๒๙วัน"รธน.ชั่วคราว" ในรัชกาลที่ ๙ ได้นายกคนที่ ๒๙ ตามที่หมอดูทำนายไว้ มี"รัฐบาลทหาร" เผด็จการทหารคืนชีพด้วยพระบารมีปกป้องคุ้มครองให้ปล้นยึดอำนาจรัฐ....ขอแสดงความยินดีกับประชาชนไทยและประเทศไทยที่มีประชากรกว่า 65 ล้านคน ที่ได้ "นายกฯนอมินี " ได้รัฐบาลพระราชทานจากอำมาตย์ทรราช...มา ณ.ที่นี้ด้วย....

เจ้าของรัฐบาลตัวจริงเสียงจริง...ผู้ที่มีอำนาจสั่งการเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง......


-ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีมติเห็นชอบด้วยคะเเนน 191เสียง งดออกเสียง.3. ไม่เห็นด้วย ไม่มี. ให้พลเอกประยุทธ. จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่29ของประเทศไทย. ยินดีกับนายกรัฐมนตรีคนใหม่เเละคนไทยทุกๆ เเละเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทยอย่างรอบด้าน เพื่อคืนความสุขให้กับประชาชนไทยกันต่อไป

ภาพบนใส่หัวโขนเล่นลิเก  นายกรัฐมนตรีคนที่29 พลเอกประยุทธ. จันทร์โอชา "ทหารเสือราชินี"
ภาพล่างตัวตนที่แท้จริง"คนสองหน้า"นายกรัฐบาลทหาร"ของอำมาตย์ทรราช...
เป็นนายกที่ทรงอิทธิพล มี 3 อำนาจ ในร่างเดียว ณ เวลานี้!
ที่กะลาแลนด์ เป็นตั้งแต่ผบ.ทบ. นายกรัฐมนตรี หัวหน้าคสช. แต่ก็เป็นนายกที่บินไปแนะนำตัวตามประเทศแถบยุโรปไม่ได้!! เพราะเขาไม่ยอมรับอำนาจที่ปล้นเขามา!! ด้วยปลายกระบอกปืน

-ประวัตินายกรัฐมนตรีคนที่29 จากวิกิพีเดียบันทึกไว้ดังนี้
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2497 ที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นบุตรชายของ พ.อ. (พิเศษ) ประพัฒน์ กับเข็มเพชร จันทร์โอชา มีชื่อเล่นว่า "ตู่" สื่อมวลชนนิยมเรียกว่า "บิ๊กตู่" เป็นบุตรชายคนโตจากพี่น้องทั้งหมดสี่คน[2] หนึ่งในน้องชายคือ พล.ท. ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3
ประยุทธ์ สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 จากโรงเรียนสหะกิจวิทยา จังหวัดลพบุรี ต่อมาได้ศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่โรงเรียนพิบูลวิทยาลัยในจังหวัดเดียวกัน แต่เรียนได้เพียงปีเดียวก็ลาออกเนื่องด้วยบิดาเป็นนายทหารจำต้องโยกย้ายไปใน หลายจังหวัด[2] เขาจึงเข้าศึกษาที่โรงเรียนวัดนวลนรดิศ กรุงเทพมหานคร จนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3[2] ภายหลังได้เข้าเรียนเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 12 (ตท.12) และเป็นนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่น 23
ประยุทธ์มีอุปนิสัยที่เงียบขรึม ด้วยความที่เป็นพี่ชายคนโตจึงต้องทำตัวเป็นพี่ที่ดี ในวัยเยาว์เขาเป็นคนเรียนเก่งมีความถนัดและความชอบในวิชาคณิตศาสตร์, ภาษาอังกฤษ และวิทยาศาสตร์ จากการสนับสนุนของบิดามารดา[2]
ชีวิตส่วนตัวสมรสกับ รศ.นราพร จันทร์โอชา อดีตอาจารย์ประจำสถาบันภาษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา รับราชการทหารอยู่ที่กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ หรือ "ทหารเสือราชีนี" มาโดยตลอด โดยเริ่มมาจากตำแหน่งผู้บังคับการกองพัน จนถึงผู้บังคับการกรม จากนั้นจึงย้ายไปอยู่ที่กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ และรับตำแหน่งรองแม่ทัพภาคที่ 1

ในรัฐประหารโดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข (คปค.) เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 ที่มี พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นหัวหน้าคณะ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งขณะนั้นมียศเป็น "พลตรี" ก็เป็นผู้หนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการยึดอำนาจด้วยรับคำสั่งตรงจาก พล.ท. อนุพงษ์ เผ่าจินดา แม่ทัพภาคที่ 1 หลังจากนั้นเมื่อ พล.ท. อนุพงษ์ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกและเลื่อนชั้นยศเป็น "พลเอก" พล.ต. ประยุทธ์ก็ได้เลื่อนชั้นยศขึ้นเป็น "พลโท" และรับตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 และได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติจากคณะมนตรีความมั่น คงแห่งชาติ (คมช.) ด้วย
พล.อ. ประยุทธ์ เป็นนายทหารที่มีความสนิทสนมกับ พล.อ. อนุพงษ์ เป็นอย่างมาก ด้วยความเป็นผู้ใต้บังคับบัญชามาตลอดในกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ โดย พล.อ. ประยุทธ์นับถือ พล.อ. อนุพงษ์เสมือนพี่และอาจารย์คนหนึ่งของตน โดย พล.อ. ประยุทธ์เป็นนายทหารที่มีบุคลิกที่อ่อนนุ่มโดยมักติดคำว่า "นะจ๊ะ" ต่อท้ายการพูด จึงได้รับอีกชื่อหนึ่งจากสื่อมวลชนว่า "ตู่นะจ๊ะ"