาจปืนอำนาจกฎหมาย พวกเขาพร้อมจะใช้ความรุนแรงยิ่งกว่า ในทุกเมื่อ
กระนั้น ก็ไม่ใช่สิ่งที่สลิ่มจะเอามาอ้างหรือหยามหยัน ในเมื่อพวกเขาอ้างตนเป็นคนดีแล้วสนับสนุนให้ใช้รัฐประหารและความอยุติธรรมกดหัวประชาชน จนเหลืออด จนเกลียดชัง แล้วปะทุด้วยความรุนแรงในบางครั้ง เหมือนที่เกิดม็อบ “ทะลุแก๊ส” เพราะเกลียดชังรัฐบาลและตำรวจ
ที่ใดมีการกดขี่ ที่นั่นมีการต่อสู้ “แรงมาแรงไป” เป็นธรรมชาติมนุษย์ ความโกรธแค้นต่อความอยุติธรรม การบิดเบือนกฎหมายอย่างหน้าด้านๆ ก็เป็นธรรมชาติมนุษย์ ดังนั้น คนอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยต้องใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างสูง บำเพ็ญตบะ เพื่อรักษาแนวทางสันติ
สลิ่มไม่ต้องมีตบะอย่างนี้ เพราะอยู่ข้างรัฐประหาร กระบวนการ อยุติธรรม หัวเราะเย้ยหยัน แล้วกดหัวห้ามฝ่ายประชาธิปไตย อย่าใช้ความรุนแรง
ถ้าจะทักท้วงแทนศรีสุวรรณ ก็คือการไปลงที่ “นักร้อง” ไม่ค่อยยุติธรรมนัก เพราะที่ประชาชนควรเกลียดชังจริงๆ คือทหารใช้ปืนยึดอำนาจ ตุลาการภิวัตน์อยุติธรรมซ้ำซาก กลไกรัฐประหารสืบทอดอำนาจ เช่น 250 ส.ว.ลอยหน้าลอยตาปกป้องประยุทธ์ หรือนักการเมืองที่เข้าไปร่วมรัฐบาลกึ่งเผด็จการโดยหวังผลประโยชน์ตอบแทน
หน้าตาท่าทีศรีสุวรรณอาจจะ “วอน” แต่เอาเข้าจริง มีหรือไม่มีนักร้อง องค์กรอำนาจก็เล่นงานฝ่ายเดียวซ้ำซาก ศรีสุวรรณเพียงแต่เข้าถึงตัวได้ง่ายกว่าคนในทำเนียบรัฐบาล ส.ส. ส.ว. ที่มีคนติดตามคุ้มกัน
ความเหลืออด เกลียดชัง เมื่อถูกกระทำ เมื่อถูกรังแกอยู่ ข้างเดียว เป็นปฏิกิริยาธรรมชาติ อย่าโลกสวยเปิดเพลง What a Wonderful World แล้วบอกว่าคนไทยต้องรักกัน ห้ามเกลียดกัน ห้ามทำร้ายกัน แต่กดหัวไว้ข้างเดียว
กดหัวแล้วบอกว่า คุณต้องสันติวิธีนะ คุณห้ามใช้ความรุนแรง คุณต้องไปเอาชนะด้วยการเลือกตั้ง ห้ามใช้อาวุธ หมัด เข่า ศอก แต่ถ้าคุณชนะเมื่อไหร่ เราจะใช้ปืนโค่นล้ม
มาวันนี้พวกคุณกลัว เพราะความเกลียดชังมันกำลังย้อนศร กรณีศรีสุวรรณสะท้อนว่าคนจำนวนมากกำลังเหลืออด วันหนึ่งวันใดอาจมี ส.ว. หรือเซเลบฝั่งอนุรักษ์โดนชก โดนตบแล้วประชาชนสะใจ ไม่เหมือนสมัยสิบปีก่อน ที่พวกคุณได้ใจ คิดว่ากระแสส่วนใหญ่เข้าข้างตัวเอง
วันนี้คนส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ข้างคุณแล้ว อยู่ข้างเกลียดชังคุณมากกว่า
ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/news_7326001
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar