วันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557 ข่าวสดออนไลน์
เผยซาอุฯ เรียกอุปทูตกลับ หลังไทยมีคำพิพากษาคดีอัลรูไวลี่
เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานถึงกรณีที่มีข่าวว่า นายอับดุลอิลาห์ อัลชุอัยบี อุปทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย เดินทางกลับไปยังราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียตั้งแต่กลางเดือนก.ค.ที่ผ่านมา หลังไทยมีการตัดสินคดีอุ้มฆ่านายมูฮัมหมัด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุฯ ที่ฝ่ายซาอุดีอาระเบียเฝ้ารอมานาน 24 ปีนับจากเกิดเหตุว่า ทางฝ่ายซาอุดีอาระเบียเรียกตัวอุปทูตอัลชุอัยบีกลับไปจริง โดยเป็นการเรียกตัวกลับด่วนเพื่อไปปรึกษาหารือ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยื่นหนังสือแจ้งถึงการกลับประเทศด่วนนี้ให้ทางกระทรวงการต่างประเทศของไทยทราบแล้ว
ด้านผู้เชี่ยวชาญทางด้านการทูตระหว่างประเทศระบุว่ากรณีดังกล่าวเป็นการเรียกตัวกลับไปปรึกษาเป็นการด่วนเท่านั้นไม่ใช่การดึงตัวกลับเพื่อไปประจำยังประเทศซาอุดีอาระเบียคาดการณ์ว่าทางรัฐบาลซาอุฯ จะรอดูท่าทีของรัฐบาลไทยในเรื่องนี้อีกครั้ง จึงจะตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป
ทั้งนี้ในคดีดังกล่าวฝ่ายซาอุดีอาระเบียยังคงคาใจเรื่องการเปลี่ยนตัวผู้พิพากษาในช่วงท้ายของกระบวนการกระทั่งมีการตัดสินออกมาในวันที่ 31 มี.ค. ยกฟ้องจำเลยทั้ง 5 คน
นสพ. ม.ฮาร์วาร์ด ถอดบทความแฉชนชั้นสูงไทย เผยผู้เขียนถูกคุกคาม
ข่าวThai - Enews
ที่มา FB สื่อไร้เซนเซอร์ : Reporters Without Censors
ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์เดอะ ฮาร์วาร์ด คริมสัน (The Harvard Crimson) ซึ่งบริหารโดยนักศึกษามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้ตีพิมพ์บทความเปิดโปงว่า มีชนชั้นสูงไทยที่สนับสนุนรัฐประหารได้พยายามผลักดันให้มีการตั้งหลักสูตรไทยคดีศึกษา (Thai Studies Program) ขึ้นในมหาวิทยาลัย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้ชื่อมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมาสร้างความชอบธรรมให้การรัฐประหารและสถาบันกษัตริย์ของไทย ในวงการวิชาการ
อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ได้ถอดบทความลงชั่วคราว โดยเขียนชี้แจงว่า "บทความชิ้นนี้ถูกถอดลงชั่วคราว เนื่องจากเรามีความกังวลต่อความปลอดภัยของผู้เขียน เดอะ คริมสัน เสียใจที่ต้องทำเช่นนี้ ซึ่งในกรณีปกติย่อมขัดกับนโยบายของหนังสือพิมพ์ แต่ในกรณีนี้เราพบว่ามีเหตุจำเป็นอย่างยิ่งยวด เราหวังว่าเราจะสามารถตีพิมพ์บทความนี้ขึ้นใหม่ได้เร็วๆ นี้"
บทความที่ถูกถอดดังกล่าวเอ่ยชื่อ นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ และ นายสุรเกียรติ เสถียรไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยกล่าวว่าทั้งคู่ได้เสนอจะหาเงินบริจาคให้มหาวิทยาลัย 6 ล้านดอลล่าร์ (ประมาณ 180 ล้านบาท) เพื่อให้ตั้งหลักสูตรดังกล่าว
ผู้เขียนกล่าวว่า ตนได้เข้าร่วมงานเลี้ยงที่นายสุรินทร์จัดขึ้นในกรุงเทพฯ เพื่อเปิดรับเงินบริจาค ในงานนั้นนายสุรินทร์ประกาศว่าตนได้รับเงินบริจาคจากมหาเศรษฐีหลายรายแล้ว และกำลังประสานกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อขอรับเงินบริจาคอยู่ด้วย
ผู้เขียนปิดท้ายโดยกล่าวว่า มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ต้องเปิดเผยที่มาของเงินบริจาคให้โปร่งใส และต้องไม่ยอมให้กลุ่มที่สนับสนุนรัฐประหารในประเทศไทย ใช้หลักสูตรนี้เป็นเครื่องมือสร้างความชอบธรรมให้สถาบันกษัตริย์
ทั้งนี้ แม้ว่าบทความดังกล่าวจะถูกถอดลง แต่ท่านยังสามารถอ่านบทความผ่านWayback Machine ได้ที่นี่ https://web.archive.org/web/20140819182117/http://www.thecrimson.com/article/2014/8/18/harvard-thai-troubles/
..........................................................
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar