“ประยุทธ์ เป็นผู้ทำลายชาติไทยจนป่นปี้ ในยุค ศตวรรษ 21 ”แผ่นดินที่มีการแย่งชิงมรดกด้วยการฆาตกรรม แล้วตัวผู้เป็นฆาตกรยังสามารถครอบครองมรดกนั้นด้วยความสง่างาม เวรกรรมอะไรนักหนา ต่างชาติรังเกียจวงศ์ตระกูลนี้เพิ่มขึ้นมากมายได้ถึงเพียงนี้ เพราะละครเรื่องนี้จริงๆหรือ” มันคือสัญญาณบอกเหตุที่อำนาจของผู้สั่งการ กำลังจะสิ้นไป "

และแล้วตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 29 ก็เดินทางมาถึงประเทศไทย
ท่านผู้นี้เก่งกาจสามรถซะเหลือเกิน มาด้วย บารมีที่สูงส่ง ส่งให้ท่านได้มาเกิดในแผ่นดินนี้
 
แผ่นดินที่เต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติมากมายมหาศาลแต่ทรัพยากรนั้นมีผู้สามารถใช้ได้ จำกัด
แผ่นดินที่เต็มไปด้วย การทุจริต ช่อราษฎร์ บังหลวง มากมายเกินกว่าสังคมโลกจะพึงรับได้
แผ่นดินที่เต็มไปด้วย ความอยุติธรรมอย่างเหลือเชื่อ ที่สามารถสั่งประหารชีวิต คนที่บริสุทธิ์ได้
 
แผ่นดินที่สามารถเอาเงินของประชาชนไปซื้ออาวุธแล้วกลับมาฆ่าคนในประเทศเดียวกันได้
แผ่นดินที่โกหกตอแหลมากที่สุดในโลก สามารถบอกดำให้เป็นขาวได้
แผ่นดินที่โลภโมโทสัน ที่สามารถนำเอาทรัพย์สินส่วนตัวของผู้อื่นมาครอบครองเป็นของตัวเองได้ โดยไม่ยี่หระต่อสายตาคนทั้งโลก
 
แผ่นดินที่มีการแย่งชิงมรดกด้วยการฆาตกรรม แล้วตัวผู้เป็นฆาตกรยังสามารถครอบครองมรดกนั้นด้วยความสง่างาม
 
“ขอคืนความสุขให้เธอ ประชาชน”
 
นี่คือความปารถนา ที่ นายกฯคนใหม่พยายามสื่ออกมาเป็นบทเพลง ที่บังคับให้ทุกคนต้องฟังตามสถานีโทรทัศน์และวิทยุทุกช่องเมื่อครั้งได้ใช้ กำลังติดอาวุธยึดอำนาจจากประชาชนไป จนปัจจุบันก็ยังบังคับให้ประชาชนฟังเพลงนี้อยู่ ที่ก่อนหน้านี้ ท่านผู้นี้ได้วางแผนให้คนกลุ่มหนึ่งออกมาทำลายเศรษฐกิจของประเทศจนพังพินาศ แล้วก็ทำผิดกฎหมายทุกข้อ ทุกมาตรา จนประเทศเกิดความสับสนวุ่นวายคนธรรมดาไม่สามารถหากินตามปกติได้ พ่อค้านักธุรกิจปิดกิจการล้มละลาย ข้าราชการนอนอยู่กับบ้านเพราะสถานที่ทำงาน ถูกคนกลุ่มนี้ยึดเอาไว้
การสัญจรไปมา ต้องทำด้วยความยากลำบาก พลาดพลังอาจโดนยิงเอาดื้อๆด้วย ถ้าแม้ไปทำการขยับกรวย ที่วางไว้บนถนน หลายผู้หลายนามต้องจบชีวิตลงและพิการก็เพราะไปขยับกรวย อันนี้ เสมือนว่า..แล้ว ก็มาถึงวันสุกงอม ที่ฯพณฯ ต้องจำเป็นออกมายึดอำนาจด้วยความขมขื่น แม้ไม่อยากทำแต่ก็จำไจต้องทำ ที่ทำเพราะฯพณฯท่านไม่อาจทนเห็นประเทศชาติต้องพังพินาศไปมากกว่านี้ จะมีใครสักคนรู้บ้างไหมว่า น้ำตาลูกผู้ชายของฯพณฯต้องหลั่งออกมาอย่างไม่รู้ตัว ในวันที่ฯพณฯท่านได้ยึดอำนาจไปแล้ว
แต่..ละคร เรื่องนี้ มิได้ดำเนินเนื้อเรื่องไปตามที่ได้เขียนบทเอาไว้ คนที่น้ำตาไหลออกมาไม่รู้ตัว คือผู้กำกับผู้เขียนบทที่อยู่เบื้องหลังการแสดงละครนี้ แทน
 
ทุกสารทิศ รุมกันประณามอย่างสาดเสียเทเสีย กับการยึดอำนาจในครั้งกระนี้ แถมแฉเบื้องหลังอีกว่าใครคือผู้บงการยึดอำนาจ วางแผนกันแบบไหนอย่างไร และจุดประสงค์แท้จริงของการยึดอำนาจคืออะไร
เกือบทุกประเทศในโลก ขอให้คืนอำนาจให้กับประชาชนโดยเร็ว และหลากหลายประเทศตัดความสัมพันธ์ในขั้นปกติลง การค้าขายถูกกีดกัน ความช่วยเหลือที่เคยมีถูกตัดขาดในทันที
แม้จะพยายามอธิบายด้วยการเผยแพร่ทางสื่อ เรียกเจ้าหน้าที่ทางการทูตมาพูดคุย ขอความเห็นใจ แต่ผลที่ได้รับ มันคือศูนย์ ไม่มีอะไรดีขึ้น มีแค่คำโฆษณาของผู้ยึดอำนาจที่ออกมาสู่ประชาชนคนไทยเท่านั้น ในความหมายประเทศไทยกำลังดีขึ้น อ้างการพบปะกับคนโน้นบ้างคนนี้บ้าง และสรุปเอง เออเอง ว่าได้รับการตอบรับมาเป็นอย่างดี ได้รับการรับปากแล้ว อะไรทำนองนั้น ในความฝันที่ช่วยกันจินตนาการออกมา แน่หละ มันคือน้ำตาจริงๆที่ต้องหลั่งออกมา “เวรกรรมอะไรนักหนา ต่างชาติรังเกียจวงศ์ตระกูลเพิ่มมากมายได้ถึงเพียงนี้ เพราะละครเรื่องนี้จริงๆหรือ” มันคือสัญญาณบอกเหตุที่อำนาจของผู้สั่งการ กำลังจะสิ้นไป
 
ก่อนหน้าที่ฯพณฯ จะได้ขึ้นครองตำแหน่งนายกฯนี้ เดิมที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าฯพณฯจะกล้ารับ ตำแหน่งนี้ เพราะมันคือ โศกนาฏกรรมของผู้ดำรงตำแหน่งนี้โดยแท้ ไม่มีคำว่าทำดี ไม่มีคำว่าสง่างาม มีแต่คำปรามาสและเย้ยหยันเท่านั้น สำหรับคนที่นั่งตำแหน่งนี้ในเวลานี้
คำว่า “กล้า” นี้ มีความหมายครอบคลุมไปหลายด้าน หลายมิติ
 
ในมิติที่แรก ด้านความมั่นคงที่ไม่เป็นเอกภาพ “อำนาจ”มัน เป็นที่มาของเงินทองและทรัพย์สิน ใครๆก็อยากได้อำนาจนั้นมาเป็นของตัวเองทั้งสิ้น ยิ่งอำนาจที่ได้มานั้นมันมีกองกำลังติดอาวุธหนุนหลังอยู่ด้วยแล้ว มันจึงเป็นอำนาจที่ทรงพลังที่สุด แม้แต่การเมืองก็มิอาจต้านทานกับอำนาจนั้นได้กับประเทศด้อยพัฒนา วันที่ท่านรับตำแหน่งนี้ท่านมีครบทุกอย่างทั้งหมดในมือ แต่  
วันที่ท่านต้องหมดอำนาจจากกองกำลังติดอาวุธไป ผู้ที่สูญเสียอำนาจจะทำอะไรกับท่านบ้างคิดถึงวันนั้นไหมท่านกำลังจะปลด เกษียณราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกในปีนี้แล้ว นั่นหมายความว่า อำนาจจริงๆที่มีอยู่ในมือ ท่านต้องฝากไว้กับผู้บัญชาการทหารบกคนต่อไปแล้ว ท่านไม่สามารถเรียกใครมาสั่งการได้อีกเหมือนเช่นก่อน ซึ่งก็ไม่ทราบว่า ผบ.ทบ.คนต่อไปจะยังคงรับใช้ท่านเหมือนเดิมอีกหรือไม่ ในเมื่อทุกคนก็มีความคิดเป็นของตัวเอง บารมีทุกคนก็มีสะสมกันไว้ทั้งนั้น ท่านจึงกล้ามากที่จะวัดดวงในครั้งนี้ “ยืมจมูกผู้อื่นหายใจ”
 
ในมิติที่สอง ในความคิดอันเป็นพื้นฐานเดิมที่มีอยู่ก่อนแล้ว ท่าน เชื่อประเทศไทยจะอยู่รอดปลอดภัยต่อไปได้ต้องไม่มีคนเสื้อแดงทั้งหมด ถึงขนาดเคยเอ่ยคำพูดนี้ออกมาว่า “แม้จะฆ่าคนเสื้อแดงอีกสักหมื่นคนท่านก็จะทำ” นั่นแปลว่าอะไร แปลว่าท่านไม่เข้าใจหัวอกคนไทยอย่างแท้จริงเลย ในความคิดที่ท่านจะต้องทำคือกำจัดอย่างเดียว เฉกเช่นผู้นำเผด็จการอันยิ่งใหญ่ของโลกนาม ฮิตเลอร์ ก็เคยคิดเช่นนี้มาก่อนแล้ว คือคิดจะฆ่าผู้ที่มีเชื้อชาติ “ยิว”ให้หมดไปจากประเทศของเขาหรือหมดไปทั้งโลกเลยถ้าเป็นไปได้ ทั้งที่คนไทยที่เป็นเสื้อแดงไม่ ได้เลวร้ายอย่างที่ท่านเข้าใจ แต่เป็นผู้คนอีกชนชั้นหนึ่ง ที่โดนข่มเหงรังแกมาตลอดทั้งชีวิตของเขา แต่ท่านจึงกล้ามากที่ท่านกำลังจะเป็น “อภิมหาผู้นำที่ฆ่าประชาชนตนเองมากที่สุดในโลก” ละอาจจะโดนจับตัวขึ้นนั่งในคอกผู้ต้องหาในวัยชรา เพื่อให้การแก้ต่างให้กับตัวเอง เมื่อวันนั้นมาถึง แทนที่ท่านจะสุขสบายเลี้ยงหลานอยู่ที่บ้านอย่างมีความสุข
 
ในมิติที่สาม ไฟในด้านเศรษฐกิจกำลังเผาผลาญประเทศไทยอยู่ในขณะนี้ ท่านเองไม่มีพื้นฐานความรู้เรื่องนี้เลย เพียงแต่ว่าท่านใช้วิธีวัดดวงเลือกใครคนหนึ่งหรือคณะหนึ่งเข้ามาแก้ปัญหาให้ พ้นตัวไปเท่านั้น แต่คนหรือคณะที่เลือกมา เขาเหล่านั้น มีจิตใจและความคิดเหมือนท่านหรือไม่ ที่จะกอบกู้ประเทศไทยให้ฟื้นคืนกลับมาเพื่อความ ผาสุก ของคนทั้งประเทศ ร้อย ละร้อยพื้นฐานพวกเขามาจากการขูดรีดประชาชนชั้นล่างที่มีรายได้น้อยทั้งสิ้น เคยสัมผัสบ้างไหมกับความอดอยากความยากไร้ความหิวโหยการไร้ที่อยู่ “เงินเหรียญบาท”พวกเขาใช้เป็นหรือเปล่าเคยรู้จักบ้างไหม ทั้งที่เศษเงินเหรียญเหล่านี้ มันคือความอยู่รอดของคนจนในประเทศนี้มากกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์
ตัวเศรษฐกิจนี่แหละ มันคือระเบิดเวลาที่หนักหนาสาหัสมากและมันคือที่มาของสีเสื้อ ที่มี “แดง”เต็มประเทศอยู่ขณะนี้ก็เพราะเรื่องนี้
 
ที่เพ้อเจ้อกันทุกวันนี้ คิดเป็นสูตรสำเร็จ “เสื้อ แดงคิดจะล้มเจ้า เสื้อแดงจะเอาทักษิณมาเป็นประธานาธิบดี” นั่นมันแค่การทำมวลชนเพื่อโค่นล้มทักษิณแค่นั้น มันไม่ใช่เรื่องจริง ท่านเองก็อยู่ในแผนการโค่นล้มทักษิณนี้ด้วย ท่านอย่าลืมซิว่าสิ่งที่พยายามขยายความออกไปมันแค่จิตนิยายเท่านั้น แท้จริงมันเป็นแค่การเอาเปรียบกัน ระหว่างทักษิณกับกลุ่มทุนผูกขาดเท่านั้น โดยทักษิณเอาการเมืองมาเป็นแต้มต่อในการเอาเปรียบคู่แข่ง พวกกลุ่มทุนผูกขาดเหล่านั้นจึงยอมไม่ได้ และได้เกิดเหตุการณ์เสื้อเหลืองขึ้นมา ท่านเองก็รู้อยู่แก่ใจมิใช่หรือ เพราะท่านเป็นผู้หนึ่งที่ถูกปั้นขึ้นมาให้เป็นใหญ่ในประเทศนี้ได้ก็เพราะ กลุ่มทุนผูกขาดพวกนี้หนุนหลังท่าน จึงขอบอกว่าท่านกล้ามากที่เอาเรื่องละเอียดอ่อนพวกนี้มาวัดดวง กับชะตาชีวิตของท่านและครอบครัว
 
แค่ สามมิตินี้ ท่านเองก็อ่วมอรทัยแล้ว ท่านจะผ่านพ้นมันไปได้อย่างไร
ความคิดที่ดีดีของท่านที่สื่อออกมา คนฟังแล้วดูดี รู้ถึงความตั้งใจ แต่มันคือความคิดเหมือนเด็กอนุบาลเพิ่งหัดเขียน ก.ไก่ เช่น เก็บภาษีมรดก ผมถามคำเดียว ภาษีพวกนี้ ใครต้องจ่าย ท่านสามารถทำได้จริงหรือ ถ้าทำไม่ได้ท่านจะบอกกับประชาชนว่าอย่างไร ที่ดินราชประสงค์ สยามสแควร์ ตัวอย่างที่ดีที่สุด ท่านจะเริ่มได้เมื่อไร เช่น พลังงาน ท่านเองอาจรู้ดีที่สุดผลประโยชน์แท้จริงที่กดหัวคนไทยอยู่ทุกวันนี้ มันเป็นผลประโยชน์ของใคร ท่านจะงัดตรงไหน จะเอาส่วนไหนออกมาคืนให้กับประชาชน เอาให้มันตรงจุดเลยทำได้ไหม แก้ไขสัญญาแก้ไขสัมปทานไปเลย แม้เอาคนผิดมาลงโทษไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพียงแค่ต่อไปท่านทำให้น้ำมันราคาถูกลงแค่นั้นก่อน ท่านจะเริ่มได้เมื่อไร เช่น พืชผลในด้านเกษตร ข้าว ยางพารา แท้จริงมันมีอะไรซ่อนอยู่ มันคือต้นทุนฐานอำนาจของใครบางคนใช่หรือไม่ แก้ปัญหาวันนี้ได้ มันก็ไปบานปลายให้กับปัญหาความมั่นคงในทันที ท่านจะทำได้จริงหรือ
 
ตัวอย่างเล็กน้อยที่นำเสนอท่าน และยังบอกว่าเป็นความคิดของเด็กอนุบาล แค่ขยายความเล็กน้อย ท่านก็อาจจะพอมองออกแล้ว ประเทศนี้มันแก้ได้ที่จุดเดียวเท่านั้นจุดเดียวกับที่อดีตท่านผู้นำจอมพล ป. พิบูลสงครามเคย คิดจะแก้ไขมาแล้วแต่ทำไม่ได้ สุดท้ายก็มีเผด็จการรุ่นน้องเข้ามายึดอำนาจต่อ ในบั้นปลายของชีวิตแม้ตนเองก็ยังหาที่ตายในประเทศไทยยังไม่ได้ จะเอาแบบนั้นใช่ไหม
 
มันจึงตามมาด้วยคำถามทั้งหมด “ขอคืนความสุขให้เธอ ประชาชน”ท่านจะคืนแบบไหน อย่างไร
นรกเดินทางมาถึง ฯพณฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชาแล้ว กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เวรกรรมของท่านและประชาชนคนไทยแท้ๆ คนไทยกำลังป่วยแต่ท่านกำลังให้เครื่องสำอางเสริมความงามให้กับคนไทย แบบนี้มันมาถูกทางไหม ถ้าเป็นภาษามวยเขาเรียกว่า เต้นเอาคะแนนแต่ไม่กล้าออกหมัด

เอาคำพูดนี้แปะฝาบ้านไว้ได้เลย ประวัติศาสตร์จะจารึกไว้ว่า ในสมัยหนึ่ง “ประยุทธ์ เป็นผู้ทำลายชาติไทยจนป่นปี้ ในยุค ศตวรรษ 21”

อ่างขาง,