ฝากถึงท่านประธาน คสช.นายกป้ายแดงคนที่๒๙ เรื่องการ "ปิดโรงเรียน" ไม่ใช่ทางแก้ปัญหาเด็กตีกัน. ในยุคสังคมไฮเทคโลกไร้พรมแดน ต้องแก้ที่สาเหตุทุกฝ่ายต้องยอมรับความจริงร่วมมือกันหาวิธีแก้ปัญหาเท่านั้น "ปัญหาเด็กตีกัน มีแถวๆ ปทุมวันมานานกว่า 50 ปีแล้ว..แม้จะเป็นสถานะเป็นมหาวิทยาลัยแล้วก็ตาม... มันเปํนวัฒนธรรมที่สืบต่อกันมา...วัฒนธรรม ..ของใคร หรือ..อะไร เปลี่ยนได้ทั้งนั้น... แต่ที่เปลี่ยนไม่ได้ คือ..ระบบสังคม . ชั้นของสังคม...เด็กเป็นผลผลิตของสังคม..."

by  p.nan    

18 กันยายน 2014 - 11:15

โรงเรียนอาชีวะ ที่เปิดสอนระดับ ปวช.ถึง ปวส. ได้ถูกปรับสถานะเป็นวิทยาลัยหมด
ภาคเอกชน จะสังเกตได้ ที่ใช้คำเริ่มต้นว่า วิทยาล้ยเทคโนโลยี...
ภาคราชการ จะสังเกตได้ ที่ใช้คำเร่ิมต้นว่า วิทยาลัยเทคนิค... หรือ วิทยาลัยอาชีวะ...
ทั้งสองส่วนเหมือนกันที่หลักสูตร  ระบบและกระบวนการเรียนการสอน
.
ปัญหาเด็กตีกัน  มีแถวๆ ปทุมวันมานานกว่า 50 ปีแล้ว..แม้จะเป็นสถานะ
เป็นมหาวิทยาลัยแล้วก็ตาม... มันเปํนวัฒนธรรมที่สืบต่อกันมา...
...วัฒนธรรม ..ของใคร หรือ..อะไร  เปลี่ยนได้ทั้งนั้น... แต่ที่เปลี่ยนไม่ได้
คือ..ระบบสังคม  .. ชั้นของสังคม...เด็กเป็นผลผลิตของสังคม...
.
อยู่ๆ นายกประกาศโครมว่า.. ถ้าไม่สามารถแก้เด็กดีกันได้ 
ต้องสั่งปิดวิทยาลัยนั้น.. ท่านทำได้ คือ..ปิดได้..แล้วไงครับ..
ปัญหาเด็กตีกัน...กับปัญหาคนฆ่ากันที่ภาคใต้... ผมว่าพอๆ กัน
ทหารทีว่าแน่.. เอาอยู่ใหม?
.
บางคนคิดว่า (ฟันธง) เป็นเพราะครูยุเด็ก...นี่ดูถูกสถาบันครูชัด ๆ
สถานภาพครูที่วิทยาลัยอาชีวะ กับที่สอนอยู่..จุฬาฯ มีวุฒิพอๆ กัน และ
อาจถูกผลิตมาจากแหล่งเดียวกันก็มาก (ค.บ (ม,ด.),.กศ.บ(ม,ด) ฯลฯ)
แม้หลายคนจบ วิชาชีพก็ต้องฝึกอบรมการเป็นครู มีการเลือกสรร
อย่างเป็นระบบ... อาจจะมีบ้าง..แต่น้อยมาก..ป่วยการนับ..
.
การเปลี่ยนแปลงทั้งภายใน และภายนอก  องค์การการศึกษาไทย
อุ้ยอ้ายใหญ่เกินไป  ปรับเปลี่ยนไม่ทันการเปลี่ยนแปลงของสภาวะต่างๆ 
.. ระบบการปกครองของไทย.. มักถูกสอนให้เชื่อผู้นำ.. การศึกษาไทย
ถูกเปลี่ยนไปตามคนพวกนั้น ส่วนใหญ่ไม่ใช่มืออาชีพด้านการศึกษา..ไดั
กำหนดยุทธศาสตร์ ผิด.. เหมือนที่ชอบเปรียบ..การติดกระดุมเสื้อผิดเม็ดแรก
มันก็ผิดทั้งหมด...สภาพภายในวิทยาลัยอาชีวะปัจจุบัน บางด้าน..
1) รับเด็กทุกคน (แม้สอบเข้า) ซึ่งต่างกับสมัยเ่มื่อ 40 ปีที่ผ่านมา
รัฐเป็นโมเดลให้ภาคเอกชน ปัจจุบันเป็นคู่แข่ง ผลที่ตามมาคือ
ภาคเอกชนสู้ไม่ได้ ทะยอยเลิกกิจการ...การไม่กรองเด็กอย่าง
มีประสิทธิภาพ  เหมือนการไม่เลือกวัตถุดิบเข้าโรงเงาน เช่น
โรงงานสัปรดกระป๋อง ใหญ่ไป แล็กไป ใช้ไม่ได้ ต้องขนาดพอดี,
,อีกเรื่องหนึ่ง..ครูคือทรัพยากรมนุษย์ที่ถูกฝึกให้สอนวิชาชีพ สอนให้เป็น
ช่างที่ดี.. สอนยิงปืน ฟันดาบไม่เป็น .... เป็นเรื่องของผู้บริหาร
ที่จะต้องจัดการ  ปํญหาก็คือตัวผู้บริหารเองจะเอาอะไร
เป็นเครื่องมือ เครื่องมือของเขาก็คือ ครู .. วนอยู่ตรงนี้
.
เรื่องทำนองนี้  เคยปรึกษาหารือกับตำรวจ... และเข้าใจกัน
ตำรวจรับหน้าที่บนท้องถนน  .. ครูไม่ต้อง.. เพราะต้องถูแลครูอีก
ถ้าครูนึกอยากแสดงด้วย...
.
ขอให้กลับไปสู่จุดเดิมได้ใหม... คือวิทยาลัยของรัฐรีบปรับสภาพ
เป็นวิทยาลัยต้นแบบ  รับน้อยไม่เกินความสมารถในการควบคุม
ไม่เกิน พันสองร้อยคน  ทำให้สวย  รัฐหางบจ่ายให้  อย่าให้เขาต้อง
ไปหาเหยื่อกินเอง (ค่าหัวเด็ก)อย่างปัจจุบัน... ปัญหาเด็ก..ส่วนหนึ่ง
มาจากการควบคุมไม่ไหว  บ่างแห่ง 3- 4 พันคน เกินกำลังที่ปกติแค่ พันกว่าคนเท่านั้น
เรื่องนี้เป็นเรื่องการเมืองเข้ามาแทรกแซงจนเป๋เดินไม่เป็น .. แก้ตรงนี้ก่อน..