torsdag 24 november 2022

ใบตองแห้ง: บ้านป่าอำนาจเถื่อน / BCG ผักชีฟิวชั่น

ตำรวจไทยใช้กระสุนยางสลายม็อบ อวดผู้นำโลก รักษาหน้าประยุทธ์ ที่ยื่นมือให้สี จิ้นผิง แล้วไม่ยอมจับ ต้องเอามือแคะขี้มูก

รักษาหน้าประเทศ? แล้วไง ประเทศไทยมีม็อบไม่ได้ อายเขา แต่มีรัฐประหารได้ไม่อายใคร รัฐประหารแล้วตั้ง 250 ส.ว.โหวตตัวเองเป็นนายกฯ มีที่ไหนในโลก ไม่ยักอาย

ประเทศอารยะทั้งหลายจัดประชุมระดับโลก มีม็อบทั้งนั้น ยิ่งมีม็อบยิ่งแสดงความเป็นอารยะ เปิดพื้นที่ความเห็นต่าง มีแต่ประเทศเผด็จการเห็นม็อบ “ขายขี้หน้า” มีแต่ชาตินิยมล้าหลัง ภูมิใจคลองโอ่งอ่าง ภูมิใจว่าสามารถบังคับประชาชนพับเพียบเรียบร้อย

ข้อสำคัญ การใช้ความรุนแรงของ คฝ. ยังสะท้อนว่าประเทศนี้ไม่ได้ปกครองด้วยกฎหมาย แต่ปกครองด้วยการใช้อำนาจ ใช้คำสั่ง ใช้กำลังบังคับ เสมือนยังอยู่ใต้รัฐประหาร

ถามว่าตำรวจมีอำนาจอะไร ใช้กระสุนยางสลายการชุมนุม เรายังอยู่ใต้ ม.44 หรือ เรายังอยู่ใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือ ไม่มีทั้งสิ้น

รัฐบาลประกาศห้ามชุมนุม อ้าง พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ แต่ พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ไม่ได้ให้อำนาจตำรวจใช้กำลัง หากเห็นว่าม็อบไม่ทำตามกฎหมาย ตำรวจต้องขอคำสั่งศาล การสลายม็อบก็ต้องทำตามขั้นตอน ไม่ใช่ใช้อาวุธทันที การยิงกระสุนยางต้องไม่ยิงร่างกายส่วนบน จนทำให้ผู้ชุมนุมรวมทั้งช่างภาพบาดเจ็บที่ดวงตา

ตำรวจจึงไม่ได้ใช้อำนาจตามกฎหมาย แต่ใช้อำนาจเถื่อน อ้างว่าตัวเองมีอำนาจสั่งให้ม็อบทำตามได้ ไม่ทำตามก็ใช้ความรุนแรง โดยเชื่อว่ารัฐบาลหนุนหลัง กระบวนการยุติธรรมเข้าข้าง ประชาชนอาจฟ้องเอาผิดตามกฎหมาย แต่สุดท้ายก็เอาผิดไม่ได้ ศาลอาจมองว่า ทำตามหน้าที่ ไม่มีผลประโยชน์ ไม่มีเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน ฯลฯ

กฎหมายไทยมีข้ออ่อนในการเอาผิดเจ้าหน้าที่ ใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ ใช้ความรุนแรงได้ ถ้าไม่ทุจริตหรือไม่กลั่นแกล้งส่วนตัว

5 ปีรัฐประหาร “ออกคำสั่งเป็นกฎหมาย” ม.44 จับคนเข้าค่ายทหารได้ 7 วันโดยไม่ต้องขอหมายค้นหมายจับ กับอีก 2 ปี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใช้อำนาจได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงเหตุผล ใช้ความรุนแรงสลายม็อบ ทำให้ตำรวจย่ามใจ กระทั่งวันนี้

ตำรวจที่ไปยึดป้าย “ตะวัน-สายน้ำ” จึงออกคำสั่งไม่ให้แต่งชุดหมีพูห์ ทั้งที่ไม่มีอำนาจยุ่งเกี่ยวการแต่งกาย ตำรวจที่จับ 3 นักศึกษามุสลิมจึงเอาตัวไปสน.ทั้งที่ไม่มีหมายจับ ค้นที่พักไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย

ชาวบ้านที่มาม็อบจากต่างจังหวัดจึงถูกด่านสกัด 4-5 รอบ ตั้งแต่อยู่บ้าน ก็มีตำรวจ ทหาร กอ.รมน. ไปพบหรือติดตาม ทั้งหมดนี้อ้างว่า “ทำตามกฎหมาย” ไม่ได้คุกคาม

เหมือนประยุทธ์ไปต่างจังหวัด ก็มีตำรวจทหารไปพบนักกิจกรรม ชูป้ายก็ห้าม ทั้งที่ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย

บางคนอาจมองว่า รัฐประหารเพิ่มอำนาจให้ทหารเข้ามาแย่งงานตำรวจด้วยซ้ำ (เช่น คุมวินรถตู้) แต่ 8 ปีประยุทธ์ 2 ปี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เรียนรู้ที่จะใช้ “แท็กติกทางกฎหมาย” ความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพของตำรวจ ในการรักษาอำนาจ ปราบปรามประชาชน

ยกตัวอย่างง่ายๆ ในยุค ผบ.ตร.คนก่อน ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นมือกฎหมาย ออกคำสั่งให้ยึดรถเครื่องเสียงม็อบ อ้างว่าเป็นของกลางที่ใช้ในการกระทำผิด ทั้งที่การใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษปรับเท่านั้น การยึดรถใช้กับความผิดร้ายแรงเช่นขนยาเสพติด

ตำรวจก็ใช้คำสั่งนั้นเล่นเล่ห์เอาผิดม็อบ เช่น ตามยึดรถทะลุฟ้า พอไม่ยอมให้ยึด เพราะเห็นว่าไม่มีเหตุผล เกิดฮึดฮัดกันแล้วขับออกไป ตำรวจก็ตั้งข้อหาร้ายแรง ทั้งต่อสู้ขัดขวาง ทำร้ายเจ้าพนักงาน หลบหนีการจับกุม

รวมๆ แล้วมีโทษจำคุกหลายสิบปี จากแค่ใช้เครื่องขยายเสียง โทษปรับไม่กี่ร้อยบาท

นี่คือวิธีตำรวจโดยแท้ เป็นความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ แบบเดินรอบรถมอเตอร์ไซค์ ยังไงก็ได้ค่าใบสั่ง

ตำรวจใช้การตั้งข้อหาเป็นอาวุธ ทั้งในทางการเมือง และในทางมิชอบ เพราะเมื่อโดนตั้งข้อหาแล้วเดือดร้อน ต้องประกันตัว หาทนายสู้คดี หลุดคดีแล้วจะฟ้องกลับก็ยาก

อย่าว่าแต่ชาวบ้าน ภาคธุรกิจก็กลัวจะโดนแบบ “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” ตำรวจบุกจับ ปปง.ยึดอายัดทรัพย์นับหมื่นล้าน ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา ยกฟ้อง พ้นคดีเป็นผู้บริสุทธิ์แต่เจ๊งย่อยยับ

เข้าใจหรือยังว่าทำไมแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นตำรวจ ปปง. ป.ป.ส. ดีเอสไอ หลอกให้โอนเงินได้ ก็เพราะประชาชนเชื่อว่ามีตัวจริง

ตำรวจยุคปัจจุบันทำตัวเหมือนอัศวินผยอง ทั้งที่บ่อน ยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมายเต็มไปหมด พอเรื่องแดง ความแตก ก็ทำตัวเป็นพระเอกขี่ม้าขาวโชว์ออฟปราบปราม

กับประชาชนนอกจากใช้อำนาจเถื่อนแล้วยังสั่งสอน เช่น บอกให้ม็อบคำนึงถึงภาพลักษณ์ประเทศ บอกผู้สื่อข่าว (หลังจากยิงบาดเจ็บ) ให้ไปทำข่าวที่มีประโยชน์ต่อสังคม

การตรวจสอบอำนาจรัฐ ตรวจสอบตำรวจฉ้อฉล ตำรวจใช้อำนาจเกินขอบเขต เกินกฎหมาย นั่นแหละมีประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด

สุดท้ายอยากฝากประเด็นน่าคิดว่า ทำไมใกล้เลือกตั้งแล้วตำรวจยังมุ่งมั่นรับใช้ประยุทธ์ ไม่ยักกลัวเปลี่ยนรัฐบาล มั่นใจว่าประยุทธ์ไปต่อ หรือมั่นใจว่ารัฐอำนาจนิยมใหญ่กว่า รัฐบาลไหนมาก็ทำอะไรไม่ได้

ฝากไว้ให้คิดกันว่าถ้าเปลี่ยนรัฐบาลแล้วจะเอาผิดตำรวจได้ไหม

...................................................

ใบตองแห้ง: BCG ผักชีฟิวชั่น

2022-11-24 21:24

การทางพิเศษเดือด มีมล้อ Welcom to Apec 2022 ขู่เอาผิดฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้การทางเสียหาย เพราะมีโลโก้การทางอยู่ด้วย

ถามจริง มีใครเชื่อว่าภาพตัดต่อล้อเลียนนั้นทำโดยการทางพิเศษ ทุกคนรู้ว่าเป็นมีมตลกขบขัน ประชดประชันการขายภาพลักษณ์ท่องเที่ยวไทย คงมีแต่ฝ่ายกฎหมายการทางฯ ที่คิดว่าคนไทยโง่จริงโง่จังจนเชื่ออย่างนั้นได้

Apec 2022 ประยุทธ์ต้อนรับผู้นำโลก แม้ไบเดนไม่มา ไปงานแต่งหลานดีกว่า รัฐบาลก็ยังหน้าบานเป็นกระด้ง เรียกร้องคนไทยร่วมมือร่วมใจเป็นเจ้าภาพ “ใครมาถึงเรือนชานให้ต้อนรับ” กวาดขยะซุกใต้พรม เรื่องอัปลักษณ์ในบ้านไว้คุยกันทีหลัง ให้แขกเหรื่อกลับไปก่อน

เสียดายว่าการเรียกร้อง “ความเป็นไทย” ใน พ.ศ.นี้ ไม่เวิร์กอีกแล้ว โลกออนไลน์รุมแซะ ล้อเลียน จับผิด ภาคประชาสังคมออกมาต้าน BCG “ฟอกเขียว” ขณะที่ม็อบราษฎรก็ออกมาประจานความไม่ชอบธรรมของประยุทธ์ และการละเมิดสิทธิมนุษยชน

ซึ่งตำรวจไทยโชว์ฝีมืออวดผู้นำโลกทันใด บุกค้นที่พัก 3 นักศึกษามุสลิม ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ก็ยังคุมตัวไปโรงพัก โดยอ้างว่าสงสัยจะก่อความไม่สงบ

ปฏิกิริยาต่อรัฐบาลในการจัด Apec ครั้งนี้มี 3 ระดับด้วยกัน หนึ่งคือในแง่เนื้อหา BCG “เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว” ซึ่งภาคประชาสังคมฉีกว่า “ฟอกเขียว” เพราะนักอนุรักษ์นักสิ่งแวดล้อมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเลย เช่นการปลูกป่า ก็ทำโดยบรรษัทยักษ์ใหญ่เพื่อขาย “คาร์บอนเครดิต”

คนส่วนใหญ่อาจยังไม่เข้าใจ รักษ์โลกรักษ์ป่า สมัยนี้ไม่ใช่แค่เรื่องกระแดะ CSR แต่ด้วยกติกาโลกร้อน “คาร์บอนเครดิต” ใช้แลกใช้ขายได้

เรื่องดีใช่ไหม ดี แต่มันมาหลังจาก คสช. “ทวงคืนผืนป่า” ไล่จับชาวบ้าน เปลี่ยนอัตราส่วนแผนที่ ไม่ยอมให้พิสูจน์ว่าทำกินมาก่อนประกาศเขตป่า

สองคือ การรณรงค์เรื่องสิทธิที่จะชุมนุม ประท้วง คัดค้าน ไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม คัดค้านข้อตกลงเอเปค ประณามรัฐบาลไทย ประท้วงสี จิ้นผิง ประท้วงปูติน ประท้วงไบเดน ฯลฯ ไม่ว่าคุณจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ตาม มันเป็นเรื่องปกติในการประชุมระดับโลก ในประเทศอารยะ ยิ่งอารยะยิ่งมีม็อบ ซึ่งเท่ากับอวดโลกว่าเคารพสิทธิมนุษยชน

แต่รัฐบาลไทย ดอน ปรมัตถ์วินัย กลับอยากเห็นเอเปคสงบราบคาบเหมือนประชุมอาเซียนซัมมิตที่กัมพูชา แหงละครับ ศาลกัมพูชายุบพรรคฝ่ายค้าน คนต่อต้านรัฐบาลถูกกวาดจับ

ตำรวจไทยซ้อมรับมือเหตุไม่สงบ แทนที่จะเป็นผู้ก่อการร้าย กลายเป็นคนมาประท้วงชูป้าย มาคนเดียว โดนตำรวจหิ้วไปทันใด สำนักข่าวแห่งหนึ่งเอาภาพไปลงเพจ คอมเมนต์มาเป็นร้อย “ค..”

การประท้วงเป็นสิทธิ เป็นเสรีภาพ ตราบใดที่ไม่ได้ทำร้ายใคร ประท้วงยังไงก็ไม่สามารถเข้าถึงตัวผู้นำต่างชาติ แต่ตำรวจไทยอ่อนไหวขนาดใส่ชุดหมีพูห์ก็ไม่ได้

สาม เรื่องที่คนทั่วไปมีอารมณ์ร่วมมากที่สุดคือ “เปลือก” หรือ “ปลอมแหละ ดูออก” ซึ่งหากใช้คำพังเพยไทยก็มาครบ “ขี่ช้างจับตั๊กแตน” “ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ” “ผักชีโรยหน้า” แต่ใช้วาทกรรมใหม่ ผักชีออร์แกนิก น้ำพริกฟิวชั่น

สาระการประชุม คนไทยได้อะไร มีผลดีต่อเศรษฐกิจปากท้องอย่างไร ประชาชนมีส่วนร่วมน้อยมาก

ซึ่งว่าตามความจริงก็ไม่มีอะไร เอเปคเป็นการรวมตัวหลวมๆ เพื่อเจรจาการค้าเสรีแบบทวิภาคี ไม่ได้มีข้อตกลงสำคัญแบบ G20 หรืออาเซียนซัมมิต บางคนเปรียบเทียบว่า เหมือนผู้นำโลกมา “กินข้าวเย็น” หลังการประชุมสำคัญ 2 ครั้งในภูมิภาคนี้

แต่รัฐบาลประยุทธ์จัดใหญ่ เว่อร์วัง ขี่ช้าง หน้ากะละมัง สั่งหยุด 3 วัน ปิดถนนปิดพื้นที่ ใช้เจ้าหน้าที่ 25,000 นาย กวาดถนนล้างท่อตกแต่ง กวาดหมาแมวจรจัดคนจรจัดไม่ให้ต่างชาติรำคาญตา โพนทะนาอาหารวิลิศมาหรา ที่อย่าว่าแต่คนจนคนชนบท คนชั้นกลางก็ไม่มีวาสนาได้ชิม

ถ้าเป็นโลกเมื่อ 10-20 ปีก่อน อาจไม่เท่าไหร่ แต่ พ.ศ.นี้ โลกออนไลน์รู้ทันเบื่อหน่ายวาทกรรมที่ประดิดประดอยโดยรัฐราชการและออร์แกไนเซอร์ เค้ารู้กันหมดแล้วละ ว่ารัฐราชการไทยเชี่ยวชาญงาน Event หาถ้อยคำหรูๆ มายัดปากประยุทธ์

รัฐราชการไทยที่ประกาศ “สิทธิมนุษยชนเป็นวาระแห่งชาติ” ใต้ ม.44 ย่อมสามารถฉกฉวยวาทกรรมมาใช้ได้ทั้งโลก BCG สีเขียว ชีวภาพ ฯลฯ

อันที่จริงไม่ว่าประเทศไหนเป็นเจ้าภาพการประชุมระดับโลก ก็มักจะทำอาหารประจำชาติ การแสดงประจำชาติ มาต้อนรับเพื่อขาย Soft Power แต่ทำไมรัฐบาลประยุทธ์ถูกจิกกัด เกลียดประยุทธ์? ชังชาติ?

ไม่ใช่หรอกครับ มันเป็นความเอียนความเลี่ยนต่างหาก รู้ทันจนเลี่ยนกับ “ความเป็นไทย” แบบผักชี ซ้ำยังดูเหมือนจะมี Agenda ปลุกชาตินิยมรักหน้า ภูมิใจคลองโอ่งอ่าง มาแวดล้อมประยุทธ์ในโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง

กระนั้นก็ไม่ใช่แค่ประยุทธ์ โลกยุคนี้ พ.ศ.นี้ รัฐบาลไหนจัดงานแบบนี้ก็โดนเหมือนกัน ประชาชนไม่เห็นประโยชน์จับต้องได้เป็นรูปธรรม เห็นแต่น้ำพริกเต็มแม่น้ำ เห็นผู้นำหน้าบานเป็นกระโถน เห็นแต่เปลือกที่อวดอ้าง

คนทั้งหลายก็ร้องพร้อมกันว่า “ปลอมแหละ ดูออก”

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/news_7370710

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar