lördag 30 oktober 2021

ภาษาไทยวันละคำ : ศาลเลว คำอ่าน สา-ระ-เลว

Thai E-News

.....
Krisadang-Pawadee Nutcharus 
6h ·

เขียนที่ ศาลอาญากรุงเทพใต้
29 ตุลาคม 2564
เรียน คุณเบญจา อะปัญ
วันนี้ตำรวจ สน.ทองหล่อ ได้มายื่นคำร้องขอให้ศาลอาญากรุงเทพใต้ ขังคุณไว้ระหว่างการสอบสวน (ว่าคุณทำผิดกฎหมายและจะฟ้องคุณหรือไม่) อีก 12 วัน
คุณต้องเข้าใจว่า ตำรวจไม่มีอำนาจขังคุณได้มีแต่ศาลอาญากรุงเทพใต้เท่านั้นที่จะมีอำนาจสั่งขังคุณไว้ในคุก
คุณเข้าใจมั้ย?
คดีนี้คุณเพิ่งถูกกล่าวหาจากตำรวจเท่านั้น คุณยังไม่ได้ถูกฟ้องต่อศาลด้วยซ้ำ คุณเป็นเพียงคนที่ถูกกล่าวหา คุณไม่ใช่จำเลย
คุณเข้าใจมั้ย?
ตาม ม.29 ของรัฐธรรมนูญเขาให้ศาลอาญากรุงเทพใต้ขังคุณไว้เท่าที่จำเป็นเพื่อไม่ให้คุณหลบหนีเท่านั้น
คุณเข้าใจมั้ย?
แต่วันนี้ตำรวจขอให้ศาลสั่งขังคุณไว้อีก 12 วันโดยตำรวจแจ้งศาลว่าเขาสอบพยานหมดแล้วรอเพียงเพื่อให้นายของเขาพิจารณาสั่งว่าจะฟ้องคุณหรือไม่เท่านั้น (ซึ่งมันฟ้องคุณแน่ๆ)
วันนี้ผมได้คัดค้านไปตามที่คุณสั่ง โดยเราแจ้งศาลว่า เราขอคัดค้านการขังดังนี้
1. เมื่อสอบพยานบุคคลและพยานอื่นหมดแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องขังคุณไว้อีก
2. เมื่อแค่รอว่าเจ้านายเขาจะสั่งฟ้องคุณหรือไม่มันเกี่ยวอะไรกับต้องขังคุณไว้อีกเล่า (ก็คุณยังเป็นผู้บริสุทธิอยู่มิใช่หรือ 555)
3. ก็ขนาดรัฐธรรมนูญห่วยๆ มาตรา 29 วรรค 3 มันยังห้ามไม่ให้ขังไว้นอกจากจะเห็นว่าจะหลบหนีมิใช่หรือ 555
ทั้งหมดผมได้บอกศาลตามที่คุณสั่งไว้แล้ว
สุดท้ายวันนี้ศาลอาญากรุงเทพใต้สั่งให้ขังคุณไว้อีก 8 วัน
คุณกับผมชนะครับ ชนะ 4 วัน ตำรวจขอ 12 วัน ศาลให้ 8 วัน 555
ตกลงวันนี้คุณต้องติดคุกต่อไปอีก 8 วันในฐานะที่คุณยังเป็น “ผู้บริสุทธิ” ที่จะปฏิบัติต่อคุณเสมือนผู้กระทำความผิดไม่ได้ ตามหลักรัฐธรรมนูญและหลักนิติธรรม 555
คุณอย่าถามอะไรผมเรื่องความถูกต้องและหลักนิติธรรมอีกแล้ว
คุณเข้าใจมั้ย?
ด้วยความเคารพในคุณ
กฤษฎางค์ นุตจรัส
ปล.
1. อย่าถามเหตุผลในหลักกฎหมายใดใด หรือความถูกต้องยุติธรรมในคดีนี้กับผมอีก
2. กรุณาติดต่อหาทนายความท่านอื่นไว้ด้วย เพราะผมละอายใจเกินกว่าที่จะไปว่าความในคดีนี้ ในฐานะทนายของคุณที่ศาลอาญากรุงเทพใต้อีก (ถ้ายังหาไม่ได้ผมคงต้องไปตามหลักวิชาชีพนักกฎหมายที่อาจารย์จิตติ ติงศภัทิย์ สอนผมไว้)
....
Krisadang-Pawadee Nutcharus
October 8 at 10:34 PM ·

เมื่อวานนี้ ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวนางสาวเบนจา อะปัญ อายุ 22 ปี นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในคดีที่ตำรวจ สน. ทองหล่อ (เพียง)นำตัวมาขออำนาจศาลฝากขังไว้ระหว่างการสอบสวนคดี
เป็นคดีที่เธอถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามมาตรา 112 คือดูหมิ่นกษัตริย์ ซึ่งมีโทษ 3 ถึง 15 ปีเท่านั้น
เธอถูกส่งเข้าไปขังในเรือนจำแล้วตามคำสั่งศาล
เป็นความโชคดีของเธอ เบนจา และเป็นความโชคร้ายของศาลไทย เพราะในวันเดียวกันกับที่เขาไม่ให้ประกันตัวเธอนั้น ศาลไทยได้อ่านคำพิพากษาฎีกาคดีอุกฉกรรจ์คดีหนึ่ง
ที่ว่าโชคดีก็เพราะว่าคดีที่ว่านั้นมันฟ้องว่า ไม่มีความยุติธรรมในกระบวนการยุติธรรมให้กับเธอและเพื่อน ๆ ของเธอดังที่เธอเคยประกาศอยู่เสมอ
คดีที่ว่าคือคดีจ้างวานฆ่านักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ซึ่งคดีนี้มีผู้ถูกกล่าวหาหลายคน ตั้งแต่มือปืน ทนายความ หมอ และมารดาของหมอ
รายละเอียดของคำพิพากษาฎีกานั้นไม่จำเป็นต้องพูดถึงเพราะมีปรากฏอยู่ทั่วไปแล้ว
แต่ที่ทำให้เรารู้ เราเห็น ในคดีนั้นก็คือ จำเลยบางคนที่ถูกลงโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิตในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวตลอดมาในระหว่างการพิจารณาคดีที่ยาวนานเช่นนี้ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องตามระบบกฎหมาย
แต่ความสำคัญมันอยู่ตรงนี้ ตรงที่มันทำให้ผมเกิดข้อสงสัยว่าทำไมไม่ให้ประกันตัวเบนจา ทั้งที่เธอยังไม่ได้ถูกฟ้องคดีด้วยซ้ำและโทษของคดีก็ต่ำกว่าคดีที่ว่ามาด้วยซ้ำ
เบนจา ขอเธอและเพื่อน ๆ ของเธอจงจดจำไว้และเมื่อพวกเธอเติบใหญ่ขึ้นเมื่อมีโอกาส จงเปลี่ยนแปลงมันให้ได้
 
...............................................

 
 

ภาพจาก Arunwatee Kong Li Chattay
...
Kritdikorn Wongswangpanich
12h ·

ไม่เก็ตว่าเรื่องอิ๊งนี่มันจะแยกประเด็นยากอะไรกันนักหนา เห็นแซะประเด็นไปๆ มาๆ ผสมเละเทะมั่วไปหมด
.
หนึ่ง ปัญหาการเข้าศึกษาของอิ๊ง สามารถและควรถูกตั้งคำถามได้มั้ย? ได้ และจะให้ดีก็ควรพิสูจน์ให้ชัดไป
.
สอง ไม่ใช่แค่กรณีของอิ๊ง แต่คนอื่นที่อยู่ในตำแหน่งแห่งที่ทางอำนาจสูงกว่าอิ๊งมากๆ และเข้าเรียนที่จุฬาฯ ด้วยปัญหาแบบเดียวกัน หรือหนักกว่าด้วยซ้ำนั้น ก็ต้องได้รับการจัดการ
.
สาม หากทั้งสองกรณีพิสูจน์ได้ว่าผิด ก็ต้องบอกว่าผิดทั้งคู่ หากไม่ได้ทำผิดอย่างที่โดนกล่าวหา ก็จัดการด่าคนปล่อยข่าวไป จบ แต่อย่าอ้างว่า "จะมาด่าแต่อิ๊งทำไม? ไยไม่ไปด่าอีกคนบ้าง ที่ทำหนักกว่าอีก" (แบบนี้เป็น whataboutism) วิธีการคือ ยืนยันว่า หากเป็นอย่างที่กล่าวหาจริง ต้องนับว่าผิดทั้งคู่ ไม่ใช่บอกว่า คนนั้นทำได้ คนฝั่งฉันก็ต้องทำได้เช่นกัน
.
สี่ ไม่ว่าข้อกล่าวหาต่อตัวอิ๊งในกรณีสอบเข้าจุฬาฯ จะจริงหรือไม่ก็ตาม การปฏิบัติอย่างมีอคติในฐานะ "ตัวบุคคล" ต่ออิ๊งนั้น นับเป็นเรื่องที่ผิดทั้งสิ้น กล่าวคือ ต่อให้อิ๊งทำผิดจริง ก็เป็นหน้าที่ของมหาลัยในการดำเนินการจัดการไป ไม่ใช่หน้าที่ครูอาจารย์หรือเจ้าหน้าที่คนไหนจะมาใช้ตำแหน่งหน้าที่ปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมด้วย ไม่ต้องพูดถึงกรณีที่ปฏิบัติแบบแย่ๆ โดยเฉพาะผ่านตำแหน่งทางอำนาจที่เหนือกว่าเพียงเพราะเป็นลูกทักษิณ อันนั้นคนที่ทำก็สมควรจะถูกด่า หรือรับโทษ หรือแสดงความรับผิดชอบอะไรไป (อย่างอาจารย์คนที่พูดว่า "ยังอยู่อีกหร๋อ?" เป็นต้น)
.
ห้า อนึ่ง การกระทำในข้อสี่นั้น "ไม่ใช่ว่าทุกเคสจะต้องดีเฟนด์ให้ความระทมทุกข์ทางจิตใจของอิ๊ง" อย่างที่หลายคนแชร์ memoir ของนางช่วงเหตุการณ์สมัยนั้นมา การวิจารณ์ทักษิณในฐานะนายกรัฐมนตรี หรือกระทั่งการวิจารณ์ประณามทักษิณในฐานะบุคคล "ในทางสาธารณะ" ต่อให้มันทำร้ายจิตใจอิ๊งอะไรยังไง ก็ต้องยืนยันว่ามันทำได้ และไม่ใช่เรื่องที่จะต้องไปสงสารเป็นพิเศษใดๆ (คือ ใครใคร่สงสารในทางส่วนตัวอะไรนั้นเชิญ แต่ไม่ควรดีเฟนด์ให้กับความระทมทุกข์ในส่วนนี้)
.
หก กับอาจารย์เวรของคณะรัฐศาสตร์ที่ผมยาวๆ คนหนึ่ง ที่เมนชั่นเรื่องนี้แบบทุเรศทุรังพอควรนั้น เห็นได้ชัดว่าไอ้ความพยายามในการ "ตรวจสอบและรักษาความบริสุทธิ์ผุดผ่องของหลักการ" นั้นมันเหลวไหลทั้งเพ เพราะเขามักกล่าวอ้างอย่าง "เจาะจงเลือกตัวบุคคลโจมตี" ไม่ว่าจะเป็นกรณีของผลงานวิชาการชื่อดังชิ้นหนึ่ง หรือกรณีของอิ๊งเอง ดังที่บอกไปว่านอกจากกรณีของอิ๊ง มีกรณีของคนอื่นที่หนักกว่าอิ๊งอยู่ที่ต้องโดนตรวจสอบเหมือนกัน และนักวิชาการผมยาวนี้ก็ทราบดีว่ามีปัญหาที่น่าเคลือบแคงเสียยิ่งกว่าอิ๊ง แต่นักวิชาการผมยาวคนนี้ก็เลือกจะนิ่งเฉย ว่าง่ายๆ มันเป็นเพียง hypocrite ที่ไม่ควรไปให้ราคาใดๆ
.
จบแค่นี้ อย่าด่าปนกันไปมาเยอะ งงแทน

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar