ปัญหาปากท้อง
สถานการณ์ หนี้บัตรเครดิต เป็นดัชนีชี้วัดถึง สถานการณ์ปากท้องของชาวบ้าน ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ที่ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระบุว่า หนี้ครัวเรือนในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา อาการน่าเป็นห่วง มี การผิดนัดชำระหนี้ อยู่ที่ประมาณ 1.28 หมื่นล้านบาท หรือร้อยละ 50 มียอดหนี้บัตรเครดิตที่ค้างจ่ายเกินกว่า 3 เดือน อยู่ที่ 7 พันกว่าล้านบาท ตอกย้ำถึงการถดถอยของเศรษฐกิจปากท้องประชาชน ที่หาเช้ากินค่ำ
เมื่อเร็วๆนี้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ได้ทำหนังสือลับมากถึง เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องผลการตรวจสอบ โครงการปรับปรุงระบบนาฬิกา สำหรับติดตั้งบริเวณภายในและโดยรอบอาคารรัฐสภา มูลค่าเกือบ 15 ล้านบาท โดย สตง.สรุปความผิดในโครงการและ ให้ดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งทางอาญา ทางแพ่ง และลงโทษทางวินัย ด้วย
ผู้ที่เกี่ยวข้องในที่นี้หมายถึง คณะกรรมการกำหนดรายละเอียดคุณลักษณะโครงการ หรือทีโออาร์ คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา ข้าราชการระดับเจ้าหน้าที่ ระดับรองเลขาธิการรัฐสภา รวมถึง อดีตเลขาธิการรัฐสภา ซึ่งสำนักงานเลขาธิการรัฐสภาได้ทำการรวบรวมข้อมูลต่างๆและสั่งให้นิติกร รัฐสภาแจ้งความเอาผิดทางอาญากับผู้เกี่ยวข้อง 11 คนแล้ว
น่าเสียดายว่ากรณี นาฬิกาไฮเทค ที่เคยเป็นข่าวอื้อฉาวในอดีต ไม่สามารถดำเนินการกับผู้ที่ชักใยอยู่เบื้องหลังได้ ส่วนใหญ่ข้าราชการมักจะเป็นแพะรับบาป ไปตามระเบียบ
เรื่องของ ไมโครโฟนสุดแพง ในทำเนียบรัฐบาลก็เช่นกัน อธิบดีกรมโยธาธิการ มณฑล สุดประเสริฐ ออกมาชี้แจงว่า ไม่ได้แพง แถมยังประหยัดงบให้รัฐอีกเป็นจำนวนกว่า 10 ล้านบาท จากที่ตั้งงบประมาณในการปรับปรุงระบบเสียงและวีดิทัศน์ในห้องประชุม ครม.ไว้ถึง 50 กว่าล้านบาท
ส่วนในรายละเอียดมีการติดตั้งก่อนเซ็นสัญญา อยู่ในระหว่างการต่อรองราคา หรือคำถามอื่นๆที่ยังคาใจ ก็เป็นอีกเรื่อง ปัญหาก็คือว่า เรื่องนี้จะต้องมีผู้รับผิดชอบหรือไม่ หรือ สตง.จะเข้ามาสอบสวนหาข้อเท็จจริงอย่างไร หรือจะปล่อยให้เรื่องเงียบไปเฉยๆ
ในระหว่างนี้ อธิบดีกรมโยธาธิการ ได้จัดทำรายละเอียดพร้อมราคาของเครื่องเสียงและไมโครโฟน ส่งให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.การพัฒนาสังคมฯ รองหัวหน้า คสช. ในฐานะกำกับดูแลงานในสังกัดสำนักนายกฯ ได้พิจารณาแล้ว โดยจะรอการตัดสินใจของ พล.ต.อ.อดุลย์อีกครั้ง
ปัญหาทั้งหมด เป็นการฉายภาพให้เห็นถึง มาตรฐาน ของสังคมไทย โดยเฉพาะปัญหาปากท้อง ที่เป็น ปัญหาปากท้องชาวบ้าน กับ ปัญหาปากท้องของคนกลุ่มหนึ่ง ที่ไม่เคยมีความพอดีและรู้จักพอ.
เมื่อเร็วๆนี้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ได้ทำหนังสือลับมากถึง เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องผลการตรวจสอบ โครงการปรับปรุงระบบนาฬิกา สำหรับติดตั้งบริเวณภายในและโดยรอบอาคารรัฐสภา มูลค่าเกือบ 15 ล้านบาท โดย สตง.สรุปความผิดในโครงการและ ให้ดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งทางอาญา ทางแพ่ง และลงโทษทางวินัย ด้วย
ผู้ที่เกี่ยวข้องในที่นี้หมายถึง คณะกรรมการกำหนดรายละเอียดคุณลักษณะโครงการ หรือทีโออาร์ คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา ข้าราชการระดับเจ้าหน้าที่ ระดับรองเลขาธิการรัฐสภา รวมถึง อดีตเลขาธิการรัฐสภา ซึ่งสำนักงานเลขาธิการรัฐสภาได้ทำการรวบรวมข้อมูลต่างๆและสั่งให้นิติกร รัฐสภาแจ้งความเอาผิดทางอาญากับผู้เกี่ยวข้อง 11 คนแล้ว
น่าเสียดายว่ากรณี นาฬิกาไฮเทค ที่เคยเป็นข่าวอื้อฉาวในอดีต ไม่สามารถดำเนินการกับผู้ที่ชักใยอยู่เบื้องหลังได้ ส่วนใหญ่ข้าราชการมักจะเป็นแพะรับบาป ไปตามระเบียบ
เรื่องของ ไมโครโฟนสุดแพง ในทำเนียบรัฐบาลก็เช่นกัน อธิบดีกรมโยธาธิการ มณฑล สุดประเสริฐ ออกมาชี้แจงว่า ไม่ได้แพง แถมยังประหยัดงบให้รัฐอีกเป็นจำนวนกว่า 10 ล้านบาท จากที่ตั้งงบประมาณในการปรับปรุงระบบเสียงและวีดิทัศน์ในห้องประชุม ครม.ไว้ถึง 50 กว่าล้านบาท
ส่วนในรายละเอียดมีการติดตั้งก่อนเซ็นสัญญา อยู่ในระหว่างการต่อรองราคา หรือคำถามอื่นๆที่ยังคาใจ ก็เป็นอีกเรื่อง ปัญหาก็คือว่า เรื่องนี้จะต้องมีผู้รับผิดชอบหรือไม่ หรือ สตง.จะเข้ามาสอบสวนหาข้อเท็จจริงอย่างไร หรือจะปล่อยให้เรื่องเงียบไปเฉยๆ
ในระหว่างนี้ อธิบดีกรมโยธาธิการ ได้จัดทำรายละเอียดพร้อมราคาของเครื่องเสียงและไมโครโฟน ส่งให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.การพัฒนาสังคมฯ รองหัวหน้า คสช. ในฐานะกำกับดูแลงานในสังกัดสำนักนายกฯ ได้พิจารณาแล้ว โดยจะรอการตัดสินใจของ พล.ต.อ.อดุลย์อีกครั้ง
ปัญหาทั้งหมด เป็นการฉายภาพให้เห็นถึง มาตรฐาน ของสังคมไทย โดยเฉพาะปัญหาปากท้อง ที่เป็น ปัญหาปากท้องชาวบ้าน กับ ปัญหาปากท้องของคนกลุ่มหนึ่ง ที่ไม่เคยมีความพอดีและรู้จักพอ.
หมัดเหล็ก
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar