Thai E-News
“Beyond เสลี่ยง มหาวิทยาลัยระดับโลกคิดอะไร” เนเน่อวดป้ายคนได้รางวัลโนเบล
เม้าท์กันต่อระหว่างรอวันที่ ๓๑ ตุลา รายการใหญ่ ‘ราษฏรประสงค์ยกเลิก ๑๑๒’ ทั้งปราศรัยและล่ารายชื่อให้เกินหมื่น ยื่น “ขอให้มีการยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ และกฎหมายหมิ่นสถาบันฯ ทุกฉบับ” เรื่องเม้าท์ก็ไม่พ้น ‘พระเกี้ยว’
ถึงวันนี้ ยังจับตาจ้องดูว่าจะมีใครไปฟ้อง ‘เนเน่’ และ/หรือ ผู้บริหารสโมสรนิสิตจุฬาฯ ทั้ง ๒๙ คน ในข้อหาดูหมิ่นกษัตริย์ในอดีต (ฐานที่เป็นหัวเชื้อของกษัตริย์ปัจจุบัน) กันหรือยัง ที่บังอาจยกเลิกขบวนแห่แบกพระเกี้ยว ในพาเหรดบอลประเพณี
ดูเหมือนว่ามันจะเข้าล็อคพวกคลั่งไคล้ ‘สถาบันฯ’ ได้โอกาสล่าแม่มด ด้วย ม.๑๑๒ “ที่เป็นเงื่อนไขให้ผู้เคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยต้องถูกคุมขังในเรือนจำขณะนี้” ตามสถิติผู้ต้องหาจากการชุมนุมทางการเมือง อย่างน้อย ๑๕๑ คน
ขณะเขียนนี่เห็นมีแต่การขู่ เช่น ถ้าปีนี้ไม่มีเสลี่ยงแห่ “งั้นสถานประกอบการ (ที่เป็นศิษย์เก่า) ก็จะรวมตัวกันไม่รับนักศึกษาที่จะจบ เข้าทำงาน” หรือออกอาการจะเป็นจะตาย อย่าง ‘หมาแก่’ รายการอินไซ้ด์ไทยแลนด์ บอก
“ระเบิดลงกลางหัวใจชาวจุฬาฯ เกินกว่าคำว่า ดราม่า (หมาแก่เข้าจุฬาฯ ปี ๑๖)” ส่วน ML Yugala ออกดราม่ามากหน่อยตามประสาชายชรา ถึงขนาดว่า “สถาบันฯ อาจจะถูกทำลาย โดยกลุ่มคนไม่กี่คนได้” ถ้าใช้คนน้อยแสดงว่าหอกข้างแคร่ หรือหนอนบ่อนไส้oน่ะสิ
“แต่จะไม่พ่ายแพ้” แหม่ลุ้ง ไอ้ถูกทำลายนี่มันหนักกว่าพ่ายแพ้หลายตลบนะ (ไม่แน่ใจว่า จุลเจิม เป็นศิษย์เก่าหรือเปล่า หรือพูดในฐานะข้าราชบริพารโดยรวม) ส่วนรัฐมนตรีดิจิทัล นั่นเลือดสีชมพู “อยู่ในกายเจ้า” ว่าการอัญเชิญพระเกี้ยว “อยู่เป็นคู่ขวัญ”
ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ อดีตหัวหน้านิสิตวิศวฯ โพสต์ว่า “มีความสุขและดีใจที่ได้ร่วมงาน...แม้ว่าจะเป็นคนแบกเสลี่ยง” เนติวิทย์ โชติพัฒน์ไพศาล ก็เลยบอกถ้างั้นเชิญรัฐมนตรีไปแบกเอง อีกคนเลือดชมพูข้นเหมือนกัน อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง
วัฒนา เมืองสุข กระโจนเข้าร่วมวงดราม่าด้วย ทวี้ตว่าการแข่งขันบอลประเพณีเป็นกิจกรรมของสมาคมศิษย์เก่าทั้งสองมหาวิทยาลัย อบจ.เป็นเพียงคณะทำงาน “อบจ. ไม่มีสิทธิห้ามใครใช้พระเกี้ยวเพราะพระเกี้ยวไม่ได้เป็นสมบัติของ อบจ.”
โหย สื่อสายเสี้ยม ผู้จัดการ คมชัดลึก แนวหน้า ไทยโพสต์ สยามรัฐ เอาไปตีไข่ใส่ข่าวกันอึกทึก แต่สำหรับบนหน้าทวิตเตอร์ มีไปตอบวัฒนากันคึกคักเช่นกัน “ถ้าสมาคมฯ รับไม่ได้ก็สามารถหาคนมาจัดงานบอลฯ เองได้ แต่หานิสิตจุฬามาทำเสลี่ยงคงยากหน่อย”
ปันเจจริงจัง@PanJ ว่าไม่เห็นมีข้อความในแถลงการณ์ของ อบจ. “ห้ามใครใช้พระเกี้ยวนะครับ” ก็ถูกของเขานะ วัฒนาเลือดเข้มเสียจนมองประเด็นผิดไปไหม มติ ๒๙ ต่อศูนย์บอกว่า การแบกเสลี่ยงแห่พระเกี้ยวเป็นลักษณะกดขี่ชนชั้น ถึงได้เลิก
ส่วนกรณีเหนื่อยนักแบกไม่ไหว ก็มี ยกเลิก ม.112 @Tacomahilux ว่า “งั้น ก็สมาคมศิษย์เก่าจะไปแบกเสลี่ยงเอง ก็คงไม่มีใครว่าได้” โล่งอกไปทีที่ @watanamuangsook ตอบว่า “ถูกต้องครับ ถ้าจัดแล้วไม่มีคนร่วมก็แบกกันเอาเอง”
ท้ายที่สุด (ของเรา) คนตอบเรื่องนี้ได้แฟร์กว่าใคร เห็นจะเป็น เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล เขาบอกกับ The Reporters ว่าถ้าศิษย์เก่า “อยากให้การอัญเชิญพระเกี้ยวกลับมาใหม่” ก็ต้องรอปีหน้า “ให้เปลี่ยนแปลงผ่านการเลือกตั้ง อบจ.ครั้งหน้า”
เขายังเปิดเผยด้วยว่า “ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสโมสรนิสิ จุฬาฯ มีการพิจารณาเรื่องนี้ในการประชุม ๕ ครั้ง และมีมติอย่างที่ปรากฏ” และ “เหตุผลสำคัญที่นิสิตเห็นตรงกันคือ หมดยุคสมัยที่ให้คนหนึ่งนั่งอยู่เหนืออีกคน” นั่นคือคัดคนหน้าตาดีขึ้นไปนั่งเสลี่ยง
เนเน่ยังตีกันไว้ด้วยว่า “ถ้ามหาวิทยาลัยไม่ยอมรับมติ อบจ. แสดงให้เห็นว่า...หน้าด้านไม่ฟังเสียงเด็ก...นี่เป็นกิจกรรมของนิสิตปัจจุบัน ไม่ใช่ของศิษย์เก่า จึงเกี่ยวข้องกับนิสิตปัจจุบันเป็นหลัก ไม่เกี่ยวกับในอดีต” เขาโพสต์รูปส่วนตัวเมื่อครั้งไปเยือน ยูซี เบิร์คลี่ย์
“Beyond เสลี่ยง มหาวิทยาลัยระดับโลกคิดอะไร... January 19, 2020 มา UC Berkeley มีที่จอดรถบนมหาวิทยาลัยเฉพาะสำหรับคนได้รางวัลโนเบลเท่านั้นจอดได้ตลอด ฟรี ไม่ต้องเสียตังค์”
(https://www.facebook.com/TheReportersTH/posts/3133168966933482, https://www.facebook.com/insidethailand/videos/312502843607014/ และ https://www.facebook.com/iLawClub/posts/10165977763035551)
คลิกดูเพิ่ม-เรื่องราวเกี่ยวกับ เสลี่ยงพระเกี้ยว ที่หลายคนคงยังไม่รู้
........................................................................
บีบีซีไทย - BBC Thai
"มีแต่คนแย่งกันไปแบกเสลี่ยง"
.
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ในฐานะศิษย์เก่าคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ให้ความเห็นถึงกรณีที่องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาฯ (อบจ.)
มีมติเอกฉันท์ให้ยกเลิกกิจกรรมขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวจำลองในงานฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์ว่า
อบจ. เป็นเพียงผู้ประสานงาน ไม่มีอำนาจมาตัดสินใจแทนประชาคมจุฬาฯ ทั้งหมด
.
เขายังได้เรียกร้องให้ อบจ. และนิสิตปัจจุบันนึกถึงศักดิ์ศรี เกียรติภูมิ ความภาคภูมิใจ ที่ได้สะสมกันมาและรำลึกไว้ว่าจุฬาฯ ก่อตั้งโดยรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนภาคภูมิใจ
.
นายชัยวุฒิกล่าวว่า
กิจกรรมฟุตบอลประเพณีเป็นเรื่องของนิสิตปัจจุบันและศิษย์เก่าที่มาช่วยกัน
อย่ามองว่าเป็นเรื่องของสมาชิก อบจ. จุฬาฯ 20
คนที่มาตัดสินว่าจะทำหรือไม่ทำอะไร
.
"ส่วนเรื่องที่พูดว่าไม่มีใครอยากแบกเสลี่ยง
ยืนยันว่าไม่ใช่ข้อเท็จจริงแน่นอน เพราะตอนผมเรียน
มีแต่คนแย่งกันไปแบกเสลี่ยงเป็นความภาคภูมิใจที่เราได้ไปทำหน้าที่นี้ในงานฟุตบอลประเพณี
ถึงแม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป แต่ผมเชื่อว่าคุณค่า
ความรู้สึกของนิสิตไม่ได้เปลี่ยนไป ความภาคภูมิใจของเรายังคงอยู่เหมือนเดิม
เพียงแต่มีคนบางกลุ่มพยายามไปด้อยค่า ซึ่งผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
ควรจะฟังคนอื่นด้วย อย่าคิดแต่ตัวเอง" ศิษย์เก่าวิศวะ จุฬาฯ วัย 49 ปีกล่าว
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar