ภาพ : คัดสปช. - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. แถลงผลการประชุมคสช.พิจารณาคัดเลือก 250 สปช. ยืนยันได้ครบจำนวนแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายชื่อ ที่บ้านเกษะโกมล เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ข่าวสดออนไลน์
วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2557
บิ๊กตู่ชี้ตันละ8.5พัน ราคาข้าว คสช.ได้ครบแล้ว 250สปช.-อุบชื่อ ปปช.สบช่องฟัน ยื่นสนช.ถอด"ปู"
"บิ๊กตู่"นั่งหัวโต๊ะ ประชุมคสช.ชุดใหญ่ได้ตัวแล้ว 250 สมาชิกสปช.ส่งสำนักเลขาธิการครม.ตรวจสอบคุณสมบัติก่อนจะนำขึ้นทูลเกล้าฯใน วันที่ 2 ต.ค. ยังอุบชื่อว่ามีใครบ้าง แต่ยอมรับมีอดีตทหาร-ข้าราชการรวมอยู่ด้วย มั่นใจได้คนตรงกับ 11 ด้าน รวมถึงในส่วนของ 77 จังหวัดด้วย ออกรายการคืนความสุขพร้อมแก้ปัญหาราคายาง ยันไม่เคยพูดว่าจะจ้างให้เลิกปลูก ส่วนข้าวจะไม่ให้ต่ำกว่า 8.5 พันต่อตัน เตือนนักวิชาการอย่าอ้างสอนการเมือง ด้านป.ป.ช.สบช่องหลังสนช.ผ่านข้อบังคับส่งเรื่องถอดถอน"ปู"กรณีจำนำข้าว เร็วๆ นี้
บิ๊กตู่ปล่อยมุขคนอยากดูออกทีวีเวลา 09.00 น. วันที่ 26 ก.ย. ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเปิดสัมมนาและปาฐกถาพิเศษ เรื่อง"พัฒนาคนเพื่ออนาคตประเทศไทย" ในการประชุมประจำปีของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประจำปี 2557 มีคณะรัฐมนตรี สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หัวหน้าหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ภาคประชาสังคม เครือข่ายองค์กรชุมชนทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคร่วมงานกว่า 2,500 คน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การพูดครั้งนี้ตื่นเต้นเพราะมีคนจำนวนมาก ถ้าพูดแรงเกินไปเดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องขึ้นมา หากพูดอ่อนไปเดี๋ยวจะหาว่านุ่มนวลไปอีก ตนหวังเห็นอนาคตของประเทศพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งและต้องเป็นในลักษณะก้าว กระโดด เพราะมีแผนพัฒนา 11 ฉบับ ปีนี้เป็นปีที่ 12 ส่วนตัวมองว่ามันช้าไป เนื่องจากไม่ได้นำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม "ความจริงผมไม่ชอบพูดกับคนเยอะๆ เคยพูดแต่กับทหารด้วยกันไม่ต้องระวังตัวเท่าไร บางทีพูดเพราะบ้างไม่เพราะบ้างก็ต้องระวัง เย็นวันเดียวกันนี้ก็ต้องพูดในรายการคืนความสุขให้คนในชาติให้ประชาชนฟัง ก็กลัวว่าจะเบื่อ หลายคนถามว่าเมื่อไรจะเลิกรายการนี้สักที แต่อีกพวกก็บอกว่าไม่เป็นไร ละครดูทีหลัง อยากดูผบ.ทบ. มากกว่า ไม่รู้ว่าพูดจริงหรือไม่"
ชี้ประเทศมีปชต.แบบไทยๆ แล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าประเด็นสำคัญคือวันนี้แม้เราจะไม่เป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ ตนถือว่าสมบูรณ์เพราะมีทั้งรัฐธรรมนูญ รัฐมนตรีและครม. เพียงแต่อยู่ในช่วงสถาน การณ์ไม่ปกติเท่านั้น แต่เราอยู่คนเดียวไม่ได้ วันนี้โลกไร้พรมแดนจึงต้องสร้างสิ่งที่ดีให้สังคมโลกรู้ว่าเรากำลังทำอะไร "ขอความกรุณาสื่อมวลชนก็ต้องช่วยกันด้วย อย่ามัวมาทะเลาะกับผมทุกวันไม่ได้ประโยชน์ ผมเองก็หงุดหงิดเสียปัญญา เสียสมอง ผมยิ่งปัญญาน้อยๆ อยู่"
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า บางคนบอกว่ารัฐบาลใช้อำนาจเด็จขาดโดยไม่ฟัง เราฟังทุกวัน แต่เมื่อฟังก็ต้องตอบโต้กันไปมา เดี๋ยวก็ทะเลาะกัน แต่ตนก็อดทน บางครั้งก็ต้องเห็นใจว่าตนเป็นปุถุชนธรรมดา ตั้งใจทำอะไรเยอะแยะ หลายอย่างก็มีผลสัมฤทธิ์บ้าง บางอย่างกำลังทำอยู่ บางอย่างยังไม่เกิดอยู่ในแผนงาน แต่ท่านเหมาว่าทำไมทำไม่ได้ ถ้าเราไม่เริ่มทำแล้วใครจะทำ พูดมาเยอะก็เริ่มกดดัน เมื่อวานก็พูด 3-4 ชั่วโมง กลับบ้านคุยกับภรรยาไม่รู้เรื่อง หูอื้อ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การปฏิรูป 11 ด้าน รัฐบาลไม่สามารถปรับเปลี่ยนกฎกติกาได้ อำนาจเหล่านี้เป็นอำนาจในเชิงสร้างสรรค์ ที่ตนมีอยู่ทุกวันนี้ เป็นการใช้อำนาจเชิงสร้างสรรค์ ไม่เคยเอาไปทำร้ายใคร ไม่คิดปิดกั้นอะไร แต่ต้องการให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยจึงต้องใช้ ฉะนั้นเรื่องเหล่านี้อย่าเร่งรัดตนมากนัก อย่าเพิ่งเรียกร้องว่าเราต้องเป็นอิสระเสรี ประชาธิปไตยมากมายนัก วันนี้เราก็เป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ ไปก่อนแล้วกัน
อยากให้เรียก"คสช.-คุณสมชาย"
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การทำงานขณะนี้ต้องนำแผนงานไปสู่การปฏิบัติให้ได้ คสช.กับรัฐบาล จะประชุมร่วมกันในวันที่ 7 ต.ค. ว่าจะทำงานกันอย่างไร หัวหน้า คสช.จะสั่งนายกฯ อย่างไรก็งงเหมือนกัน เราให้ความเป็นธรรมทุกคน รู้ว่าใครบทบาทไหน ฉะนั้นอย่ากังวล คสช.เรียกให้มันดีๆ ซอฟต์ๆ ลงเรียก "คุณสมชาย"ก็ได้
นายกฯ กล่าวว่าการปฏิรูประบบโทร คมนาคม เทคโนโลยีของชาติกำลังทำอยู่ กำลังปฏิรูปให้ทันต่อการแข็งขันของโลก ที่มาทะเลาะกันอยู่เรื่องไม่เป็นเรื่อง จะจอดำ จอมืด จอขาว ตนไม่รู้ แล้วมาให้รัฐบาลหรือคสช.ไปตัดสิน มันไม่ได้ เรื่องนี้เดี๋ยวค่อยว่ากัน เดี๋ยวคอละครก็มาเล่นงาน และทำไมเราไม่สร้างละครให้ดีๆ โดยกระทรวงวัฒนธรรมกำลังทำอยู่ เป็นหนังรักประกอบท่องเที่ยว เป็นสองครอบครัวเที่ยวเมืองไทยมาเจอกัน ไม่เห็นต้องตบตีกันให้คนชินกับการทะเลาะเบาะแว้งสร้างความขัดแย้ง แต่ดูเพื่อความสนุกได้ พูดไปเดี๋ยวทะเลาะกับผู้จัดละครอีก และอยากให้คนอ่านหนังสือมากๆ ว่างเมื่อไรก็อ่าน ส่วนหนังสือพิมพ์ให้อ่านหน้ากลางๆ ที่มีเรื่องการพัฒนาประเทศ ส่วนด้านหน้ามีแต่เรื่องตีกัน ฆ่ากัน
ลั่นลุยแก้ยาง-ข้าวไม่ต่ำกว่า8.5พัน
ต่อ มาเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในรายการ"คืนความสุขให้คนในชาติ" ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ตอนหนึ่งว่ารัฐบาลสั่งการเร่งด่วนให้แต่ละกระทรวงตรวจสอบว่า มีโครง การใดบ้างที่ยังไม่ได้ดำเนินการและจะต้องปรับแผน หรือยังไม่ได้ทำสัญญาจ้างงาน เพื่อจะได้เร่งใช้งบลงทุนในปี 2557 ที่ยังเหลืออยู่กว่าแสนล้านบาทไปกระตุ้นให้เกิดการลงทุนและจ้างงานได้ทันที ภายใน 3 เดือนนี้ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจใน 3 เดือนที่เหลืออยู่ ส่งเสริมให้เกิดการสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนอีกทางหนึ่งด้วย นอกจากนี้ รัฐบาลจะเร่งทำสัญญาจ้างงานกับโครงการขนาดเล็กต่างๆ ให้ได้ภายในสิ้นปีและจะนำงบลงทุนในปีงบ ประมาณ 2558 ระยะแรกที่เตรียมไว้ 50,000 ล้านบาท มากระตุ้นให้เกิดการจ้างงานในท้องถิ่นและสร้างรายได้อย่างทั่วถึง ขณะเดียวกันจะเร่งตรวจสอบงบประมาณและวงเงินกู้ต่างๆ นำงบที่ยังไม่ได้ใช้อีก 20,000 ล้านบาท มาลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคที่ประชาชนต้องการ
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนการแก้ปัญหาราคายางพารา รัฐบาลพยายามเดินหน้าแก้ไขในทุกมิติ ทุกฝ่ายทั้งเกษตรกรชาวสวนยางต้องช่วยกัน ลดอุปสงค์อุปทาน รักษาระดับปริมาณยางทั้งในประเทศและการค้าขายกับต่างประเทศให้ได้ กำหนดราคาให้ได้ ต้องไปสู่โซนนิ่งในอนาคต ที่มีการพูดว่าจะมีการจ้างให้เลิกปลูกยาง ตนไม่เคยพูดอย่างนั้น เดี๋ยวจะเข้าใจกันผิด เพียงแต่ใครอยากจะเปลี่ยนเป็น อาชีพอื่น รัฐบาลก็จะหาทางสนับสนุนให้ ใครจะนำเงินไปจ้างใครให้เลิกทำอาชีพ เป็นไปไม่ได้ อย่างมากมาเยียวยาหรือสนับสนุนให้ไปทำใหม่ ทำอย่างอื่นแทน แต่ขึ้นอยู่กับท่าน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนการแก้ปัญหาราคาข้าวนั้น รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งให้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวนาในจังหวัดต่างๆ ซึ่งรัฐบาลจริงใจต้องการผลักดันให้ราคาข้าวเปลือกสูงขึ้น กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าว่าราคาข้าวเปลือกเจ้า 5% จะต้องมีราคาให้ใกล้เคียงตันละ 8,500 บาท และจะระบายข้าวในสต๊อก เน้นการส่งออกไปต่างประเทศ และขอให้ชาวนามั่นใจว่ารัฐบาลจะมีการวางแผนการระบายข้าว ไม่ให้กระทบต่อราคาข้าวที่ควรจะเป็น
เตือนนักวิชาการอย่าอ้างแต่ปชต.
นายกฯ กล่าวว่าจะสอนเรื่องการเมืองต่างๆ ก็อย่าให้เกิดความวุ่นวาย คัดค้าน เลือกข้าง โต้แย้งกับรัฐบาลในทำนองนี้ เรากำลังปฏิรูปประเทศเพื่อไม่ให้มีทุจริต โกงกิน เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ทั่วถึงและเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ใช่เลือกตั้งอย่างเดียวแล้วได้นักการเมืองที่ไม่มีคุณภาพเข้ามาบริหาร ประเทศ อย่างนี้ไม่ใช่ เราถึงต้องทำวันนี้
"สำหรับอาจารย์หลายสิบคน ผมคิดว่าน่าจะเข้าใจที่พูด ถ้าไม่มีอคติเป็นอย่างอื่น มาอ้างเรื่องความเป็นประชาธิปไตยบ้าง ต้องการสอนการเมืองบ้าง บอกว่าไม่สอนบ้านเมืองแล้วคนจะเรียนการเมืองอย่างไร ก็มีวิธีสอนตั้งหลายหมื่นหลายแสนวิธี ที่จะเข้าใจเรื่องการเมืองที่ถูกต้องเป็นอย่างไร ทำไมไม่สอนว่าการเมือง นักการเมือง ต้องทำตัวอย่างไร ประชาชนต้องเลือกอย่างไร การเป็นประชานิยมที่สร้างปัญหาเป็นอย่างไร ได้สอนอย่างนั้นบ้างหรือไม่ ผมไม่เคยเห็นออกมาพูดเรื่องเหล่านี้ พูดแต่ว่าจะต้องเลือกตั้ง ต้องเป็นประชาธิปไตย แล้วความขัดแย้งที่ผ่านมาก็ไม่ได้มาแก้ปัญหาให้เราให้คนทั้งประเทศ ฉะนั้น หยุดสักที ไปหาวิธีสอนอย่างอื่น ไปสอนลูกศิษย์มาอีกวิธีหนึ่ง ไม่ใช่ว่าสถาบันนี้ต้องสอนเรื่องการเมือง ต้องเด่นดังการเมืองอย่างเดียว ไม่ใช่ ผมว่าสอนอย่างไรให้คนประกอบอาชีพได้ สอนให้เป็นคนดี ให้มีงานทำ ไปหาวิธีการอย่างโน้น ถ้าสอนให้เป็นการเมืองอย่างเดียวแล้วตีกัน ผมว่าเหนื่อยเปล่า ไม่รู้จะสอนไปทำไม" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
โวยสื่อขยายคำพูดเป็นเจตนาร้าย
นายกฯ กล่าวว่า สื่อต้องระวังการขยายความขัดแย้ง ขยายคำพูดที่ตนไม่มีเจตนาร้ายไปสู่เจตนาร้าย และบางครั้งสื่อต่างประเทศก็นำคำพูดของสื่อไทยไปเขียนว่าคนไทยเขียนว่าคนไทย เหมือนเราชี้โพรงให้กระรอก ถ้าผิดจริง ถ้าไม่ดีจริง ตนไม่ได้ปิดกั้น แต่ถ้าไม่ใช่แล้วสื่อพูด มันเสียหาย เสียหายกับองค์กร ประเทศชาติ ความเชื่อมั่นเขาก็ลดลง ทั้งที่สื่อก็ไม่ได้เจตนา ซึ่งตนรู้ว่าเป็นห่วงประเทศชาติเหมือนกัน สื่อเตือนตนก็รับฟัง แต่พอตนเตือนบ้างก็ไม่ฟัง อย่างนี้ไม่ใช่ ต้องช่วยกัน ซึ่งตนโกรธสื่อไม่ได้ สื่อก็โกรธตนไม่ได้เหมือนกัน วันนี้เราเข้ามาด้วยวิถีทางของเราแบบนี้ สื่อจะจี้ตรงนี้ตรงโน้นอยู่ตลอดเวลา แล้วมันได้อะไรขึ้นมา มีอะไรดีขึ้นมาหรือไม่
"ขอร้องอีกครั้งให้เสนอข่าวตรงตามข้อเท็จ จริง อะไรที่เสียหายกับประเทศก็เพลาๆ บ้าง หยุด เสนอเสร็จแล้วก็จบ เรื่องอื่นๆ ก็เป็นเรื่องสอบสวนสืบสวน พอสืบสวนสอบสวนก็ไปว่าเจ้าหน้าที่ไม่ดี ทุจริต ทำไม่เรียบร้อย ไม่มีฝีมือ พูดอย่างนี้ มันขยายความขัดแย้ง ต่างชาติเขาบอกในประเทศยังไม่รับกันเลยแล้วต่างประเทศจะรับทำไม ฉะนั้นต่างประเทศอย่ามาเที่ยวประเทศไทย แล้วมาโทษผมว่ารัฐบาลทำให้การท่องเที่ยวลดลง ต้องร่วมมือกันทั้งสองส่วน ผมพยายามทำสร้างความเข้าใจกับต่างประเทศ ซึ่งเขาให้เกียรติอยู่ทุกประเทศ ตอนนี้กลายเป็นเราไม่ให้เกียรติกันเอง ผมว่าไม่ใช่ เป็นส่วนน้อย ส่วนใหญ่ดีอยู่แล้ว ผมชมเชย มีส่วนน้อยบางสื่อบางสำนัก เรารู้อยู่ว่าเป็นอย่างไร สนับสนุนฝ่ายใดอยู่ ผมว่าวันนี้เราอย่ามีฝ่ายเลยได้หรือไม่ วันนี้เอาประเทศไทย เอาคนไทย ที่มีรายได้น้อยไม่ดีกว่าหรือ เราจะได้แก้ปัญหาให้ได้" นายกฯ กล่าว
รัฐบาลนี้จะไปต่างประเทศให้น้อย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการเดินทางเยือนต่างประเทศว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจ ตนต้องใช้วิจารณญาณที่เหมาะสม พิจารณาข้อมูลจากกระทรวง ทบวง กรมที่เกี่ยวข้องว่าไปเยือนใครก่อน-หลัง มีผลดีผลเสียอย่างไร เกิดประโยชน์กับประเทศอย่างไร แล้วค่อยตัดสินใจอีกครั้ง ต้องตอบโจทย์ให้ได้ว่าเราไปแล้วคนไทยจะได้อะไรขึ้นมา เราอาจมีเวลาไปเดินสายเยี่ยมเยียนทุกประเทศบ่อยๆ คงเป็นไปไม่ได้มากนัก ซึ่งไม่ได้เป็นห่วงเพราะอย่างอื่น การไปก็ดีแต่ถ้าไปเวลาก็น้อยลง ขออยู่ในประเทศให้มาก เยี่ยมเยียนคนในทุกจังหวัด ให้ได้ ทุกภาคให้ได้ก่อน ฉะนั้นไปต้องได้ประโยชน์ แล้วต้องคุ้มค่ากับเงินภาษีของประชาชน
นายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้มีหลายประเทศส่งคำเชิญให้ไปเยือน ซึ่งคิดว่าประเทศต่างๆ เข้าใจเรามากขึ้นกว่าเดิมมาก ฉะนั้นตนและครม.ชุดนี้จะไปเยือนต่างประเทศให้น้อยที่สุด ไปตามความจำเป็น เราจะใช้จ่ายงบประมาณให้น้อยที่สุด ไม่สิ้นเปลือง ให้ได้ประโยชน์ ไม่ได้ประโยชน์ก็ไม่ไป จะทำอย่างไรค่อยว่ากันอีกครั้งหนึ่ง
"การ กระทบกระทั่งผมว่าอยากให้ลดลง ต่างฝ่ายต่างลดกัน ผมก็ยอม จะให้ลดอะไรลง ผมก็ลดลง อะไรที่ยังลดไม่ได้ก็ไม่ได้ คงเข้าใจ ผมอยากได้แรงใจจากคนทั้งประเทศ ในการนำประเทศชาติให้มีความสุขอย่างถาวร เหมือนอดีตที่ผ่านมานานแล้ว เคยมีความสุขกันมากๆ ฉะนั้นต่อไปต้องมีความสุขมากๆ กว่าอดีต ประวัติศาสตร์คือปัจจุบันและอนาคต ฉะนั้นประวัติศาสตร์อะไรที่ไม่ดีอย่าให้เกิดขึ้นอีก นำสิ่งที่ดีๆ มา แล้วทำให้ดีขึ้นไปอีก จะเป็นประวัติศาสตร์ที่ดีวันนี้ต่อไปวันข้างหน้า" นายกฯ กล่าว
คสช.ประชุมคัดเลือก 250 สปช.
เมื่อ เวลา 13.30 น. ที่บ้านพักรับรองเกษะโกมล พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานประชุมคสช.ชุดใหญ่ครั้งแรก หลังจากมีคำสั่งแต่งตั้งปรับโครงสร้างคณะทำงานใหม่เป็น 15 คน มีวาระเพื่อพิจารณาคัดเลือกสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ทั้ง 250 คน ทั้งนี้ มีรองหัวหน้าคสช. ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการและผบ.ทร. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว. คมนาคมและผบ.ทอ. พล.ต.อ.อดุลย์ แสง สิงแก้ว รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)
พร้อม ทั้งสมาชิกคสช. ได้แก่ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล เสนาธิการทหาร พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร รองผบ.สส. พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผบ.ทบ. พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้ช่วยผบ.ทร. พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง เสนาธิการทหารอากาศ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร. นายมีชัย ฤชุพันธุ์ และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รวมถึงพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช. เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ขาดเพียงพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯและรมว.ต่างประเทศ ในฐานะรองหัวหน้าคสช. เนื่องจากติดภารกิจไปประชุมที่สหรัฐ ท่ามกลางมาตรการระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยจัดพื้นที่ให้สื่อมวลชนบันทึกภาพได้บริเวณฝั่งตรงข้ามบ้านพักรับรองเกษะ โกมลเท่านั้น เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่ก็ปิดประตูทางเข้าออกด้านหน้าทันที
เผยได้ครบ-เยียวยาคนที่หลุดไป
เมื่อ เวลา 15.00 น. พล.อ.ประยุทธ์แถลงภายหลังการประชุมคสช.คณะใหญ่ครั้งที่ 1 ว่า เป็นการประชุมเพื่อหามติรับรองรายชื่อ สปช. ที่ได้รับการคัดสรรมาครั้งที่ 1 มี 2 กลุ่ม กลุ่มแรกจากคณะกรรมการสรรหา 11 ด้าน 550 คน และกลุ่มที่ 2 มี 385 คนจากระดับจังหวัด ซึ่งทั้งสองกลุ่มคัดสรรมาอย่างดี ทำงานหลายขั้นตอน เมื่อทั้ง 2 ส่วนถึงตนก็ดูอย่างละเอียด ดูด้วยตัวเอง และทำการบ้านกับคสช.มาแล้ว และวันนี้นำรายชื่อทั้งหมดมาให้คณะกรรมการคสช.ดู ถ้าเห็นชอบร่วมกันก็ถือว่าอนุมัติในหลักการทั้ง 250 คน แต่ตนก็กังวลว่าที่หลุดไปจาก 250 คนจะทำอย่างไร กำลังหาช่องทางอยู่ โดยจะให้กระทรวงกลาโหม ที่มีคณะทำงานเตรียมการปฏิรูป สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ของ คสช.ตั้งต่อไป เป็นสำนักงานที่ปรึกษา มาจัดกลุ่มดูว่าจะช่วยกันได้อย่างไร
ยอมรับมีทหาร-ขรก.เก่ารวมอยู่
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราได้รายชื่อมาครบแล้ว 250 คน ขอเป็นความลับก่อน เพราะต้องตรวจสอบคุณสมบัติ ความถูกต้องอีกครั้งโดยสำนักงานเลขาธิการครม. ก่อนทูลเกล้าทูลกระหม่อม เมื่อทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมมาแล้วจะทำงานในสภาปฏิรูป เข้าไปทำหน้าที่ในสภาเลือกประธาน รองประธาน จากนั้นจะจัดกลุ่มใหม่อีกครั้ง เพราะที่เราคัดมาแล้ว มีบางกลุ่มมาก บางกลุ่มน้อย แต่เมื่อดูแล้วทั้งหมดมีความเหมาะสมจะเข้ามาในสภาปฏิรูป ฉะนั้นค่อยไปปรับใหม่ทั้งหมดเป็น 11 กลุ่มเหมือนเดิม
นายกฯ กล่าวว่า การสรรหาสปช. เป็นเรื่องของคสช.ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ขั้นตอนต่อไปเป็นในเรื่องธุรการให้เลขาธิการครม.ดำเนินการให้ทันวันที่ 2 ต.ค.นี้ ส่วนทั้ง 250 คนนั้น มีทั้งตัวแทนนักวิชาการ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ขอให้มองในแง่ดี เข้ามาเพื่อให้บ้านเมืองไปได้
เมื่อ ถามว่า 250 คนเป็นคนที่เคยช่วยงานคสช.มาก่อนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่ได้รู้จักหมดทุกคน บางคนเป็นทหารเก่า ข้าราชการเก่า ผู้แทนกลุ่มต่างๆ นักวิชาการมาก ตนไม่รู้จักหมด รู้จักแค่ 10 เปอร์เซ็นต์แต่ไม่ได้รู้จักส่วนตัว เพราะไม่ได้ห้ามใคร ถ้าเขาไม่ผ่าน 550 หรือ 385 คน จะมาว่าคสช.ไม่ได้ เพราะไม่ได้ผ่านคณะกรรมการคัดสรรหรือคณะกรรมการระดับจังหวัดขึ้นมา
เผยกำลังพิจารณาเลิกอัยการศึก
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการประชุมร่วม ครม.กับคสช.ว่า จะมีขึ้นในวันที่ 7 ต.ค.เพื่อทำความเข้าใจการทำงาน โดยหารือว่าที่ผ่านมาติดขัดตรงไหน จะสานต่อนโยบายคสช. กับการทำงานของครม. มีอะไรที่ยังขัดแย้งหรือมีปัญหาอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะการติดต่อประสานงาน ไม่ใช่การทะเลาะกัน ยืนยันว่าจะยังไม่นำประเด็นการประกาศยกเลิกใช้พ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 มาหารือ แต่หากจะยกเลิกต้องหารือร่วมกันอย่างแน่นอน และต้องผ่านความเห็นชอบจากครม. เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมต่อไป
"ตอน นี้พิจารณาอยู่ในสมองของผม การประชุมร่วมครม.และคสช.กำหนดไว้เดือนละ 1 ครั้ง ยกเว้นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง หรือวาระสำคัญที่ต้องขับเคลื่อนด้วยกัน ผมต้องการให้รัฐบาลทำงานอิสระ คสช.มีทำหน้าที่แค่ติดตาม แต่คสช.ต้องรู้ข้อมูลด้วย เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ ส่วนกำลังทหารยังอยู่ในพื้นที่ทั้งหมด ไม่ได้ไปกดดันใคร แต่ไปเพื่อสืบทราบปัญหานำข้อมูลมารายงานกับรัฐบาลด้วย ขอให้ทุกคนมองด้วยเจตนาที่ดีต่อกัน ผมไม่จำเป็นต้องไปล็อกใครเข้ามา อย่างไรก็ตามไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่าจะยกเลิกพื้นที่ใดก่อน เพราะขณะนี้กำลังพิจารณา" นายกฯ กล่าว
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar