วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558
เข้าใจความเลวร้ายของร่างรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช.อย่างง่าย
หัวใจหลักอยู่ที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ที่อยู่ใต้กษัตริย์แต่อยู่เหนือรัฐบาลและประชาชนที่สื่อมวลชนขนานนามว่า"คณะโปลิตบูโร"แบบระบอบคอมมิวนิสต์แต่ของไทยน่าจะเรียกว่า"คิงมิวนิสต์" เพราะเป็นคณะผู้มีอำนาจสูงสุดที่ขึ้นต่อกษัตริย์มีอำนาจล้นฟ้าและเป็นอันตรายต่อคนไทยอย่างไร?โปรดติดตาม
คุยกับนักกฎหมายหลายคนให้ความเห็นถึงอันตรายและอภิมหาอำนาจของคณะกรรมการ ฯ ที่ขอเรียกง่าย ๆ สั้น ๆ ว่า โปลิตบิวโร ชุดนี้ในขั้นต้น มาดูกันเป็นข้อ ๆ นะครับ
ที่มาของกลุ่มโปลิตบิวโร
ร่าง รธน. ม. 260 ให้มี คณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ 22 คน ประกอบไปด้วย
ประธานรัฐสภา , ประธานวุฒิสภา , นายกรัฐมนตรี , ผบ.สส , ผบ.ทบ, ผบ.ทร. , ผบ.ทอ. , ผบ.ตร. อดีตประธานรัฐสภา , อดีตนายกรัฐมนตรี , อดีตประธานศาลฎีกา และอีก 11 คนแต่งตั้งโดยมติรัฐสภา ที่ปัจจุบันคือสภาของเผด็จการทหารอยู่แล้ว
แถมเมื่อตอนที่ตั้งขึ้นนี้ คณะกรรมการฯ ส่วนใหญ่ที่จะตั้งขึ้นมา ล้วนเป็นคนที่สืบเนื่องจาก คสช. ทั้งสิ้น เพราะสภาตอนนี้ก็ยังเป็นสภาของมัน แล้วยังระบุว่าหาก กก.ยุทธศาสตร์ฯ เสนอมาตรการหรือแนวทางแล้วรัฐบาลไม่สามารถดำเนินการได้ ก็ให้ชี้แจง กก.ยุทธศาสตร์ฯ และหาก กก.ยุทธศาสตร์ฯ เสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ยังยืนยันตามมาตรการที่เสนอไป รัฐบาลจะต้องปฎิบัติตาม
ไม่เช่นนั้นจะ ถือเป็นการฝ่าฝืนได้และรัฐบาล จะต้องถูกดำเนินคดีโดยคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ใน ม. 262
ครม.มีสิทธิเข้าคุกนะครับ ถ้าไม่ทำตามคำสั่งพวกนี้
มีอำนาจปลดนายกรัฐมนตรีได้ด้วย
ใน ม. 262 กำหนดให้มี สภาดำเนินการปฎิรูปและสร้างความปรองดอง ซึ่งทำให้นอกจาก กก.ยุทธศาสตร์ฯ มีอำนาจสั่งรัฐบาลทำอะไรก็ได้ ยังมีองค์กรที่รองรับในคำสั่งนั้นอีกด้วย โดย กก.ยุทธศาสตร์ ฯ จะสามารถแต่งตั้งเพิ่มสมาชิกของสภา ฯ นี้ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ใน ม. 280 ยังให้ ประธาน กก.ยุทธศาสตร์ ฯ โดยความเห็นชอบของกรรมการ 2 ใน 3 มีอำนาจสั่งการ ระงับ ยับยั้ง หรือกระทำการใดๆ ได้ ไม่ว่าการกระทำนั้นจะมีผลบังคับในทางนิติบัญญัติหรือในทางบริหารและให้ถือว่าคำสั่งเป็นที่สุด แสดงว่ากรรมการชุดนี้มีอำนาจในการตรากฎหมาย และปลดนายกรัฐมนตรีได้ด้วย
มีอำนาจยาวนานโดยไม่มีวาระสิ้นสุด
ไม่มีการกำหนดวาระของทั้ง กก.ยุทธศาสตร์ ฯ และสภาดำเนินการปฎิรูป ฯ นี้ไว้เลย เพียงแต่ว่าครบ 5 ปีแล้ว กก.ยุทธศาสตร์ฯ จะไม่สามารถใช้อำนาจทางนิติบัญญัติได้ตามมาตรา 280 เท่านั้น แต่ก็ยังสามารถใช้อำนาจตามมาตรา 262 ในการเสนอนโยบายไปยังรัฐบาลและบังคับให้รัฐบาลทำตามนโยบายของตนได้เรื่อย ๆ แถมเป็นเรื่องยากที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะในร่าง รธน.นี้ ระบุถึงการข้อห้ามการแก้ไขไว้ว่า หากแก้แล้วไม่เป็นประชาธิปไตย และห้ามแก้ในรูปแบบของของรัฐธรรมนูญ ดังนั้นหากจะแก้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากทุกภาคส่วน ซึ่งประกอบด้วยกรรมการยุทธศาสตร์ชุดนี้ด้วยนั่นเอง
ร่างกันออกมาเพื่อสืบทอดอำนาจกันอย่าง “บัดซบ” และเป็นอันตรายต่อคนไทยที่รักประชาธิปไตยกันขนาดนี้ ยังเสือกออกมาข่มขู่ห้ามคนไทยวิพากษ์วิจารณ์อีก แม่งขยะสมชื่อจริง ๆ
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar