หะยีดาโอ๊ะ ท่าน้ำ: ผมไม่ได้ต้องการอะไร ต้องการแค่ความยุติธรรมเท่านั้น (1)
บ้านไม้หลังเล็กนั้นดูเรียบง่าย มีโต๊ะและเก้าอี้พลาสติกไม่กี่ตัววางอยู่หน้าบ้าน บนผนังด้านหลังติดพัดลมหนึ่งตัวบรรเทาความร้อนที่อบอ้าว ที่ว่างข้างบ้านมีกรงนกแขวนไว้หนึ่งกรง นี่คือบ้านที่หะยีดาโอ๊ะ ท่าน้ำ หรือหะยีดาโอ๊ะ มะเซ็ง กลับไปหาหลังจากที่เขาจากไปถึง 18 ปีเพื่อรับโทษในเรือนจำในฐานะ “กบฎ”
ชายวัยเกือบหกสิบปีรูปร่างสันทัด ท่าทางสมถะและค่อนข้างขรึมคนนี้ คือคนที่หลายคนบอกว่า เขาคือนักสู้คนสำคัญของพูโล ใ...คลิกอ่านต่อ- Läs mer
บ้านไม้หลังเล็กนั้นดูเรียบง่าย มีโต๊ะและเก้าอี้พลาสติกไม่กี่ตัววางอยู่หน้าบ้าน บนผนังด้านหลังติดพัดลมหนึ่งตัวบรรเทาความร้อนที่อบอ้าว ที่ว่างข้างบ้านมีกรงนกแขวนไว้หนึ่งกรง นี่คือบ้านที่หะยีดาโอ๊ะ ท่าน้ำ หรือหะยีดาโอ๊ะ มะเซ็ง กลับไปหาหลังจากที่เขาจากไปถึง 18 ปีเพื่อรับโทษในเรือนจำในฐานะ “กบฎ”
ชายวัยเกือบหกสิบปีรูปร่างสันทัด ท่าทางสมถะและค่อนข้างขรึมคนนี้ คือคนที่หลายคนบอกว่า เขาคือนักสู้คนสำคัญของพูโล ใ...คลิกอ่านต่อ- Läs mer
หะยีดาโอ๊ะ ท่าน้ำ: ผมไม่ได้ต้องการอะไร ต้องการแค่ความยุติธรรมเท่านั้น (2)
เสาร์ที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ทางการไทยปล่อยตัวอดีตสมาชิกคนสำคัญของพูโลคือหะยีดาโอ๊ะ ท่าน้ำ จากเรือนจำปัตตานีหลังรับโทษ 18 ปี หะยีดาโอ๊ะให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยกล่าวถึงเรื่องราวในอดีตก่อนจะจับอาวุธขึ้นต่อสู้ เริ่มจากการเป็นเด็กหนุ่มที่เข้าร่วมการชุมนุมประท้วงหลังเหตุการณ์ “ห้าศพสะพานกอตอ” การหลบหนีจากบรรยากาศปราบหนักสู่ตะวันออกกลาง ได้ทุนเรียนหนังสือจากขบวนการพูโลจนกระทั่งกลับบ้านเกิดอีกครั้ง แต่ต้องเผชิญสภาพไม...คลิกอ่านเพิ่ม-Läs mer
เสาร์ที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ทางการไทยปล่อยตัวอดีตสมาชิกคนสำคัญของพูโลคือหะยีดาโอ๊ะ ท่าน้ำ จากเรือนจำปัตตานีหลังรับโทษ 18 ปี หะยีดาโอ๊ะให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยกล่าวถึงเรื่องราวในอดีตก่อนจะจับอาวุธขึ้นต่อสู้ เริ่มจากการเป็นเด็กหนุ่มที่เข้าร่วมการชุมนุมประท้วงหลังเหตุการณ์ “ห้าศพสะพานกอตอ” การหลบหนีจากบรรยากาศปราบหนักสู่ตะวันออกกลาง ได้ทุนเรียนหนังสือจากขบวนการพูโลจนกระทั่งกลับบ้านเกิดอีกครั้ง แต่ต้องเผชิญสภาพไม...คลิกอ่านเพิ่ม-Läs mer
ฮิวแมนไรท์วอทช์ออกแถลงการณ์ เรียกร้องที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติกดดันประยุทธ์เรื่องละเมิดสิทธิมนุษยชน
นายแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียของฮิวแมนไรท์วอทช์ระบุในแถลงการณ์ เรียกร้องให้ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ กดดันพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชนและเร่งคืนอำนาจให้รัฐบาลพลเรือนที่เป็นประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด ในโอกาสที่พล.อ.ประยุทธ์จะขึ้นกล่าวต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่ฯ ที่นครนิวยอร์ค ในว...ันที่ 29 กันยายนนี้
ฮิวแมนไรท์วอชท์ยังเตือนว่า แม้รัฐบาลทหารของไทยจะแสดงออกว่ายินดีให้ความร่วมมือกับสหประชาชาติ และต้องการสมัครเป็นสมาชิกแบบไม่ถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แต่รัฐบาลทหารก็มักอ้างเงื่อนไขพิเศษของไทยในการละเมิดสิทธิมนุษยชนอยู่เสมอ
ฮิวแมนไรท์วอทช์ได้ขอให้ผู้นำชาติต่างๆ ยกประเด็นเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนขึ้นกล่าวกับพล.อ.ประยุทธ์อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งจะเป็นทางหนึ่งที่ช่วยให้ไทยกลับสู่เส้นทางประชาธิปไตยได้
นอกจากนี้ เว็บไซต์ของฮิวแมนไรท์วอทช์ ยังได้เผยแพร่รายงานทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในไทย ซึ่งจัดทำทุก 5 ปี เพื่อนำเสนอต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ โดยรายงานครอบคลุมประเด็นต่างๆ คือ 1.อำนาจที่กว้างขวางและไร้การตรวจสอบของรัฐบาล คสช. 2.การเซ็นเซอร์และห้ามใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การรวมตัวและชุมนุมอย่างสันติ 3. การกักกันในที่ลับและโดยพลการ และการใช้ศาลทหาร 3.การปราศจากความรับผิดต่อเหตุความรุนแรงที่เกิดจากแรงจูงใจทางการเมือง 4. ความรุนแรงและการละเมิดสิทธิในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 5. การบังคับให้บุคคลสูญหาย 6.กรณีผู้ลี้ภัยและแรงงานอพยพ 7.กรณีนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนถูกคุกคาม 8. การละเมิดสิทธิในสงครามปราบปรามยาเสพติด
ด้านพล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจที่จะเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในครั้งนี้ เพื่อย้ำเจตนารมณ์ทางการเมืองของไทยว่า ไม่ว่าปัจจุบันสถานการณ์การเมืองไทยจะเป็นอย่างไร ไทยยังคงเป็นสมาชิกที่เข้มแข็งและพร้อมที่จะร่วมมือกับสหประชาชาติเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน และทุกประเทศในโลกได้รับประโยชน์จากการพัฒนาร่วมกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง
ฮิวแมนไรท์วอทช์ได้ขอให้ผู้นำชาติต่างๆ ยกประเด็นเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนขึ้นกล่าวกับพล.อ.ประยุทธ์อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งจะเป็นทางหนึ่งที่ช่วยให้ไทยกลับสู่เส้นทางประชาธิปไตยได้
นอกจากนี้ เว็บไซต์ของฮิวแมนไรท์วอทช์ ยังได้เผยแพร่รายงานทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในไทย ซึ่งจัดทำทุก 5 ปี เพื่อนำเสนอต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ โดยรายงานครอบคลุมประเด็นต่างๆ คือ 1.อำนาจที่กว้างขวางและไร้การตรวจสอบของรัฐบาล คสช. 2.การเซ็นเซอร์และห้ามใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การรวมตัวและชุมนุมอย่างสันติ 3. การกักกันในที่ลับและโดยพลการ และการใช้ศาลทหาร 3.การปราศจากความรับผิดต่อเหตุความรุนแรงที่เกิดจากแรงจูงใจทางการเมือง 4. ความรุนแรงและการละเมิดสิทธิในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 5. การบังคับให้บุคคลสูญหาย 6.กรณีผู้ลี้ภัยและแรงงานอพยพ 7.กรณีนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนถูกคุกคาม 8. การละเมิดสิทธิในสงครามปราบปรามยาเสพติด
ด้านพล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจที่จะเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในครั้งนี้ เพื่อย้ำเจตนารมณ์ทางการเมืองของไทยว่า ไม่ว่าปัจจุบันสถานการณ์การเมืองไทยจะเป็นอย่างไร ไทยยังคงเป็นสมาชิกที่เข้มแข็งและพร้อมที่จะร่วมมือกับสหประชาชาติเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน และทุกประเทศในโลกได้รับประโยชน์จากการพัฒนาร่วมกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง
คลิกอ่าน-Visa mer
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar