söndag 20 november 2022

ม.112 : วรเจตน์ ภาคีรัตน์ กับ 10 ปี แห่งการผลักดันแก้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ 

Thai E-News

 

วรเจตน์ ภาคีรัตน์ กับ 10 ปี แห่งการผลักดันแก้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ "ไม่เสียใจแม้แต่วินาทีเดียว ที่ทำเรื่องแก้ไข ม.112"

บีบีซีไทย - BBC Thai
i söndags

"มันเป็นเรื่องที่เราต้องทำใจว่ามันอาจจะไม่จบในเจเนเรชัน (รุ่น) เดียว ต้องส่งผ่านสิ่งนี้ไป ต่อไปในหลายเจเนเรชัน เมื่อมีใครคนใดคนหนึ่งจุดไฟขึ้นมาแล้ว ก็พยายามต่อไปไม่ให้ไฟดับ ไม่ต้องคาดหวังให้มันต้องเสร็จหรือยึดติดในรุ่นของเรา สภาพของสังคมต้องการความพร้อมของคนจำนวนมาก มากกว่านี้เยอะ 10 ปีมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นจริง แต่ยังมีปริมาณไม่มากพอ" ศ. ดร. วรเจตน์ ภาคีรัตน์ อดีตแกนนำคณะนิติราษฎร์ ผู้เปิดตัวคณะรณรงค์แก้ไขเพิ่มเติม ม.112 หรือ ครก.112 เมื่อ 10 ปีที่แล้ว

สุดท้ายก็เริ่มกรายเป็นสัตว์ที่ไร้กระดูกสันหลัง..หรือว่าไม่มีอยู่จริงตั้งแต่ต้น ...

รู้การเมือง เข้าใจการเมือง ลึกซึ้งกับการเมืองไทย และก็โดนเมืองเล่นงานนจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดมาก็หลายครั้ง สุดท้ายเมื่อย่างก้าวเข้าสู่พรรคเพื่อไทย

ไฉน..จึงมองได้แค่เพียงว่า "การแก้ไข ม.112 ไม่เป็นผลดีกับใคร" ทั้งๆ ที่ประชาชน นักวิชาการ พูดกันมานานนับสิบปีแล้วว่า การแก้ไข ม.112 จะเป็นผลดีต่อการดำรงสถานะของสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เป็นที่ยึดมั่นศรัทธาของประชาชนอยู่ต่อไป ... 

จะไม่ต้องทำให้ประชาชน เยาวชนที่หวังดีต่อชาติบ้านเมือง ต้องถูกกล่าวหา ถูกลงโทษอย่างโหดเหี้้ยมเพียงเพราะหวังดีต่อบ้านเมืองและต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เอง 

จะทำให้กระบวนการตุลาการ หรือกระบวนการยุติธรรม จะได้ไม่ถูกทำให้เสื่อมเสีย ต่ำเตี้ยในเรื่องความไม่ยึดมั่นหลักความยุติธรรมที่แท้ 

จะทำให้ต่างชาติยอมรับหลักนิติธรรมไทยที่เป็นสากลมากขึ้น และยอมรับสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยมากขึ้น ( ดูสิ ขนาดไทยเป็นเจ้าภาพประชุมระดับโลก ก็ยังไม่กล้าที่จะให้ผู้นำโลก ร่วมโต๊ะอาหารกับกษัตริย์ไทยเลย ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน)  

เท่าที่คิดได้อย่างเร็ว ๆ ยังเพียงนี้ แต่ "ญัฐวุฒิ ใสเกื้อ" เจ้าพ่อแห่งเวทีปราศรัยที่เคลื่อนไหวทางการเมืองมานาน กลับทำตัวโง่..ได้มากขนาดนี้เชียวหรือ 

ส่วนประเด็นว่า แก้ไข ม.112 อาจจะทำไม่สำเร็จ...ถามว่าคุณเสนอตัวเป็นผู้นำของสังคม ผู้นำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงปัญหาบ้านเมือง หรือเป็นนักการเมืองที่ต้องการเข้ามาแก้ไขปัญหาประชาชน.. แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย กลับบอกว่า "ทำไม่สำเร็จ" 

สะท้อนสำนึกของผู้นำที่ขาดความกล้าหาญอย่างยิ่ง

ทำให้คิดว่า แล้วไอ้ที่ประชาชนต่อสู้กับเผด็จการครองเมืองในเวลานี้ จนหลายคน บาดเจ็บ พิการ ล้มตาย ติดคุก ครอบครัวแตกสลาย ไม่มีแผ่นดินอยู่ ..จนพื้นที่ประชาธิปไตย ขยายกว้างขวาง ลงลึกทั่วแผ่นดิน แม้ครั้งที่คุณณัฐวุฒิ เป็นแม่ทัพนำการต่อสู้ก็ยังไม่ขยายกว้างลงลึกได้มากเช่นนี้ 

อย่างนี้จะเรียกว่าความล้มเหลวหรือ ที่คุณณัฐวุฒิ ไม่คาดคิดว่าจะทำสำเร็จได้อย่างนั้นหรือ
และเพราะความสำเร็จ ที่คุณณัฐวุฒิ ไม่กล้าพอที่จะยอมรับว่า สามารถทำให้สำเร็จได้ 

สุดท้ายพวกนักการเมือง หรือพรรคการเมืองอย่างพวกคุณ ก็ยังเป็นพวกฉวยโอกาส จากความสูญเสียและความตายจากการต่อสู้ของประชาชน เหยียบขึ้นสู่อำนาจเพื่อพรรคและของตัวเองเป็นสำคัญ...เท่านั้นหรือ?

อาจเป็นรูปภาพของ 1 คน และ ข้อความพูดว่า "เมื่อง ไทยในกะลา @Polltics Kalaland ในบริบทสังคมเช่นนี้ การประกาศว่าการแก้ไขมาตรา 112 เป็นนโยบายหลักของพรรคการเมือง ประกาศว่าเป็นจุดยืนสำคัญ อาจจะไม่เป็นผลดีกับใครเลย ที่สำคัญ เครื่องหมายทางการค้า ของพรรคเพื่อไทย คือเราจะประกาศ นโยบายที่เรามองว่าสามารถทำได้จริง แต่ตอนนี้เรามองว่าประเด็นเรื่อง การแก้ไขมาตรา 112 อาจจะยังไปไม่ถึงจุดที่ทำสำเร็จ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย 17 พฤศจิกายน 2565" 

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar